MasukChapter 7
“แม่คงทำตามที่วุ้นต้องการไม่ได้ ไม่มีแม่คนไหนหรอกนะที่จะให้ลูกตัวเองขายตัว แม้ว่าแม่จะมีอาชีพเป็นมาม่าซังก็ตาม” วรนุชปฏิเสธความหวังดีของบุตรสาวบุญธรรม
“แต่มันเป็นความต้องการของวุ้น ที่วุ้นมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีวุ้น ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ให้กำเนิด แต่แม่ให้ชีวิต ทำไมวุ้นจะเอาความสาวมอบเพื่อใช้หนี้ให้แม่ไม่ได้คะ ชีวิตของวุ้น วุ้นก็ให้แม่ได้” สำหรับธันย์ณิชา ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องรอง ชีวิตของบุพการีที่ชุบเลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิดต่างหากที่เป็นเรื่องหลัก ความกตัญญูเป็นเรื่องสำคัญที่เธอต้องยึดมั่นปฏิบัติ แล้วตอนนี้เธอมีโอกาสทดแทนบุญคุณ หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะทำ
“แม่หาทางอื่นก่อนดีกว่า แม่ทำใจไม่ได้ที่ให้วุ้นทำอย่างนั้น” วรนุชยังคงความตั้งใจเดิม
“ถ้าแม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ แม่คงไม่มานั่งปรับทุกข์กับพี่อร พี่ภาหรอกค่ะ ที่แม่กลุ้มเพราะแม่ไม่มีทางออก ตอนนี้วุ้นหาทางออกให้แม่แล้ว แม่รับไว้เถอะค่ะ วุ้นเต็มใจขายตัวเพื่อแม่”
น้ำตาของผู้พูดไหลริน ทั้งที่พยายามเก็บกักมันไว้เต็มกำลัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทว่าน้ำตาที่รินไหลแม้ว่าจะมาจากความเสียใจที่ตนต้องพลีกายให้ชายที่ไม่รู้จักเชยชม แต่เธอก็ยังภูมิใจว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง แลกกับชีวิตกับวรนุช ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม
วรนุชซาบซึ้งในน้ำใจของลูกบุญธรรม ที่นางฟูมฟักมาตั้งแต่เกิด นึกย้อนถึงเลือดในอกอย่างศักรินทร์ที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อนางเลย มีแต่จะหาเรื่องปวดหัวมาให้ทุกวัน เรียนหนังสือก็ไม่เรียน เกเรมีเรื่องชกต่อยบ่อยครั้งจนต้องออกจากโรงเรียน ต่างกับธันย์ณิชาที่หมั่นขยันร่ำเรียนอย่างแข็งขัน
“วุ้น...แม่” วรนุชถึงกับพูดไม่ออก ลุกขึ้นเดินมาหาบุตรสาว
“รับไว้เถอะค่ะแม่ วุ้นยินดีและเต็มใจเพื่อแม่” ธันย์ณิชายิ้มบางๆ ส่งให้วรนุช ทว่าน้ำตาก็ยังหยดไหล “ถือว่าเป็นการตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนที่แม่เลี้ยงวุ้นมา”
“แม่...แม่ขอบใจมากนะลูก ขอบใจมาก” วรนุชไม่มีทางเลือก อาจจะพูดได้ว่า ไม่มีหนทางให้เลือกก็ว่าได้ นางรั้งร่างบุตรสาวมาสวมกอดไว้แน่น “ขอบใจมากลูก”
“วุ้นถามแม่ข้อนึงได้ไหมคะ”
วรนุชได้ยินถ้อยคำของบุตรสาว นางจึงดันร่างสวยให้ออกห่าง “ถามว่าอะไร”
