Home / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 9 ฝันร้าย

Share

ตอน 9 ฝันร้าย

last update Last Updated: 2025-06-20 22:40:00

"คราวหน้าคุณหนูให้น้าดาวไปส่งสิครับ ถ้าจะซื้อของกลับมาเยอะขนาดนี้ ให้น้าดาวไปส่งน่าจะดีกว่า"

รปภ.หนุ่มน้อยที่ลลิตราทราบชื่อภายหลังว่าชื่อคมสันต์ เอ่ยแนะนำ

"นั่นน่ะสิคะ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันเนาะ"

"ว่าแต่ คุณหนูซื้อมาทำไมเยอะแยะหรือครับ ผมนึกว่าในครัวจะมีของพวกนี้แล้วเสียอีก"

"ซื้อมาทำขนมขายค่ะ ฉันทำขนมไทยขาย"

คมสันต์ตาลุกวาว

"จริงหรือครับ!"

"จริงค่ะ เอาไว้ทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ชิมนะคะ"

รถกอล์ฟแล่นมาถึงพอดี น้าดาวนั่นเองที่เป็นคนขับมา และก็เอ่ยเหมือนที่คมสันต์เอ่ยคือคราวหน้ายอมให้เขาขับรถให้เถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะตกงาน หญิงสาวเลยตอบรับและหัวเราะเบา ๆ อย่างขัดเขิน

ขนของขึ้นรถไฟฟ้าคันเล็กเสร็จ น้าดาวขับกลับเข้าไปด้านในโดยมีลลิตรานั่งมาด้วย

ก่อนไปถึงเรือนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะต้องผ่านโรงรถ

ลลิตราพยายามไม่สองไปยังรถพอร์ชเหลืองที่จอดอยู่...ขนาดแค่หางตาเหลือบเห็น ยังรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ

โชคดีที่ตั้งแต่เธอลงจากรถเขาวันนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ต้องเผชิญหน้ากัน และหญิงสาวก็หวังว่าเธอจะหลบเลี่ยงเขาไปได้เรื่อย ๆ

แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งหรือไม่ก็ฟังคำภาวนาผิดไป  เพราะคนที่เพิ่งเดินออกมาจากในตัวบ้านก็คือคนที่ลลิตรากำลังไม่อยากเจออย่างที่สุด!

"นั่นอะไรน่ะน้าดาว"

อธิปถามคนขับรถ พลางปรายตามองไปยังข้าวของที่บรรทุกมาในรถกอล์ฟ

"ของของคุณลูกอมครับ"

หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากโดยไม่มีเหตุผล

แปลกที่วันนี้สีหน้าเขาชาเฉย ไม่เหมือนผู้ชายปากร้ายกวนบาทาที่เธอเคยเจอในวันแรก แถมยังไม่เหลือบมองเธอเลยสักนิด

อธิปเหมือนจะหมดความสนใจแค่นั้น กำลังจะเดินผ่านไป จุดหมายคือโรงจอดรถที่รถกอล์ฟของน้าดาวเพิ่งขับผ่านมา

แต่วินาทีต่อมาเขาก็หยุดกึกแล้วหันกลับมา

"น้าดาว... น้านุชยังอยู่ที่เดิมใช่มั้ย"

น้าดาวยกเท้าแตะเบรกให้รถหยุด ก่อนหันไปหาเจ้านายหนุ่ม

"คุณอาร์ตว่ายังไงนะครับ"

"ผมถามว่าน้านุชยังบวชอยู่ที่เดิมมั้ย..."

"ครับ เท่าที่ผมทราบ คุณผู้หญิงยังอยู่ที่เดิมครับ"

อธิปตอบรับ 'อือ' เบา ๆ ก่อนจะหันกลับไป น้าดาวหันมาสบตาลลิตราแล้วยิ้มอึกอัก

เป็นลลิตราเองที่ทนความสงสัยไม่ไหว

"เดี๋ยวค่ะน้าดาว หยุดตรงนี้ก่อน"

"อ่า ครับ ๆ"

"หนูไม่เคยรู้จักคุณผุ้หญิงคนก่อนเลย คุณจีรานุชใช่ไหมคะ"

"ใช่ครับ คุณนุชครับ ที่จริงเธอไม่ได้เป็นคุณผู้หญิงแล้ว เมื่อกี้ผมติดปากไป ผมขอโทษนะครับ"

น้าดาวเอ่ยจริงจัง ลลิตรายิ้มเหนื่อย ๆ

"จะขอโทษหนูทำไมล่ะคะ หนูแค่อยากรู้จักคุณจีรานุช แต่ไม่รู้จะถามใคร น้าพอจะเล่าให้ฟังได้ไหม ว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน..."

