บิดาอาจอยากทดแทนที่เขาไม่ได้รับสิ่งใดๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก และโชคดีมากที่ธีรดนย์ยินดีรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว รู้สึกได้ตั้งแต่แรกว่าธีรดนย์ต้องการให้เขามาเป็นน้องชายจริงๆ
แม้อีกฝ่ายจะปากร้าย พร่ำบ่นสิ่งต่างๆ ให้น่ารำคาญบ้าง ธีธัสก็ไม่เคยโกรธ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างพี่ชายคนนี้ไปจนวันตายนั่นแหละ
เมื่อเด็กรับใช้สองคนยกกระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ไปเก็บไว้ในห้องแต่งตัว จัดเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบ ยกเว้นกระเป๋าเล็กที่เป็นของใช้ส่วนตัว ที่เขาบอกไม่ต้องเปิด
เมื่อเด็กรับใช้ทั้งสองออกจากห้องไปแล้ว เขาไม่ได้สนใจจะสำรวจห้องพักอื่นๆ แต่เดินไปยังระเบียงห้องนอน นั่งมองไปยังสวน บริเวณรอบบ้านกว้างขวาง ต้นไม้ร่มครึ้มราวกับสวนสาธารณะ มันไม่คุ้นเอาเสียเลย
เพราะตอนอยู่กรุงเทพฯ กับที่เมืองนอกก็อยู่ในตึกสูง มีแค่สวนหย่อม คนเดินเล่นและวิ่งออกกำลังกายไปมา
เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าอยู่ที่นี่ตัวเองจะไม่เหงาตาย หรือไม่ก็เป็นโรคซึมเศร้ากับบรรยากาศเสียก่อน แต่เอาเถอะ นี่เพิ่งวันแรก บางทีอาจมีอะไรบางอย่างรออยู่ข้างหน้า ที่จะทำให้เขารู้สึกว่าที่นี่น่าอยู่จนไม่อยากไปไหน
แต่อะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ เขาก็อยากจัดการให้เรียบร้อย เพื่อปลดล็อกหัวใจตนเอง เพราะเขาก็อยากจะมีความสุขกับชีวิตเหมือนคนทั่วๆ ไป
เพราะเชื่อว่าผู้หญิงบนโลกนี้ คงไม่ได้เห็นแก่เงินไปเสียทุกคน เพียงแต่เขายังไม่มีโอกาสเจอก็เท่านั้น ส่วนผู้หญิงที่ไม่เห็นแก่เงิน แต่ชอบเขาจริงๆ เขาก็ดันไม่ได้มีความรู้สึกอื่นด้วย นอกจากเซ็กซ์ที่ตอบสนองกันตามธรรมชาติ อย่างเช่นพิราลัย ผู้หญิงที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา รูปร่าง และฐานะ
ใจคนเราก็บางครั้งก็น่าขัดใจ มันควบคุมไม่ได้จริงๆ และใจเขาก็อยากเป็นอิสระจากเรื่องรักครั้งเก่า
เขาต้องไปดูให้เห็น ว่าผู้หญิงอย่างดาริณ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรค่าจะรักอีกต่อไป
ในตอนที่ธีธัสเดินมาเกือบถึงคาเฟ่นั้นเป็นเวลาสี่โมงเย็น ตอนแรกคิดจะออกมาในตอนมากินมื้อเย็นเลย แต่คิดได้ว่าจะต้องเอาของเล่นที่ธีรดนย์ฝากมาให้ ‘น้องดรีม’ อะไรนั่น เขาก็เลยออกมาก่อน แต่จอดรถไว้ที่ลานจอดของร้านอาหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคาเฟ่ เขาจึงเดินมา ผ่านสนามเด็กเล่น ในมือก็ถือของฝากสองกล่องที่อยู่ในถุง
กำลังเดินเพลินๆ อะไรบางอย่างก็กระแทกเข้ามาที่ต้นขา ไม่เจ็บ แต่ก็ตกใจมากกว่า
หันไปมองสิ่งที่เป็นต้นเหตุ ก็คือลูกบอลเด็ก กลิ้งไปตกข้างทางแล้ว เพียงครู่เดียวเท่านั้นเด็กชายตัวป้อมคนหนึ่งก็วิ่งมาตรงหน้า ใบหน้าเล็กๆ นั้น มีแววหวาดหวั่น อาจเพราะเขาจ้องมองอีกฝ่ายอย่าง...บอกไม่ถูก
ใบหน้าของเจ้าเด็กคนนี้มันคุ้นๆ ชอบกล
“ขอโทษคับ” เจ้าตัวยกมือไหว้ แล้ววิ่งไปเก็บบอล ทำท่าจะวิ่งกลับเข้าไปในสนาม แต่เสียงห้าวดุของเขาดังขึ้นเสียก่อน
“หยุดก่อน!”
