Masukสองเดือนต่อมา
ข้าวหอมวันนี้พยายามตื่นตามเวลาทำขนมปกติ แต่เธอกลับไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ ข้าวหอมรู้สึกไม่สบายตัวมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว เธอกินอะไรเข้าไปก็รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนอยู่ตลอด เพียงแต่ข้าวหอมไม่อยากให้ยายเป็นห่วง เธอจึงฝืนกินเข้าไปจนกระทั่งถึงวันนี้ที่เธอถึงกับลุกจากที่นอนไม่ไหว“อา… นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมลุกไม่ขึ้นกัน” ข้าวหอมพึมพำออกมาอย่างอ่อนแรง
หลังจากพยายามที่จะลุกขึ้นไปทำขนมอยู่นานสองนาน ในที่สุดข้าวหอมก็ยอมแพ้ร่างกายที่อ่อนแอของเธอและหลับไปอีกรอบ จนกระทั่งเจ็ดโมงเช้า เสียงเรียกจากยายสาก็ดังเข้ามาในห้องของข้าวหอม“ข้าวหอม ข้าวหอมลูก เป็นอะไรไปหรือเปล่า” ยายสาพยายามเรียกเสียงดังเท่าที่จะทำได้
“แค่ก ๆ ยาย หนูไม่เป็นอะไรค่ะ เดี๋ยวข้าวหอมออกไปนะคะ” ข้าวหอมรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่ไม่เท่ากับก่อนหน้าที่เธอจะหลับไป
“อืม… วันนี้ไม่ต้องไปขายของแล้วนะลูก ยายจะรออยู่ข้างนอกนะ” ยายสาบอกอย่างเป็นห่วง เธอได้ยินเสียงไอเบา ๆ ดังออกมาจึงคิดว่าหลานสาวน่าจะป่วยเสียแล้ว
“ค่ะยาย แค่ก ๆ” ข้าวหอมยังคงไอแห้ง ๆ ออกมา เธอรู้สึกคันคอพิกล
ยี่สิบนาทีต่อมา ข้าวหอมเปิดประตูออกมาโดยเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดรสยาวที่เธอชอบสวมอยู่บ่อย ๆ“ข้าวหอมไม่สบายหรือเปล่า ไหนมาให้ยายดูสิลูก” ยายสากวักมือเรียกหลานสาว
“น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะยาย สงสัยหนูจะเป็นหวัด” ข้าวหอมเดินช้า ๆ ไปนั่งข้างยายสา
ยายสายกมือเหี่ยวชราของเธอขึ้นไปอังบนหน้าผากหลานสาว อุณหภูมิที่ร้อนพอสมควรทำให้ยายสาตกใจไม่น้อย“ทำไมตัวร้อนแบบนี้ล่ะลูก แล้วยังอาบน้ำอีก แบบนี้จะยิ่งหายช้านะ” ยายสาบอก
“เฮ้อ ข้าวหอมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวค่ะยาย เลยอาบน้ำ” ข้าวหอมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ข้าวหอมขับรถไหวไหมลูก ยายจะพาไปโรงพยาบาล” ยายสาอยากพาหลานสาวไปให้หมอตรวจสักหน่อย เธอกลัวว่าข้าวหอมจะป่วยหนักเกินไป
“พอไหวค่ะยาย เดี๋ยวหนูเข้าไปเอากระเป๋ากับบัตรก่อนนะคะ ยายรอก่อนนะ” ข้าวหอมลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องไปอีกครั้ง
ยายสาเองก็เดินกลับเข้าห้องและสวมเสื้อคลุมทับเสื้อคอกระเช้าที่ใส่ก่อนหน้านี้ เธอกลัวว่าจะแต่งกายไม่สุภาพในสถานที่ราชการจึงต้องสวมเสื้อคลุมสักหน่อยไม่นานสองยายหลานก็ปิดล็อกบ้านและเดินทางไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดที่พวกเธอขายของประจำวันนี้ที่โรงพยาบาลคนไม่เยอะนัก ทำให้ข้าวหอมได้เข้าตรวจในเวลาไม่นานหลังจากยื่นบัตรและรอคิวหน้าห้องตรวจ“สวัสดีครับ เป็นอะไรมาครับวันนี้” พีรยุทธ กาญจนโพธิ์ หมอหนุ่มประจำโรงพยาบาลถามระหว่างที่เขากำลังก้มดูเอกสารคัดกรองเบื้องต้น
