คะนิ้งชักสีหน้าอึดอัด ‘แค่งานเสิร์ฟเล็กๆ น้อยๆ ในเต็นท์รถ’ คำพูดของคลื่นเมื่อหลายวันก่อนยังชัดเจนอยู่ในหัว แต่ยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ เสียงร้องเรียกจากด้านในก็ดังออกมาซะก่อน
“อุ๊ยตายละหนูๆ มายืนทำอะไรตรงนี้คะ ไปเร็วแต่งหน้า”
พอสามสาวไม่ยอมกระดิกตัว เจ๊แมวก็คว้าแขนทั้งสามคนให้มานั่งหน้ากระจกทันที
“เดี๋ยวค่ะจะทำอะไรคะ” คะนิ้งถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็แต่งหน้าไงคะ”
“แต่งหน้า? พวกเราแค่มาเสิร์ฟน้ำไม่ใช่เหรอ” เค้กแทรกขึ้นมา ส่งสายตาสงสัยไปที่เจ๊ข้างๆ
“นี่ใครเป็นคนพาพวกน้องมาเนี่ย ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรกันเลยนะ”
“คลื่นค่ะ” คะนิ้งตอบ
“เด็กคุณคลื่นเหรอ... อ้อๆ เข้าใจแล้ว คุณคลื่นคงไม่ได้บอกสินะว่าให้มาเป็นเรซควีน”
“เรซควีน!!!”
สามชั่วโมงต่อมา
สาวๆ ในชุดเรซควีนสุดเซ็กซี่กำลังยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปอยู่กลางแดดในบ่ายแก่ๆ ที่งานแข่งรถรายการหนึ่ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นตรงมุมปากของคลื่นอย่างเปิดเผย
“เล็งใครอยู่ครับลูกพี่”
ชายหนุ่มผมทองเดินมากระแซะพลางเหล่ตามองบรรดาสาวๆ เรซควีนของทีม ที่เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหิ้วกลับบ้านด้วยสักคนสองคน
“เช็ดน้ำลายมึงก่อนเถอะจุน ยังต้องลงแข่งอีก”
“ฮ่าๆ ผมรู้หน้าที่ตัวเองน่า”
จุนส่ายหน้าทั้งที่ยังไม่หุบยิ้มเจ้าเล่ห์ ลากเก้าอี้ออกมานั่งข้างคลื่น ละสายตาจากสาวๆ มาคุยเรื่องรถและคู่แข่งที่ต้องเจอบนสนามในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
สักพักจุนก็ลุกออกไปทักทายเพื่อนๆ นักแข่งคนอื่น คลื่นมองออกไปนอกเต็นท์สายตาเขาจับจ้องที่เรซควีนคนหนึ่งนานเป็นพิเศษก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปจับแขนเธออย่างเบามือ
“เหนื่อยมั้ยเข้ามาพักก่อนก็ได้”
“อ๊ะคลื่น?”
คะนิ้งหันขวับมามองคลื่นด้วยสายตาแตกตื่น ท่าทางเธอเก้ๆ กังๆ ไม่คุ้นเคยกับงานอะไรแบบนี้ เลยโดนเรซควีนคนอื่นๆ แย่งซีนหมด แต่ด้วยความน่ารักของเธอก็ทำให้มีคนมาขอถ่ายรูปด้วยเรื่อยๆ ไม่มีคำว่าเสียของเลยสักนิด
“น้ำหน่อยมั้ย” คลื่นยื่นขวดน้ำในมือให้
“ขอบใจนะ จริงสิ เค้กกับเหมยไปไหนเนี่ย”
คะนิ้งกวาดตามองหาเพื่อนอีกสองคนแต่ไม่เจอ คลื่นยักไหล่ นอกจากคะนิ้งเขาก็ไม่สนใจใครอีกแต่จะทำนิ่งเฉยก็ยังไงอยู่
“คงอยู่แถวๆ นี้มั้ง เข้าไปนั่งก่อนมั้ย ตากแดดจนหน้าแดงหมดแล้ว”
“อื้ม นั่นสิ”
หมับ!
