“ ฮิ้ว อิจฉาว่ะแก มีคนหล่อๆมาร้องเพลงให้ด้วย ” เพื่อนสาวเอ่ยปากแซวภัสสร เมื่อได้ยินศิลปินหนุ่มที่ร้องเพลง เรียกชื่อเพื่อนของเธอ
“ บ้าน่าแก ” ภัสสรตีมือเพื่อนแต่ยิ้มเขินอาย ก็จะไม่เขิลได้ไง
คนบ้าอะไรโครตเท่ห์เลยตอนแรกแค่ปลื้มเท่านั้นที่ช่วยไว้แต่คราวนี้ชอบเลยบอกตรงๆ....หญิงสาวคิดในใจ.....เมื่อเพลงจบทั้งเสียงกรี๊ดเสียงแซวกระหน่ำไม่ขาดสายรณภพส่ายหัวเบาๆ ก้าวลงเวที พลางดูนาฬิกาที่ข้อมือ
“ นาย! ” เสียงใสๆที่ดังเข้าโซนประสาททำให้รณภพหันไปมอง
“ ฟึ่บ โครตเท่ห์เลยอะ น่ารักจัง ! ” เธอวิ่งมากระโดดโอบกอดเขาทำเอารณภพนิ่งเลยทีเดียว...
“ นี่เธอ อะไรของเธอ อีกแล้วนะ เธอทำแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ ” เขาปลดมือที่โอบรอบคอของเขาออก แต่ให้ทิ้งข้างลำตัว ตอนที่ร้องเพลงเขามองลงไปตรงโต๊ะเจ้าของวันเกิดพบดวงหน้ามนพลางคิดว่าโลกคงไม่กลมขนาดที่จะเจอผู้หญิงที่ปั่นป่วนไปของคุณเขาถึงที่ห้องหรอกนะ
“ แบบไหนหรอ? ” เธอเอียงหน้าถามอย่างน่าหมั่นเขี้ยวนัก
“ ก็แบบ! ” เขาพูดเสียงห้วนคิ้วขมวดเข้าหากัน อะไรที่ควรเข้าใจไม่เข้าใจ.....ให้มันได้อย่างนี้ดิ! มันน่านัก
“ หืม ว่าไงแบบไหน ” เธอขยับเข้ามาใกล้เขา เสื้อผ้าที่เธอใส่วันนี้มันดูรัดรูปเธอไม่ใช่คนที่ผอมแห้งไม่มีอะไร แต่มันมีให้เห็นสัดส่วนส่วนโค้งส่วนเว้าที่เรียกว่าแบบนี้แหล่ะสำหรับเขาเรียกว่าหุ่นดี ไม่ใช่ผอมแห้งเหมือนขาดสารอาหาร
รณภพเห็นชุดของเธอแล้วขัดหูขัดตานักถึงเสื้อเธอจะเป็นแขนตุ๊กตาแต่แฟชั่นเสื้อผ้าที่แหวกตรงหน้าอกนี่มัน
“ เฮ้อ ผมถามคุณจริงๆเหอะ ใส่เสื้อมีแขนแต่แหวกตรงหน้าอกนี่มันแตกต่างกันตรงไหนห๊ะ ”
“ ก็ฉันพอใจนี่ คนมีดีก็ต้องโชว์สิ ” เธอแอ่นอกคล้ายโชว์คุณสมบัติของตัวเอง รณภพส่ายหัวใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อสายตาก้มลงเพียงนิดก็เห็นร่องอกอิ่มแล้ว
“ ซิลีโคนรึเปล่าก็ไม่รู้ ”
“ หยาบคาย ของฉันหน่ะของจริงจ้ะ ”
“ นี่เธอเข้ามาหลังเวทีได้ไงเนี่ย นี่มันที่พักของนักดนตรีนะ ”
“ คะ คือว่า ” น้ำเสียงแบบนี้มารณภพไม่อยู่รอช้าแน่นอนเขาทำท่าเลี่ยงจะเดินหนี
“ วาวอยากให้มิกไปนั่งกับวาว วาวอยากให้มิกช่วยนิดหน่อย ” น้ำเสียงและสรรพนามที่เรียกแทนตัวเองและเรียกเขาเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นมันก็ฟังดูสนิทสนม แต่เดี๋ยวนะวาวงั้นหรอ?
