Home / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 10 หวานและหอม

Share

ตอน 10 หวานและหอม

last update Last Updated: 2025-06-21 03:56:56

ลิ้นสาก ๆ ของชายหนุ่มจงใจลากผ่านแอ่งชีพจรบนข้อมือของลลิตรา เธอชาวาบเหมือนโดนไฟช็อต ดึงมือออกอย่างแรงแต่อธิปก็จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ปล่อยนะ! ปล่อย!”

เธอกัดฟันบอก ไม่ได้กลัวเขามากเท่ากลัวคนอื่นเดินเข้ามาเห็น

ไม่กี่นาทีก่อน ทุกคนยังสลอนกันอยู่ในครัว เธอเองที่ออกปากให้ทุกคนกลับไปพักเพราะเกรงใจที่ทำงานกันมาทั้งวันยังมาช่วยเธอทำขนม

แต่ตอนนี้เธออยากตะโกนเรียกให้ทุกคนกลับมาจริง ๆ

หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า

ปกติเวลาหลังอาหารมื้อเย็น เมื่ออรรถกับลินดารับประทานอาหารเสร็จแล้ว คนในครัวก็จะช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดและแยกย้ายกันไปพักผ่อนห้องใครห้องมัน ถือว่างานวันนั้นได้เสร็จสิ้น

แต่วันนี้ ทั้งแม่ครัว แม่บ้าน และคนงานทุกคนที่พักอยู่ที่เรือนเล็กด้านหลัง มาออกันอยู่ในครัวเพื่อช่วยลลิตราทำขนม

“ป้าเดือนคะ ไม่ต้องช่วยลูกอมจริง ๆ ลูกอมทำเองได้”

ลลิตราพยายามบอก

“ปกติลูกอมก็ทำเองนะคะ แล้วป้ากับคนอื่น ๆ ก็ทำงานกันมาทั้งวันแล้ว ลูกอมไม่รบกวนหรอกค่ะ นี่พูดจริง ๆ นะคะนี่”

ป้าเดือนกำลังจะอ้าปากตอบ แต่หลานสาวที่เป็นผู้ช่วยแม่ครัวนามว่าน้ำค้างพูดขึ้นมาก่อน

“คุณเขาก็พูดถูกนะป้า เขาจ้างเรามาทำอาหารให้คุณท่าน ไม่ได้จ้างให้มาช่วยใครทำขนม แทนที่จะได้พัก...”

“ก็ถ้าเอ็งอยากพักก็กลับไปพักสิ ใครว่าอะไรล่ะ”

ป้าเดือนตอบหลานสาวเสียงดุ

“พวกเอ็งทุกคนก็เหมือนกัน ข้าไม่ได้เกณฑ์ให้มาช่วยคุณหนู วันนี้ข้าแค่ว่าง ๆ แล้วก็ยังไม่ง่วงไม่เหนื่อย ก็เลยอยากอยู่ดูว่าคุณหนูเค้าจะทำอะไรยังไง ใครไม่อยากอยู่ก็กลับไปสิวะ ใครจะห้าม”

“งั้นฉันไป”

น้ำค้างบอกก่อนจะเดินออกจากครัว ไม่สนใจอะไรใครทั้งนั้น

ป้าเดือนก็ไม่สนใจหลานสาวแท้ ๆ คนนี้เหมือนกัน หันมาช่วยลลิตราเช็ดและเจียนใบตองต่อ

“ป้าไม่ได้ทำขนมกินแบบนี้มานานแล้ว เมื่อก่อนสมัยอยู่บ้านล่ะทำบ่อย”

“หมายถึงบ้านที่ไหนหรือคะ”

ลลิตราชวนคุย แม่ครัวคนอื่น ๆ ที่อาบน้ำอาบท่าแล้วก็นั่งพับเพียบแปล้คอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ ไปด้วย

“ลำพูนจ้ะ นี่ก็คนลำพูนกันเกือบทั้งหมดเลยนะ ป้าก็คนลำพูน ไอ้ดาวนั่นก็น้องชายป้ามาด้วยกัน ไอ้น้ำค้างนั่นก็หลาน ลูกพี่ชาย ส่วนน้ำตาลนี่ก็ญาติ...”

