‘อึก! ระ…แรงเกินไป’
‘เธอได้เงิน ฉันได้เล่นสนุกกับร่างกายของเธอ ไม่มีใครเสียเปรียบหรือว่าได้เปรียบ’ เธอไม่เคยลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น สัมผัส คำพูดที่ชวนหลอกล่อให้เกิดอารมณ์ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีใช่ย่อยแถมยังมีเสน่ห์เหลือล้น ภายนอกดูเหมือนผู้ชายอบอุ่นหากแต่ในความเป็นจริง…ดูอันตรายไม่ใช่น้อย คืนนั้นแค่ไปดื่มเป็นเพื่อนที่ห้องกับเขาสองต่อสอง ก่อนจะดีลทุกอย่างผู้ชายคนนั้นรับได้ทุกข้อเสนอ สุดท้ายดันมาขอมีเซ็กซ์ด้วย ตอนนั้นปฏิเสธเสียงแข็งแล้วยังเกือบทำเรื่องไม่คาดฝันกับเขาแล้วด้วย ‘อยากได้เท่าไร’ ใช่… เพราะประโยคนั้นประโยคเดียวเลย บวกกับนาทีนั้นกำลังหาเงินเพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ เลยยอมมีเซ็กซ์กับเขาเพื่อแลกกับ ‘เงิน’ เพราะเขารวยและยินดีที่จะจ่าย เธอเลยยอมให้ในสิ่งที่เขาต้องการอย่างเต็มใจ “สรุปแล้วคืนนั้นแกกับเขาคุณคนรวยคนนั้นยังไง?” “แค่ดื่มกัน” เธอตอบกลับ เอแคลร์ เพื่อนสนิทในที่ทำงานที่เป็นสาวประเภทสอง เป็นสาวประเภทสองที่เหมือนผู้หญิงมาก สวยจนคนแยกคิดว่าเป็นผู้หญิง “หราาา” เคแคลร์เบะปาก “มองจากดาวอังคารก็รู้แล้วว่ามันจบยังไง” “แกอย่าบอกใครได้ไหม” เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ เรื่องคืนนั้นมันจบลงไปแล้ว และอยากให้มันจบลงแค่นั้นพอ ไม่อยากให้มีใครเอามาพูดถึงเพื่อตอกย้ำในสิ่งที่เธอทำลงไป เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่เอาร่างกายเข้าแลกเงินอย่างเด็ดขาด แต่ดันพลาดท่ากลืนน้ำลายตัวเอง “ฉันไม่บอกใครหรอก แต่ถามได้ไหม ทำไมจู่ๆแกถึงยอมนอนกับเขา” “ฉันต้องการเงิน” “เห็นแกทำงานหนักมาทั้งเดือนยังไม่ได้พัก พักผ่อนบ้างนะอันดา เป็นห่วง” “ขอบใจนะเอแคลร์ แต่ฉันยังไหว” เธอพูดแล้วเผยยิ้มให้เอแคลร์สบายใจ “แกน่ะชอบยิ้มเหมือนยังไหว ทั้งที่ในความเป็นจริงแกกำลังไม่ไหว” “ตอนนี้ฉันยังไหวจริงๆ” “ไหวก็ไหว แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยหรือไม่ไหวแล้วก็หยุดพักด้วยละ” อันดาพยักหน้าให้เอแคลร์ด้วยรอยยิ้ม ครืด ครืด เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนขาสั้นหลังจากมันส่งเสียงแผดร้องดังและสั่นขึ้นมา มองเบอร์ของปลายสายแล้วกดรับอย่างไม่ลังเล “คะพี่แซมมี่” (คืนนี้ว่างไหมคนสวย) “ว่างค่ะพี่แซมมี่” (ดีเลย… คืองี้นะ อันดาจำลูกค้าvipคนนั้นได้ไหม ที่อันดารับงานไปดื่มกับเขาที่ห้องสองคน) “…ค่ะ จำได้” เธอเงียบไปสักพักกว่าจะขยับริมฝีปากตอบพี่แซมมี่ (เขาอยากให้อันดาไปดื่มด้วยคืนนี้ อันดาโอเคไหมจ๊ะ) เธอเงียบ ครั้งนี้เงียบนานมากด้วย เคยคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงแค่คืนนั้นและคงไม่เจอเขาอีก ผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์เต็ม ไม่คิดว่าโลกจะหมุนให้เธอและเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง (อันดา ยู้ฮู้~ ยังอยู่ไหม) “ยะ…อยู่ค่ะพี่แซมมี่” (จะรับไหม?) “เอ่อ… ไม่ดีกว่าค่ะ” (จริงจัง? พี่ให้โอกาสเราคิดอีกรอบ) “ไม่ค่ะ” เธอยืนยันคำตอบเดิม (เขาบอกว่ายินดีจ่ายค่าตัวให้อันดามากกว่าวันนั้นเลยนะ ถ้าอันดาตกลงไปดื่มกับเขา) อาจจะไม่จบลงแค่การดื่มน่ะสิ… ถามว่าอยากได้เงินไหม? ใครบ้างไม่อยากได้เงิน