“ คุณหรอชื่อวาว? ”
“ อ้าวก็ใช่หน่ะสิ นายรียกชื่อฉันแต่บอกไม่รู้จักฉันนี่อ่ะน้ะ ”
“ เปล่าผมแค่อ่านไปตามสคริปที่เขาให้ก็เท่านั้นแหล่ะ แล้วอะไรที่คุณบอกจะให้ผมช่วย ” รณภพยกขวดน้ำกระดกเข้าปากคำพูดของชายหนุ่มทำเอาภัสสรรู้สึกเสียใจไม่น้อย เธออุตส่าห์จำชื่อเขาได้ตั้งแต่แรก หึ ไอ้คนไม่มีหัวใจ ไม่น่าเลยวาวไม่น่าเรียกชื่อให้สนิทสนมเลย รณภพมองหญิงสาวที่คิ้วขมวดกัดริมฝีปากตรงหน้า ให้เดาเลยว่าตอนนี้เขาคงปากหมาไปพูดอะไรกระทบเจ้าหล่อนให้หล่ะสิ
“ ชั่งเหอะไม่รบกวนนายและขอตัว ” เธอกลับมาใช้คำเหมือนเดิมจนเขาตามอารมณ์แทบไม่ทันเป็นอะไรไปอีกล่ะนั่น
“ เดี๋ยวสิ เธอมีอะไรจะให้ฉันช่วยกันแน่ ”
“ ไม่มี! ” น้ำเสียงห้วนๆของเธอที่ตอบกลับมายืนยันได้ชัดเจนว่าไม่พอใจอะไรเขาสักอย่างแน่ใจ
“ ก็ตามใจ ” รณภพยักไหล่นิดๆ ภัสสรเงยมองหน้ามองผู้ชายที่สนทนาด้วย ทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายที่ไม่สนอะไรขนาดนี้
“ จิ้ จ้ะ ซื่อบื้อ ” เธอกระทืบเท้าทิ้งคำด่าเอาไว้ให้เขาแล้วตรงไปกระแทกก้นงามๆนั่งตรงโซฟาอย่างแรงรณภพมองตามด้วยความอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไร ก็งี้แหล่ะเขามันเถื่อนล่ะมั้งเอาใจใครก็ไม่เป็นกี่คนที่เขาเคยให้ใจไปถึงได้สลัดความรักเขาอย่างไม่ใยดี
“ วาว ไมหน้าหงิกงั้นอ่า ”
“ เปล่า! ” เธอตอบเสียงแข็งพร้อมกระดกแก้วแชมเปญเข้าปาก
“ เดี๋ยวไอ้เจษมาเจอแกนี่หว่า ไหนแฟนแกวะถ้ามันรู้แกแต่งเรื่องเพื่อหลบหน้ามันล่ะก็ วาวเอ้ยฉันว่ามันจะหนึ๊บกว่าเดิมอีก ” นิษา เพื่อนสาวคนสนิทกล่าวถึงชายหนุ่มที่ตามจีบเธอมาสามปีแม้กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยเขาก็ยังไม่เลิกตาม
“ วาวจ๋า....พี่เจษมาแล้วค่ะ นี่คร้าฟของขวัญของคนสวย ” เจษฏา ชายหนุ่มหน้าตาทะเล้น จะว่าไปเจษฏาก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะไรนะออกแนวจะกะล่อนเจ้าชู้ซะด้วยซ้ำแต่ด้วยความที่ว่าเขาหน่ะมันคารมณ์ดีทำให้ผู้หญิงเข้าหาเยอะแต่กลับไม่คิดจริงจัง แต่กลับ วาว เขาอยากได้เธอมาเป็นหวานใจซะงั้นถึงตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาพยายามจีบเธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นในเมื่อเธอยังไม่ตกลงเป็นหวานใจเขาก็ยังมีอิสระ