ป้าเดือนแนะนำทุกคนที่อยู่ในครัวตอนนั้นอีกรอบ น้ำตาลส่งยิ้มมาให้ ไม่กี่วันที่เจ้านายคนใหม่มาอยู่ที่นี่ ก็มีน้ำตาลนี่แหละที่กลายเป็นคนสนิทที่สุดของคุณลินดาไปเสียแล้ว

“สาว ๆ ป้าเคยทำขนมขาย ทำได้แทบทุกอย่างเลยนะ ดีจริงไม่คิดว่าสาว ๆ อย่างคุณหนูก็จะทำขนมขายเหมือนกันด้วย”

“หนูขายทางออนไลน์ค่ะ”

หญิงสาวบอก น้ำตาลจึงหันไปบอกคนเป็นป้าว่าหมายถึงสั่งซื้อได้ทางโทรศัพท์ อย่างที่ป้าฝากให้เธอทำอยู่ทุกเดือนนั่นแหละ

“แล้วใครมาซื้อหรือคะ”

เด็กสาวถามอย่างสงสัย

“ส่วนใหญ่ก็เป็นโรงเรียน บริษัท หน่วยงานราชการอะไรพวกนี้จ้ะ เขาสั่งทีละร้อย ๆ ชุดอย่างที่เห็นนี่แหละ เอาไปเป็นขนมกินตอนเบรกประชุมอะไรแบบนี้”

ลลิตราตอบพลางมือก็พับกระทงใบตองไปพลาง

กลิ่นหอมของกะทิกับเผือกข้าวโพดนึ่งหอมตลบอบอวลไปทั้งครัว  ออเดอร์วันพรุ่งนี้คือตะโก้เผือกและตะโก้ข้าวโพด ส่วนน้ำอัญชันมะนาวและน้ำตะไคร้ก็ต้มเสร็จแล้วแค่รอให้เย็นแล้วค่อยกรอกลงขวดใบเล็กขนาดน่ารัก

“แล้วป้าเดือนยังจำสูตรขนมได้ไหมล่ะคะ”

“จำได้สิคะคุณหนู ไม่มีลืมหรอก ถ้าให้ทำอีกก็ทำได้”

“ดีจัง” ลลิตรายิ้มดีใจ “คราวหน้าถ้าลูกอมคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรใหม่ ๆ ก็มาถามป้าดีกว่า สูตรที่ลูกอมทำก็จำ ๆ ดู ๆ มาจากในอินเทอร์เน็ต ถ้าได้สูตรจากคนรุ่นเก่า ๆ น่าจะอร่อยกว่าเยอะ”

“เขาบอกว่าพี่แก่แน่ะ”

น้าเดือนที่นั่งกินข้าวอยู่ด้านหลังเพราะมาทีหลังคนอื่นเอ่ยขึ้นมา เลยโดนพี่สาวแท้ ๆ ที่เป็นหัวหน้าแม่ครัวด่ากลับไปหนึ่งทีเป็นภาษาเหนือ

เสียงหัวเราะในครัวฟังแล้วครื้นเครง ลลิตราทำขนมเผื่อทุกคนในบ้านด้วยเพราะถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ายาของแม่ สามารถทำเกิน ๆ เพื่อแบ่งคนที่บ้านกินได้

แต่จู่ ๆ เสียงหัวเราะก็หยุดชะงักเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาในครัว คนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยลงมาเหยียบที่นี่

“คุณอาร์ต...จะรับอะไรหรือคะ”

ป้าเดือนรีบเอ่ยถาม ลลิตราที่นั่งหันหลังให้ตัวแข็งขึ้นมาทันที สักพักก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มตอบ

“มาหาป้าเดือน ไม่อยู่เหรอ”