เธอฝืนตัวเองไม่ตกลงรับงานนี้ กลัวมันไม่จบแค่การดื่มเหมือนคืนนั้น อีกอย่างไม่อยากไปเจอเขา อยากลืมเรื่องคืนนั้น อยากเอามันออกจากหัว ไม่อยากจดจำ “พี่แซมมี่หาคนอื่นไปแทนอันดานะคะ” (ก็ได้ๆ พี่ไม่บังคับ เดี๋ยวพี่หาคนไปแทนอันดาเอง) “ขอบคุณพี่แซมมี่ที่เข้าใจอันดานะคะ” (ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง งั้นแค่นี้นะ) “ค่ะ” เธอวางสายจากพี่แซมมี่ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเหมือนเดิม “มองอะไรหืมเอแคลร์” “ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะรีบโกย” “ฉันก็อยากโกยนะ แต่ไม่อยากเจอเขาอีก” “เป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยคุณรามิลหลุดมือไปง่ายๆ ถ้าเขาถูกใจใคร ผู้หญิงคนนั้นโคตรโชคดีเลยละ แกพลาดแล้วอันดา” รามิลเป็นผู้ชายที่ใครหลายคนหมายปอง หากเขาได้สนใจใครแล้วแปลว่าคนนั้นโชคดีมาก น่าเสียดายที่อันดาดันปล่อยโอกาสทองหลุดมือ เธอฟังเอแคลร์พูดเงียบๆ คงพลาดแล้วจริงๆนั่นแหละ อยากคว้าโอกาสนี้ไว้อยู่เหมือนกัน แต่เธอบอกกับตัวเองแล้วว่าจะไม่เจอเขาอีก ให้มันจบที่คืนนั้น…หลายวันต่อมา ปึก! ปึก! ปึก! “อะ อ๊ะ~”รามิลเริ่มเคลื่อนไหวส่วนล่างไปมาอย่างด้วยจังหวะเนิบนาบ สายตาคมเข้มมองเรือนร่างขาวผุดผ่องของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล หน้าท้องแบนราบตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อยเพราะมีอีกหนึ่งชีวิตกำลังลืมตาออกมาดูโลก“อึก! อ๊ะ อ๊ะ~” เธอเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย ในระหว่างที่รามิลกระแทกท่อนเอ็นแข็งขึงเข้ามาเขาโน้มตัวลงไปจูบอันดาอย่างอ่อนโยน เธอยกแขนมาคล้องคอเอาไว้หลวมๆ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคงตอกอัดใส่โพรงถ้ำอย่างหนักหน่วง ภายในตอดรัดแท่งเอ็นจนรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย กลิ่นตัวอันดาหอมเย้ายวนจนเขาอดที่จะสูดดมเข้ามาในปอดไม่ได้“อืมม ตอดดีจังเลยนะ” เขาทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน สีหน้าทรมานของอันดาตอนนี้ยังกระตุ้นอารมณ์กระสันในกายให้เพิ่มมากขึ้นได้ไม่ยาก“อ๊ะ…อ๊า~” แท่งเอ็นของเขามันเคลื่อนเข้ามาลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าส่วนหัวมันแทบจะชนผนังด้านในอยู่แล้ว “อ่า…”“อึก! มัน…มันแรงเกินไป เบาๆ หน่อยได้ไหม…” กระแสเสียวซ่านวิ่งปราดไปทั่วร่างกายจนนอนบิดเร่าร่างกายไปมาด้วยความทรมาน แรงกระแทกหนักหน่วงจากเขาทำให้เธอแทบหยุดหายใจเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอน คนตัวเล็กค
ก๊อก ก๊อก“ใคร” “ผมเองครับ แม็ค”“เข้ามา”‘แม็ค’ คนของราเชนทร์เปิดประตูเข้ามา หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้านาย เดินมาหยุดอยู่หน้าเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งยกขาไขว่ห้างสูบบุหรี่ รามิลอัดบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นควันสีขาวเจือเทาออกมาอย่างใจเย็นการมาของแม็คทำให้เขารู้สึกดีใจ เพราะแม็คคือลูกน้องคนสนิทของพ่อ เขาขอให้พ่อช่วยตามหาคนที่ขับรถชนป้าของอันดา คนของพ่อทำงานเร็วมาก ใช้เวลาแค่สามวันก็สามารถรู้ตัวคนทำแล้ว“รู้ตัวคนทำแล้วครับคุณรามิล”“มันเป็นใคร”“จริงๆคนที่ขับรถชนถูกสั่งมาอีกทีครับ ผมสืบสาวจนรู้ว่าคนสั่งการคือคุณควีน”“ควีน?