“สวัสดีค่ะพี่พี ไม่คิดว่าพี่จะเป็นหมอจริง ๆ นะคะ” ข้าวหอมจำหน้าหมอหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี เขาเป็นรุ่นพี่ที่เรียนในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอเดียวกับเธอ
“อ้าว ข้าวหอมเองเหรอ ไปยังไงมายังไงล่ะเนี่ย” หมอพีได้ยินเสียงหวานที่คุ้นเคยก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“ข้าวหอมกลับมาดูแลยายได้สามเดือนแล้วค่ะ พอดีวันนี้เหมือนจะเป็นหวัด เลยมาตรวจดูสักหน่อยค่ะ” ข้าวหอมยิ้มหวานส่งให้ รุ่นพี่คนนี้ฮอตมากในหมู่นักเรียนหญิงสมัยนั้น ตอนนี้เขาก็ยิ่งหล่อและดูดีมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
“อืม… ขอพี่ตรวจสักหน่อยนะ” หมอพีใส่หูฟังและตรวจดูการเต้นของหัวใจของคนป่วย ไม่นานเขาก็พยักหน้าและเอ่ยต่อว่า
“เป็นหวัดจริง ๆ ด้วย ดีที่ไข้ไม่สูง เดี๋ยวพี่จ่ายยาให้นะครับ” หมอพียิ้มบาง
“พี่พีคะ ข้าวหอมยังมีอาการไม่อยากอาหารตอนเช้าด้วยค่ะ ช่วงนี้รู้สึกมึนหัวแปลก ๆ” ข้าวหอมเห็นว่าไหน ๆ ก็มาโรงพยาบาลแล้ว เธอจึงอยากตรวจให้สิ้นสงสัย
“หืม? มีอาการมานานแค่ไหนแล้วครับ” หมอพีถาม
“ประมาณครึ่งเดือนได้แล้วค่ะ” ข้าวหอมตอบไปตามความจริง
“ประจำเดือนมาปกติไหมครับ” หมอพีถามด้วยสีหน้าจริงจัง เขาแอบชอบรุ่นน้องคนนี้มานานแล้ว เพียงแต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ขาดการติดต่อไป รู้แค่ว่าเธอเข้าไปเรียนในกรุงเทพและทำงานอยู่ที่นั่น จนเขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก
“อืม… เหมือนจะขาดไปสองเดือนแล้วนะคะ” ข้าวหอมนึกได้ก็ถึงกับหน้าซีดเผือด เธอลืมไปได้ยังไงว่าตอนที่อลันมาครั้งล่าสุด เธอมัวแต่เสียใจจนลืมกินยาคุมกำเนิด
“ถ้าอย่างนั้นน้องข้าวหอมไปปัสสาวะก่อนนะครับ พี่จะให้พยาบาลตรวจให้” หมอพีหน้าเสียไม่ต่างกันนัก เขาพอจะเดาได้ว่าข้าวหอมป่วยเป็นอะไร
“ขอบคุณมากค่ะพี่พี เดี๋ยวข้าวหอมกลับมาฟังผลนะคะ” ข้าวหอมลุกขึ้นเร็วจนเกือบจะล้ม ดีที่หมอพีลุกขึ้นประคองเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที
“ระวังหน่อยสิครับ ถ้าล้มไปจะเป็นยังไง” หมอพีอดดุคนตัวเล็กไม่ได้ เขาเป็นห่วงเธอมาก
“ขอบคุณนะคะ ข้าวหอมจะระวังค่ะ” ข้าวหอมยิ้มแหยส่งให้ เธอไม่คิดว่าพอลุกขึ้นแล้วจะเกิดมึนหัวขึ้นมานี่นา
“อืม… รีบไปเถอะ พี่จะได้ดูผลว่าข้าวหอมป่วยเป็นอะไร” หมอพียิ้มบางบอก
ข้าวหอมพยักหน้ารับและเดินออกไปตามหลังพยาบาลที่นำหน้าไปก่อนหน้านี้ ยายสานั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ พอเห็นหลานสาวออกมาก็นึกว่าตรวจเสร็จแล้ว“ข้าวหอม ไปจ่ายเงินแล้วรอรับยาเลยไหมลูก” น้ำเสียงอาทรของหญิงชราดังออกมา
“ข้าวหอมต้องไปตรวจกับพี่พยาบาลต่อค่ะยาย ยายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ” ข้าวหอมยิ้มบางตอบยายสาไปตามตรง
