Masukสาวิตรี โชติรัตน์ คือชื่อจริงนามสกุลจริงของยายสา เมื่อก่อนเธอเป็นแม่บ้านทหารมาก่อน แต่พอสามีเสียชีวิตจากการทำงาน เธอก็กลับบ้านเดิมมาเลี้ยงลูกสาวคนเดียวอย่างนงคราญ โดยที่ไม่ได้แต่งงานใหม่ เงินชดเชยที่ได้รับสมัยนั้นไม่ได้มากมาย ยายสาจึงทำขนมไทยไปขายเพื่อเลี้ยงดูนงคราญจนเติบใหญ่
นงคราญในตอนนั้นเรียนจบแค่ มศ.3 ก่อนจะขอยายสาไปทำงานหาเงินในเมืองกรุงตั้งแต่ยังสาว เธอเห็นครอบครัวอื่นมีพ่อแต่ตัวเองไม่มี นงคราญจึงขาดความอบอุ่น ถึงแม้ว่ายายสาจะพยายามมากแค่ไหน นงคราญก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เธอจึงเลือกที่จะจากยายสาไปกระทั่งหลายปีต่อมา นงคราญกลับมาพร้อมลูกสาวอายุห้าเดือนอย่างข้าวหอม ซึ่งตอนนั้นนงคราญตั้งชื่อว่า รินลดา โชติรัตน์ พอยายสาถามเรื่องพ่อของเด็ก นงคราญกลับไม่ยอมบอกและเอาแต่ร้องไห้ต่อว่าพ่อของข้าวหอมอย่างสาดเสียเทเสียช่วงปีนั้นนงคราญอยู่เลี้ยงดูข้าวหอมโดยไม่ได้ทำอะไร ผ่านไปเพียงสามเดือน นงคราญก็อ้างว่าจะกลับไปทำงานหาเงินส่งมาให้ยายสาเลี้ยงดูลูกให้เธอ แต่กลายเป็นว่าเธอส่งเงินมาเพียงไม่กี่เดือน ก่อนข่าวคราวจะเงียบหายไปจนถึงปัจจุบันยายสาที่ไม่รู้จะติดต่อลูกสาวยังไงก็ได้แต่ต้องขายขนมไปด้วย เลี้ยงหลานไปด้วยอย่างยากลำบาก ดีที่ข้าวหอมไม่ใช่เด็กงอแงอะไร เธอเลี้ยงง่ายและไม่กวนยายสาเลย ทำให้ยายสาทำใจทิ้งเด็กคนนี้ไม่ลง ถึงแม้คนรอบข้างที่รู้เรื่องจะบอกให้ยายสาพาเด็กไปตามหานงคราญบ่อย ๆ ยายสาก็ไม่ยอมไปหลายปีผ่านไป เมื่อข้าวหอมเข้าเรียน ยายสาก็สบายขึ้นมาบ้าง เธอทำขนมไทยขายจนมีลูกค้าขาประจำมากมาย ขนมของยายสาทั้งราคาถูกและอร่อย ถึงแม้บางครั้งขนมของยายสาจะหวานเกินไปสำหรับบางคนก็ตามที แต่ด้วยในอำเภอมีร้านขนมของยายสาเพียงร้านเดียวที่ลูกค้าชอบมาอุดหนุน ทำให้ยายสามีรายได้เลี้ยงดูหลานสาวยายสาเลี้ยงข้าวหอมจนเธอจบ ม.ปลาย และไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ถึงแม้จะสูงมาก แต่ยายสาก็ไม่ยอมแพ้ เธอนำเงินเก็บทั้งหมดออกมาส่งให้หลานสาวคนเดียวเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี ด้วยฐานะทางบ้านที่ยากจน ข้าวหอมเองก็ทำงานพิเศษระหว่างเรียนไปด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระของยายสามาตลอดหลายครั้งที่ยายสาได้แต่คิดถึงโชคชะตาของตัวเอง ตั้งแต่เธอเสียสามีไป ยายสาก็เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตร พ่อแม่ที่อยู่ท่าแพของยายสาไม่ยอมรับลูกสาวของเธอ ทำให้ยายสาต้องนำเงินชดเชยจากการตายของสามีมาซื้อบ้านและที่ดินหลังปัจจุบันอยู่อาศัย หน้าตาของยายสาในสมัยก่อนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เธอออกจะสวยหวาน มีผู้ชายหลายคนมาตามจีบยายสาในตอนนั้น เพียงแต่ยายสาคิดว่าตัวเองมีลูกติด เธอจึงไม่อยากมีพ่อเลี้ยงให้ลูกสาวคนเดียว เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมองดูความเป็นอยู่ของยายสาก็อดสงสารไม่ได้ พวกเขาทำได้แค่อุดหนุนขนมของยายสาเพื่อให้เธอมีรายได้เลี้ยงดูลูกเท่านั้นในตอนที่เกิดเรื่องของนงคราญ เพื่อนบ้านทำได้เพียงมองดูอยู่ห่าง ๆ หลายคนก็นินทาว่าร้ายนงคราญให้ยายสาได้ยินก็มีไม่น้อย แต่ด้วยความสงสารลูก ยายสาจึงไม่ได้ตำหนินงคราญที่นำลูกมาให้เธอเลี้ยงดูพอตอนนี้เกิดเรื่องกับข้าวหอมขึ้นอีก ยายสาได้แต่คิดว่าคงเป็นเวรกรรมของเธอเองแต่ชาติปางก่อน ชีวิตของลูกหลานถึงได้เกิดแต่เรื่องแบบนี้ขึ้นท่าทางของข้าวหอมที่เหม่อลอยในบางครั้งทำให้ยายสาอดเป็นห่วงไม่ได้ ยายสาได้แต่คิดว่าจะช่วยหลานสาวยังไงดี แต่เรื่องทั้งหมดที่ข้าวหอมเล่าให้ยายสาฟัง ยายก็จับใจความได้แค่ว่าเป็นหลานสาวเธอที่คิดผิดว่าผู้ชายคนนั้นรักเธอ จนทำให้ข้าวหอมถลำลึกไปจนยอมมอบกายมอบใจให้เขายายสาได้แต่คิดว่าตัวเองสอนหลานสาวได้ไม่ดี จนข้าวหอมถูกผู้ชายหลอกและต้องกลับมาอยู่กับเธออย่างเจ็บช้ำใจ ตอนนี้ยายสาอายุมากแล้ว เธอได้แต่ปล่อยวางเรื่องทั้งหมดลงก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียเรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ยายสาเองก็ไม่อาจมองดูหลานสาวคนเดียวเสียใจมากเกินไปได้ หลายครั้งยายสาจึงคอยถามไถ่และหาเรื่องเล่าต่าง ๆ มาทำให้ข้าวหอมเลิกคิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ อีกข้าวหอมที่ได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ยายฟังก็มีอาการดีขึ้นบ้าง จากที่เคยเหม่อลอยอยู่บ่อย ๆ ก็กลายเป็นร่าเริงขึ้นมาไม่น้อย อาจเพราะข้าวหอมได้ระบายสิ่งที่เก็บกักเอาไว้ภายในใจให้คนที่รักเธออย่างยายสาฟัง อีกทั้งเธอยังยุ่งกับการทำขนมขายที่ตลาดด้วย พอข้าวหอมได้พบปะกับลูกค้ามากหน้าหลายตาบ่อย ๆ ทำให้ข้าวหอมรู้สึกว่าชีวิตของเธอก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก เธอตั้งใจที่จะขายขนมเลี้ยงดูยายและตัวเองไปจนกว่าจะหมดแรง เพื่อเยียวยาความรู้สึกเสียใจในเรื่องความรักที่ผ่านมา ข้าวหอมพยายามไม่คิดเรื่องเก่า ๆ ที่เคยผ่านพบมา เธออยากเริ่มต้นใหม่กับยายอย่างมีความสุขร้านขนมของข้าวหอมได้รับความชื่นชมจากลูกค้าไม่น้อย พวกเขาเล่าลือกันว่าแม่ค้าทำขนมอร่อยแถมยังสวยอีกด้วย ผู้ชายโสดหลายคนมาอุดหนุนและพยายามขายขนมจีบให้แม่ค้าอย่างข้าวหอม น่าเสียดายที่เธอไม่เล่นด้วย ทำให้พวกเขาต้องอกหักกลับไปกันเป็นแถบ ๆ ยายได้แต่มองเด็กหนุ่มที่มาซื้อขนมกับหลานสาวอย่างขำ ๆ เธอคิดว่าข้าวหอมน่าจะสภาพจิตใจดีขึ้นหลังจากขายขนมมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว“ข้าวหอมไม่สนใจหนุ่ม ๆ พวกนั้นเลยเหรอลูก” ยายสาแย้มยิ้มชราแซว