กำลังจะเข้าไปหลบแดดในเต็นท์ ตอนนั้นท่อนแขนคะนิ้งก็ถูกมือปริศนารั้งกลับไปอย่างแรง
“ปล่อยนะ!”
น้ำเสียงตกใจของคะนิ้งทำให้คลื่นหันกลับไปมอง ดวงตาสีครามคมกริบเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นอริเก่า รีบดึงคะนิ้งกลับมา แล้วผลักอกอีกฝ่ายออกห่าง
“มึงมีปัญหาอะไรริกกี้”
“หลบไปกูจะคุยกับคนของกู!” ริกกี้จ้องตอบสายตาของคลื่นอย่างไม่หวั่นไหว ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความโกรธที่เห็นผู้หญิงของตัวเองมาสวมชุดเรซควีนของคู่แข่งแบบนี้
ใช่ แม้แต่คลื่นก็รู้ว่าคะนิ้งเป็นของริกกี้ แล้วยังไงล่ะ ขนาดปีใหม่ริกกี้ยังไม่เว้น...
“คนของมึง อย่าเข้าใจผิดสิวะ เธอมากับกูแล้วจะเป็นคนของมึงได้ยังไง”
หมับ!
ริกกี้คว้าคอเสื้อของคลื่นเข้าไปใกล้
“มึงอยากมีเรื่องมากใช่มั้ยวะ”
“ก็เอาสิ...ถ้ามึงกล้า” คลื่นกระตุกยิ้ม ส่งสายตาท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ต่อยมาเลย... อย่างน้อยเขาก็แค่เจ็บตัว แต่ทีมมันมีโอกาสถูกแบนจากการแข่งได้เพราะทำผิดกฎ
“หยุดนะริกกี้! ....แค่นี้ยังเลวไม่พอหรือไง”
คะนิ้งเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาห้าม ริกกี้ตวัดสายตาเย็นเฉียบไปจ้องตัวปัญหาทันที
“ฉันเลวได้มากกว่านี้อีก”
ริกกี้ผลักคลื่นออกห่างแล้วกระชากร่างบางออกมา
“โอ๊ยเจ็บนะ”
“มึงจะพาคะนิ้งไปไหน” คลื่นตามไปคว้าท่อนแขนริกกี้เอาไว้อย่างไว
เส้นอารมณ์ริกกี้กระตุกหันกลับไปง้างหมัดใส่คลื่น ทว่าก่อนที่หมัดแข็งๆ ของเขาจะปะทะเข้าที่ใบหน้าคลื่น เสียงเย็นเฉียบดุดันก็ดังแทรกเข้ามา
“ริกกี้หยุด!”
หมัดริกกี้ค้างอยู่กลางอากาศ
“แฮค”
เขาเหลือบมองเพื่อนร่วมทีมนัยน์ตาไหววูบ แฮคก้าวฉับๆ เข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งสาม ก่อนคว้าคอเสื้อด้านหลังริกกี้เข้ามาใกล้
“มึงจะทำอะไร อย่าสร้างปัญหาให้ทีม รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเรื่องที่นี่”
คำพูดของแฮคช่วยทำให้หัวริกกี้เย็นลง หันไปมองหน้าคะนิ้งด้วยสายตาคาดโทษแล้วเดินฉุนเฉียวออกไป
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกเหี้ยวะ” แฮคหันกลับมาเค้นเสียงลอดไรฟันใส่คลื่นก่อนก้าวยาวๆ ตามหลังริกกี้ไป
“หึ!” คลื่นแค่นเสียงหยันในลำคอ เขาเบนสายตากลับมาอีกทีก็เห็นคะนิ้งหน้าซีดเผือด
“คะนิ้งเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรคลื่น ...ขอพักแป๊บนะ” พูดเสร็จเธอก็เดินออกไปอีกทางทันที
“อ้าวเฮ้....” คลื่นจะห้ามก็ไม่ทัน ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเฮือก ก่อนจะรู้สึกได้ถึงสายตารอบข้างที่มองมา ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ “มองเชี่ยไรกันวะ”