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับย้ำชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง “ครับ คุณควีนคือคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เขาอึ้งและช็อกในเวลาเดียวกัน หลังจากรู้ว่าควีนคือคนอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของกุล คาดไม่ถึงว่าจะเป็นควีน จิตใจทำด้วยอะไรถึงโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จ้างคนให้ขับรถชนกุล ป้าแท้ๆของอันดาแบบนี้เรียกตั้งใจฆ่าให้ตายแล้ว“ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาให้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณรามิลและคุณอันดา ว่าจะทำยังไงต่อไปครับ”ครอบครัวควีนมีอิทธิพลและมีหน้ามีตาทางสังคมพอสมควร พ่อของควีนค
หลายวันต่อมาพายุที่โหมกระหน่ำมานานกลายเป็นความสงบสุขในเวลาต่อมา รามิลให้สัญญาว่าจะดูแลอันดาและลูกน้อยเป็นอย่างดีใช่แล้ว…ตอนนี้ทั้งคู่กำลังได้รับบทบาทใหม่แสนท้าทาย นั่นคือการเป็นคุณพ่อและคุณแม่ป้ายแดง รามิลดีใจจนร้องไห้หลังจากรู้ว่ากำลังเลื่อนขั้นเป็น ‘คุณพ่อ’ในตอนแรกอันดานึกภาพไม่ออกถ้าเกิดตัวเองมีลูกขึ้นมาจริงๆ ทว่าหลังจากผลออกมาว่ากำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ อึ้ง ต่อมาตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเคยกังวลอะไรหลายอย่าง หลังจากกลับมาเชื่อใจรามิลอีกครั้งไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไป รามิลเป็นคนเข้าไปสารภาพกับแม่อันดาเรื่องนี้ด้วยตัวเองอ้อมเข้าใจและไม่ถือโทษโกรธ ตรงกันข้ามดีใจด้วยซ้ำที่จะได้อุ้มหลานคนแรก ส่วนครอบครัวรามิลไม่มีปัญหาอะไร ดีใจและเตรียมของรับขวัญหลานไว้รอแล้วหลานคนแรกของตระกูลภูริธนากุล ว่าที่คุณปู่และคุณย่าเล่นใหญ่รัชดาลัยแน่นอนครืด ครืดเธอคว้าโทรศัพท์มาแล้วกดรับสายแม่ที่โทรมาหา“คะแม่”(อัน ป้ากุลโดนรถชน อาการสาหัสมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล)“อะ…อะไรนะ ป้ากุลโดนรถชน?” ใจเธอหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงจะโกรธกับสิ่งที่ป้ากุลทำไว้ในอดีต แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับป้
“คุณกำลังทำอะไร”“ทำงาน”“ทำงานแล้วทำไมถึงมีไวน์ด้วย”“เพิ่งสั่งมาเมื่อกี้”“คุณไปดื่มไกลๆได้ไหม” เธอบอกเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ ไม่ว่ารามิลทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจเลยสักอย่าง แถมช่วงนี้ยังรู้สึกคลื่นไส้บ่อยๆ กินเยอะผิดปกติ แถมยังอ่อนเพลียง่าย บางครั้งเธอก็เผลอนึกย้อนกลับไปในคำพูดของรามิลตอนนั้น‘แพ้ท้องเหรอ’ถึงรามิลเคยบอกว่าอยากมีลูกกับเธอ ทว่ามันก็แอบกังวลไม่ได้อยู่ดีถ้าเกิดว่าท้องขึ้นมาจริงๆ “ทำไม”“ฉันไม่ชอบ”คุณหมอหนุ่มมองไวน์ราคาแพง ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไม่ชอบที่ฉันดื่มไวน์?”