“โธ่ ยายคะ หนูยังไม่พร้อมที่จะมีความรักอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้หรอกนะคะยาย ปล่อยพวกเขาไปหาผู้หญิงดี ๆ คนอื่นดีกว่าค่ะ” ข้าวหอมยิ้มหวานตอบ
“ข้าวหอมของยายก็ดีไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นสักหน่อย หลานคิดมากเกินไปแล้ว” ยายสาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“เฮ้อ เรื่องนี้ปล่อยเอาไว้ก่อนเถอะนะคะยาย หนูอยากขายขนมและดูแลยายให้ดีเท่านั้นค่ะ”
“ตกลง ๆ ตามใจข้าวหอมเถอะ ดูสิ ลูกค้ามาอีกแล้วลูก” ยายสาบอกข้าวหอมเมื่อเห็นลูกค้าขาประจำเดินมาทางนี้พอดี
“ทราบแล้วค่ะยาย วันนี้ยายอยากกินอะไรก็บอกหนูนะคะ ขนมใกล้หมดแล้ว” ข้าวหอมยิ้มหวานบอกยาย ก่อนจะหันกลับไปรอลูกค้าที่กำลังจะมาซื้อขนมที่ร้านของเธอ
ยายสาอมยิ้มขึ้นมาเมื่อได้รับการเอาใจใส่จากหลานสาวคนเดียว ตอนนี้เธอรู้สึกว่าที่บ้านบรรยากาศดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนัก คงเพราะมีข้าวหอมอยู่เป็นเพื่อน ทำให้ยายสาไม่รู้สึกเหงาเหมือนตอนอยู่คนเดียวบ้านหลังเก่าของยายสาที่อยู่มานานมีทีวีเก่า ๆ แค่เครื่องเดียว โทรศัพท์ที่มีอยู่ก็เป็นแบบปุ่มกดที่ซื้อมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ขนาดข้าวหอมบอกว่าจะซื้อให้ยายใหม่ แต่ยายสาก็ไม่ยอมให้เธอซื้อ เพราะยายคิดว่าตัวเองไม่ได้ใช้อะไรนอกจากรับสายจากหลานสาว นาน ๆ ครั้ง ยายสาจึงจะโทรหาข้าวหอมบ้างเท่านั้นยายสาใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์มาตลอดตั้งแต่ยังสาว ถึงเธอจะมีภาระในการเลี้ยงดูหลานสาวมาหลายปี แต่ยายสาก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างโดยที่ข้าวหอมไม่รู้ ยายสาหวังว่าเงินก้อนนี้จะเป็นประโยชน์ให้หลานสาวของยายหลังจากยายสาตายไปแล้ว ยายสาไม่อยากให้ข้าวหอมต้องลำบาก เธอจึงเก็บเงินเอาไว้มาตลอดข้าวหอมที่ลาออกกลับมาอยู่บ้านเองก็มีเงินเก็บเช่นกัน เมื่อก่อนเธอได้รับเงินพิเศษจากอลันบ่อย ๆ และเป็นเงินจำนวนมาก ข้าวหอมนำมาแค่รถยนต์กับเงินที่มีอยู่เพื่อมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่เท่านั้น เครื่องประดับมีค่าและเสื้อผ้าที่เขาเคยซื้อให้ ข้าวหอมไม่ได้นำติดตัวมาด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว กุญแจบ้านหลังนั้นข้าวหอมก็ฝากไว้ที่หัวหน้าเก่า เพื่อให้เธอนำไปมอบให้เลขาของอลันในวันที่พวกเขากลับเมืองไทยในอนาคตข้าวหอมไม่อยากให้ใครดูถูกเธอว่าเอาตัวเข้าแลกเพื่อจะจับอลัน เธอรู้ฐานะของตัวเองดีว่าตัวเองอยู่กันคนละระดับกับเขา แต่เวลาห้าปีที่เธอได้อยู่กับอลันเวลาเขากลับมาที่เมืองไทย ข้าวหอมก็อดที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเขาคงมีใจให้เธอบ้าง จนกระทั่งวันนั้นที่เธอได้รับรู้ว่าเขาจะต้องหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น