ร่างป้อมนั้นชะงักทันที เขาไม่รู้เช่นกันว่าทำไมถึงอยากให้เด็กชายยืนอยู่ตรงหน้า รู้เพียงแค่...อยากเห็นหน้าชัดๆ อีกครั้ง
แต่ใบหน้าที่หันกลับมามองนั้น มีสีหน้ายุ่งๆ เหมือนสงสัยว่าเรียกไว้ทำไม
“ไม่ถามกันหน่อยเหรอว่าฉันเจ็บหรือเปล่า” เขาพูดออกไปแบบนั้น เพียงเพื่อจะดึงเด็กชายไว้นานๆ เพราะอยากพินิจใบหน้าที่รู้สึกว่าคุ้นๆ นั้นนานๆ
“เจ็บหรือเปล่าคับ” เจ้าตัวถามกลับอย่างที่ถูกท้วงติง
“เจ็บ ตรงขานี่แหละ” เขาแกล้งว่า แต่ร่างป้อมนั้นก็วิ่งมาใกล้เขา แล้วเอามือป้อมๆ ข้างที่ว่างจากถือลูกบอลมาจับที่ขาของเขา
“ตรงนี้หรือเปล่าคับ”
“อือ...” ธีธัสขานรับ
และอย่างเหลือเชื่อ เจ้าตัวเล็กก้มลงเป่าขาของธีธัส
“หายไวๆ นะคับ” แล้วจากนั้นก็วิ่งตื๊อไปต่อหน้าต่อตา แล้วก็เตะฟุตบอลไปมาอยู่คนเดียว ขณะเด็กอื่นๆ เล่นของเล่นในสนาม
คิดว่าเด็กชายคงเป็นลูกหลานของแขกที่มาพักในรีสอร์ต แต่ก็สงสัย เมื่อครู่ที่เจ้าตัวมาเก็บลูกบอลเอง ไม่เห็นมีผู้ใหญ่คนไหนเดินมาด้วย หรืออย่างน้อยก็ควรมาขอโทษเขา ที่เด็กเตะบอลมาโดน
ลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมปล่อยลูกมาเล่นสนามเด็กเล่นคนเดียว ถึงจะเป็นสนามเด็กเล่นของรีสอร์ต ซึ่งเป็นพื้นที่ภายใน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่น โดยที่ไม่มีผู้ปกครองมาดูแล
ชายหนุ่มครุ่นคิด กระทั่งเดินมาถึงคาเฟ่ ข่มใจอยู่ชั่วครู่ เพราะที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่งภายในรีสอร์ต ที่เขาพาดาริณมานั่งกินของว่าง และถ่ายรูปเล่นกัน
ตัวร้านที่เป็นเรือนชั้นเดียว กระจกรอบล้อมยังเหมือนเดิม แต่ภายนอกบริเวณ ก็มีจัดแต่งสวนใหม่
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้าน ตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานยืนอยู่ วางของฝากไว้บนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง เอ่ยเพียงสั้นๆ
“คุณดนย์ฝากของนี้ไว้ให้น้องดรีมครับ” พูดจบเขาก็เดินออกจากร้านไปทันที เพราะหมดหน้าที่ของเขาแล้ว ที่สำคัญเขาไม่อยากอยู่ในสถานที่ ที่เป็นหนึ่งในความทรงจำของเขากับ
ดาริณนานๆเพราะดาริณชอบที่นี่มาก ยังเคยเปรยว่า ถ้าวันหนึ่งมีเงินมากพอ อยากมีคาเฟ่เป็นของตัวเอง จะตกแต่งให้สวยงามเหมือนที่นี่
ป่านนี้คงทำตามสิ่งที่ต้องการได้แล้วมั้ง ในเมื่อแต่งงานกับคนที่มีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว!