“ป้าเดือนแกลากลับสุโขทัยไปเมื่อเช้านี้ค่ะ ไปช่วยงานบวชหลาน อีกสองสามวันถึงจะกลับ คุณหนูจะให้ป้าทำอะไรให้ทานไหมคะ”

หัวหน้าแม่ครัวถามอย่างใส่ใจเพราะคิดว่าที่เจ้านายลงมาถึงที่นี่คงเพราะหิว เพราะเมื่อมื้อเย็นอธิปยังไม่กลับบ้าน

ชายหนุ่มยังไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาในครัวช้า ๆ ทุกคนนิ่งเงียบและก้มหน้าก้มตา นอกจากป้าอ้อม น้าดาว กับป้าเดือนที่อยู่ที่นี่มานานกว่าใคร ก็ไม่มีใครคุ้นเคยกับชายหนุ่มนัก

ยิ่งสามเดือนที่อธิปเพิ่งกลับมา ก็ปะทะคารมกับคุณอรรถไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง พวกเด็ก ๆ แม่บ้านแม่ครัวจึงค่อนข้างหวาด ๆ คุณอาร์ต แม้ว่าตอนแรก ๆ จะตกตะลึงในความหล่อของเจ้านายหนุ่มลูกครึ่งก็ตามที

“แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่ ที่บ้านจะมีงานหรือไง”

“เปล่าหรอกค่ะ กำลังช่วยคุณหนูลูกอมทำขนมค่ะ”

“ทำไปทำไม”

อธิปถามเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“ทำขาย” หนนี้ลลิตราเป็นฝ่ายตอบเอง ห้วน ๆ และไม่มองหน้าเขา

“แล้วไง เธอจ่ายเงินจ้างแม่ครัวของบ้านฉันให้มาช่วยเธองั้นเหรอ”

“เปล่า พวกเขามาช่วยด้วยน้ำใจ”

หนนี้เธอเงยหน้าขึ้นมองตอบเขา แววตาเริ่มจะเอาเรื่อง

“อ้างคำว่าน้ำใจ แต่ความจริงคือขูดรีดแรงงาน ใช้งานฟรี พวกนี้เขาทำงานกันมาทั้งวันแล้วยังต้องมาช่วยเธอทำงานส่วนตัวอีกสินะ”

“พวกป้าอาสาเองค่ะคุณอาร์ต ป้าอาสาเอง”

ป้าเดือนรีบบอกก่อนสองคนจะเถียงกันไปมากกว่านี้ แต่อธิปไม่ยอมด้วย

“ผมรู้ป้ามีน้ำใจ แต่วันนี้ถือว่าผมขอ... ให้ลูกสาวคนใหม่ของพ่อผมเขาได้เรียนรู้ซะบ้างว่า แค่มาอยู่ที่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินเดือน”

“ค่ะ ค่ะ คุณลูกอมไม่ได้ขอหรอกค่ะ ป้าดื้อจะช่วยเอง...”

ป้าเดือนยังพยายามจะอธิบายต่อ แต่น้าดาวที่รีบอิ่มข้าวทันทีค่อย ๆ ย่อตัวเข้ามาสะกิดพี่สาว

คนอื่น ๆ ที่เหลือก็เริ่มเลิกลั่ก ไม่รู้จะทำตัวยังไงให้ถูกใจลูกชายคนจ่ายเงินเดือน

“ทุกคนกลับไปพักได้แล้ว เดี๋ยวตรงนี้ผมจะอยู่ช่วยน้องสาวผมเอง”

“เอ่อ...”

ป้าเดือนยังลังเล แต่เมื่อน้องชายสะกิดอีกรอบบวกกับเริ่มรับรู้ถึงสีหน้าบึ้งตึงของนายจ้างอย่างอธิป หนึ่งนาทีต่อมาทุกคนก็หายหน้ากลับเรือนพักไปจนหมด

เหลือเพียงชายหนุ่มกับหญิงสาวอยู่ในครัวกันตามลำพัง

ลลิตราไม่แลเขา กระทงพับเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่ตักเนื้อข้าวโพดที่กวนรอไว้แล้วใส่ไปในกระทงแล้วค่อยหยอดกะทิปิดท้ายเท่านั้น เธอลุกขึ้นไปที่เตา เปิดหม้อข้าวโพดกวนที่ยังระอุอยู่

“เอ๊ะ!”