ข้าวหอมจึงรู้ซึ้งแล้วว่าที่ผ่านมาเธอมันช่างไร้ค่าไม่ต่างจากของเล่นอย่างที่เขาว่าจริง ๆเมื่อก่อนข้าวหอมใช้ชีวิตตามใจอลันทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไร ไปที่ไหนหรือไม่ให้เธอทำอะไร ข้าวหอมไม่เคยปฏิเสธและทำตามเสมอมา จนข้าวหอมรู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำให้เขาทั้งหมดมันไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ ของเธอเลยตอนนี้ข้าวหอมได้กลับมาใช้ชีวิตกับยายแล้ว เธอจึงอยากกลับไปเป็นคนร่าเริงและอัธยาสัยดีเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกครั้ง ข้าวหอมอยากให้ตัวเธอเองลืมเรื่องของอลันให้หมดไปโดยเร็ว แต่เธอก็คิดว่าเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ เพราะแผลใจของเธอเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ทุกอย่างมันยังฝังลึกอยู่ในหัวสมองของเธอ ข้าวหอมจะปล่อยให้เวลาค่อย ๆ เยียวยาจิตใจของเธอจนกว่าจะลืมอลันได้เสียงหัวเราะคิกคักของผู้ใหญ่และเด็กอย่างอเล็กซ์ ยิ่งสร้างความอับอายให้กับข้าวหอมมากกว่าเดิมเสียอีก เธออดค้อนใส่อลันที่กำลังยิ้มแป้นอยู่ไม่ได้ กว่าที่พวกเขาจะทานมื้อเที่ยงกันเสร็จ เวลาก็ผ่านไปนานเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะทุกคนไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับโรงแรมแต่แรก พวกเขาจึงไม่อยากเร่งรีบอะไรนัก ช่วงบ่ายจึงเป็นการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้ยายสากับข้าวหอมเกือบทั้งหมด อลันสนุกกับการจับข้าวหอมแต่งตัวไม่น้อย เขาเลือกชุดน่ารัก ๆ ให้เธอไปลองเปลี่ยนจนข้าวหอมเริ่มไม่พอใจ เธอมุ่ยหน้าอย่างงอน ๆ เมื่อต้องเดินกลับไปกลับมาเหมือนหุ่นลองชุดให้อลันดูบ่อย ๆ จนกระทั่งอลันเลือกซื้อจนหนำใจแล้ว ข้าวหอมถึงได้หยุดการลองชุดจำนวนมากเสียที อเล็กซ์เองก็สนุกกับการมองดู
หลังจากพวกเขากินข้าวเช้าเสร็จ กลุ่มของพวกเขาก็พากันเดินช้า ๆ ออกไปดูร้านรวงใกล้กับโรงแรมตามที่อเล็กซ์ขอเอาไว้เมื่อวานนี้ ยายสาที่อายุมากแล้วแต่ยังแข็งแรงดีก็เดินไปกับพวกเขาด้วยเช่นกัน นานมากแล้วที่ยายไม่ได้ออกมาพบเห็นบรรยากาศแบบนี้ อเล็กซ์ที่ถูกอลันอุ้มอยู่ก็ชี้นิ้วเล็ก ๆ ให้พ่อของเขาพาไปร้านขายของเล่น ห่วงยางและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเล่นบริเวณชายหาด“ลูกจะลงไปดูเองไหมครับ อยากได้อะไรก็บอกพ่อ” อลันถามลูกชายที่ยังอยู่ในอ้อมแขน“ได้คับพ่อ ผมขอดูเองก่อนคับ” อเล็กซ์พยักหน้าพร้อมยิ้มรับคำอลัน อลันวางลูกชายลงกับพื
