ในห้องรับรองแขกกว้างขวางสไตล์กรีกโบราณ ทุกอย่างถูกประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ด้วยฝีมือสถาปนิกชำนาญงาน เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงได้รับการเลือกสรรให้เข้ากันกับเพดานทรงโค้งสีขาว ส่วนช่องว่างนั้นตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมัน
แน่นอนว่าห้องนี้เป็นสถาปัตยกรรมแนวกรีกตามใจเจ้าของบ้าน ห้องทุกห้องจึงมีรูปวาดของเทพเจ้าในยุคโบราณ ความเชื่อของผู้คนในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านพ้นมานานนับหลายศตวรรษ แม้แต่ในห้องนอนก็ยังมีรูปวาดของเทพีแอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือวีนัส (Venus) เทพีองค์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มากที่สุด
เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีเทาเข้มกำลังนั่งสนทนากับลูกน้องบนเก้าอี้โซฟาหลุยส์ตัวยาว ใบหน้าหล่อเหลาคมคายราวกับว่าเป็นหนึ่งในชิ้นงานประติมากรรมชั้นเลิศของเทพเจ้า ไร้ที่ติ สมบูรณ์แบบ เขาพิถีพิถันในการแต่งตัวกว่าทุกวันเมื่อมีนัดสำคัญ จัดแจงทรงผมลูบลงให้เรียบด้วยเจล เหลือปอยผมเล็ก ๆ ด้านหน้าหล่นลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ เผยให้เห็นหน้าผากกว้าง สันกรามแบบหนุ่มลูกครึ่ง-แขกขาว แม้ขอบตาดำคล้ำอาจดูอิดโรยเหมือนคนอดหลับอดนอนมาร่วมอาทิตย์
“เธอเซ็นสัญญามาแล้ว... ฮึ! ข่าวดีของฉันจริง ๆ”
“นายแน่ใจนะครับ ผมว่า...เธอไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงินหรือจะชอบ...”
“ถ้าหากว่าเธอไม่มาอยู่ข้าง ๆ ฉัน เจ้าพวกนี้คงได้รบกวนชีวิตอยู่เรื่อย แกน่าจะรู้นะมาร์คัส” พูดแทรกขึ้นมา ขณะนั่งพิงแผ่นหลังอย่างสบายใจ ตาคมหลุบมองสีสันสดสวยของลูกน้องแต่ละตัวอย่างเอ็นดู ในมือหนาคีบมวนยาสูบด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ กำมันไว้หลวม ๆ ด้วยมารยาทผู้ดี
การสูบมวนยาสูบชนิดนี้ส่วนใหญ่จะกินเวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมง เจ้าของบ้านมักสูบมันในตอนเช้า เรียกลูกน้องมานั่งคุย ใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเขา
เจ้าแมงมุมขาแหลมนับสิบตัวกำลังไต่ไปมาบนโต๊ะ สันเก้าอี้ บนเบาะนุ่มปักดิ้นทอง ไม่เว้นแม้แต่หน้าขาที่มีกางเกงแสล็คสวมทับ ลักษณะของพวกมันเป็นตระกูลเดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ มีลวดลายสีแดงรูปนาฬิกาทรายสีส้มหรือเหลืองบริเวณหน้าท้อง บางตัวก็เป็นสีดำสนิททั่วทั้งตัว เพศผู้ยังมีขนาดตัวราวครึ่งหนึ่งของตัวเมียและมีลำตัวสีอ่อนกว่าตัวเมีย
ในสีหน้าท่าทางอารมณ์ดี สูบซิการ์ชิลล์ ๆ นั่งฟังเพลงโรแมนติกทำเอาคนในบ้านขนลุกชูชัน โดยเฉพาะคนในฝั่งตรงข้ามกัน หนุ่มวัยสามสิบห้าปี อัฟซา มาร์คัส ลูกน้องคนสนิทยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ด้วยความที่พวกเขาไม่ชอบมองภาพพวกแมงมุมยั้วเยี้ยสักเท่าไร
“ผมว่าเธอไม่ชอบพวกมันแน่ ๆ ไม่อยากนึกภาพว่าจะกระโดดกรี๊ดตัวโยนขนาดไหน”
“นั่นสิ เธอควรตกใจไหมนะ?” เสียงหัวเราะดังจากนั้น ชายหนุ่มยกมือปิดปากกลั้นขำ ค่อยหันไปบอก “ฉันไม่ให้แกไปสืบอะไรเรื่องของเธอนะอัฟซา มันเป็นการละลาบละล้วง ฉันกลัวว่าถ้าเธอมารู้ทีหลัง เธอจะไม่ไว้ใจฉัน...”