“หืม? หลานเป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก” ยายสาขมวดคิ้วมุ่นอย่างกังวล
“ไม่น่าจะเป็นอะไรมากนะคะยาย เดี๋ยวข้าวหอมกลับมาค่ะ” ข้าวหอมรีบบอกยายแล้วเดินตามพยาบาลที่กวักมือเรียกเธออยู่หน้าห้องน้ำไม่ไกล
ยายสาทำได้เพียงพยักหน้ารับคำหลานสาว เธอไม่รู้ว่าข้าวหอมป่วยเป็นอะไร เพราะข้าวหอมไม่ให้เธอเข้าไปฟังในห้องตรวจด้วยไม่ถึงสิบนาที ข้าวหอมก็เดินกลับมาพร้อมพยาบาลเพื่อฟังผลการตรวจปัสสาวะที่พยาบาลตรวจให้ก่อนหน้านี้ยายสามองตามหลังหลานสาวอย่างเป็นห่วง เธอเห็นสีหน้าซีดเผือดของข้าวหอมก็ยิ่งกังวลว่าหลานสาวจะป่วยหนัก“เฮ้อ ข้าวหอม ผลตรวจออกมาแล้วนะครับ น้องกำลังท้อง” หมอพีอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมา เขารู้สึกเสียใจมากที่รู้ว่าคนที่ชอบตรงหน้ากลับมีคู่เสียแล้วและกำลังท้องอยู่
“อะไรนะคะ! พี่พีไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” ข้าวหอมถามกลับอย่างกังวล
“เรื่องจริงครับ ถ้าข้าวหอมอยากรู้อายุครรภ์ที่แน่นอน พี่จะส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดให้ครับ” หมอพีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“อ่า… รบกวนพี่พีด้วยนะคะ ข้าวหอมอยากตรวจให้แน่ใจอีกสักครั้ง” ข้าวหอมตอนนี้รู้สึกหวิว ๆ ในอกอย่างไรบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้เพราะอยากลืมอลัน เธอจึงทำงานหนักทุกวัน พอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้องลูกของเขาอยู่ ข้าวหอมจึงเป็นห่วงว่าลูกของเธอจะเป็นอะไรไป
“ไม่มีปัญหาครับ ข้าวหอมไปรอข้างนอกก่อน พี่จะให้พยาบาลเอาใบส่งตัวให้ทีหลัง” หมอพีได้แต่จำใจปล่อยให้ข้าวหอมไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดคนเดียว เพราะเขายังมีตรวจคนไข้อีกหลายราย โรงพยาบาลเขามีหมอแค่สามคนเท่านั้น ทำให้งานที่เขาต้องรับผิดชอบมีมากมายไม่ต่างจากหมอคนอื่น
“ขอบคุณมากค่ะ ไว้พบกันใหม่นะคะพี่พี” ข้าวหอมยกมือไหว้ก่อนลุกออกไป
หมอพีได้แต่มองตามหลังร่างบางไปอย่างแสนเสียดาย เขาอยากรู้มากว่าคนที่ทำให้ข้าวหอมท้องเป็นคนยังไง คนคนนั้นดีกว่าเขาไหม ทำไมผู้หญิงน่ารักอย่างข้าวหอมถึงได้ตกลงปลงใจกับผู้ชายคนนั้นได้หมอพีคิดสะระตะอยู่ไม่นาน ก่อนจะก้มหน้าลงเขียนใบส่งตัวให้ข้าวหอมจนเสร็จในเวลาต่อมา เขาส่งเอกสารในซองให้พยาบาลนำไปมอบให้ข้าวหอมที่รออยู่ด้านนอก“ขอบคุณมากนะคะพี่สาว” ข้าวหอมยกมือไหว้อีกครั้งหลังจากรับซองใบส่งตัวมา
“เป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้วค่ะ คุณรีบไปตรวจต่อเถอะนะคะ ถ้าสายกว่านี้คนน่าจะเยอะ” พยาบาลยิ้มบอก เธอรู้สึกดีกับหญิงสาวน่ารักตรงหน้าไม่น้อย
“ได้ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ข้าวหอมยิ้มหวาน จากนั้นจึงพยุงยายสาลุกขึ้นและพากันเดินออกไปจากหน้าห้องตรวจ