“ที่พี่อรบอกว่า ถ้าแม่หาผู้หญิงบริสุทธิ์ให้พ่อเลี้ยงคนนั้นได้ แม่จะมีเงินใช้หนี้เสี่ยชัยบางส่วนกับใช้หนี้คนอื่นด้วย พ่อเลี้ยงให้ค่าตัวเยอะเหรอคะแม่” เธอถามในเรื่องที่ติดใจ
“ให้เยอะอยู่ ค่าเปิดพรหมจรรย์ราคาที่แม่ตั้งไว้คือหนึ่งแสน ส่วนอีกสามแสนเป็นค่าตัวที่ต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงเพลิงหนึ่งเดือน”
วรนุชบอกราคาค่าตัวให้ลูกสาวรับรู้
“แล้วเงินที่ได้ ใช้ค่าดอกกับจ่ายให้เสี่ยคนอื่นครบไหมคะแม่” เธอยังถามต่อ
“ก็หมดนะ ใช้หนี้เสี่ยชัยสองแสน อีกสองแสนก็ใช้หนี้เสี่ยพวกนั้น ที่เหลือเจ็ดหมื่นแม่พอหาได้”
“ถ้าอย่างนั้นแม่ไปบอกพ่อเลี้ยงเลยว่า แม่หาสาวพรหมจรรย์ได้แล้ว แม่จะได้เอาเงินไปใช้หนี้ แล้วเอาเงินของวุ้นไปสมทบ แม่หาอีกหมื่นกว่าๆ ค่ะ”
ธันย์ณิชาส่งเงินที่หยิบออกมาจากกระเป๋าสะพายให้วรนุช ที่ก้มมองดูเงินในมือของบุตรสาวทั้งน้ำตา นางเอาทั้งเงินและความสาวของธันย์ณิชา มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“แม่ขอบใจวุ้นมากนะที่ช่วยแม่ ขอบใจมากๆ เลยลูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ วุ้นทนได้ วุ้นทำได้เพื่อแม่...ฮือ”
ธันย์ณิชากอดร่างของสตรีที่เคารพรักสุดหัวใจ สูญเสียเพียงแค่เยื่อบางๆ ไม่เทียบเท่ากับเสียคนที่ตนกอดอยู่ มันจึงเป็นการสูญเสียที่คุ้มค่ายิ่งนัก
เอมอรกับนภาเห็นภาพนี้แล้วถึงกับน้ำตาปริ่ม จนต้องกระพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่น้ำใสๆ ไม่ให้ไหลออกจากเบ้าตา ทั้งคู่สงสารธันย์ณิชาเหลือเกิน เธอจะรู้หรือไม่ว่า การกระทำทุกอย่าง คำพูดทุกคำในห้องนี้ รวมทั้งเรื่องที่มีคนไปทวงหนี้ที่บ้านของวรนุช คือการจัดฉากของวรนุชทั้งสิ้น แผนที่จะทำให้ธันย์ณิชายอมไปเป็นของเล่นของพ่อเลี้ยงเพลิง โดยที่วรนุชไม่ต้องบังคับขู่เข็ญธันย์ณิชาสักนิดเดียว ใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองแค่นี้ ผลที่ออกมาก็สมดังตั้งใจ
ทั้งสองมีความรู้สึกผิดปะปนในจิตใจ เอมอรกับนภาไม่อยากทำเช่นนี้แต่ก็ขัดคำสั่งของวรนุชไม่ได้ จำต้องเล่นละครตบตาอย่างเสียมิได้ พอทำลงไปแล้วเพิ่งมารู้ตัวว่า กำลังผลักธันย์ณิชาให้ก้าวสู่ถนนแห่งราคะ ถนนแห่งความอัปยศ ที่หญิงสาวหลายคนทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจเดินบนถนนเส้นนี้