“ผมแค่บังเอิญไปซื้อข้าวมันไก่น่ะครับ”
“อ้าวหรือ? บ้านเธอขายกับข้าว... ข้าวมันไก่? อร่อยไหมล่ะ” แล้วเขาก็มีท่าทีสนใจเรื่องราวของหญิงสาว ปากยังพ่นควันจากปากเป็นรูปทรงกลม เมื่อหลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงรสและกลิ่นของซิการ์ พันวาตั้งใจว่าหมดมวนนี้คงพอก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะอยากกินข้าวมันไก่ขึ้นมา ก่อนเหลือบตามองลูกน้องกุมมือสั่นเทาไว้ด้านหน้าหลับตาปี๋ นั่งหุบขาเรียบร้อย พอเจ้าแมงมุมสีดำลายสวยตัวหนึ่งไต่ขึ้นบ่าไป
“อย่าให้มันมาใกล้ผมครับนาย ผมไม่ชิน... เจ้าพวกนี้มันไม่น่ารักครับ”
“ฉันจำได้ว่าพวกเธอไม่เคยทำร้ายแกนะมาร์คัส”
“ไม่เคยครับ! แต่ผมไม่ชอบแมงมุม”
“แต่ฉันเห็นแกดูหนังไอ้แมงมุม”
“มันไม่ใช่เจ้าพวกนี้เลยนะนาย อันนั้นมันหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่เจ้าพวกนี้มัน...” ปลายเสียงเงียบไป พอแม่ตัวหนึ่งง้างขาแหลม ๆ ของมันบนแก้มสาก แยกเขี้ยวขู่อย่างไม่พอใจ
พวกมันเข้าใจภาษามนุษย์ พร้อมประกาศศักดาว่าพิษของมันมีผลต่อระบบประสาทโดยตรง ผลที่ตามมาคือ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งจนเป็นอัมพาต
“กัดทีเดียวตาย... มันน่าแหยง...”
“ไม่เอาน่ะ จะมากลัวอะไรกัน อุตส่าห์อยู่บ้านนี้มาตั้งนาน ทีทารันทูล่ายักษ์ของแม่ฉัน ยังไม่เห็นแกจะกลัว” พลันหันไปทางขวามือของเขาที่มีคนสนิทกว่า ใจกล้าพอตัว “ใช่ไหมอัฟซา? แกกลัวเจ้าพวกนี้รึเปล่า”
“คือ... ที่พวกผมไม่แสดงท่าทีว่ากลัวมาดามเพราะเธอจะทำให้พวกผมยิ่งกลัว บางครั้งเธอก็ชอบแกล้ง ส่วนกับคุณพันวาคงไม่มีอะไร ผมรู้ว่านายเป็นคนใจดี เหมือนมาดามแหละครับ”
“อ้อ... งั้นหรือ?”