“ข้าวหอม หมอบอกว่าหนูเป็นอะไรไปลูก” ยายสาถามอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คำตอบจากหลานสาว
“ฟู่… ยายจ๋า ข้าวหอมท้องค่ะ” ข้าวหอมตอบขณะขับรถไปในตัวจังหวัด เธอต้องกลั้นใจตอบยายไปตามตรง
“เฮ้อ ยายก็นึกว่าหลานเป็นอะไรไปเสียอีก ท้องก็ไม่เห็นเป็นอะไร ดีเสียอีก บ้านเราจะได้มีคนมากขึ้นหน่อย” ยายสายิ้มอย่างสบายใจ เธอเคยเลี้ยงข้าวหอมมาก่อน ตอนนี้จะเลี้ยงลูกของข้าวหอมอีกคนจะเป็นอะไรไป
“ยายไม่ตำหนิข้าวหอมเหรอคะที่ท้องไม่มีพ่อ” ข้าวหอมอดน้ำตารื้นขึ้นมาไม่ได้
“ยายจะตำหนิหลานทำไมล่ะ เป็นผู้ชายคนนั้นที่ทำร้ายหลานสาวยายก่อนนี่นา”
“ฮึก… ขอบคุณมากนะคะยาย” ข้าวหอมอดร้องไห้ออกมาไม่ได้ เธอพยายามตั้งสติเพื่อขับรถให้ดีจนกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลจังหวัด
“เด็กโง่ เป็นแม่คนแล้วยังจะร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ อีก” ยายสายิ้มบอก
ข้าวหอมคุยกับยายสาระหว่างทางไปโรงพยาบาลจังหวัด เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อเห็นว่ายายที่รักเธอคอยพูดให้กำลังใจอยู่ตลอดเสียงหัวเราะคิกคักของผู้ใหญ่และเด็กอย่างอเล็กซ์ ยิ่งสร้างความอับอายให้กับข้าวหอมมากกว่าเดิมเสียอีก เธออดค้อนใส่อลันที่กำลังยิ้มแป้นอยู่ไม่ได้ กว่าที่พวกเขาจะทานมื้อเที่ยงกันเสร็จ เวลาก็ผ่านไปนานเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะทุกคนไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับโรงแรมแต่แรก พวกเขาจึงไม่อยากเร่งรีบอะไรนัก ช่วงบ่ายจึงเป็นการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้ยายสากับข้าวหอมเกือบทั้งหมด อลันสนุกกับการจับข้าวหอมแต่งตัวไม่น้อย เขาเลือกชุดน่ารัก ๆ ให้เธอไปลองเปลี่ยนจนข้าวหอมเริ่มไม่พอใจ เธอมุ่ยหน้าอย่างงอน ๆ เมื่อต้องเดินกลับไปกลับมาเหมือนหุ่นลองชุดให้อลันดูบ่อย ๆ จนกระทั่งอลันเลือกซื้อจนหนำใจแล้ว ข้าวหอมถึงได้หยุดการลองชุดจำนวนมากเสียที อเล็กซ์เองก็สนุกกับการมองดู
หลังจากพวกเขากินข้าวเช้าเสร็จ กลุ่มของพวกเขาก็พากันเดินช้า ๆ ออกไปดูร้านรวงใกล้กับโรงแรมตามที่อเล็กซ์ขอเอาไว้เมื่อวานนี้ ยายสาที่อายุมากแล้วแต่ยังแข็งแรงดีก็เดินไปกับพวกเขาด้วยเช่นกัน นานมากแล้วที่ยายไม่ได้ออกมาพบเห็นบรรยากาศแบบนี้ อเล็กซ์ที่ถูกอลันอุ้มอยู่ก็ชี้นิ้วเล็ก ๆ ให้พ่อของเขาพาไปร้านขายของเล่น ห่วงยางและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเล่นบริเวณชายหาด“ลูกจะลงไปดูเองไหมครับ อยากได้อะไรก็บอกพ่อ” อลันถามลูกชายที่ยังอยู่ในอ้อมแขน“ได้คับพ่อ ผมขอดูเองก่อนคับ” อเล็กซ์พยักหน้าพร้อมยิ้มรับคำอลัน อลันวางลูกชายลงกับพื