"อ๋อ ได้ครับ ตอนนี้คุณนุชเธอบวชชีอยู่ที่เชียงใหม่..."

น้าดาวเอ่ยชื่อวัดแห่งหนึ่งที่ลลิตราพอจะเคยได้ยิน

"แล้วคุณนุชไปบวชนานแล้วหรือคะ"

"ก็ตั้งแต่ยังอยู่ที่นี่ เธอก็เวียนไปปฏิบัติธรรมเรื่อย และคงติดใจทางนั้นจริง ๆ พอคุณโอมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ คุณนุชก็โกนหัวบวชชีแล้วก็ไม่กลับมาบ้านอีกเลย..."

ช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่คุณอรรถพบกับแม่ของลลิตรา... หญิงสาวพักเรื่องนั้นไว้ก่อนแล้วถามต่อ

"แล้ว...คุณนุชเป็นคนอย่างไรหรือคะ ฟัง ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นคนใจดีทีเดียวใช่ไหมคะ"

"ใช่ครับ ใจดี ไม่เคยดุด่าอะไรใคร แต่ช่วงหลัง ๆ แกเริ่มหันหน้าเข้าวัดแล้วก็กลายเป็นคนเงียบ ๆ คุณโอมเองก็ดูเงียบ ๆแล้วไม่ค่อยกลับบ้าน ติดเพื่อน ผมเดาว่าแกคงเริ่มเป็นวัยรุ่น คุณนุชคงเครียดเรื่องลูกก็เลยหันหน้าเข้าวัด อันนี้ผมเดาเอาเองล้วน ๆ นะครับ"

น้าดาวบอกยิ้ม ๆ ลลิตราเอ่ยขอบคุณเบา ๆ และตัดสินใจไม่ถามต่อ เอาไว้อยู่ ๆ ไปเธอก็คงจะค่อย ๆ รู้จักแต่ละคนไปทีละนิดเอง

* * * * *

ชมรมบาสเกตบอล มหาวิทยาลัย X

ร่างสูง ๆ ที่ค่อนข้างเก้งก้างของวัยรุ่นหลักสิบคน กำลังรุมยื้อแย่งลูกบอลสีส้มอยู่ในสนามพื้นไวนิลสปอร์ตสีเขียว มีเด็กนักศึกษาอีกหลายคนที่นั่งเชียร์อยู่ขอบสนาม บ้างก็นั่งดูเงียบ ๆ อยู่บนอัฒจรรย์เหมือนอธิปในเวลานี้

เขานั่งรออย่างใจเย็นอยู่นานนับชั่วโมง กว่าเด็กหนุ่ม ๆ พวกนั้นจะแข่งกันเสร็จแล้วแยกย้าย...

มีเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ถอนหายใจแล้วเดินขึ้นมาหาเขา เห็นได้ชัดมาแต่ไกลว่าไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

"มีอะไร"

เสียงห้าว ๆ อย่างคนแตกเนื้อนุ่มโยนคำถามใส่เป็นประโยคแรก

"ไม่มีอะไร แค่แวะมา"

อธิปตอบ แม้เสียงจะทุ่มนุ่มกว่าแต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนไปกว่ากัน

เด็กหนุ่มตัวสูงเก้งก้างยักไหล่ แล้วหันหลังกลับก่อนจะหยุดชะงักเมื่ออธิปพูดต่อ

"เสาร์นี้จะไปเชียงใหม่ ไปหาน้านุช บอกไว้เผื่อแกอยากไปด้วย"

"พี่จะไปหาแม่ผมทำไม!"