Chapter 11ดูเหมือนว่าณดลจะเข้าใจมารดา เด็กชายรับคำผู้เป็นแม่ ทว่าสายตายังไม่ละห่างจากโมเดลการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เหล่านั้น ภาพและคำพูดของสองแม่ลูกตกอยู่ในสายตาของชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งเขาเองก็จำได้ดีว่า สองคนนี้คือใคร“เธอกับลูกมาทำอะไรที่นี่”ดารากานต์หันมามองเจ้าของเสียงเข้มที่ยืนกอดอกอยู่ตรงประตูบ้าน ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาเธอ“แล้วคุณล่ะมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้เวลางานไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปทำงาน มายืนอู้งานอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เสียแรงที่นายเหมืองดีกับคุณ แต่คุณกลับทำงานไม่เต็มที่ อย่างนี้ต้องไล่ออกสถานเดียว”ดารากานต์ตอบไม่ตรงคำถาม หนำซ้ำยังต่อว่าเขาชุดใหญ่ เธอไม่คิดว่าจะเจอคนไม่มีมารยาทที่นี่ ทั้งที่ในใจก็หวั่นๆ ตั้งแต่เห็นรถจี๊ปคันนั้นจอดอยู่หน้าบ้านพยัคฆ์มองหน้าคนที่ต่อว่าเขาฉอดๆ หลุบตามองปากจิ้มลิ้มที่เขาคิดว่า มันน่าจูบเสียเหลือเกินชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตามองดวงตาคู่หวานที่ตรึงใจเขาอย่างบอกไม่ถูก“ก็ไม่อยากทำตอนนี้ มีอะไรไหม” เขาตอบกวนกลับ “เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะว่า เธอมาทำอะไรที่นี่”“ฉันมา...” เสียงของดารากานต์พูดค้าง เมื่อเสียงของโก๋ดังแทรก และเป็นประโยคคำพูดที
Chapter 10โก๋ไม่ได้ยกยอปอปั้นคุณงามความดีของนายเหมืองพยัคฆ์เพลิง ที่เขากล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น แม้ว่าภายนอกเจ้าของแห่งนี้จะดูบ้าบิ่น โหดเหี้ยม แต่เนื้อในกลับมีจิตใจที่แตกต่าง น้ำเสียงและสีหน้าของโก๋ ยามพูดถึงเจ้านายของตน แสดงให้เห็นถึงการเทิดทูนและจงรักภักดี“เจ้านายอย่างนี้หายากนะคะ ส่วนใหญ่จะให้แค่สวัสดิการขั้นพื้นฐาน แต่เท่าที่ฟังมา นายเหมืองให้เยอะมากๆ ค่ะ”“เยอะสิ เยอะมากด้วย นายเหมืองบอกว่า คนงานทุกคนทำให้เขาร่ำรวย มีเงินกินมีเงินใช้ เรื่องที่นายเหมืองทำให้ไม่ถึงครึ่งกับที่ทุกคนให้มา แต่ถ้าคนไหนออกนอกกรอบที่นายเหมืองกำหนดไว้ นายเหมืองก็ไม่เอานะ ไล่ออกไปหลายคนแล้ว”ทุกอย่างย่อมมีขอบเขต นายเหมืองพยัคฆ์เพลิงใจดีก็จริง แต่บทจะร้ายขึ้นมา หน้าอินทร์หน้าพรหมก็ไม่สน และอารมณ์เปรียบประดุจพายุงวงช้างบวกกับอุกาบาศก์ถล่มโลก ทุกอย่างจะราบเป็นหน้ากลอง“ยิ่งได้ฟังกิตติศัพท์ของนายเหมือง ดาวชักอยากจะเห็นหน้าซะแล้ว”“ดาวได้เห็นแน่ ตอนนี้อาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นและพักผ่อนสักงีบดีกว่านะ” เขาพูดขณะที่หยุดยืนหน้าห้องพัก โก๋ไขกุญแจแล้วเปิดประตู “เป็นไง อยู่ได้ไหม”“อยู่ได้สิคะ ดีกว่าห้องท
