เมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายของแม่นม ภวิชไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าขายาวๆ ก้าวเดินตรงไปยังห้องครัวที่ทะลุประตูหลังของบ้านใหญ่ เยื้องออกไปเป็นบ้านหลังเล็ก และถัดไปอีกไกลพอตัวซึ่งเป็นบ้านพักของคนงาน ไม่แปลกหรอกที่มินตราจะไม่ได้ยินเสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายของภวิชที่ทำขึงขังเสียงดัง เพราะมันอยู่ห่างกันกับห้องครัวพอประมาณ
“ คุณมินไม่ต้องเก็บหรอกค่ะเดี๋ยวป้าเก็บเอง ”
“ เกร้ง ๆ ไม่เป็นไรค่ะมินเก็บดีกว่าเดี๋ยวมีคนมาเหยียบเข้าจะแย่ไม่ลำบากอะไรนี่ค่ะ ”
“ ฟึ่บ กึก โอ้ย /กรี๊ด ” มือเรียวเล็กของมินตราที่กำลังเก็บเศษจานแก้วที่เผลอทำหล่นแตกถูกกระชากอย่างแรงทำให้มือที่กำลังเก็บเศษแก้วนั้นถูกของคมแหลมบาดเข้าให้เป็นทางยาว เธอร้องด้วยความตกใจส่วนแม่นมนั้นกรี๊ดเสียงหลงเพราะทั้งตกใจที่เห็นคุณชายที่เธอเลี้ยงดูฉุดกระชากหญิงสาวแถมมินตรายังโดนของคมปักเข้าที่มืออีก มินตราเงยหน้ามองคนที่มาฉุดกระชากเธอ
“ พี่วิช ” เธอยิ้มออกกว้างด้วยความดีใจจนลืมบาดแผลไปแล้วด้วยซ้ำคิดถึง
เขาอยากกอดมากๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงวันนี้เขาก็กลับมาแต่ทำไมรู้สึกดีใจไม่น้อย ต่างจาก
ภวิชที่แววตาลุกเป็นไฟโชติโชนไม่ได้สังเกตุสิ่งผิดปกติที่ไหลตรงมือของเธอเลย
“ ออกไปกันให้หมด! ฉันมีเรื่องต้องคุยกับมินตรา ออกไป้! ” ไล่ทุกคนไปให้พ้นหน้าตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยว่ามีคนที่เลี้ยงดูเขามาแต่เด็กอยู่ด้วย ป้านิ่มยกมือปิดปากด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าสาวใช้ยังไม่รีบออกไปอีกเขาก็สั่งอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“ บอกให้ไสหัวออกไปกันให้หมดไงไม่เข้าใจหรอ!! ไป้ ” เขาหันไปตะคอกสาวใช้ สองสามคนที่ยืนก้มหน้าขาสั่นอยู่ข้างๆแม่นมของเขา ตอนนั้นภวิชเพิ่งสังเกตเห็นว่า มีคนที่เปรียบเสมือนแม่อยู่ด้วยน้ำเสียงเกี้ยวกราดไม่ควรทำใส่ท่าน
“ ผมขอโทษครับแม่นิ่ม แม่นิ่มพาทุกคนออกไปทีครับผมมีเรื่องต้องคุยกับมิน ที่บ้านสองคน! ” สองคนที่เขาจงใจเน้น นั่นหมายถึงบ้านหลังใหญ่นั้นต้องไม่มีการเยื้องย่างเข้าไปยุ่งเด็ดขาดถ้าไม่ได้รับอนุญาต
“ ค่ะคุณชายค่อยๆพูด กันนะคะ ไปสิเร็วๆ เดี๋ยวก็โดนหรอก ” ป้านิ่มบอกคุณชายคนเล็กอย่างห่วงๆมินตรา แล้วหันไปสั่งลูกน้องบรรดาเด็กรับใช้ทั้งหลายให้ออกไปจากบริเวณนั้นเมื่อภวิชเห็นว่าทุกคนออกไปจากพื้นที่แล้วเหลือแค่สาวเจ้ามารยา เขาจะคาดโทษและลงทัณฑ์ให้สาสมกับที่ทำให้หึงจนเป็นบ้า ฝ่ามือหนาที่กระชากแขนมินตราครั้งแรกถูกกระชากเข้าหาอกแกร่งอีกครั้งภวิชกำข้อมือเธอแน่นอีกมือก็สอดเข้าที่เอวกิ่วของเธอ แววตาดุดันเหมือนจ้องจะตะครุบเหยื่อไม่พูดอะไรสักคำจ้องหน้ามินตาที่ทำสีหน้าตกใจไม่น้อยแววตาสงสัยที่มองมายังเขา ภวิชไม่รู้เลยว่ามันเป็นความสงสัยของเธอจริงหรือ หรือมารยากันแน่
“ พะ พี่วิช พี่วิชเป็นอะไรค่ะ ” เธอถามเสียงอ่อนแววตาเริ่มรื้นคลอเต็มเบ้าตาด้วยความตกใจแล้วก็รู้สึกเจ็บแผลแล้วด้วย