หญิงสาวอุทานเมื่อจู่ ๆ เงาดำ ๆ สูง ๆ ปราดมาใกล้ ลลิตราสะบัดทัพพีออกไปด้วยสัญชาติญาณ เสียงโลหะกระทบพื้นดังแกร๊ง เนื้อข้าวโพดอุ่นจัดเปรอะเลอะแขนข้างหนึ่ง เธอรีบตรงไปที่ก๊อกน้ำแล้วเปิดล้างทันที

อธิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูจากไออุ่น ๆ ที่ลอยจากหม้อก็พอเดาอุณหภูมิได้ เขาก้าวยาว ๆ แค่สองก้าวก็ไปยืนอยู่ข้าง ๆ เธอที่อ่างล้างมือ

ลลิตราผงะหนีเขาอีกรอบ แต่หนนี้เขาจับข้อมือเธอไว้ทันและไม่ยอมปล่อยโดยง่าย

“นาย! ปล่อยนะ”

“ไม่ต้องโอเวอร์แอ็กติ้ง ฉันแค่จะดูแขน มันร้อนไม่ใช่หรือไง”

“เรื่องของฉัน!”

“ประเดี๋ยวเธอก็จะตีหน้าเศร้าเล่าให้พ่อฉันฟังอีกว่าเจ็บตัวเพราะฉันอีกแล้ว เพราะงั้นเอามือมานี่ มาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้”

เขาสั่งด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและเริ่มโมโห  ลลิตรายื้อยุดแต่แค่มือข้างเดียวของเขาก็มีกำลังมากกว่าเธอพยายามออกแรงทั้งตัวเสียอีก

“แขนเธอโดนลวกนี่”

คิ้วเข้ม ๆ ของอธิปขมวดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นเนื้อขาวผ่องเริ่มมีรอยปื้นแดงจาง ๆ  ลลิตรากำลังจะสั่งให้เขาปล่อยแขนเธออีกครั้งแต่ก็พลันชาวาบเหมือนโดนไฟช็อต... เร็วเหมือนโดนตัวอะไรฉก เมื่ออธิปดึงแขนเธอขึ้นไปจรดริมฝีปากเขา แล้วแลบเลียข้อมือแดง ๆ นั้นอย่างอ้อยอิ่ง

ลลิตราช็อกตาตั้ง

“ไอ้บ้า! ปล่อยนะ”

“ฉันปฐมพยาบาลเธออยู่นะ”

เขาเอ่ยอีก และครั้งนี้จงใจตวัดลิ้นสากลากผ่านข้อมือบางอย่างเน้น ๆ

ลลิตราทนไม่ไหวแล้ว เธอเต้นเร่า ๆ เพื่อให้เขาปล่อยมือจากแขนเธอ

แต่อธิปออกแรงอีกเพียงนิดเดียว เธอก็ไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว และก่อนจะทันรู้ตัว จมูกโด่งแหลมก็ก้มลงมาเฉียดขมับ เสียงกระซิบของเขาดังชัดอยู่ข้างหู

“ตัวเธอหอมขนม...น่ากินดีจัง”

ลลิตราหูอื้อไปหมดแล้ว เธอรวบรวมกำลังใจเฮือกสุดท้าย ยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบเท้าเขาไปเต็มแรง มันได้ผลเพราะอธิปยอมปล่อยมือทันที... เมื่อเป็นอิสระลลิตราก็วิ่งออกจากห้องครัว เรื่องขนมเอาไว้ก่อน ตอนนี้คือเธอต้องเอาตัวออกมาให้ห่างไอ้คนลามกจกเปรตนี่ นี่เธอต้องตัดแขนทิ้งเลยมั้ย มันจะติดเชื้อหรือเปล่า...ลลิตราโวยวายในใจระหว่างที่วิ่งเตลิดหนีหายไป

ในห้องครัว อธิปเผลอเลียริมฝีปาก หัวเราะหึ ๆ เขาสูดหายใจลึกตั้งสติอยู่สองสามนาทีก่อนจะเดินไปเคาะประตูเรียกหาป้าเดือนอีกรอบ

“คะคุณอาร์ต?”