“ ไม่น่าลำบากเลยค่ะพี่เจษแค่มานี่ก็เป็นเกียรติอย่างสูง ” เธอแสดงอาการออกมาให้เจษฏารู้ว่าเธอไม่ชอบและไม่อยากเสวนาด้วย ภัสสรเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้เชิญให้มาเที่ยวด้วยทำไมเขาถึงตามมาได้นะ
“ จะไม่เชิญพี่นั่งหน่อยหรอ ” เจษฏาตีหน้ามึนไม่สนใจ ภัสสรกระดกแชมเปญเข้าปากแก้วที่สามแล้ว
“ ก็เชิญนั่งสิคะ ” เธอบอกแล้วก็ลุกขึ้นก่อนจะลุกขึ้นสะบัดหน้ามองคนที่นั่งแทบจะประชิดเธอ
“ งั้นวาวขอตัวค่ะ เชิญพี่นั่งตามสบาย ”
“ อู้ว ” นิษาทำปากจู๋เบาๆมองตามหลังเพื่อนไปยังฟอร์เต้นรำ
วันนี้มีแค่สามสาวเองมีรุ่งรัตน์ หรือว่าน้ำฝน มีนิษา หรือษา และก็มีภัสสร หรือวาว มัช ไม่ได้มาด้วย เพื่อนชายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือ ณัฐพล นั่นเอง
รณภพนั่งอยู่บนขอบพิงขอบเวทีที่เป็นพรหมสีแดงม่านสีแดงสดบดบังร่างหนุ่มเขานั่งอยู่ตรงขั้นบันไดมองฟอร์เต้นรำในที่มืด ด้านหลังเวลาตรงนี้วันนี้เขาไม่มีอารมณ์ไปทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์เฉกเช่นทุกวันวันนี้แค่ร้องเพลงก็ทำเอาคนขี้อายไม่อยากอยู่เป็นจุดสนใจแล้ว
ร่างของหญิงสาวที่ปากคอเลาะร้ายเถียงกับเขากำลังนวยนาฏเต้นอยู่บนฟอร์ กางเกงขาสั้นอวดเรียวขา รองเท้าผ้าใบแฟชั่นมันก็กิ๊บเก๊ดีปกติคงจะจี๊ดกว่านี่ล่ะสิใยตัวแสบเพราะจากคราวที่เขาช่วยชีวิตหล่อนไว้คราวโน้นเสื้อผ้าเธอมันวับๆแวมๆกว่านี้ รณภพกอดอกมองอยู่ฉากหลังของม่านในมุมมืดที่เขามองเห็น
ด้านนอกที่มีแสงสีสาดส่องบนฟอร์เต้นรำ หลายครั้งหลายคราที่ขารณภพจะก้าวตรงไปช่วยหญิงสาวที่ชอบมีผู้ชายเข้าไปยุ่งไปเคล้าเคลียร์เธอ แต่ก็กระเจิงเพราะเธอแผงฤทธิ์ซะ ทำให้รณภพยิ้มนิดๆที่อย่างน้อยเธอก็หวงเนื้อหวงตัวซะบ้าง
เขาอายุ18 กำลังก้าวเข้าสู่19 แต่ความคิดเขาเป็นผู้ใหญ่เกินตัว