EXTRA STORYEP.5/3เสียงเข้มห้วนทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าหยุดกึก เหมยกลั้นใจหันไปเผชิญหน้ากับเขา ดวงตากลมสวยฉายแววแข็งขืนจนคนบนเตียงหวั่นใจ “หมวยคะ โกรธอยู่เหรอ”“เปล่า แค่เหนื่อยๆ น่ะ อยากอาบน้ำ”“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวช่วยอาบนะ”“เอ๊ะ? ...คลื่น! นี่ว้ายยย ทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ”ร่างสูงก้าวลงจากเตียง สืบเท้าเข้ามาคว้าร่างบางขึ้นอุ้มทันทีทันใด เหมยถึงกับตั้งตัวไม่ทัน กะพริบตาอีกทีเธอก็อยู่ในอ้อมแขนเขาแล้วต่อให้เธอโวยวายแค่ไหนคลื่นก็ไม่คิดจะปล่อย เขาอุ้มภรรยาที่ดิ้นพล่านเป็นเด็กๆ มาลงอ่าง“นี่เดี๋ยว... อ๊ายเดี๋ยวชุดเปียก อย่านะ”“จะถอดเองหรือให้ถอดให้”“อึก คนบ้า!”สาวเจ้าหลุดยิ้มออกมาทั้งที่กำลังโกรธ มองค้อนสามีวงโตทว่าอีกฝ่ายกลับจ้องมาด้วยนัยน์ตาคมกริบ เธอร้อนวูบวาบไปทั้งตัว หลุบตาลงอย่างประหม่า“ออกไปได้แล้วจะอาบน้ำ”“ก็อาบสิ ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”“แต่...อุบอื้อ!~”คลื่นโฉบเข้าไปประกบริมฝีปากอิ่มโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไรอีก เหมยเบิกตาโพลง มือเล็กกำคอเสื้อของเขาแน่น ตั้งใจผลักร่างสูงออกห่างทว่าปลายลิ้นที่แทรกซึมเข้ามาภายในกลับหวานซะจนเธออ่อนระทวยไปทั้งตัวและหัวใจ เสียงลมหายใจหอบ
EXTRA STORYEP.5/2วันต่อมา เหมยช่วยลูกแต่งตัวไปโรงเรียน เธอกลับมาที่ห้องอีกทีก็ไร้วี่แววของคลื่นแล้วไปธุระข้างนอกหรือเปล่านะ ไม่เห็นบอกสักคำหญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่ไร้เงาของร่างสูงแล้วก่อเกิดความเหงาในอกแผ่นเบา คำพูดของหนูมีนเมื่อคืนทำให้ความตั้งใจเรื่องที่จะไม่ไปต่างจังหวัดสั่นคลอน ความรู้สึกของหนูมีนสำคัญที่สุด ถ้าพ่อกับแม่ต้องแยกกันอยู่ลูกจะคิดยังไง นึกแล้วเหมยก็สงสารลูกเหลือเกินตกบ่าย เหมยไปรับลูกที่โรงเรียน บังเอิญเจอกับคะนิ้งพอดี จึงชวนกันไปนั่งเล่นที่ร้านไอศกรีมที่เด็กๆ ชอบระหว่างปล่อยให้ภามกับหนูมีนวิ่งเล่นในสวนหย่อมของบริเวณร้าน เหมยก็ขอคำปรึกษาจากคะนิ้ง“นี่คลื่นรู้หรือเปล่าว่าเหมยลำบากใจ”“ไม่รู้สิ ตั้งแต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คุยกันอีกเลย เมื่อคืนเหมยก็นอนกับลูก วันนี้ทั้งวันยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ”“อ่าว แล้วไม่โทรหากันเหรอ”เหมยส่ายหน้า... รู้สึกท้อแท้อย่างบอกไม่ถูก“แล้วลองพูดกับหนูมีนเรื่องย้ายบ้านยัง”“ยัง... แต่เหมยรู้ยังไงหนูมีนก็เลือกพ่อ เฮ้อ... พูดแล้วก็ปวดใจ”“เอาน่าอย่าเพิ่งคิดมากเลย วันนี้กลับไปก็ลองคุยกับคลื่นดูมันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เหมยกังวลก็ได้”“อื้