ป้าเดือนที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับน้ำตาลรีบเปิดประตูออกมาทันที

“คุณหนูลูกอมของป้าคงปวดหัวหรือไม่ก็ปวดท้อง ปวดฟัน วิ่งกลับเข้าบ้านไปหายาแล้ว...”

“อ้าวแล้ว...”

“ป้ากับเด็ก ๆ ไปช่วยกันทำที่เหลือให้เสร็จได้ไหม ไม่งั้นยัยนั่นไม่มีของไปส่งลูกค้าโดนฟ้องตายเลย ป้าทำเป็นใช่ไหม”

“เป็นค่ะ ทำได้ค่ะ เอ...แกเป็นอะไรไปนะเมื่อกี้ยังดี ๆ แท้ๆ”

อธิปไม่ตอบ ตายังเป็นประกายรื่นเริงมุมปากเผลอยกยิ้มเล็กน้อยตอนที่ล้วงกระเป๋าเสื้อและกางเกง ได้แบงค์ยู่ยี่กับเหรียญมากำนึงส่งใส่มือป้าเดือน

“ช่วยหน่อยก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจ่ายทิปพิเศษให้...ทำไงก็ได้ให้มีของส่งลูกค้าพรุ่งนี้”

“ได้ค่ะคุณอาร์ต ป้าทำได้ ไม่ต้องให้เงิน...”

“รับไปเถอะครับ ผมมีติดตัวแค่นี้ เดี๋ยวผมเอามาให้อีก...ขอบคุณนะครับป้า”

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่มไพเราะเป็นครั้งแรกกับป้าเดือน ผู้สูงวัยถึงกับงงงันไปครู่ เพิ่งรู้ว่าคนเย่อหยิ่งอย่างคุณอาร์ตคนนี้ก็ทำเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้ก็เป็น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 10 หวานและหอม

    ลิ้นสาก ๆ ของชายหนุ่มจงใจลากผ่านแอ่งชีพจรบนข้อมือของลลิตรา เธอชาวาบเหมือนโดนไฟช็อต ดึงมือออกอย่างแรงแต่อธิปก็จับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“ปล่อยนะ! ปล่อย!”เธอกัดฟันบอก ไม่ได้กลัวเขามากเท่ากลัวคนอื่นเดินเข้ามาเห็นไม่กี่นาทีก่อน ทุกคนยังสลอนกันอยู่ในครัว เธอเองที่ออกปากให้ทุกคนกลับไปพักเพราะเกรงใจที่ทำงานกันมาทั้งวันยังมาช่วยเธอทำขนมแต่ตอนนี้เธออยากตะโกนเรียกให้ทุกคนกลับมาจริง ๆหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าปกติเวลาหลังอาหารมื้อเย็น เมื่ออรรถกับลินดารับประทานอาหารเสร็จแล้ว คนในครัวก็จะช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดและแยกย้ายกันไปพักผ่อนห้องใครห้องมัน ถือว่างานวันนั้นได้เสร็จสิ้นแต่วันนี้ ทั้งแม่ครัว แม่บ้าน และคนงานทุกคนที่พักอยู่ที่เรือนเล็กด้านหลัง มาออกันอยู่ในครัวเพื่อช่วยลลิตราทำขนม“ป้าเดือนคะ ไม่ต้องช่วยลูกอมจริง ๆ ลูกอมทำเองได้”ลลิตราพยายามบอก“ปกติลูกอมก็ทำเองนะคะ แล้วป้ากับคนอื่น ๆ ก็ทำงานกันมาทั้งวันแล้ว ลูกอมไม่รบกวนหรอกค่ะ นี่พูดจริง ๆ นะคะนี่”ป้าเดือนกำลังจะอ้าปากตอบ แต่หลานสาวที่เป็นผู้ช่วยแม่ครัวนามว่าน้ำค้างพูดขึ้นมาก่อน“คุณเขาก็พูดถูกนะป้า เขาจ้างเรามาทำอาหารให้คุณท่าน ไม่ได้จ้างใ