โอมหันกลับมาทันที

"แม่แก...ก็เหมือนแม่ฉัน"

"จะยังไงก็ช่าง พี่จะไปกวนแม่ทำไม แม่ผมเป็นแม่ชีแล้วนะ ไม่รู้เหรอ"

"รู้สิ..." อธิปตอนเรียบ ๆ

เขายังอยู่ที่อังกฤษตอนที่มีคนส่งข่าวไปบอกว่า นายอรรถบิดาของเขาหย่าขาดจากจีรานุชแล้ว และแม่เลี้ยงก็บวชไม่สึกตั้งแต่นั้น

"ตั้งแต่ฉันกลับมา ยังไม่เคยไปหาน้านุชเลย"

"ไม่ต้องไป ผมสงสารแม่"

"ทำไม?"

อธิปถามกลับเสียงห้วน

การที่เขาจะไปเยี่ยมเยือนคนที่เคยดูแลเขามาในช่วงหนึ่งของชีวิต มันเป็นเรื่องไม่สมควรทำตรงไหน?

โอมหน้าบึ้ง

"แม่คงไม่อยากเจอใครที่เกี่ยวข้องกับพ่ออีก ผมยังเป็นลูกแท้ ๆ แต่พี่ไม่ใช่..."

อธิปเผลอกัดกราม ในใจแปลบปลาบ

นั่นน่ะสิ... ในความรู้สึกของแม่เลี้ยง หรือกระทั่งน้องชายต่างแม่ เขาคงเป็นใครสักคนที่ไม่เคยถูกนับให้เป็นพวกเดียวกัน

โอมคงจะรู้ตัว เขาอึกอักเล็กน้อย

"ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแค่จะบอกว่า... ผมกลัวแม่จะว้าวุ่น"

ท่าทางเด็กหนุ่มเหมือนไม่รู้จะใช้คำไหนมาอธิบาย สีหน้ายุ่งยากใจ อธิปลุกขึ้นช้า ๆ แวบหนึ่งที่มองน้องชายมีความอาทรเจือจางแต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นจริง ๆ

"ฉันจะมาชวนแกไปกินข้าว ตั้งแต่กลับจากอังกฤษ ฉันยังไม่เคยได้กินข้าวกับแกสักมื้อ..."

"ผมไม่ว่าง นัดกับเพื่อนแล้ว"

โอมตอบโดยไม่มองหน้า สายตาคอยแต่จะมองไปด้านหน้าประตูโรงยิมราวกับอยากออกไปจากตรงนี้เต็มที

อธิปไม่เซ้าซี้ เขาพยักหน้าและเดินลงอัฒจรรย์ไปโดยไม่เอ่ยลา

โอมไม่ได้เดินตามลงไป เขาทิ้งตัวลงนั่ง ถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ

หลายนาทีกว่าเพื่อนร่วมทีมบาสจะเดินกลับเข้ามาตาม

"เฮ้ย! ไอ้โอม ทำไรอยู่วะ รอมึงอยู่คนเดียวเนี่ย"

"เออ ๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ"

เด็กหนุ่มตอบ ก่อนกระโดดลุกขึ้น ปรับสีหน้าให้ร่าเริงอีกครั้งก่อนวิ่งลงไปสมทบกับพวกเพื่อน ๆ ที่ชักชวนกันไปหาอะไรกินกันหลังซ้อม

"โอม เมื่อกี้ใครอะ หล่ออย่างกับดารา ใช่ดาราหรือเปล่า"

น้ำแข็ง เพื่อนร่วมคณะที่อาสามาเป็นผู้จัดการทีมให้เอ่ยถามระหว่างพากันเดินไปด้านหลังมหาวิทยาลัยที่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มเรียงราย

"ไม่ใช่"

"งั้นใครอะ พี่ชายเหรอ"

"ไม่รู้สักเรื่องจะ...เป็นอะไรมั้ย"

โอมตอบกลับอย่างเย็นชา เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ โห่ขึ้นมาทันที

"โห แรงว่ะ นี่น้ำแข็ง โอมมันบอกว่าแกเผือกน่ะ"

"แกก็เผือกเหมือนกัน ฉันคุยกับโอมไม่ใช่แกไอ้เจ"