“ไม่ชอบทั้งที่คุณดื่มไวน์และกลิ่นของมัน”“กลิ่นก็ไม่ได้แย่นะ ออกจะหอม”“ก็ฉันไม่ชอบ มันเหม็น ถ้าคุณอยากดื่มก็ไปดื่มที่อื่น”เขามองอันดาสลับกับไวน์ที่วางอยู่ตรงหน้า แบบนี้เริ่มไม่ใช่ละ อาการของอันดานับวันยิ่งเหมือนคนแพ้ท้อง เขาเป็นหมอทำไมจะดูไม่ออก ถึงไม่ได้จับตรวจโดยตรง แต่อาการของอันดามันฟ้องทุกอย่าง“พรุ่งนี้กลับกรุงเทพกัน”“ฉันยังไม่อยากกลับ”เขาดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาอันดา“เธอรู้ไหมว่าอาการของเธอนับวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา“อื้อ~” หญิงสาวนอนส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวเข้าหาไออุ่นจากคนข้างกาย ใบหน้าสวยหวานซุกลงแผงอกอุ่นคุ้ยเคย ก่อนจะเริ่มลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก และเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นนี้รามิลนอนกอดเธอทั้งคืน…เมื่อคืนหลังไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมานอนเล่นโทรศัพท์อยู่โซฟา รู้สึกง่วงเลยงีบไปสักพัก ทว่าไม่คิดว่าตัวเองจะหลับจริง ตื่นขึ้นมาอีกทีช่วงเที่ยงคืนเพราะหิวน้ำ ตอนนั้นรามิลกำลังนั่งทำงานอยู่มุมหนึ่งของห้อง กลับมานอนต่อก็หลับไปเลยทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเหนื่อยมาจากไหน เธอหลับตาแล้วนอนต่อในอ้อมกอดของรามิล ชอบเวลาได้นอนในอ้อมกอดอุ่นๆนี้•••คุณหมอหนุ่มตื่นจากการนอนหลับในช่วงเก้าโมงเช้า อ้อมกอดที่ว่างเปล่าทำให้รามิลลืมตาพรึ่บทันที ดีดตัวเองขึ้นมานั่งแล้วมองหาอันดา เธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนี้แล้ว…เขาดึงผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง“ไปไหนอีกวะ!” เขาพูดคนเดียวอย่างกระวนกระวาย กำลังก้าวขาเดินออกไปก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงดังอ้วกอ้ากออกมาจากห้องน้ำเขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เห็นอันดากำลังลุกขึ้นจากชักโครก ก่อนจะกดชักโครกแล้วหันมามองเขา เธอเดิน
เธอยืนกอดอกมองออกไปนอกทะเลตรงหน้าด้วยความคิดมากมาย ปล่อยสายลมเย็นพัดผ่าน พากลิ่นอายของน้ำทะเลลอยมาเตะจมูก เสียงเกลียวคลื่นดังระงมไปทั่วชายหาด มองคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาชายฝั่งแล้วไหลย้อนกลับ เฉกเช่นเดียวกับความรู้สึกของเธอตอนนี้ ครั้นจะเดินออกไปก็ไม่กล้าพอ ทำได้แค่วนเวียนอยู่แบบนี้เพราะไม่สามารถไปไหนไม่ได้เธอมาที่นี่เพราะตั้งใจหนีหน้ารามิล อยากอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนตัวเองอีกครั้งมาได้แค่ตัว ส่วนหัวใจยังอยู่กับเขา…เธอหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปข้างในวิลล่าของครอบครัวคิระ หากแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาพลันเห็นใครบางคนที่ยืนมองมาทางนี้รามิล…เขามาได้ยังไง?“เจอตัวแล้ว”เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นรามิล สองเท้าถอยกรูดออกห่างเมื่อเขาเดินเข้ามาหา ก่อนจะรีบก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ว่า…หมับรามิลคว้าแขนเธอแล้วดึงเข้าไปหา ร่างกายแนบชิดกันจนได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา“หนีมาทำไม”“ฉันอยากอยู่คนเดียว”“ให้จีบแล้วหนีมาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกขี้โกง”“ขี้โกงตรงไหน ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว”“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดอันดาให้แน่นขึ้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“เมียหายทั้งคนก็ต