Chapter 9เธอขู่ไปอย่างนั้น โดยไม่ได้คิดอะไร อาจเป็นเพราะหมั่นไส้ท่าทางโอหังของเขาด้วยพยัคฆ์แม้ว่าจะนิ่งอึ้งกับคำพูดประโยคนี้ของเธอ แต่เขาก็อยากจะหัวเราะกับท่าทางขึงขังของเธอมากกว่า แถมยังคิดว่า ท่าทางของเธอน่ารักไม่หยอก“อ้าว นายเหมืองมีลูกมีเมียตอนไหนเนี่ย ทำไมฉันไม่รู้เรื่องล่ะ”ดารากานต์ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ในใจก็กลัวว่า เขาอาจจะรู้ว่า นายเหมืองพยัคฆ์เพลิงไม่มีครอบครัว ฉะนั้นเรื่องที่ตนบอกไปเขาก็ต้องคิดว่า ไม่เป็นความจริง“ว่าแต่คุณจะขอโทษฉันกับลูกไหม ที่คุณขับรถเหมือนขโมยใบขับขี่มา” เธอเปลี่ยนเรื่อง เกรงว่าเขาจะจับไต๋ได้“ฉันไม่ผิด ทำไมต้องขอโทษ ฉันขับรถของฉันมาดีๆ ความเร็วก็แค่หกสิบเอง เพราะฉันรู้ดีว่าถนนเส้นนี้ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่สัญจรไปมา ฉันระวังเรื่องการขับรถทุกครั้งที่นั่งหลังพวงมาลัย ลูกเธอจู่ๆก็วิ่งมาตัดหน้ารถฉันเองนะ อย่างนี้ใครจะผิด” พยัคฆ์พูดด้วยเหตุผล“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณทำลูกฉันตกใจ และคุณก็เป็นผู้ใหญ่จนสุนัขเลียก้นไม่ถึง คุณต้องขอโทษลูกฉัน” เธอเสียงแข็ง“ไม่ ฉันจะขอโทษเมื่อฉันคิดว่าตัวเองผิด” พยัคฆ์เสียงแข็งกลับ“คุณนิสัยแย่ที่สุด” ดารากานต์ต่อว่าเขาอีกครั้ง ก่
Chapter 8เหมืองพยัคฆ์เพลิงหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีก้าวลงมาจากรถรับจ้างพร้อมกับเด็กชายวัยสามขวบ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินเข้าไปในอาณาจักรเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สถานที่ที่เปรียบเสมือนที่พักพิงใหม่ของสองแม่ลูก หลังจากที่ต้องอาศัยอยู่กับญาติของบิดาที่กดขี่เธอราวกับเป็นทาส ทว่าไม่เท่ากับที่เขาทำร้ายลูกชายของเธอ และนั่นทำให้ดารากานต์ตัดสินใจสมัครงานเป็นพนักงานบัญชีของเหมืองแห่งนี้ตามคำแนะนำของเพื่อน พรุ่งนี้คือวันเริ่มทำงานวันแรกระหว่างทางที่ดารากานต์เดินจูงมือลูกชายอยู่นั้น ตุ๊กตาหุ่นยนต์ที่ณดลถือเล่นอยู่เกิดหลุดมือเด็กชาย มันกระทบบนพื้นก่อนจะกระเด้งไปกลางถนน เจ้าของหุ่นยนต์สะบัดมือจากมือมารดา แล้วเดินไปกลางถนนเพื่อหยิบของเล่นตัวโปรด“เฮ้ย! เอี๊ยดดดด” เสียงร้องตกใจของเจ้าของรถจี๊ปดังพร้อมกับเสียงห้ามล้อ“กรี๊ดดดด” ดารากานต์กรีดร้องสุดเสียง เธอใจหายวาบ รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังตกไปอยู่บนพื้น เธอรีบถลาไปหาลูกชายที่นั่งอยู่บนพื้น สีหน้าไร้เดียงสาตกใจไม่แพ้ผู้ใหญ่ทั้งสอง นั่งมองหน้ารถยนต์ที่อยู่ห่างกับตนไม่ถึงหนึ่งเมตรตาค้าง“เป็นไงบ้างครับตาม เจ็บตรงไหนหรือเปล่าลูก”ดารากานต์ตรวจดูร่า