“ ปั่นหัวฉันสนุกนักใช่ไหม ดีเลยงั้นฉันจะทำให้สนุกกว่านี้ ฟึ่บ ”
“ อะ อือ อือ พะ พี่ วิช อืม ” ริมฝีปากหยักหนาประกบปากร่างบางอย่างรุนแรงและเร่าร้อน...เขาโหยหาเธอ....อยากกอดอยากสัมผัสเธอความรุนแรงก็ยิ่งมากขึ้นรถจูบที่เริ่มได้กินคาวเลือดไม่ได้ทำให้ภวิชลดความเถื่อนลง เขากระชากเสื้อมินตราจนกระดุมขาดกระเด็นไป
“ ผลั๊ก พี่วิช ฮ่า อืม ยะ อย่าทำแบบนี้กับมิน บะ แบบนี้ ” มินตราผลักเขาออกเพราะความรุนแรงที่เขาจูบเธออย่างกับจะสูบเลือดสูบเนื้อ
“ อย่ามาทำไม่เคยไปหน่อยเลย เราทำอะไรๆกันมากกว่านี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้วจะมาหวงตัวกับฉันทำไม ” คำพูดคำจาไม่ได้แคร์เลยว่าคนฟังจะรู้สึกยังไง
“ นี่คุณเป็นอะไรของคุณ มาพูดจาดูถูกฉันแบบนี้ทำไม ” มินตรามองเขาด้วยความเจ็บปวดเขาเป็นบ้าอะไรของเขาสรรพนามเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์
“ ถ้าคุณอารมณ์ร้อนแบบนี้ฉันว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า ” เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
“ จะไปไหน! มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน กับผัวนี่เล่นตัวกับชู้นี่ร่าเริงใช่ไหม!หรือเห็นฉันโง่คิดอยากสวมเขาให้ ใส่สนตะพาย....ห้ะ ”
“ กรี้ส นี่คุณวิชปล่อยฉันนะ โอ้ยพูดอะไรของคุณ ” มินตราดิ้นรนจากการกอดรัดของเขา แถมยังทุบตีหลังของเขาตุ๊บตั๊บเมื่อชายหนุ่มหันมาแบกตัวเธอพาดไว้ที่บ่าแล้วเดินตรงกลับไปห้องนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“ ตุ๊บ... ” เมื่อถึงห้องนอนเขาก็กึ่งโยนกึ่งวางเธอลงบนเตียง
“ โอ้ย เจ็บนะ ” มินตราค่อยๆ ลุกนั่งอย่างอยากลำบากแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะ
ภวิชขึ้นคร่อมบนตัวของเธอ
“ ออกไปนะ ” มินตราเริ่มรู้สึกพะวงกับคนตรงหน้าท่าทางของเขาคุกคามไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
“ อย่าไล่ผัว! เพราะตอนนี้ผัวต้องการ....! ” เขามองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์และไม่รอช้าที่เขาจะจูบ...บดขยี้ริมฝีปากบางไม่ทะนุถนอมไม่แม้แต่จะออมแรง ไฟปรารถนาลุกโชกโชนขึ้นอีกครั้งเขารวบมือน้อยๆ ที่ทุบอกแกร่งของเขารวบมันขึ้นไว้เหนือศรีษะลิ้นช่ำชองกวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กหวานความรู้สึกวูบๆวาบๆกำลังจู่โจมมินตราด้วยรสเสน่หาของเขา
“ แคว้ก ”
“ อย่า คุณวิช อย่าทำกับฉัน อ่า แบบนี้ ” น้ำเสียงขาดห้วงพยายามพูดให้ได้ใจความ อารมณ์ปรารถณาที่เขาสร้างให้เธอทรมานเล่น
“ โอ้ย! ” มินตราร้องด้วยความเจ็บที่เขากดเขี้ยวฟันคมดั่งคมเล็บลงบนผิวของเธอมือลูบไล้สัมผัสไปทั่วเรือนร่างบอบบาง มินตราน้ำตาคลอที่เบ้าตาด้วยความกลัว เขาเป็นอะไรทำไมเขาต้องทำรุนแรงกับเธอแบบนี้
“ เคยบอกให้เรียกว่ายังไง หืม” เขากระเซ้าเย้าแหย่กระซิบข้างหูเธอเบาๆขบเม้มให้เธอเกิดอารมณ์ไปกับเขา