EXTRA STORYEP.5/13 เดือนต่อมา...“อะไรนะ ไปประจำที่ต่างจังหวัด!”เสียงเอ็ดตะโรดังลั่นคฤหาสน์ฟู่หงส์ในเย็นวันหนึ่ง ทั้งคนรับใช้และคนสวนต่างหันขวับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีสงสัยสามเดือนแล้วที่คุณหนูแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับหมอคลื่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ความรักของทั้งคู่ชื่นมื่นไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี แต่เหตุไฉนวันนี้คุณหนูถึงทำเสียงเหมือนจะมีใครตายแบบนั้น“ว่าไงนะคลื่น ไหนพูดอีกทีสิ”ใจเหมยสั่นตุบๆ รู้สึกร้อนรนและไม่แน่ใจว่าได้ยินผิดไปหรือเปล่า“คลื่นต้องไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด คำสั่งเพิ่งออกเมื่อเช้า”เหมยยืนอึ้ง ได้ยินเรื่องที่คลื่นสอบอะไรสักอย่างเกี่ยวกับแพทย์มาบ้างแต่เธอไม่ได้ใส่ใจ และไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น“หมายความว่าคลื่นต้องไปพักต่างจังหวัดด้วยใช่มั้ย”“อื้ม”“แล้วเหมยล่ะ?”“หมวยก็จะไปกับคลื่นด้วยไงคะ เราจะพาหนูมีนไปด้วย หาโรงเรียนดีๆ ที่นั่นให้ลูก”คลื่นกุมมือเหมยขึ้นมาจูบ เหมยสะบัดทิ้งหลังจากเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด“ไม่!”“หมวย?”เหมยส่ายหน้า มองสามีด้วยสายตาต่อต้าน ก้าวถอยออกมาหนึ่งก้าว ไม่ใช่ว่ารังเกียจที่จะต้องอยู่ต่างจ
EXTRA STORYEP.44 ปีต่อมา...งานมงคลสมรสถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์ฟู่หงส์ เจ้าของกิจการกว่าพันล้าน จัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานลูกสาวคนเล็กแบบเรียบง่าย แขกเหรื่อภายในงานมีแต่คนสนิท ญาติ และเพื่อนพ้องของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นกระนั้นคนก็ยังเต็มบ้านอยู่ดี“แต่งงานแล้วก็ทำตัวเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีล่ะ อย่าให้หนูเหมยลำบากเข้าใจมั้ย”“ครับพ่อ”คลื่นพยักหน้ารับโอวาทพร้อมรอยยิ้มจากผู้เป็นพ่อก่อนหันไปยิ้มให้ภรรยาสาวข้างๆ“ฝากดูแลลูกชายพ่อด้วยนะ ถ้ามันเกเรก็จัดการได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”“แน่นอนค่ะ”เหมยตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำเอาชายหนุ่มข้างๆ ถึงกับโอดครวญขณะที่พ่อกับลูกสะใภ้สบตากันแล้วขำคิกคักเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียงหัวเราะเงียบกริบทันทีเมื่อแม่คลื่นเดินเข้ามา บรรยากาศเงียบเชียบจนน่าอึดอัด สายน้ำเทลงบนมือคู่บ่าวสาวอย่างไร้สุ้มเสียง“แม่จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอครับ”แม่เหลือบมองหน้าลูกชายครู่สั้นๆ ก่อนถอนหายใจยาวเพราะทนใจแข็งต่อไปไม่ไหว“ขอให้ลูกมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือก” หล่อนเหลือบมองหน้าลูกสะใภ้ชั่วขณะ “อะไรที่แล้วมาก็ให้แล้วกันไปนะ แม่ไม่เคยกีดกันความสุขของลูกแม่แค่เป็นห่วง... ฝากลูกชายฉันด้วย