นัยน์ตาคู่คมสลดลงพอนึกถึง ‘มาดามโคลอี้’ มารดาผู้แสนน่ารักใจดี เพราะถึงจะใจดีเท่าไรหากถึงคราวดุแล้วก็นับว่าเป็นคนเด็ดขาดทีเดียว เขายังจำได้ว่าแรก ๆ นั้นอัฟซากับพนักงานหนุ่มคนสนิทอีกสองคนรีบเขียนใบลาออกทันทีที่รู้ว่าบ้านนี้ซุกซ่อนความลับอะไรไว้ น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ก้าวขาออกจากคฤหาสน์ เมื่อนายหญิงใหญ่กรีดเสียงแหลมเล็กออกมาจากลำคอว่าใครลาออกตาย! คุณแม่ยังเสกกองทัพแมงมุมนับพันตัวมาเดินเต็มบ้าน พนักงานคนสนิทแต่ละคนเลยต้องอยู่ทำงานด้วยความหวาดกลัว รับใช้มาดามและลูกชายชนิดถวายหัว จนในที่สุดก็กลายเป็นความเคยชิน พ่วงด้วยความขยะแขยงอยู่น้อย ๆ
มาดามโคลอี้ลาจากโลกไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ทิ้งลูกชายให้อาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่โต่ตามลำพัง มีแมงมุมเป็นเพื่อนกับแม่บ้านคนขับรถและบอดีการ์ดส่วนตัวไม่กี่คน
“เธอออกจะน่ารักอัธยาศัยดี ลิซซี่ โคลอี้ เมล...” เสียงทุ้มอ่อนโยนลงเมื่อเรียกหาสัตว์เลี้ยง ที่ยอมเดินลงจากบ่ากว้างของผู้ชายตัวโต มาวิ่งเล่นในมือเจ้าของ
พวกมันเป็นภาพลวงตา มีบางตัวที่เป็นของจริง หลงทางมาเพราะอำนาจมนตร์ พวกมันคงคิดว่าเขาเป็นจ่าฝูง คอยติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหน แต่ถ้าหากว่าเขาสั่งให้อยู่บ้านมันก็จะอยู่ในกรง รอรับประทานอาหารจากเจ้านายสบาย ๆ ไม่ต้องออกไปตามล่าหาเหยื่อกินเอง
“ฉันสูบเสร็จละ ไปเถอะ... อย่าให้เธอต้องรอนาน แล้วฉันหิว... ไส้จะขาด” บ่นอุบอิบ ร่างสูงในเชิ้ตสีขาวครีมลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายหนังสีดำพาดบ่า
มาร์คัสลอบถอนหายใจดัง อกสั่นขวัญแขวนไม่หาย ต่างคนลอบมองหน้ากันเมื่อแมงมุมร้ายหายไปเพียงพริบตา เหลือเพียงสามตัวขยับขาเดินออกจากห้อง กลับไปยังกรงของพวกมัน ซึ่งอยู่ในเรือนกระจกถัดจากลานจอดรถ
คนทำงานมานานคงรู้ใจดีว่าสิ่งที่จะมาเติมเต็มกระเพาะของคุณพันวาได้คงไม่ใช่อาหาร
แต่เป็นวิญญาณมนุษย์...
ตรึงใจเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอก! ทว่าเธอกลับไม่ได้โกรธเขาเลย ตาลอบมองกรามแกร่งของบุรุษรูปงาม แม้หัวคิดถึงความฝันอันมืดมิดน่ากลัว ร่างใหญ่ทะมึนของแมงมุมยักษ์แทบแตกเป็นเสี่ยง เมื่อถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธร้ายกาจสารพัดจะจินตนาการได้ จากฝีมือของชายร่างกำยำที่น่ากลัวเหล่านั้น แต่เขาไม่ยอมพ่ายแพ้ ไม่แพ้ทั้งกับความเจ็บปวดและตัวเธอ เขาสู้พอ ๆ กับเธอ“ไม่ต้องกลัวนะ การแพทย์เดี๋ยวนี้ก้าวไกลกว่าสมัยก่อนเยอะ มีเงินซะอย่าง มีเงินก็ต่อชีวิตได้ ไปหาหมอฉีดยาก็หาย ไม่เหมือนสมัยก่อน คนเกิดง่ายตายง่าย ติดโรคไม่มียารักษา โลกเรามันพัฒนาไปเรื่อย ๆ แหละครับ แต่ถ้าไม่หาย...” ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้ม ชำเลืองมองดวงตาแดงก่ำที่เบนหลบไปอย่างเง้างอน “จะฉีดยาซ้ำให้อีกเข็ม...”“ฉีดยาอะไรกัน ดาวขอพี่กอดมาตั้งหลายวันพี่ยังไม่ให้ดาวกอดเลย... มาทำเป็นพูดดี...”“พูดจริงครับ ไม่ได้โกหก พี่เคยโกหกดาวที่ไหน? บอกจะให้ก็ให้ครับ”“ไม่เชื่อค่ะ พี่หลอกดาวอีกแน่นอน” พูดเท่านั้น เธอคงนึกแผนการบางอย่างได้ “หลับตาให้ดาวดูก่อนว่าไม่ได้หลอก ทำให้ดาวได้หรือเปล่า”แน่ล่ะว่าคนรู้ทันคงไม่ทำ ทว่าใบหน้าสดสวยพลันขยับเข้าหาคนที่ปิดปากเธอเอาไว้ด้วยฝ่าม
ต่างคนมองหน้ากันไปมาอย่างสงสัย พวกเขาคงอยากรู้นักว่านรกเป็นยังไง ยังไม่มีใครเข้าใจเรื่องที่เจ้านายพูดเลยสักคำ! แต่เพราะกำลังเป็นห่วงมากกว่า ชายร่างสูงใหญ่กำยำดูซูบผอมลง ขอบตาดำคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนมาเป็นอาทิตย์ ๆ“นายควรจะกินอะไรบ้างนะครับ เอาแต่นั่งหลับตาตรง พยาบาลตกใจกลัวกันไปทั้งวอร์ดแล้วนาย”“ฉันโทรสั่งข้าวให้บอสหลายมื้อแล้วนะคะ อย่าปล่อยให้อาหารเย็นชืด คุณดาวเธอฟื้นขึ้นมาจะเป็นห่วงบอสนะคะ”“นั่นสิ... เหมือนจะ... ปวดท้อง”ชายหนุ่มเพียงหรี่ตาเท่านั้นเมื่ออาการเจ็บปวดของร่างกายมนุษย์กำเริบ เขายังเห็นว่าลูกน้องเริ่มมีสีหน้าหวาดกลัวตามคุณหมอคุณพยาบาลคงไม่ใช่แค่นั่งอดข้าวอดน้ำไม่พูดจากับใคร ดันมีข่าวลือว่าเห็นแมงมุมแม่ม่ายดำเดินไปเดินมาในห้องผู้ป่วยพิเศษก่อนที่พวกมันจะหายไป ตกดึกยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนยังกับโรงพยาบาลผีสิง ทั้งที่มันไม่เคยมีมาก่อนถึงเป็นเช่นนั้น พันวาแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ ไม่มีวัน! ใบหน้าเข้มเครียดเหนื่อยล้าหันไปบอกทั้งสามคน “ขอบคุณทุกคนนะครับ เอาเป็นว่าผมจะดูแลตัวเอง ไม่ต้องห่วง”--------------------------------------‘อดทนนะดาว กลัวแค่ไหนเจ็บแค่ไหนก็ต้องทน... ถ้
โลกสีดำทะมึนมีเพียงแสงสลัวจากเทียนเล่มเล็กที่ใกล้จะมอดดับ ถัดไปจากโต๊ะไม้เก่าข้างเตียงเหล็ก ผนังปูนถูกฉาบด้วยคราบเปรอะเปื้อนปะปนไปกับรอยเลือดเป็นทางยาว เตียงผู้ป่วยรายเรียงติดกันจนสุดทางเดินขนานไปกับหน้าต่าง ข้างนอกนั้นไร้ท้องฟ้าและแสงดาว มันมืดสนิท!กรอกแกรก... ซ่อกแซ่ก...ดวงตาคู่สวยสั่นไหวส่ายมองไปรอบ ๆ ห้องเงียบสงัด คล้ายว่าจะเป็นโรงพยาบาลร้าง ดวงหน้าขาวซีดก้มลงมองผ้าปูเตียงขาดวิ่น ชุดผู้ป่วยเสื้อกางเกงสกปรกแบบผูกข้าง ก่อนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย‘ที่นี่ที่ไหน... แล้วนั่น... เสียงอะไร?’ เธอตัดสินใจชะโงกคอหาต้นตอของเสียงจากใต้เตียงด้วยความอยากรู้อยากเห็น กองเลือดเป็นเส้น ๆ ลักษณะคล้ายรอยเล็บใครสักคน ขูดลากไปกับพื้นหินอ่อน เรือนผมสีดำเลื่อนหายไปทำเอาหายใจเข้าออกไม่ทั่วท้อง ทันใดนั้นเอง ปลายนิ้วเหี่ยวย่นเกาะหมับเข้าที่กั้นเตียงเหล็กพาเสียงแหลมเล็กหวีดร้องลั่น“กรี๊ดดดดดดดดด!”ร่างบอบบางกระโจนวิ่งสะเปะสะปะไร้ทิศทาง ไม่รู้เนื้อรู้ตัว พอปะเข้ากับลุงแก่ขาขาดหันมาอ้าปากกรีดร้องจนช่องว่างวงรีนั้นขยายออกกว้างกลายเป็นโพรงสีดำ ก่อนกระเสือกกระสนลนลานกระโดดจากหน้าต่าง เธอแทบสิ้นสติ! ยืนต