ธีธัสเดินผ่านสนามเด็กเล่นอีกครั้ง มองหาร่างป้อมของเด็กชาย แต่ไม่เจอเสียแล้ว เขาจึงเดินกลับไปยังร้านอาหาร แต่ยังไม่รู้สึกหิว จึงตัดสินใจขับรถไปยังอำเภอบ้านเกิดของดาริณ
เพราะในเมื่ออยู่ใกล้แค่นี้ และมันคงรบกวนจิตใจเขาจนไม่มีสมาธิทำงาน หากไม่ปลดล็อกหัวใจตัวเองในเรื่องนี้
:::::::::::::::::::::::
ตอนพิเศษ : ครอบครัวของเรา สี่ปีต่อมา...“พ่อจ๋า หนูจะเตะบอลกับพี่ดรีม” เด็กหญิงดาริธัส ที่เพิ่งอายุครบสามขวบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบอกผู้เป็นพ่อ ขณะเดินเล่นในสวนด้วยกัน ส่วนพี่ชายวัยเก้าขวบกว่านั้นกำลังเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานวันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกทั้งสองเรียนเปียโนในช่วงสายถึงเที่ยง ตอนบ่ายเลยได้เล่นสนุกกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งลูกชายคนโตนั้นได้ชวนเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนมาเตะบอลด้วยกันที่สนามหญ้าข้างบ้าน โดยมีน้องสาวคนเดียวนั่งเชียร์อยู่ริมสนามกับผู้เป็นพ่อ พอเห็นพี่เล่นกันสนุกสนาน เจ้าตัวก็นึกอยากเล่นบ้าง“ไม่ได้หรอกลูก พี่ๆ จะชนหนูล้ม หรือไม่บอลจะโดนหนูแรงๆ ไว้ให้พี่เขาเล่นกับเพื่อนๆ เสร็จแล้ว หนูค่อยเล่นกับพ่อนะ”ตัวเล็กทำหน้าผิดหวัง แต่ก็พยักหน้ารับ ธีธัสหอมแก้มยุ้ยที่แดงปลั่งนั้นด้วยความเอ็นดูลูกสาวของเขาหน้าตาถอดแบบมาจากคุณแม่ราวกับแฝด รวมทั้งผิวพรรณขาวเนียน ใบหน้าเล็กๆ กับผมสองจุกยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเหมือนตุ๊กตา โดยเฉพาะดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วตอนนี้เด็กหญิงดาริธัส เรียนอยู่อนุบาลหนึ่ง ชอบไปโรงเรียนมาก เพราะชอบเล่นกับเพื่อนๆเมื่อเด็กผู้ชายเลิกเล่นฟุตบอล และพากันไปกินของ
แล้วเขาก็เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ท่าวูแมนออนท็อป ดาริณขย่มลงบนท่อนเนื้อเขาอย่างเร่าร้อน ขณะที่มือใหญ่ก็เคล้นคลึงทรวงอวบที่เด้งขึ้นลงตามจังหวะขย่มของเธอผมยาวของเธอสะบัดไปมา ใบหน้าบิดเบ้ ปากครางเสียงดังลั่น ร้องเรียกชื่อผู้เป็นสามีไม่หยุดธีธัสชอบดาริณในทุกอย่างที่เป็นเธอ ยามปกติเธอก็น่ารัก อ่อนหวาน ยามรักก็ร้อนแรงและไม่มีเหนียมอาย ทั้งการกระทำและคำพูดปลุกเร้าเขาได้อย่างดี ดาริณไม่เคยบ่นกับบทรักของเขาที่บางครั้งก็อ่อนโยน บางเวลาก็ร้อนแรงถึงขั้นดิบเถื่อน แต่แน่นอนไม่ถึงขั้นเจ็บหรือมีบาดแผล นอกจากร่องรอยของสัมผัสที่มีอยู่บนร่างกายบทสุดท้ายก่อนถึงปลายทาง ธีธัสอุ้มร่างกลมกลึงไปวางบนโต๊ะมุมห้อง จับขาชันเป็นรูปตัวเอ็ม ก้มลงดูดกลีบอวบอูมอีกครั้ง เพื่อให้เธอเร่าร้อนจนแทบคลั่ง ก่อนสอดแท่งร้อนเข้าหา กระแทกสะโพกใส่อย่างดิบเถื่อน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังต่อเนื่อง ประสานกับเสียงครวญครางหวานหวิวและเสียงคำรามแหบพร่าของธีธัส กระทั่งเสร็จสมในเวลาเกือบพร้อมๆ กันจากนั้นเขาก็อุ้มเธอไปวางบนเตียง กอดคลอเคลียพร่ำคำรักอย่างอ่อนโยน กระทั่งหลับใหลไปด้วยกันทั้งคู่สามเดือนต่อมาคำว่าสวยงามเหมือน
