Beranda / รักโบราณ / พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่ / บทที่ 1 ฝันร้ายที่ไม่อยากให้เกิด (1/3)

Share

พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่
พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่
Penulis: ไฉ่เลี่ยงหรง

บทที่ 1 ฝันร้ายที่ไม่อยากให้เกิด (1/3)

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 18:29:13

1

ฝันร้ายที่ไม่อยากให้เกิด

            พรึ่บ! สตรีผู้มีดวงหน้าอ่อนหวานผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องพลางหอบเหนื่อยอย่างหนัก

            “นี่ข้าฝันร้ายอีกแล้วหรือ” มันเป็นแค่ฝันที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นจริงใช่หรือไม่

            ยิ่งใกล้ปักปิ่นความฝันเหล่านั้นยิ่งชัดแจ้งขึ้นทุกที ความฝันที่ว่าพี่ชายเพียงคนเดียวของนางเป็นต้วนซิ่ว[1]ทั้งยังหลงรักสหายของตนอย่างหัวปักหัวปำ ยามที่สหายยังไม่มีคนรักก็แล้วไป แต่พออีกฝ่ายที่เป็นถึงซื่อจื่อ[2]ของจวนอ๋องตบแต่งพระชายาทั้งยังปักใจรักสตรีผู้นั้นอย่างลึกซึ้ง พี่ใหญ่ที่คล้ายกับคนผิดหวังในความรักเกิดความคิดชั่วร้ายหวังกำจัดสตรีผู้นั้น

            แม้ชินอ๋องเป็นถึงอดีตแม่ทัพใหญ่ที่ตอนนี้พาพระชายาออกท่องเที่ยวไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีเสือหมอบมังกรซ่อน[3]ถูกเก็บซ่อนไว้เพื่อปกป้องบุตรชาย ดังนั้นเมื่อพี่ใหญ่ของนางส่งคนไปทำร้ายพระชายาของชินอ๋องซื่อจื่ออยู่บ่อยครั้ง ความเป็นสหายก็ขาดสะบั้น สุดท้ายโทษหนักอย่างการปองร้ายเชื้อพระวงศ์ก็ตกใส่หัวตระกูลฟ่านของนาง โดนประหารยกตระกูล

            ส่วนนางที่ตบแต่งเข้าตระกูลซิว ก็ถูกแม่สามีส่งกลับจวนฟ่านเพื่อรับโทษประหารพร้อมคนในตระกูล โดยสามีที่บอกว่ารักนักหนาไม่คิดปกป้องหรือช่วยเหลือใด ๆ

            ‘แต่นี่มันคืนที่สิบแล้วนะ ที่ข้าฝันเช่นนี้’ หรือว่าแท้จริงมันจะเป็นลางบอกเหตุ

            ในฝันบอกว่าอีกสามวันข้างหน้าพี่ใหญ่จะเดินทางกลับมาจากเมืองจินเฟิ่งโดยไม่บอกล่วงหน้า และเมื่อกลับมาถึงแทนที่จะกลับเข้าจวนก่อน เขากลับไปที่หอชายงามเจียวชู่ฉือและหลับนอนอยู่ที่นั่นราวสองวันถึงจะยอมกลับจวนให้บิดามารดาเห็นหน้า

            “อีกสามวันข้าจะไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่านั่นมันคือฝันบอกเหตุ หรือเป็นเพียงฝันร้ายกันแน่” แม้ก่อนหน้านี้จะปลอบใจตนเองว่ามันเป็นเพียงฝันร้ายที่เกิดจากความบังเอิญหลังจากไปได้ยินบิดามารดาปรึกษากันเรื่องที่สงสัยว่าพี่ชายจะเป็นต้วนซิ่ว

            แต่การฝันติดต่อกันถึงสิบวัน ทั้งยังเป็นเรื่องราวเดียวกันไม่ผิดเพี้ยนมันทำให้ความมั่นใจของนางสั่นคลอน สุดท้ายจึงคิดจะทำบางอย่างเพื่อพิสูจน์ความฝันนั้น

            “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”

            “อืม”

            “ตื่นเช้าเช่นนี้ ท่านฝันร้ายอีกแล้วหรือเจ้าคะ”

            “อืม” นางพยักหน้า

            “ฝันร้ายติดต่อกันหลายวันเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีเราลองไปไหว้พระดีหรือไม่เจ้าคะ แล้วขอเครื่องรางฝันดีมาไว้ใต้หมอน”

            “ฟังดูเข้าท่าไม่น้อย เช่นนั้นยกน้ำล้างหน้าเข้ามาเถิด ข้าจะได้รีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อไปพบท่านแม่”

            “เจ้าค่ะคุณหนู” ซูฉีตอบรับก่อนจะรีบไปยกอ่างน้ำล้างหน้ามาให้คุณหนูของตน

            หลังจากรับสำรับเช้าพร้อมหน้าบิดามารดาแล้ว คุณหนูฟ่านก็ตามมารดาไปที่เรือนเพื่อจะเอ่ยปากขออนุญาตออกไปไหว้พระที่อารามนอกเมือง