พันวาไม่คิดมากกับงานโอน ด้วยความเป็นเจ้านายใจดีสายเปย์อยู่แล้ว นาดีนเองก็ทำงานดีและเขาคงไม่อยากหาเลขานุการคนใหม่ ทุกอย่างจึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาออกไปทำธุระประปรัง ทำงานกลับบ้านเช่นทุกวัน แวะไปพูดคุยกับคุณแม่เรื่องสินสอดจนสำเร็จ ขอให้เป็นค่าเทอมของลูกชายคนเล็กก็ยังดี นักศึกษาแพทย์ยังต้องใช้ทุนการศึกษาอีกมากกว่าจะเรียนจบฤกษ์งามยามดีถูกกำหนดเอาไว้แล้ว... เหลือแค่... เจ้าสาวของปีศาจด้วยรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศอบอวลความสุข แม้แต่ว่าที่เจ้าสาวยังไม่ถือสาคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ รักไม่รักค่อนข้างเป็นเรื่องไร้สาระ รอยยิ้มร่าเริงจึงปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาในทุกย่างก้าวเดิน ตาสบเข้ากับเจ้าของร่างบางในเดรสกระโปรงสีขาวแขนพอง เธอพยายามปกปิดเรือนร่างผอมบางแทบเห็นกระดูก ผ่านค่ำคืนหวานมาด้วยกัน เขารู้ว่าเธอซูบผอมลงมาก“บอสคะ... คุณดาวเธอ... บอกว่าสบายดีแต่ฉันคิดว่าเธอมองไม่ค่อยเห็นนะคะ เธอบอกว่าเห็นหยากไย่แต่ว่าฉันไม่เห็น ฉันไม่แน่ใจเรื่องนี้แล้วเธอเดินสะดุด เตะนู้นนี่หกล้มจนเท้าบวม...”สีหน้าของคนไกล ๆ ดูแปลกไป จนเขาต้องหรี่ตามองคนที่รีบลุกขึ้นเดินมาหาแต่หันไปถามเลขาฯ“ทำไม... ผมไม่รู้เรื่องนี้?”ซ
ในเมื่อรับปากเอาไว้แล้วก็ต้องทำ หลายค่ำคืนมานี้ตรึงใจจึงงัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึก ผลักกายขึ้นคร่อมทับบนเรือนร่างกำยำรุ่มร้อน สบมองนัยน์ตาสีอำพันเปล่งประกายดิบเถื่อนใต้แสงนวลสลัวด้วยอารมณ์ไม่ต่าง ถึงแม้ว่าขาแหลมราวเข็มทั้งแปดจะพลันผลักเธอให้ลงไปอยู่ใต้อาณัติ ครึ่งปีศาจหนุ่มดูดุดันเชื่อมั่นในสัญชาตญาณเหมือนสัตว์ร้ายที่พร้อมฉีกร่างเหยื่อ เธอยังคงโอนอ่อนตามเขาทุกครั้งไปเปรียบดังว่าเขาเป็นลมหายใจ เป็นชีวิตของเธอโดยเต็มใจยินดี ราวกับว่าเธออาจขาดใจตายตรงนี้หากว่าเขาไม่ได้ดูดดื่มกลืนไอสีแดงเข้มไปจากริมฝีปากเพื่อเติมเต็มความหิวกระหาย แม้แต่เขี้ยวที่ยาวพ้นออกมาขบกัดบนผิวกายจนเป็นรอยแดง ดวงตามากมายเบื้องหน้าไม่สามารถทำให้เธอหวั่นกลัวได้อีกไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะเป็นอย่างไร เธอเชื่อว่าเขายังเป็นพี่พันวาบนเตียงนุ่มนี้จึงกลายเป็นสรวงสวรรค์ หากว่าเขากอดเธอแน่นด้วยกล้ามเนื้อที่เกร็งจัดเธอจะกอดตอบอย่างเดียวกัน ตราบจนได้ยินเสียงคำรามลั่น ร่างกายพร่างพราวด้วยเม็ดเหงื่อหยุดขยับฝังแก่นกายเข้าลึกพร้อมมอบจุมพิตให้เธออีกครั้งแสงสีนวลสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระทบลงบนใบหน้าหล่อเหลาที่เลื่อนมาพรมจูบบน