น้ำแข็งโต้กลับ เจหัวเราะชอบใจ แต่น้ำแข็งมองโอมอย่างน้อยใจ

โอมก็เพิ่งจะรู้ตัว...อีกแล้ว

เขาพูดก่อนคิดแบบนี้เสมอหรือไงนะ เด็กหนุ่มด่าตัวเองในใจ

"เออ ขอโทษ ไม่ได้จะบอกว่าเสือก และเออใช่ พี่ฉันเอง พอใจยัง ไม่ต้องถามแล้วนะ หิว รีบ ๆ เดินโว้ย กูหิวจนจะกินควายได้ทั้งตัวแล้ว"

โอมพูดเสียงดังและห้าว เร่งฝีเท้าเดินนำเพื่อน ๆ ไป น้ำแข็งค้อนประหลับประเหลือกทำท่าจะไม่ยอมตามไปด้วย แต่เจกับเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ดึงแขนตามไปด้วยจนได้เด็กสาวจึงค่อยหายงอนแล้วยอมเดินแกมวิ่งตามมาด้วยแต่โดยดี

* * * * *

คืนนั้นเขากับแม่อยู่บนรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่พ่อเพิ่งซื้อให้

เขานั่งหลังพวงมาลัย แม่นั่งข้าง ๆ

"โอม! ช้า ๆ หน่อยลูก แม่กลัว"

"เอาน่า แม่คาดเข็มขัดไว้ก็แล้วกัน"

เขาตอบอย่างคึกคะนอง ถนนต่างจังหวัดมืดมิดทั้งสองข้างทาง มีเพียงไฟหน้ารถเท่านั้นที่ส่องสว่างพอให้เห็นทางข้างหน้าแค่ไม่กี่เมตร นาน ๆ ทีจะมีรถสักคันแล่นสวนทางมา

"โอม! หยุดเลยนะ!"

แม่ของเขาดุเสียงดังขึ้น ทั้งโกรธและกลัว

แต่เขากลับยิ่งเหยียบคันเร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ รถแรงขนาดนี้จะให้ขับช้า ๆ เหมือนตอนอยู่ในกรุงเทพฯ ได้อย่างไร เสียของกันพอดี เข็มบอกความเร็วหน้ารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะแตะไปที่ตัวเลขสองร้อย โอมถึงกับร้องออกมาอย่างสะใจ

ร่างกายเขาตื่นตัวด้วยอดรีนาลินจนสั่นด้วยความตื่นเต้น กระทั่งลืมลดความเร็วลงเมื่อรถถึงทางโค้ง มันเป็นโค้งที่ลาดลงไปตามไหล่เขา ด้านหนึ่งเป็นผา ด้านหนึ่งเป็นกำแพงหินมหึมาตามธรรมชาติ

ก็เหมือนอีกหลาย ๆ โค้งที่เขาเพิ่งเหาะผ่านมา

เพียงแต่ว่าโค้งนี้... ยังไม่ทันพ้นโค้ง แสงไฟจากรถอีกคันที่สวนมาก็สาดเข้าสายตาเขาพอดี โอมร้องเสียงดัง...มือหักพวงมาลัย...

"อ๊ากกซซ!!!"

โอมผวาขึ้นจากที่นอน เสียงร้องกลืนหายกลายเป็นเสียงหอบหายใจถี่และหนัก เหงื่อท่วมตัวอย่างกับเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ หัวใจยังเต้นแรงจนเขาคิดว่าตัวเองจะหัวใจวายตายเสียแล้ว

เขาอยู่ที่หอ นอนอยู่บนเตียง หลังกินข้าวเสร็จ พวกไอ้เจกับเพื่อน ๆ ชวนกันไปเที่ยวต่อ แต่เขาขอกลับหอพักก่อน

ถ้าพวกนั้นอยู่ด้วยมันคงจะบ่นเขาเหมือนเดิม

'ไอ้ห่าโอมฝันร้ายอีกแล้ว กูแม่งสะดุ้งตื่น นึกว่าอยู่ในหนังผี'