“ ได้โปรดอย่าทำกับมินแบบนี้ ฮือๆ ” เสียงสะอื้นของคนใต้ร่างที่ถูกเขาถอดปราการไปจนหมดสิ้นทำให้คนที่กำลังเพลิดเพลินกับดอกบัวสีชมพูหวานที่กำลังก่อตัวตั้งเต่งตูมรับสัมผัสสู้กับปากของเขาถึงกับฉุน
“ จะเก็บเอาไว้นอนแบ...ให้มันเอารึไง! กับผัวถึงห้ามนักหนาห๊ะมินตรา!! ไหนบอกมาสิกับฉันเนี่ยเธอรังเกียจนักหรือไงห๊ะ ตอบมา ” เขาเงยหน้ามองบีบหัวไหล่สองข้างของเธอเขย่าแรงๆ หน้าอกน้อยสั่นกระเพื้อมตามแรงของเขาภวิชที่ถอดเสื้อโยนทิ้งลงพื้นไปแล้วเหลือเพียงส่วนล่างเท่านั้นที่ยังสมบูรณ์ครบทุกอย่าง
“ ฮือๆๆๆคุณพูดเรื่องอะไรใครมีชู้ฮือๆ ใครกันฮือๆ ” เธอร้องไห้จนตัวโยน
" อยากปากแข็งนักใช่ไหม ได้เลยมิน...” เขาจัดการถอดเข็มขัดแล้วโยนมันอย่างไม่สนใจนักมินตรามองเขาอย่างผวาเมื่อรู้ทันทีว่าสิ่งที่จะตามมามันไม่ต่างจากการถูกข่มขืน
“ ฮือๆ ไม่นะ พี่วิช ”
“ หึ เรียกชื่อผัวแบบเดิมได้แล้วหรอ? ” เขายิ้มมุมปากแต่มันช่างเยือกเย็นซะเหลือเกิน
“ สายไปแล้วมิน ”
“ โอ็ย พะพี่วิชมินเจ็บ...อ่า.ฮือๆ ” มินตราผวาแทบขยับตัวหนีเมื่อมังกรที่ผงาดชูชันของเขาจ่อเข้ากับกลีบกุหลาบของเธอแล้วดันเข้าหาเธอจนลึกสุดแกนกายร่างกายที่ไม่มีการเล้าโลมเตรียมความพร้อมสำหรับรสสวาทมันย่อมสร้างความเจ็บปวดไม่ต่างจากเสียพรหมจรรย์ครั้งแรก ไม่มีการประโลมเล้าอารมณ์ให้เธอเคลิ้มไปกับเขาเช่นทุกครั้ง
“ อ่า ยังฟิตเหมือนเดิม อ่ามิน ” เขาทรมานจนปวดเกร็งไปทุกสัดส่วน
“ อะ พี่วิชฮือ หยุดเถอะนะ นะคะ ” มินตราอ้อนวอนแต่เสือหิวกระหายมีหรือจะฟัง เมื่อรุนแรงแต่เธอไม่มีอารมณ์ร่วมมันจะสนุกอะไร สู้ทำให้เธอหื่นกระหายเต็มใจไปกับเขาไม่ดีกว่าเหรอคิดดังนั้นภวิชก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างห้ามไม่ได้
มือหนาเอื้อมสัมผัสแก้มมินตราที่ร้องสะอื้นอยู่ใต้ร่างของเขาบางสิ่งที่มินตราได้รับรู้พฤติกรรมการกระทำของเขาที่อ่อนโยนแบบนี้อยากเก็บไว้นานๆเขาลูบแก้มของเธอบางเบาจุมพิตที่หางตาซับน้ำตาแทนผ้าเช็ดหน้าด้วยริมฝีปากพรหมจูบไปทั่วหน้าอย่างอ่อนโยนไม่ป่าเถื่อนเช่นเมื่อครู่
“ ไม่คิดถึงพี่บ้างเลยหรอมิน...หรือมีแต่พี่ที่คิดถึงมินฝ่ายเดียว ” มลายสิ้นแล้วความโกรธแววตาที่ภวิชมองมินตราที่วาดหวังผิดหวังน้อยใจหรือไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองกันแน่เขาจะรักเธอหรอ......เขาจะมีใจกับเธอหรอ...หรือเธอคิดไปเองข้างเดียวว่าได้เป็นคนพิเศษของเขา ภวิชจ้องมองลึกในดวงตาสีนิลที่จ้องมองเขาเขาเองก็อยากรู้คำตอบของมินตราแต่ได้เพียงเห็นแต่น้ำตาที่ไหลมาไม่ขาดสาย มือบางกล้าๆกลัวๆใช้มือขวาไม่เจ็บและยังมีสภาพปลอดภัยลูบที่แก้มเขาเบาๆ แล้วยกศรีษะขึ้นจูบ พร้อมหยดน้ำตาใสๆที่ภวิชไม่ได้สนใจตรงนั้นเขากำลังตะลึงกับสัมผัสของเธอ มินตรารู้ดีว่าหากเธอหลุดปากพูดอะไรไปในตอนนี้มันหมายถึงการทำสงครามของเขาและเธอ พายุอารมณ์ความปรารถณาแรงกล้าขึ้นมาจนยากจะดับเสียงครวญครางไม่ได้ศัพท์ของทั้งสองคนดังระงมทั้งคืนทั่วห้อง ด้วยหัวใจที่เรียกร้องต่อกัน พรุ่งนี้ฉัน ทุกอย่างอาจจะเป็นแค่ภาพฝันก็ได้ มินตราคิดในใจแล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา ซึมซับทุกอย่างในตัวตนของเขา