ข้อเสนอน่าสนใจขนาดนั้น! พันวาคงยอมเธอทุกอย่าง อย่าว่าแต่ให้กลับร่างปีศาจนั่งปิกนิกในสวนหลังบ้านตัวเองเลย เธอบอกให้ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกเพราะไม่อยากให้มันขาด เสียดายเงินเสียดายเสื้อราคาแพง เขาก็ตามใจปลดกระดุมทีละเม็ดด้วยแววตาประกายปรารถนา กองทั้งหมดไว้บนฟูก ยอมนั่งนิ่งมองผ้าผืนยาวสีชมพูแปร๋นสี่เส้นผูกทับกันเป็นโบว์บนขาทั้งหน้าหลัง รอยยิ้มแสนภาคภูมิใจของหญิงสาวที่ส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ทึกทักตนว่าเป็นอลิซในวันเดอร์แลนด์! แต่ว่ามันไม่มีแมงมุม ปีศาจภาพลวงตาอย่างเขาจะกลายเป็นกระต่ายยักษ์ได้ด้วยไหมนะ ตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาสนใจเธอบ้างหรือเปล่าพันวาไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากพูดภาษามนุษย์ในร่างของแมงมุม และต่อให้เขาสื่อสารอย่างแมงมุม เธอก็คงไม่เข้าใจความหมายอยู่ดี ในร่างสัตว์ตอนนี้เป็นไปอย่างธรรมชาติสรีระ แม้แต่ขาขนาดใหญ่ แหลมยาวและคมราวเข็มหมุดทำให้การนั่งเป็นเรื่องยาก แมงมุมยังไม่สามารถเคลื่อนส่วน cephalothorax (หัว) ได้ พวกมันใช้ดวงตารับรู้การเคลื่อนไหว โฟกัสติดตามภาพด้วยกล้ามเนื้อตา เธอจึงแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกจ้องมองด้วยนัยน์ตาคู่สวยสีอำพันทั้งแปดปีศาจอย่างเขาย
เป็นครั้งแรกที่ลูกน้องไม่เข้าข้าง! เจ้านายพยายามขยิบตาให้นายสารถีผ่านกระจกมองหลัง อัฟซาก็ทำเป็นไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ขณะที่หนุ่มอีกคนเริ่มเล่าประสบการณ์ผ่านคนในครอบครัว“ผมได้ยินมาว่าผู้ป่วยเบาหวานไม่ใช่น้ำตาลสูงแล้วจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างเดียวนะครับ... คือ... ป้าผมก็เป็นเบาหวาน...ป้าผมเนี่ย... หิวบ่อย ใจสั่น ตาลาย แกขี้กังวลด้วย พอแกกินน้ำตาลเข้าไปมันก็พอหายจากอาการนี้นะ ดีขึ้น แต่พอแกทำแบบนี้บ่อย ๆ มันยิ่งไม่ดี หมอบอกว่าควรควบคุมให้อยู่ในระดับพอดีครับไม่เหวี่ยง ไม่สูงไปต่ำไป แต่คนแก่ขี้หลงขี้ลืม กินอาหารไม่ตรงเวลา บางทีก็ไม่กินเลย แกฉีดอินซูลินกินยาไม่ถูกเวลา กินผิดกินถูก พอเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ แกล้มตึงไปเลย”“แล้วตอนนี้ป้าเป็นยังไงบ้างล่ะ? มาร์คัส ดีขึ้นไหม...”“เผาไปแล้วครับ แกไตวายด้วย วันเดียวไปวัดเลย”“ขอบใจนะ สำหรับคำแนะนำ...” พูดพลันหันไปทางคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินไหมครับ ไปวัดจองเมรุเผาเลย”คนฟังถึงกับหน้าซีดเจื่อน ก้มหน้ากำถุงกระดาษยาหลายใบจากโรงพยาบาลเอกชน กระทั่งรถจอดลงหน้าบ้าน ลูกน้องของเขาลงจากรถมาเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ เธอเลื่อนมือไปจับกุมมือหนาด้วยสีห