ฝั่งภัสสรโยกย้ายส่ายเอวสนุกกับเพลงเร้าใจภัสสรหนีเจษฏาไม่อยากนั่งร่วมกับเขา....ทั้งยังโมโหคนที่ตัวเองเผลอปลื้มด้วยอีกก็เลยเซ็ง
“ อุ้ย ” ภัสสรรับรู้ถึงสัมผัสของฝ่ามือใครสักคนที่โอบรอบเอวเธอเมื่อหันไปมองก็เบี่ยงสะบัดตัวออกทันที
“ พี่เจษ อย่าทำแบบนี้อีกนะ วาวไม่ชอบ ”
“ โธ่ วาวพี่ก็แค่จะเต้นเป็นเพื่อนเองนะ ”
“ พี่จะเต้นก็เต้นไปสิไม่ต้องมาจับวาว ถ้าคนอื่นเห็นมันดูไม่ดี ”
“ มันไม่ดียังไงครับ! ก็ในเมื่อวาวเองก็ไม่มีแฟน ”
“ วาวบอกพี่เจษแล้วไงคะว่ามี แต่วันนี้เขาไม่ว่าง ” หญิงสาวพ่นคำโกหกคำโต
“ ไม่เอาน่าวาว อย่ามาโกหกพี่ซะให้ยากเลยมาเต้นกันดีกว่า ” เขาเอื้อมมือจะจับมือหญิงสาวที่กำลังจะสะบัดออก
“ ฟึ่บ ภัสสรเซตามแรงที่โดนมือที่สามที่อยู่ใกล้ๆข้างเธอแต่ไม่รู้บุคคลนั้นคือใครใบหน้างามกระทบอกแกร่งไหล่มนถูกมืออีกฝ่ายบีบโอบรอบไว้มืออีกข้างบีบมือเบาๆภัสสรยังนิ่งค่อยๆมองหน้าคนที่เข้ามาฉุดเธอเวลานี้
“ ก็ไหนบอกกับมิกว่าวันนี้มีเดทกันแล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครวาว ” เขาพูดกับเธอแต่ตามองคนตรงหน้า ภัสสรที่เงยหน้าขึ้นมามองเห็นแววตาของคนที่ชอบที่ส่งตรงไปหาคนที่ตนปฏิเสธ สายตาหลายคู่จับจ้องไปยังบนฟอร์ท่าทางของรณภพเหมือนคนรักหญิงสาวทั้งหึงทั้งหวงก่อนที่ภัสสรจะเรียบเรียงสติได้ในเมื่อคนปากร้ายจู่ๆก็โผล่เข้ามาเธอก็ต้องทำให้คุ้มค่าที่สุดสิ
“ มิกวาวขอโทษนะคะ ” รณภพอึ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าการโผล่เข้ามาช่วยเธอแบบนี้หญิงสาวจะเนียนไหลเข้าแผนเธอได้เธอกอดเอวรณภพเอาหน้าแนบซุกอกกว้างส่ายหัวไปมาเบาๆอย่างรู้สึกเหมือนคนรักที่ทำผิดต่อกัน
“ นี่มันอะไรกันครับวาว ไอ้นี่มันเป้นใคร ” เจษฏาหัวเสียเมื่อเห็นผู้หญิงที่เขาหมายปองมาตั้งสามปีแต่จู่ๆ มีคนมาแย่งไป
“ ก็ไม่อะไรนี่ค่ะพี่เจษ บอกแล้ววาวมีแฟนแล้วเมื่อไหร่พี่เจษจะเข้าใจ ” เธอเปลี่ยนหันมาเกี่ยวแขนรณภพที่ยังส่งสายมามองผู้ชายตรงหน้าแล้วแอบมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวตัวแสบ
' คิดผิดจริงๆเลย 'รณภพสบถด่าตัวเองในใจก่อนจะมองรอดูเหตุการณ์เบื้องหน้าต่อไป.