“คุณแพม เธอสวยและเซ็กซี่จังนะคะ” เธอพูดในสิ่งที่ยังค้างคาใจ“กำลังรอให้ดาถามเรื่องเขาอยู่เหมือนกันนะ”“ถ้าพี่อยากเล่าอะไรเกี่ยวกับเขาก็เล่าได้ค่ะ ดาพร้อมฟัง”“หึงหรือเปล่าเนี่ย”“ไม่ค่ะ แต่หวงนิดหน่อย”“นิดหน่อยแน่นะ”“ไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะแวบหนึ่งดาก็คิดอยากให้พี่ธีกลับไปเป็นธีธัส ศิวารักษ์เหมือนเดิม เผื่อว่าพี่จะได้ดูด้อยกว่าคุณแพมในเรื่องฐานะ ส่วนหน้าตาก็รู้อยู่ พี่ธีเบ้าหน้าฟ้าประทาน”“อวยผัวตัวเองเกินไปแล้วนะ แต่ฟังแล้วรู้สึกดีกว่าคนอื่นๆ พูด ส่วนเรื่องคุณแพมไม่มีอะไร ก่อนหน้านั้นเขาก็ติดต่อพี่ตามปกติ กระทั่งครั้งล่าสุด พี่ปฏิเสธจะเจอเขา ให้เหตุผลไปแล้วเรื่องดากับลูก เขาก็ยอมรับ แต่ครั้งนี้ที่มาเจอกัน เพราะเขาอยากเจอพี่ครั้งสุดท้าย อยากเห็นดากับลูกเท่านั้นแหละ”“ท่าทางเขาคงชอบพี่มาก”“ก็น่าจะชอบปกติ และไม่ต้องกังวลเรื่องคุณแพมหรอก ไม่ว่าเขาจะชอบพี่มากหรือน้อย แต่เขาก็มีศักดิ์ศรีที่จะไม่ยุ่งกับคนมีครอบครัว ไว้ใจได้”“ฟังพี่ธีพูดแบบนี้แล้ว ดาไม่คิดมากแล้วค่ะ”“แสดงว่าก่อนหน้านี้คิด”“นิดหนึ่ง” แล้วดาริณก็หัวเราะกลบเกลื่อนที่เขารู้ทัน“เมื่อก่อนดาริณคนนี้มั่นใจในตัวพี่มาตลอดนะ ว่าพี่
เมื่อคิดถึงว่าพวกเขาเคยมีเซ็กซ์ที่เร่าร้อนต่อกันมากแค่ไหน สิ่งที่เขากับเธอ ธีธัสจะเคยทำกับผู้หญิงเหล่านั้นบ้างไหม แม้บางอย่างธีธัสบอกว่าทำกับเธอเพียงคนเดียว แต่เมื่อคิดว่าพวกเขากอดตรงนั้น จูบตรงนี้ พอคิดแล้วก็แปลบๆ ดี แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะเธอทิ้งเขาก่อน ความรู้สึกของเธอตอนนี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ก็แล้วกันจากนั้นดาริณก็สูดลมหายใจลึกๆ ปลุกปลอบใจตัวเอง“ดา น้องดรีม มาด้วยรูปด้วยกันที่สระว่ายน้ำเถอะ” ธีรดนย์ร้องเรียก พร้อมกวักมือเรียก ขณะนั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำบ้านพักตากอากาศของตระกูลอรุณกรนั้น ธีธัสบอกกับดาริณว่า ผู้ที่รับมรดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คือธีรดนย์ ส่วนธีธัสได้กรรมสิทธิ์เป็นเพนส์เฮ้าส์ตากอากาศที่หัวหิน ซึ่งเขาบอกเธอว่ายังไม่เคยมีโอกาสได้ไปพักผ่อน มีแต่ธีรดนย์ที่ใช้ที่นั่นบ่อยครั้งที่หัวหินนั้นก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำระหว่างเธอกับเขาสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพราะเขาเคยพาเธอไปเที่ยวหลายครั้ง พอเลิกกันแล้วก็ไม่อยากไปเที่ยวที่นั่นอีกแต่ในเมื่อคืนดีกันแล้ว เขาก็อยากพาเธอกับลูกไปพักผ่อนที่นั่น แต่ครั้งนี้เลือกมาที่ภูเก็ต เพราะเธอยังไม่เคยมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่นั่นเอง บ