เพราะไม่พอใจคนที่ไม่สนใจกันเลย ร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาเลยสลัดเสื้อออกโยนลงพื้น กระโดดลงสระว่ายน้ำกลางบ้าน ตูมเดียว! แววตาเร่าร้อนของเหล่าสาวน้อยใหญ่ก็พุ่งตรงมายังเรือนร่างกำยำอันสมบูรณ์แบบ กำลังผุดดำผุดว่ายประหนึ่งเงือกหนุ่ม พอเขาถอดกางเกงแสล็คดำออก เหลือกางเกงชั้นในไว้ตัวหนึ่งให้พอลุ้นระทึก ดำน้ำหายไปแล้วโผล่ขึ้นมาสะบัดศีรษะจนเส้นผมเปียกหมาดยุ่งเหยิง ดูไม่ตั้งใจแต่เจตนายั่ว สาว ๆ เลยมานั่งจิบไวน์รอบสระกันเสียหมด รวมถึงตรึงใจ... เธอดื่มไปหลายแก้ว จนรุ่งเช้ามา อาการปวดศีรษะอาเจียนกลางดึกทำให้เธอสิ้นฤทธิ์ไปพร้อมอาการเมาค้าง เปิดเปลือกตาหนักอึ้งในสีหน้าเหยเก“ตื่นแล้วหรือ? ไงล่ะ ทิ้งพี่พันวาหนีไปเมาคนเดียว” ทั้งน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยนผิดเป็นคนละคน ในอ้อมแขนที่กอดกระชับกายสาวไว้ให้อบอุ่นตลอดคืน ตรึงใจเพิ่งรู้สึกตัว หลังเมาแอ๋จนต้องให้คนต้นเรื่องอุ้มขึ้นบ้านมา ยังว่าเขาเป็นพวกขี้อวดกล้ามบ้าง อีตาโรคจิตบ้าง ร้ายที่สุดคงว่าเขาเป็นแมงมุมยักษ์ตัวเท่าฝาบ้าน! ดีที่ไม่มีใครได้ยิน“วันหลังไม่ให้กินแล้วนะ ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลย ป่วยขึ้นมาจะทำยังไง? หืม...”“ดาวขอโทษค่ะ ดาวขอนอนก่อนนะคะ ปวดหัว”“ก
“ให้ใครล่ะครับ? ตอนนี้มีคนเดียว” พูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นจรดริมฝีปาก ขณะที่เขากำลังรอจังหวะเหมาะ ๆ พอเธอหันไปอีกทางเหมือนงอนอะไรสักอย่าง โน้มใบหน้าลงปิดริมฝีปากอิ่มงาม มือบีบกรามน้อยให้ยอมอ้าปากรับน้ำองุ่นขมปนหวาน“อร่อยไหมครับ?”“อื้ม... ค่ะ อร่อย” ตรึงใจคงไม่รู้ตัวว่าท่าทางเขินอายหลังได้ลิ้มชิมไวน์องุ่นราคาแพง อาจทำให้หนุ่มเพลย์บอยกลายเป็นแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง เมื่อเขาจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยใสโดยไม่ปิดบังความรู้สึก“จิบไวน์มื้อค่ำอาจดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน พี่เคยอ่านบทความทางการแพทย์อยู่บ้างนะ ไม่ดื่มเยอะคงไม่เป็นไร”“อ้อ ถ้าอย่างนั้นดาวกินสักแก้วคงไม่เป็นไร”เธอคงอยากคว้าทั้งขวดมากระดกให้หมด แต่เพราะอุณหภูมิในกายสาวพุ่งปรี๊ดปรอทแตกเพียงเพราะแววตาเร่าร้อนตรงหน้า พอเลื่อนมือไปรับแก้วไวน์มา เขาก็คว้าข้อมือเรียวด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ก้มลงบดริมฝีปากเธออีกครั้ง พร้อมส่งผ่านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หอมหวาน กว่าจะปล่อย คนถูกระรานเลยยกปลายนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก“น่าอายนะ มาจูบดาวต่อหน้าคนเยอะแยะ”“เพื่อนพี่ต่างชาติกับเด็กนอกทั้งนั้นครับ ไม่มีใครถือ พี่อยากจูบดาวพี่ก็จูบ พี่จะทำอะไรกับอาหารมื้อค่ำก็ได้” พูด