บอดี้การ์ดเริ่มทยอยมาหาภัสสรเมื่อเห็นถึงสิ่งผิดปกติแถมพนักงานหนุ่มที่ยืนข้างคุณหนูคนเล็กแล้วยิ่งคิ้วขมวดเมื่อเห็นคุณหนูของพวกเขาไม่วีน ไม่โวยวายแถมส่งสายตาไล่ไม่ให้เข้าไปใกล้เธออีก เจษฏาเป็นเหมือนเพื่อนหญิงสาวแน่นอนว่าคุณหนูคนเล็กไม่เคยปิดบังอะไรพี่ชายของเธอซึ่งพี่ชายเธอก็ไม่ได้ชอบเจษฏาสักเท่าไหร่หรอก
“ หมายความว่าไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นแฟนน้องวาวงั้นหรอ ไม่มีทาง...”
“ อ้าวคุณ....คนเขารักกัน....หน้าอย่างผมแล้วทำไมครับ ” รณภพเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง
“ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าแกจะเป็นแฟนกับวาว ”
“ แล้วต้องทำยังไงถึงจะเชื่อ ” ภัสสรโวยวายเมื่อผู้ชายตรงข้ามน่ารำคาญขึ้นทุกที
“ จูบสิ ”
“ ว้า วู้ ” เสียงคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆทำให้รณภพกวาดสายตามองรอบๆอย่าง
ไม่ให้แสดงออกว่าเขาได้ยินเสียงเหล่านั้น คนก็งี้แหล่ะอยากรู้เรื่องของคนอื่นกันจัง คำพูดนั้นมันทำให้ภัสสรก้มหน้าด้วยความเขินอายเธอจะทำยังไงดีหล่ะไม่คิดว่าคนตื้อบ้าบิ่นจะคิดอะไรที่โพล่งมาแบบนี้ ถ้าไม่มีคนมุงเธออาจจะกล้าที่จะดึงรณภพมาจูบแต่ถ้าอย่างนั้นพี่ชายก็ต้องรู้เรื่องรณภพก็จะเดือดร้อนไปอีกภัสสรค่อยๆคลายมือจากที่เกี่ยวแขนของรณภพไว้
“ ว่ายังไง ”
“ หึ ไม่! ” เสียงดังปฏิเสธที่รณภพประกาศทำให้ทุกอย่างเหมือนเงียบสงัดทั้งที่เพลงเปิดดังมีคนที่อยู่ใกล้ๆฟอร์เต้นรำเพียงไม่กี่คนแต่กลับได้ยินชัดเจน เขารังเกียจงั้นหรอภัสสรเริ่มมีหยดน้ำคลอนิดๆมองหน้ารณภพก่อนจะได้ยินประโยคต่อไปที่ชายหนุ่มยังจ้องหน้ากันเหมือนจะแผดเผา
“ สุภาพบุรุษควรให้เกียรติผู้หญิงที่เป็นคนรักไม่ใช่ทำให้คนรักต้องอับอายต่อหน้าคนอื่น ถ้าคุณไม่มีอะไรอีกผมขอตัวพา ' แฟนผม ' ไปสวีทต่อไม่อยากให้เขาเสียบรรยากาศงานวันเกิด ” รณภพเลื่อนมือลงมากุมมือภัสสรที่เริ่มคลายมือที่เกี่ยวแขนของเขาแล้วดึงมือเธอให้ตามเขาไปทางโซนหลังของผับที่ประดับเหมือนอยู่ในสวนมีเถาวัลย์เลื้อยขึ้นออกแนววินเทจนิดๆอีกมุมนึงที่รณภพชอบมานั่งเงียบๆหนีจากความวุ่นวายมานั่งพัก ภัสสรทั้งตกใจดีใจทำอะไรไม่ถูกกับคำที่เขาพูดจึงไม่มีท่าทางขัดขืน ซึ่งที่นี่ภัสสรเป็นคนออกแบบโซนนี้เองเกือบทั้งหมดมันเป็นมุมที่ปลอดโปร่งด้วยอากาศยามค่ำคืนที่เบาเสียงดังๆจากด้านในมีเก้าอี้เถาวัลย์อยู่สามสี่ตัว รณภพเมื่อผลักประตูกระจกแก้วปิดเสียงดังได้แล้วเขาก็ตวัดหญิงสาวเข้าชิดกำแพงเท้ากำแพงด้วยมือทั้งสองข้าง