เพื่อน ๆ ที่เป็นรูมเมตรู้ดีว่าโอมมักฝันร้ายสะดุ้งตื่นกลางดึก เมื่อก่อนเป็นบ่อย เดี๋ยวนี้หลังออกกำลังกายหนัก ๆ ก็ลดลง เดือนนึงอาจจะมีสักคืนเท่านั้นที่ฝันถึงเหตุการณ์นั้น

วันนี้คงเพราะพี่ชายของเขา...พี่อาร์ต...มาหาถึงที่นี่ แถมยังพูดถึงแม่ของเขาอีก

เขาเลยฝันร้ายอีกจนได้

เมื่อหัวใจค่อย ๆ กลับมาเต้นเป็นปกติ เด็กหนุ่มพาร่างสูงเก้งก้างก้าวลงจากเตียง ลุกไปเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็นดื่ม ๆ

เหตุการณ์วันนั้น เขากับแม่ปลอดภัย...เจ็บ แต่ก็ยังปลอดภัย 

หลังเหตุการณ์ โอมแทบไม่พูดอะไรยาว ๆ อยู่เป็นเดือน ได้แต่ถามคำ ตอบคำ บางคำก็ไม่ตอบ

เวลาส่วนใหญ่ที่ตื่น ก็จะนั่งน้ำตาไหลเงียบ ๆ

'ลูกชายคุณอรรถกำลังช็อกนะครับ สมองไม่ได้รับความกระทบกระเทือนก็จริง แต่เห็นชัดว่านี่เป็นผลที่เกิดทางใจ ต้องใช้เวลาสักระยะ...'

หมอบอกพ่อเขาอย่างนั้น

ใช่...โอมช็อก

เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น...ไม่ใช่ทุกคนที่รอดกลับมา...

ลิขิตา Likita

อ่านแล้วเป็นอย่างไร ฟีดแบ็กได้เลยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้ามาก ๆ ค่าาา

| 1
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 112 ระบม

    "ไม่! ฉันคบกับพี่ต้นแล้ว นายจะมาทำแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว!" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด "ใครอีกล่ะ คราวนี้เธอให้ใครมาเล่นละครอีก" "ครั้งนี้ไม่ใช่ คราวก่อนฉันยอมรับว่าฉันโกหกนาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว" "งั้นเหรอ งั้นคราวนี้มันเป็นใครล่ะ" เขาถามอย่างอดทน ทั้งที่อยากกดเธอลงบนเตียงเต็มทีแล้ว ลลิตราขยุ้มคอเสื้อแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับว่าแค่สายตาของเขาก็จะทำให้เสื้อผ้าเธอหลุดรุ่ยล่อนจ้อนได้ "เขาเป็นรุ่นพี่ของฉันสมัยเรียน ฉันเคยชอบเขามาก่อนแต่ตอนนั้นเราเด็กเกินไปเลยไม่ได้คบกัน ฉันเพิ่งกลับไปเจอพี่ต้นที่ตราด...ใช่ฉันเพิ่งไปเที่ยวทะเลที่ตราดมา โรงแรมนั่นเป็นของพี่ต้น และฉันกับเขาก็...ตกลงเป็นแฟนกัน" อธิปหัวเราะพรืดทั้งที่แววตาไม่ขำด้วยสักนิด ก็เธอเล่นบอกเขาเหมือนท่องเตรียมมาแล้ว "เลิกตั้งแง่ใส่กันเถอะนะลูกอม เราทั้งคู่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงกัน โชติรสไม่ใช่ปัญหาเลย โชก็อยากถอนหมั้นพอ ๆ กับฉันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะ..." อธิปหยุดไปเล็กน้อย ถอนหายใจ เขาสัญญากับโชติรสว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ "เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ฉันกับโชยังไม่ถอนหมั้นเพราะมัน