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 9 ฝันร้าย

    "คราวหน้าคุณหนูให้น้าดาวไปส่งสิครับ ถ้าจะซื้อของกลับมาเยอะขนาดนี้ ให้น้าดาวไปส่งน่าจะดีกว่า"รปภ.หนุ่มน้อยที่ลลิตราทราบชื่อภายหลังว่าชื่อคมสันต์ เอ่ยแนะนำ"นั่นน่ะสิคะ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันเนาะ""ว่าแต่ คุณหนูซื้อมาทำไมเยอะแยะหรือครับ ผมนึกว่าในครัวจะมีของพวกนี้แล้วเสียอีก""ซื้อมาทำขนมขายค่ะ ฉันทำขนมไทยขาย"คมสันต์ตาลุกวาว"จริงหรือครับ!""จริงค่ะ เอาไว้ทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ชิมนะคะ"รถกอล์ฟแล่นมาถึงพอดี น้าดาวนั่นเองที่เป็นคนขับมา และก็เอ่ยเหมือนที่คมสันต์เอ่ยคือคราวหน้ายอมให้เขาขับรถให้เถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะตกงาน หญิงสาวเลยตอบรับและหัวเราะเบา ๆ อย่างขัดเขินขนของขึ้นรถไฟฟ้าคันเล็กเสร็จ น้าดาวขับกลับเข้าไปด้านในโดยมีลลิตรานั่งมาด้วยก่อนไปถึงเรือนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะต้องผ่านโรงรถลลิตราพยายามไม่สองไปยังรถพอร์ชเหลืองที่จอดอยู่...ขนาดแค่หางตาเหลือบเห็น ยังรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆโชคดีที่ตั้งแต่เธอลงจากรถเขาวันนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ต้องเผชิญหน้ากัน และหญิงสาวก็หวังว่าเธอจะหลบเลี่ยงเขาไปได้เรื่อย ๆแต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งหรือไม่ก็ฟังคำภาวนาผิดไป เพราะคนที่เพิ่งเดินออกมาจากใน

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 8 เริ่มต้นใหม่

    ตะวันที่อยู่ตรงกับศีรษะเริ่มจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกตอนที่แอร์โฮสเตสสาวแห่งสายการบินไซแอมเจ็ตถูกปลุกด้วยเสียงเครื่องดูดฝุ่นจากด้านนอกที่ดังเข้ามาในห้องนอนโชติรสค่อย ๆ ปรือตาตื่นเนื้อตัวปวดระบมโดยเฉพาะอวัยวะท่อนล่างแต่มันก็คุ้มค่ากับเรี่ยวแรงทุกหยาดหยดที่เสียไปถ้าเลือกได้ เธอก็อยากจะทำมันกับเขาอีกเรื่อย ๆ"คุณอาร์ต..."โชติรสครางเรียกชื่อเขาอย่างงัวเงีย แต่ไร้เสียงตอบเตียงนอนไร้เงาของเจ้าของห้อง มีเพียงเธอที่นอนเปลือยเปล่าอยู่คนเดียว"คุณอาร์ตคะ!"เสียงเครื่องดูดฝุ่นหยุดฉับพลัน ไม่ถึงนาทีประตูห้องนอนก็ค่อย ๆ เปิดออกคนที่มาเปิดไม่ใช่อธิปแต่เป็นหญิงกลางคนแต่งตัวเรียบร้อย หน้าตาใจดี ส่งยิ้มแหย ๆ มาให้โชติรส"เมื่อกี้เรียกหาคุณอาร์ตหรือคะ""เอ่อ ใช่ ป้าเป็นใคร เป็นคนใช้ที่นี่เหรอ""เปล่าคะ คุณอาร์ตแค่จ้างฉันมาทำความสะอาดรายวัน""อ๋อ แล้วคุณอาร์ตอยู่ที่ไหนล่ะ" โชติถามคว้าผ้าห่มนวมมาปิดหน้าอกพลางยันตัวลุกขึ้นนั่ง"คุณอาร์ตออกไปตอนก่อนเที่ยงแล้วค่ะ บอกให้ฉันอยู่รอจนกว่าคุณจะตื่น...คุณเค้าบอกให้คุณสั่งอาหารได้เลย ที่นี่มีรูมเซอร์วิสค่ะ..."คนทำความสะอาดตอบก่อนจะกลับไปทำความสะอาดต่อ