ข้าวหอมที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีจิ้งจอกตัวหนึ่งกำลังซุ่มรอเธออยู่ที่หน้าประตูอย่างเงียบ ๆ พอเธอทำธุระเสร็จก็ล้างมือและเปิดประตูห้องน้ำออกมา“ว้าย ใครน่ะ” ข้าวหอมอดร้องออกมาอย่างตกอกตกใจไม่ได้ เมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนกอดรัดเธอจากด้านหลังในตอนเผลอ“ชู่… ผมเองครับที่รัก ขอผมกอดคุณหน่อยนะข้าวหอม ผมคิดถึงคุณจริง ๆ” อลันด้านหน้ากระซิบเบา ๆ ข้างหูของข้าวหอมทั้งที่ยังกอดรัดเธออยู่จากด้านหลัง“ปล่อยฉันนะคุณ” ข้าวหอมดิ้นรนเบา ๆ เพราะกลัวว่าลูกจะตื่นมาเห็นพฤติกรรมของอลัน อลันไม่สนใจคำพูดของข้าวหอม ตอนนี้เขาได้กลิ่นกายหอมกรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมลอยกรุ่นอยู่แล
อเล็กซ์นั่งเล่นบนเก้าอี้ไม่นานก็ชวนอลันไปเล่นก่อปราสาททราย เขามีของเล่นที่โลแลนไปซื้อมาให้จากร้านไม่ห่างจากโรงแรมนักก่อนหน้านี้ เพราะของเล่นอเล็กซ์ที่บ้านมีแต่พวกของเล่นใช้ถ่านหรือไม่ก็ตัวต่อเลโก้ อลันจึงบอกให้โลแลนไปหาของมาให้ลูกชายอีก นักท่องเที่ยวหลายคนมองดูสองพ่อลูกพร้อมรอยยิ้ม พวกสาว ๆ หลายคนอดเสียดายคนหล่ออย่างอลันไม่ได้ที่มีครอบครัวแล้ว เพราะอลันวันนี้สวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมถึงสามเม็ดโชว์แผงอกล่ำของเขาและกางเกงขาสั้น ส่วนอเล็กซ์ก็แต่งตัวไม่ต่างจากพ่อของเขานักเช่นเดียวกัน มีเพียงข้าวหอมที่สวมชุดเดรสยาวคลุมขาสบาย ๆ ตามที่เธอชอบเท่านั้นที่ไม่ได้แต่งตัวเหมือนสองพ่อลูก“แดดยังร้อนอยู่เลยนะครับเจ้านาย” โลแลนอดเป็นห่วงอาการป่วยของอลันไม่ได้“ไม่เป็นไร ฉัน
“พ่อคับ แม่คับ คืนนี้ผมขอนอนด้วยได้ไหมคับ” อเล็กซ์ยิ้มกว้างถามพ่อกับแม่ระหว่างที่กำลังนั่งพักกันหลังจากเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ในห้องนอนเสร็จ“หืม? ลูกไม่นอนกับแม่เหรอครับคืนนี้” ข้าวหอมก้มหน้าถามลูกชายที่นั่งตรงกลางระหว่างเธอกับอลันบนโซฟาในห้องรับแขก“ผมอยากนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอคับ” อเล็กซ์น้ำตารื้นขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่าตัวเองจะไม่ได้นอนกับพ่อแม่อย่างที่เคยฝันเอาไว้“ชู่… ไม่ร้องนะครับลูก พ่อกับแม่จะนอนด้วยนะครับ” อลันยกมือใหญ่มาลูบหัวลูกชายอย่างปลอบโยน เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของลูกแม้แต่หยดเดียว“
เมื่อกลับถึงบ้าน อเล็กซ์ที่เห็นพ่อถูกแม่ประคองเข้ามาก็รีบวิ่งเข้าไปเกาะขาพร้อมกับเงยหน้าเล็ก ๆ ขึ้นถามอลันอย่างเป็นห่วง“พ่อคับ พ่อเป็นยังไงบ้างคับ” เสียงเล็ก ๆ เอ่ยถามด้วยสายตาห่วงใย“พ่อดีขึ้นมากแล้วครับ มาให้พ่อชื่นใจหน่อยเร็ว” อลันปล่อยมือออกจากแขนของข้าวหอมแล้วก้มลงไปฟัดแก้มอูมสองข้างของลูกชายอย่างคิดถึง“เอาล่ะ ๆ รีบมานั่งพักกันก่อน อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว” พัชรีเห็นพวกเขาออกันอยู่ที่หน้าประตูบ้านก็รีบกวักมือเรียกให้เข้ามานั่งดี ๆ ด้านใน“อเล็กซ์ให้คุณพ่อเดินดี ๆ ก่อนครับลูก” ข้าวหอมบอกลูกชายที่กอดคออลันแน่นอยู่ตอนนี้“คับแม่” อเล็กซ์ปล่อยอ้อมแขนเล็กออกอย่าง