  • พาล Blaming Her Sin    ตอน 111 ดื้อ

    "อาร์ต เมื่อไหร่แม่จะได้รู้จักคู่หมั้นของลูกล่ะ"ออเดรย์ถามขึ้นมาระหว่างที่มือกำลังหั่นสเต๊ก ลลิตราทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามนั้น กินอาหารของเธอไปตามปกติแม้จะรู้สึกว่าสายตาของอธิปพุ่งตรงมาที่ตัวเองก็ตามอธิปแทบไม่ชะงักเลยเหมือนกันตอนที่ตอบ"ไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานผมกับเขาก็จะถอนหมั้นกัน"คราวนี้นายอรรถเงยหน้ามองทันที แม้แต่ลินดาก็ยังอดหันมาด้วยไม่ได้"หมายความว่ายังไง อาร์ต""ตามนั้นแหละครับ"อธิปตอบ ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าพ่อยังคงจ้องเขาอยู่ เขาจึงขยายความ"ยังไม่เป็นทางการหรอกนะครับพ่อ และยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมกับโช เราตกลงกันแล้วว่าถ้าผ่านเรื่องยุ่ง ๆ ไปสักระยะ เราค่อยถอนหมั้นกันเงียบ ๆ""เหตุผล?""เหตุผลก็คือ ผมกับโชไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก เราแค่หมั้นกันด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อทุกอย่างคลึ่คลาย เราก็จะคืนอิสรภาพให้กัน""ตอนลูกมาขอให้พ่อไปสู่ขอเขา ลูกไม่ได้พูดแบบนี้นี่"อรรถอดตำหนิไม่ได้ อาจเพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะนี้ก็มีแต่คนกันเองจึงเผลอพูดออกมา"ผมทราบ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...เอาเป็นว่าผมกับโชเราคิดตรงกัน ผมไม่ได้ทำร้ายใจเธอ ถ้าพ่อคิดว่าผม

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 110 ดินเนอร์

    ลลิตรากลับจากตราดพร้อมของฝากเกินสองมือจะถือได้ไหว เมื่อรถแท็กซี่มาจอด คมสันต์ต้องวิ่งลงมาช่วยหิ้วด้วยหลายถุง เธอยอมรับกับตัวเองว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่สามารถจับจ่ายอะไรได้มือเติบแบบนี้"ฉันซื้อขนมของกินมาฝาก เดี๋ยวคมสันต์แบ่งไปได้เลยนะจ๊ะ"ลลิตราบอก รปภ. หนุ่มรุ่นน้อง คมสันต์ตะเบ๊ะแข็งขัน"ครับผม ขอบคุณครับ""แม่อยู่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"เธอถามทั้งที่ก็รู้ว่าลินดาคงไม่ได้มีธุระที่ไหน แม่ของลลิตราไม่ใช่คนชอบเที่ยว แม้อรรถจะคะยั้นคะยอให้ออกไปใช้เงินบ้างแต่ลินดาก็พอใจจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่บ้าน และเดี๋ยวนี้หล่อนกลับมาถักไหมพรมอีกครั้งอย่างที่จิตแพทย์เคยแนะนำ เวลาเดียวที่ลินดาจะออกไปห้างสรรพสินค้าก็คือตอนที่จะไปซื้อไหมพรมเซ็ตใหม่ ๆ นั่นแหละ"ครับผม คุณผู้ชายก็อยู่ครับ""คุณอรรถอยู่บ้านงั้นหรือ"ลลิตราแปลกใจเพราะนี่ไม่ใช่วันหยุด ปกติอรรถยังไม่กลับจากบริษัทเลยไม่ใช่หรือ คมสันต์รีบอธิบายต่อ"ตอนแรกมีแขกมาหาคุณผู้หญิงครับ แล้วสักพักคุณผู้ชายก็รีบกลับมา""แขก? มาหาแม่เหรอ""ครับ มาหาคุณลินดาครับ คุณผู้ชายโทรบอกผมเองว่าให้เข้าไปได้"คมสันต์รีบบอกเพราะกลัวจะโดนตำหนิว่าปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้านโดยพลการลลิต

  • พาล Blaming Her Sin   แวะทักทายระหว่างทาง

    เดินทางมาถึงตอนที่ 109 แล้ว สำหรับเรื่องพาล แต่ตลอดร้อยกว่าตอนมานี้ ไรต์ยังไม่เคยได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านเลยนะเชื่อปะ เป็นไปได้ว่าไม่มีใครอ่าน ๕๕ และยอดวิวก็คงเป็นของไรต์เองนี่แหละที่คลิกเข้ามาอ่านนิยายตัวเองไรต์จะพยายามเขียนให้จบ ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ตาม (แต่อาจช้าหน่อยเพราะต้องไปหาค่าน้ำค่าไฟด้วย) ถ้าได้เจอกันในภายภาคหน้า ฝากนิยายของไรต์ด้วยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณค่ะ แวมไพร์ปีกดำ(ลีขิตา).