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 7 ได้ทุกที่

    อธิปคิดว่าเขาน่าจะพอรอได้จนถึงตีสอง...แต่เพียงแค่เที่ยงคืน เขาก็พาโชติรสนั่งแท็กซี่กลับไปที่เพนท์เฮาส์ของตัวเองทันทีอย่างคนที่ไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป... แค่มองตากันครั้งแรก ชายหนุ่มก็รู้ว่าคืนนี้จะไปลงเอยที่ตรงไหน เขาเองก็ร้อนรุ่มมาทั้งวัน ก็คงตั้งแต่ดันไปจูบยัยลูกสาวแม่เลี้ยงของเขาเข้าให้นั่นแหละโชติรสไม่มีเวลากวาดสายตามองรอบ ๆ เพนท์เฮาส์หรูของอธิปด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่สองร่างผ่านก้าวเข้าประตูห้องได้ อธิปก็แทบจะผลักเธอติดผนัง ลิ้นและริมฝีปากโรมรันพันตูกันอย่างหิวกระหาย เสื้อสีดำของโชติรสแทบปกปิดอะไรไม่ได้ เพียงแค่เขาล้วงมือเข้าไปก็สัมผัสเนินเนื้อข้างใต้ได้แทบทุกอณู"จะทำตรงนี้เลยเหรอคะ"จังหวะหนึ่งที่โชติรสผละริมฝีปากออกห่างเขาเพื่อหอบหายใจ เธอถามเสียงสั่นพร่าอธิปตอบกลับมาเสียงกระเส่าพอกัน "ได้ทุกที่""งั้นขอบนเตียงได้มั้ย โชผิวบางน่ะ"ดวงตาสีฟ้าของอธิปหรี่ลงเล็กน้อย พริบตาเดียวร่างสูงโปร่งของแอร์โฮสเตสสาวก็ถูกอุ้มลอยหวือขึ้นจากพื้น เสียงโชติรสหวีดร้องเบา ๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว อธิปอุ้มหญิงสาวก้าวยาว ๆ ไปที่ห้องนอนจุดหมายคือเตียงกว้างขนาดซูเปอร์คิงไซส์ สั่งทำพิเศษสำหรับคนตัวสูงเกื