EXTRA STORYEP.3/2หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ประเทศไทย“อะไรกันน่ะหมวย ไหนว่าจะไปยาว แล้วนี่กลับมาคนเดียวเหรอ?”คลื่นมารอรับแฟนสาวที่สนามบิน เขาเองก็เพิ่งรู้ล่วงหน้าไม่ถึงวันด้วยซ้ำว่าเหมยจะมา ชายหนุ่มมองไปรอบๆ เพราะปกติเหมยจะมีทิกเกอร์คอยประกบตลอด“มาคนเดียว ทำไมเหรอ อยากให้มีหนุ่มๆ ติดสอยห้อยตามมาด้วย?”“หนุ่มๆ งั้นเหรอ”“โอ๊ยคลื่น!”คลื่นหยิกแก้มขาวๆ ของเหมยลงโทษที่เธอพูดเล่นไม่เข้าเรื่อง เหมยลูบแก้มป้อยๆ มองค้อนเขาวงใหญ่“ชิ... รีบเดินได้แล้วคิดถึงลูกจะแย่”“แล้วไม่คิดถึงพ่อบ้างเหรอ”“ก็คิดถึงไงถึงได้รีบกลับมา”“หมวยรอด้วย”เหมยเร่งฝีเท้าเร็วผิดปกติ คลื่นรีบตามไปอย่างตั้งตัวไม่ทัน เขาแอบเห็นนะว่าแก้มเธอแดงหน่อยๆ ด้วย คงกำลังกลบเกลื่อนความเขินตัวเองอยู่แน่ๆชายหนุ่มเดินตามร่างบางไปเงียบๆ ถึงเขาจะกำลังอมยิ้มแต่ก็ยังไม่หายแคลงใจเรื่องที่เธอกลับมา“แล้วจะอยู่ถึงเมื่อไหร่”“เปิดเทอม”“ไม่เห็นบอกก่อนว่าจะกลับมาอีก”“พอดีเหมยเคลียร์งานไวป๊าก็เลยอนุญาตให้กลับมาได้” เหมยไม่ได้เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ไปอาละวาดในห้องทำงานป๊าวันนั้น เธอตั้งใจจะเก็บกระเป๋าหนีกลับเมืองไทยทันทีแต่ทิกเกอร์เตือนสติเ
EXTRA STORYEP.3/1- คลื่น –ผมขับรถมาส่งหมวยที่สนามบิน บอกตรงๆ ว่าไม่โอเค โมโหที่ได้อยู่ด้วยกันไม่นานเธอก็ต้องไปเพราะเหตุผลเรื่องงาน ความทรมานที่ต้องพลัดพรากมันยังเจ็บใจน้อยกว่าความจริงที่ว่าผมไม่มีกำลังพอจะรั้งเธอเอาไว้ถ้าผมสามารถเร่งเวลาให้ตัวเองเรียนจบได้ภายในปีเดียวคงจะดีสำหรับเราทั้งคู่ ไม่สิ...เราทั้งสามต่างหากวันนี้หนูมีนไม่ได้มาด้วยเพราะกลัวทำใจกันไม่ได้ที่จริงเราทะเลาะกันครับ หมวยอยากพาหนูมีนไปสิงคโปร์ด้วยแต่ผมไม่ยอมให้ไป ถ้าเกิดเธอพาลูกไปจากผมตลอดกาลล่ะ ผมคงทนไม่ได้ จะว่าผมเห็นแก่ตัวหรือขี้ขลาดก็ไม่เป็นไร“ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะ”ผมจับมือหมวยเอาไว้แน่น เธอหันกลับมายิ้มให้ผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“อื้ม”“หมวย”ผมรั้งมือที่กำลังจะเดินเข้าไปข้างในเอาไว้“โกรธเรื่องหนูมีนหรือเปล่า”“ไม่หรอก เหมยเข้าใจคลื่นนะ เหมยเองก็คิดถึงลูกเหมือนกัน ไม่ได้เลี้ยงยังทรมานขนาดนี้ แล้วคลื่นเลี้ยงหนูมีนมาตั้งแต่แบเบาะ ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน ถ้าเหมยเอาลูกไปเหมยคงใจดำมาก อีกอย่างหนูมีนคงทนไม่ได้ถ้าขาดพ่อ”หมวยพูดเหมือนตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ผมจับน้ำเสียงที่กำลังสั่นไหวได้ ดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอกแน่น ผ