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 109 แขกวีไอพี

    "พี่ต้น!""ลูกอมจริง ๆ ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย"ตระการยิ้มกว้าง ดวงตาสีดำส่องประกายสดใสอย่างคนที่ดีใจและคาดไม่ถึง ลลิตราจำเขาได้แทบจะทันทีเพราะแม้ผู้ชายที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงใส่แว่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่แววตาและรอยยิ้มแบบนี้ก็มีแค่ตระการคนเดียว"โอ้โห กี่ปีแล้วนี่ที่ไม่ได้เจอกัน พี่แทบจะจำลูกอมไม่ได้เลย""ก็ตั้งแต่พี่ต้นจบม.หกไงคะ แล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย"ลลิตราตอบยิ้ม ๆ ตระการคือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยติวหนังสือให้เธอและกลุ่มเพื่อนจนกระทั่งเขาเรียนจบออกไป"ลูกอมมาเที่ยวเหรอ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน""มาเที่ยวค่ะ กับอุ๋มไง พี่ต้นจำอุ๋มได้ไหม อมาวสี..."ดวงตาของตระการกว้างขึ้นอีกรอบ พยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนความทรงจำของชายหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนขาสั้น ยังแจ่มชัดดีทุกรายละเอียด จำได้กระทั่งชื่อเล่นและความแก่นแก้วของแต่ละคนที่เป็นไปตามวัย"แต่อุ๋มของีบก่อนเพราะเพิ่งมาถึงเมื่อเที่ยงนี้เองค่ะ นี่ลูกอมโชคดีจังเลยที่ลงมาเดินเล่น ไม่งั้นคงไม่ได้เจอพี่ต้น พี่ต้นก็มาเที่ยวหรือเปล่าคะ แล้วจะกลับวันไหน พักที่นี่ใช่ไหม...""ก็ไม่เชิงหรอกครับ บ้านพี่ห่าง

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 108 พักร้อน

    แม้อาหารมื้อนั้นจะผ่านไปด้วยดีตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมายี่สิบกว่าปี แต่อธิปกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก อรรถก็คงไม่ต่างกัน สองพ่อลูกกลับมาบ้านแล้วก็แยกกันเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่คุยอะไรกันอีกเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เกี่ยวพันกับคนทั้งคู่คนนั้นแต่อธิปอยากลงไปเจอลลิตรา เขาส่งข้อความไปหาเธอว่าขอลงไปหาเธอได้ไหม เจอกันที่สนามหญ้าก็ได้ถ้าเธอไม่สะดวกให้เขาเข้าไปหาในบ้าน- ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ออกมาอยู่บ้านเพื่อน -หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับมาอธิปห้ามใจตัวเองไม่ไหว ต้องพิมพ์บอกไปว่า- คิดถึง -- ไปบอกคู่หมั้นนายเถอะ -เธอพิมพ์ตอบมารวดเร็วเช่นกันเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง จึงไม่รู้ว่าเธอประชด หรือจริงจัง อธิปกดโทรหาเธอแทนที่จะส่งเป็นข้อความกลับไป"โทรมาทำไม ฉันไม่สะดวกคุยนะ"หญิงสาวกดรับสายทันทีและเปิดฉากพูดก่อนโดยไม่รอให้เขาทัก"ก็อยากได้ยินเสียงไง""อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันขอร้อง มันไม่เหมาะสม""ระหว่างฉันกับเธอยังมีอะไรไม่เหมาะสมอีกหรือ"เขาตั้งใจจะยั่วหยอกเธอเล่น ๆ แต่ลลิตราตอบกลับมาน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"พอทีเถอะคุณอธิป ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว""แบบไหน""ก็แบบที่..."เขาได้ยินเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status