Chapter 7“แม่คงทำตามที่วุ้นต้องการไม่ได้ ไม่มีแม่คนไหนหรอกนะที่จะให้ลูกตัวเองขายตัว แม้ว่าแม่จะมีอาชีพเป็นมาม่าซังก็ตาม” วรนุชปฏิเสธความหวังดีของบุตรสาวบุญธรรม“แต่มันเป็นความต้องการของวุ้น ที่วุ้นมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีวุ้น ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ให้กำเนิด แต่แม่ให้ชีวิต ทำไมวุ้นจะเอาความสาวมอบเพื่อใช้หนี้ให้แม่ไม่ได้คะ ชีวิตของวุ้น วุ้นก็ให้แม่ได้” สำหรับธันย์ณิชา ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องรอง ชีวิตของบุพการีที่ชุบเลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิดต่างหากที่เป็นเรื่องหลัก ความกตัญญูเป็นเรื่องสำคัญที่เธอต้องยึดมั่นปฏิบัติ แล้วตอนนี้เธอมีโอกาสทดแทนบุญคุณ หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะทำ“แม่หาทางอื่นก่อนดีกว่า แม่ทำใจไม่ได้ที่ให้วุ้นทำอย่างนั้น” วรนุชยังคงความตั้งใจเดิม“ถ้าแม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ แม่คงไม่มานั่งปรับทุกข์กับพี่อร พี่ภาหรอกค่ะ ที่แม่กลุ้มเพราะแม่ไม่มีทางออก ตอนนี้วุ้นหาทางออกให้แม่แล้ว แม่รับไว้เถอะค่ะ วุ้นเต็มใจขายตัวเพื่อแม่”น้ำตาของผู้พูดไหลริน ทั้งที่พยายามเก็บกักมันไว้เต็มกำลัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทว่าน้ำตาที่รินไหลแม้ว่าจะมาจากความเสียใจที่ตนต้องพลีกายให้ชายที
Chapter 6“แล้วพ่อกับศักช่วยอะไรแม่ได้ไหม” เอมอรถามถึงสามีและลูกชายของวรนุช“จะช่วยอะไรได้ล่ะ แกสองตัวก็รู้ๆ อยู่ แค่ไม่เอาปัญหาใหม่มาให้ฉันก็ถือว่าดีมากแล้ว”พอพูดถึงเดชดวงกับศักรินทร์ สามีและลูกชายของวรนุช สีหน้าของนางก็หมองเศร้าลง เพราะทั้งคู่ดีแต่สร้างปัญหาให้นางไม่หยุดหย่อน เดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ ทว่าพักหลังทั้งคู่ทำตัวดีขึ้น ไม่นำความเดือดร้อนมาให้นาง แต่ถึงกระนั้นก็วางใจไม่ได้ นางยังกลัวๆ อยู่ว่า อาจจะนำเรื่องปวดหัวมาให้นางสักวัน“ถ้าอย่างนั้นก็มีทางเดียวนะแม่คือ แม่ต้องหาสาวพรหมจรรย์ให้พ่อเลี้ยง ถ้าแม่ไม่หาแต่ไปหาหนี้สินก้อนใหม่ มันก็จะดินพอกหางหมูไปกันใหญ่ หนี้ไม่ลดแต่กลับเพิ่มขึ้นมา”ธันย์ณิชาที่ยืนแอบฟังอยู่ใจเต้นแรง เธอไม่คิดว่าวรนุชจะมีปัญหาทางด้านการเงินหนักมากถึงเพียงนี้ อีกทั้งหนี้สินยังเร่งรัดจนหายใจหายคอไม่ออก ระหว่างที่กำลังยืนอึ้งกับการสนทนาที่ได้ยิน สุเมธ พนักงานในลานจอดรถได้เดินมาอีกทางหนึ่ง เขาผลักประตูเข้าไปโดยไม่เคาะ ในมือถือกล่องหนึ่งมาด้วย“แม่ มีคนฝากกล่องนี้มาให้” สุเมธบอกเจ้าของห้อง“มึงนี่ไอ้เมธ มึงไม่เคาะประตูห้องอีกแล้วนะ” วรนุชตวาดแว้ดใส่“โ