“ นี่นายจะทำอะไร ”
“ อ้าวไม่เรียกมิกแล้วหรอ น้องวาว ” เขาทำคิ้วขมวดแกล้งคนตรงหน้าที่ใบหน้าแทบจะชิดกัน ใจภัสสรเต้นแรงกับท่าทางกวนกวนของเขาแต่คำพูดที่เรียกชื่อกันนั้นมันทำให้หน้าขาวแดงระเรื่อ
“ วันหลังคุณอยู่ให้ไกลจากผมจะดีกว่า คนอย่างผมไม่ดีหรอกอย่ามาใกล้นักเลย.....! ”
“ ทำไมหล่ะนายออกจะใจดีด้วยซ้ำ ”
“ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ดีอย่างที่คิด อันตรายซะด้วยซ้ำ ”
“ อันตรายยังไง? ”
“ จุ๊บ ” ริมฝีปากรณภพลงมาจูบภัสสรบางเบาเขาแค่แนบฝีปากนั้นเนิ่นนานแค่แตะเท่านั้นเอง ภัสสรเบิกตากว้างจูบแรกของเธอ..... ชายหนุ่มค่อยๆผละออกก่อนจะเห็นสีหน้าตกใจของหล่อนพลางเตรียมตัวเจ็บอีกครั้งหล่อนจะต้องตบเขาสักฉาดเข้าให้ดูจากขี้วีนแบบนี้
“ นาย!! ”
“ ก็บอกแล้วว่าฉันมันอันตรายอยู่ไกลไว้ดีกว่า จิ้จ้ะ เลิกยุ่งกับฉันได้แล้วสินะ ” เขายิ้มน้อยๆเอามือขวาเคาะพนังเล่นนิดๆ ยิ้มมุมปากทำเสียงจิ้จ้ะแล้วลดมือที่เท้ากำแพงลงทั้งสองข้างก่อนจะหันหลังให้หญิงสาว
“ ฟึ้บ จุ๊บ ” คราวนี้กลับกลายเป็นรณภพอึ้งสะเองเมื่อเธอกระตุกมือเขาเข้าแนบชิดจนต้องเท้ากำแพงเพื่อทรงตัวไม่ให้ล้มอีกรอบพร้อมริมฝีปากที่แนบกับเขาเหมือนเมื่อครู่ที่เขาทำมา.....
“ นี่! ”
“ หายกันนะ นายจูบฉันก่อนทำไม ” พูดจบเธอก็รีบผละออกแล้ววิ่งหายเข้าไปในผับทันทีทิ้งคนที่เพิ่งจูบเธอไว้เพียงลำพังตอนแรกเขาคุมเกมส์แต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นเธอไปได้ใยตัวแสบ ไม่คิดว่า เธอจะกล้าทำสินะ ภัสสรหน้าแดงก่ำเดินเข้าห้องพักที่ตัวเองมีไว้สำหรับอยากพักผ่อนพี่ชายของเธอทำไว้ให้นั่นเอง ยกมือลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ แล้วยิ้มน้อยๆก็ผุดขึ้น
“ มิกบ้า ” เธอกรี๊ดแบบไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ฉันจะทำให้คนเย็นชาแบบนายอ่อนโยนให้เห็นให้ได้เลยทั้งที่เธอรู้ดีว่ารณภพนั้นอ่อนโยนขนาดไหนกี่ครั้งแล้วที่เขาช่วยเธอท่ามกลางเสียงโวยวายนี่สินะที่ทำให้เธอสนใจเขาผู้ชายในความรู้สึกที่ใช่เพราะที่ผ่านมาเธอคิดด้วยซ้ำว่าแมนกว่าผู้ชายบางคนที่เข้ามาหาเธอ