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 6 คืนเดียวพอ

    ยลดามองไปตามสายตาพี่ชาย แล้วก็นิ่งอึ้งไกลขนาดนี้ก็ยังมองเห็นผู้ชายตัวสูงผมยาวย้อมสีทองโดดเด่นแต่ไกลแต่อะไรก็ไม่เท่ากับเสื้อกีฬายี่ห้อดังสีเขียวสะท้อนแสง กางเกงสีส้ม รองเท้าสีเหลือง...บพิตรยิ้มกว้างเห็นฟันขาวทุกซี่มาแต่ไกล ก่อนจะกึ่งกระโดดกึ่งก้าวยาว ๆ ขึ้นมาหายศกรแล้วกระโดดกอดกันอย่างรักใคร่อธิปที่เดินตามหลังมาส่ายหน้า ไม่รู้ทำไมไอ้เพื่อนคนนี้มันดีดนักถ้าไม่รู้จักกันคงคิดว่าบพิตรเป็นพวกเล่นยาเพราะพลังล้นเหลือเหลือเกิน"โหพี่บอม โคตรคิดถึงเลย ไหนว่าจะยังไม่กลับไทยง่าย ๆ ไง""ไม่กลับไม่ได้ แม่กูยึดบัตรเครดิตไปหมดแล้ว อยู่ต่อก็เหี่ยวแห้งหัวโต"บพิตรตอบตามตรงตามประสาคนจริงใจก่อนหันมาแนะนำเพื่อนที่มาด้วย"ไอ้ยอช นี่เพื่อนพี่ชื่ออาร์ต เพื่อนรักเพื่อนสนิทเลย...ไอ้อาร์ตนี่น้องกู รู้จักกันที่ลอนดอน ชื่อไอ้ยอช"ยศกรยกมือไหว้อย่างนอบน้อมผิดกับลูกหลานไฮโซทั่วไปที่เห็นในละครคุณธรรม"หวัดดีครับพี่อาร์ต ผมชื่อยศครับพี่ แต่ตอนอยู่ลอนดอนเพื่อนฝรั่งเรียกยอช พี่จะเรียกผมว่ายอชอีกคนก็ได้ครับ..."อธิพยักหน้าทักทายเพื่อนรุ่นน้องคนใหม่ ไม่แปลกใจทำไมยศหรือยอชถึงสนิทกับบพิตรได้...ท่าทางคงเป็นพวกไฮเปอร์เห

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 5 บพิตร

    "ก็หรือไม่จริง นี่ถ้าแกไม่เกิดพลาดขึ้นมา ฉันคงจะไล่มันออกโทษฐานที่มาเจาะไข่แดงลูกสาวฉัน เผลอ ๆ จะจับมันเข้าคุกด้วย" "ชลอายุ 27 แล้วนะ แม่จะเอาติเข้าคุกข้อหาอะไรไม่ทราบ" "ถ้าฉันจะทำ จะข้อหาอะไรก็หายัดมันได้ทั้งนั้นแหละ" วิภาตอบตาเขียว หล่อนมีลูกสาวแค่สองคนคือชลธิชา กับโชติรส ลำพังไม่มีลูกชายให้ตระกูลสามี ก็รู้สึกเสียหน้าพออยู่แล้ว นี่ลูกสาวคนโตยังจะท้องก่อนแต่ง แถมพ่อของเด็กก็เป็นแค่ลูกจ้างในบริษัทตัวเอง หล่อนนี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่เกือบเดือน กระทั่งตอนนี้ก็ยังคุกรุ่นอยู่ไม่หาย ชลธิชาหน้างอที่แม่ว่าคนรัก ส่วนโชติรสก็ยังคงยิ้มขัน เธอสนุกเสมอเวลาได้เห็นคนในครอบครัวโดยเฉพาะแม่กับพี่สาวโต้คารมกัน วิภาหันมาตาเขียวใส่ลูกสาวคนเล็กบ้าง "แล้วแกล่ะ มานั่งเจ๋อทำอะไร ไม่ต้องรีบไปสนามบินหรือไง เชียงใหม่เดี๋ยวนี้รถมันติดหนักนะยะโดยเฉพาะเส้นนั้นน่ะ" "แหมแม่ โชเป็นแอร์ฯ นะ คนเป็นแอร์ฯ ไม่รู้จักบริหารเวลา ไปไม่ทันเช็คอินก็ตลกตายล่ะ" "เออ ๆ ลูกแต่ละคนมันเก่งกันทั้งนั้น แล้วพักบินทั้งทีแทนที่จะอยู่บ้าน จะไปทำไมนักหนาก็ไม่รู้กรุงเทพฯ น่ะ" "แล้วกรุงเทพไม่ใช่บ้านหรือไงล่ะ" "บ้านป๊าแกกับอีพวกกะหรี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status