บทส่งท้าย : เป็นความรักเสมอมาริมชายหาด หน้าบ้านพักตากอากาศอรุณกรในจังหวัดภูเก็ต เด็กชายธีรดาเล่นปั้นดินปั้นทรายอยู่กับธีรดนย์อย่างเพลิดเพลิน ในขณะที่พ่อกับแม่ของเด็กชายนั้นกำลังถ่ายรูป“หอมแก้มกันหน่อย” อติรุจบอกคู่รักที่กำลังโอบกอดกันอยู่ริมชายหาด ขณะที่ตัวเขาเองกำลังทำหน้าที่ช่างภาพจำเป็น ด้วยการถือกล้อง DSLR ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงธีธัสสนองต่อการเรียกร้องของเพื่อนรักด้วยการหอมแก้มภรรยา แถมจูบให้อีกหนึ่งฟอดใหญ่“พอๆ ให้หอมเฉยๆ ไม่ได้ให้จูบ” อติรุจแซว แต่ก็กดชัตเตอร์รัวๆกระทั่งเด็กชายธีรดาที่เนื้อตัวเปื้อนทรายวิ่งมาหา“ดรีมอยากถ่ายรูปคับ”“มาสิลูก” ธีธัสอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน จากนั้นภาพสามคนพ่อแม่ลูกก็ดูเหมือนจะมีมากกว่าภาพคู่ของธีธัสกับดาริณเสียอีก รวมทั้งภาพที่เล่นน้ำทะเลกันด้วย ธีรดนย์เข้ามาแจม ด้วยการแกล้งน้องชาย แทรกกลางระหว่างระหว่างธีธัสกับดาริณ“อะไรของพี่ ผัวเมียเขาจะถ่ายรูปกัน” ธีธัสว่า“อะไรของแก พี่ชายจะถ่ายรูปกับน้องสะใภ้และหลานชายบ้างไง” ธีรดนย์ผลักธีธัสออกจากเฟรม แล้วอุ้มเด็กชายธีรดาไว้ แล้วร้องบอกช่างภาพ“ถ่ายพี่หล่อๆ นะ”“ครับผม” แล้วอติรุจก็กดชัตเตอร์รัวๆ จนธีรดนย์พ
“โสดค่ะ เพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่นานนี่เอง”“งั้นเราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหมคะพี่ดา”“ถ้าว่างก็แวะไปเที่ยวที่อรุณกรรีสอร์ตสิ คุณธีเป็นเจ้าของที่นั่น และพี่ก็ช่วยงานในคาเฟ่ของรีสอร์ต”“อรุณกรรีสอร์ตเหรอคะ!” เพราะนั่นคือรีสอร์ตหรู ราคาห้องพักค่อนข้างแพง เธอก็ได้แต่เล็งๆ ไว้ว่ามีแฟนก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นพาไปพักผ่อนที่นั่นบ้าง เพราะอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก“ใช่ค่ะ ว่างก็ไปเที่ยวนะคะ ขอตัวก่อน ได้เวลากินของว่างน้องดรีมแล้ว” จากนั้นดาริณก็หยิบชุดว่ายน้ำ ที่เล็งไว้สามสี่ชุด รวมทั้งเสื้อผ้าสำหรับเดินเล่นชายหาดอีกหลายชุด แล้วเดินไปจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตที่ธีธัสให้ไว้อย่างเชิดๆ ทำให้น้ำรินมองด้วยสายตาริษยาอย่างปิดไม่มิดอยากมีชีวิตดีๆ แบบนี้บ้าง อยากมีผัวรวยๆ นั่นคือเป้าหมายในชีวิตของน้ำริน ส่วนดาริณนั้น เธอมั่นใจว่าข่าวซุบซิบเรื่องเธอกับลูกชายคงต้องเป็นข่าวที่อัปเดตใหม่เร็วๆ นี้แล้วในตอนเย็นเมื่อธีธัสเลิกงานดาริณก็เล่าเรื่องที่เจอน้ำรินให้อีกฝ่ายฟัง“ก็หวังว่าเขาจะได้เรื่องใหม่ไปซุบซิบน่ะ” ดาริณบอกจุดประสงค์ในการบอกเล่าเรื่องราวของตนเองให้น้ำรินรู้“พวกเขาจะนินทาว่าดาท้องแล้วจับผู้ชายคนนั้นน่ะสิ