ข้าวหอมที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีจิ้งจอกตัวหนึ่งกำลังซุ่มรอเธออยู่ที่หน้าประตูอย่างเงียบ ๆ พอเธอทำธุระเสร็จก็ล้างมือและเปิดประตูห้องน้ำออกมา“ว้าย ใครน่ะ” ข้าวหอมอดร้องออกมาอย่างตกอกตกใจไม่ได้ เมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนกอดรัดเธอจากด้านหลังในตอนเผลอ“ชู่… ผมเองครับที่รัก ขอผมกอดคุณหน่อยนะข้าวหอม ผมคิดถึงคุณจริง ๆ” อลันด้านหน้ากระซิบเบา ๆ ข้างหูของข้าวหอมทั้งที่ยังกอดรัดเธออยู่จากด้านหลัง“ปล่อยฉันนะคุณ” ข้าวหอมดิ้นรนเบา ๆ เพราะกลัวว่าลูกจะตื่นมาเห็นพฤติกรรมของอลัน อลันไม่สนใจคำพูดของข้าวหอม ตอนนี้เขาได้กลิ่นกายหอมกรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมลอยกรุ่นอยู่แล
อเล็กซ์นั่งเล่นบนเก้าอี้ไม่นานก็ชวนอลันไปเล่นก่อปราสาททราย เขามีของเล่นที่โลแลนไปซื้อมาให้จากร้านไม่ห่างจากโรงแรมนักก่อนหน้านี้ เพราะของเล่นอเล็กซ์ที่บ้านมีแต่พวกของเล่นใช้ถ่านหรือไม่ก็ตัวต่อเลโก้ อลันจึงบอกให้โลแลนไปหาของมาให้ลูกชายอีก นักท่องเที่ยวหลายคนมองดูสองพ่อลูกพร้อมรอยยิ้ม พวกสาว ๆ หลายคนอดเสียดายคนหล่ออย่างอลันไม่ได้ที่มีครอบครัวแล้ว เพราะอลันวันนี้สวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมถึงสามเม็ดโชว์แผงอกล่ำของเขาและกางเกงขาสั้น ส่วนอเล็กซ์ก็แต่งตัวไม่ต่างจากพ่อของเขานักเช่นเดียวกัน มีเพียงข้าวหอมที่สวมชุดเดรสยาวคลุมขาสบาย ๆ ตามที่เธอชอบเท่านั้นที่ไม่ได้แต่งตัวเหมือนสองพ่อลูก“แดดยังร้อนอยู่เลยนะครับเจ้านาย” โลแลนอดเป็นห่วงอาการป่วยของอลันไม่ได้“ไม่เป็นไร ฉัน
“พ่อคับ แม่คับ คืนนี้ผมขอนอนด้วยได้ไหมคับ” อเล็กซ์ยิ้มกว้างถามพ่อกับแม่ระหว่างที่กำลังนั่งพักกันหลังจากเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ในห้องนอนเสร็จ“หืม? ลูกไม่นอนกับแม่เหรอครับคืนนี้” ข้าวหอมก้มหน้าถามลูกชายที่นั่งตรงกลางระหว่างเธอกับอลันบนโซฟาในห้องรับแขก“ผมอยากนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอคับ” อเล็กซ์น้ำตารื้นขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่าตัวเองจะไม่ได้นอนกับพ่อแม่อย่างที่เคยฝันเอาไว้“ชู่… ไม่ร้องนะครับลูก พ่อกับแม่จะนอนด้วยนะครับ” อลันยกมือใหญ่มาลูบหัวลูกชายอย่างปลอบโยน เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของลูกแม้แต่หยดเดียว“
เมื่อกลับถึงบ้าน อเล็กซ์ที่เห็นพ่อถูกแม่ประคองเข้ามาก็รีบวิ่งเข้าไปเกาะขาพร้อมกับเงยหน้าเล็ก ๆ ขึ้นถามอลันอย่างเป็นห่วง“พ่อคับ พ่อเป็นยังไงบ้างคับ” เสียงเล็ก ๆ เอ่ยถามด้วยสายตาห่วงใย“พ่อดีขึ้นมากแล้วครับ มาให้พ่อชื่นใจหน่อยเร็ว” อลันปล่อยมือออกจากแขนของข้าวหอมแล้วก้มลงไปฟัดแก้มอูมสองข้างของลูกชายอย่างคิดถึง“เอาล่ะ ๆ รีบมานั่งพักกันก่อน อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว” พัชรีเห็นพวกเขาออกันอยู่ที่หน้าประตูบ้านก็รีบกวักมือเรียกให้เข้ามานั่งดี ๆ ด้านใน“อเล็กซ์ให้คุณพ่อเดินดี ๆ ก่อนครับลูก” ข้าวหอมบอกลูกชายที่กอดคออลันแน่นอยู่ตอนนี้“คับแม่” อเล็กซ์ปล่อยอ้อมแขนเล็กออกอย่าง