            “ทางไปอารามมีแต่ป่าแต่เขา อย่างไรพาคนคุ้มกันไปให้มากหน่อย แม่จะได้หายห่วง” โฉมสะคราญล่มเมือง อดีตหญิงงามอันดับหนึ่งที่ไม่รู้บิดาไปใช้เล่ห์กลอันใดถึงได้มาครอง เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

            “เจ้าค่ะท่านแม่” ยิ่งพิศยิ่งเห็นความงามที่ไม่ได้สร่างไปตามวัยของมารดา บางครั้งทำให้นางทอดถอนใจที่ตนเองงดงามน้อยที่สุดในจวนหากไม่นับบิดา และเพราะเหตุนี้ทำให้นางไม่ชอบงานเลี้ยงที่จะต้องพบปะญาติพี่น้องที่มักจะเอ่ยปากเปรียบเทียบว่านางงดงามน้อยกว่าพี่ชาย คล้ายกับเด็กถูกเก็บมาเลี้ยง

            “อีกไม่ถึงกี่วันก็จะปักปิ่นแล้ว อย่างไรขอเครื่องรางคู่ครองมาด้วยก็ได้”

            “ท่านแม่ใจร้ายยิ่งนัก คิดจะไล่ให้ลูกออกเรือนทันทีที่เข้าพิธีปักปิ่นเลยหรือ”

            “แม่ไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่จะช้าหรือเร็วอย่างไรเจ้าก็ต้องออกเรือน หาเครื่องรางมาไว้บูชาก็ไม่เสียหาย”

            “ข้าไม่สนทนากับท่านแม่แล้ว ข้ารีบไปไหว้พระที่อารามดีกว่าเจ้าค่ะ หากสายกว่านี้คนอาจจะมาก” กล่าวจบก็รีบย่อตัวแล้ววิ่งจากไป

            “อย่าลืมพาคนคุ้มกันไปด้วยนะซีอิ๋ง” ฟ่านฮูหยินส่งเสียงตะโกนตามหลัง พลางส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกจนใจเมื่อเห็นท่าทางห่างไกลจากคำว่า ‘เรียบร้อย’ ของบุตรสาว

           

            เนื่องจากอารามตั้งอยู่กลางป่าเขา การเดินทางด้วยรถม้าจึงใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วยามกว่าจะถึง

            “คนน้อยเช่นนี้ ดีจริง ๆ” หรือเป็นเพราะตอนนี้เพิ่งจะต้นยามซื่อ (09.00-10.59) ก็ไม่แน่ใจ

            “เช่นนั้นเรารีบเข้าไปไหว้พระกันเถิดเจ้าค่ะ ได้ยินว่าเซียมซีที่อารามนี้แม่นมากเลย อย่างไรคุณหนูลองเสี่ยงทายด้วยดีหรือไม่เจ้าคะ”

            “ไม่หรอก ชะตาฟ้าลิขิตหรือจะสู้เราลิขิตด้วยสองมือเล่า” ฟ่านซีอิ๋งส่ายหน้าไปมาคล้ายไม่เห็นด้วย

            “แต่คนเขาว่าเซียมซีที่นี่แม่นมากนะเจ้าคะ ได้ยินว่าเมื่อสามเดือนก่อนคุณหนูหวังจวนเจ้ากรมคลังมาไหว้พระที่นี่ เสี่ยงทายได้ใบที่บอกว่าจะเจอคู่วาสนา หลังจากนั้นเพียงสามวันก็ได้เจอคุณชายจ้าว จวบจนเมื่อเจ็ดวันก่อนก็เพิ่งตบแต่งเข้าเป็นฮูหยินน้อยตระกูลจ้าว”

            “คู่วาสนาหรือคู่เวรคู่กรรมก็ไม่อาจทราบได้” นางเคยได้ยินบิดาเอ่ยกับมารดาว่าจวนจ้าวกำลังขัดสน การได้แต่งกับคุณหนูหวังเกรงว่าจะถูกวางแผนเอาไว้แล้ว

            “คุณหนู!”

            “เจ้าลืมแล้วหรือว่าข้ามาที่นี่เพื่อขอเครื่องรางปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จะได้ไม่ต้องนอนฝันร้ายอีก หาใช่มาเพื่อเสี่ยงทายหรือขอพรเกี่ยวกับคู่ครองไม่” อยู่เป็นคุณหนูจวนฟ่านสุขสบายยิ่งนัก นางหรือจะยอมแต่งออกไปง่าย ๆ           

            ในฝันบอกว่านางจะได้เจอซิวเมิ่งหยวนซือเย่แห่งสำนักศึกษาเหวินไท่ บัณฑิตหนุ่มผู้มากความสามารถ มีความรู้แตกฉานสมกับเป็นบุตรชายคนเดียวของราชครูซิว ที่ร้านเหิงจื้อ ทั้งยังประทับใจในความสุภาพอ่อนโยนของอีกฝ่ายที่ช่วยนางเลือกพู่กันให้พี่ชาย

            เหอะ! เช่นนั้นก็อย่าได้หวังว่านางจะมอบพู่กันเป็นของขวัญให้พี่ชาย และเพื่อให้พี่ชายดูสมชายชาตรีมากขึ้น นางคิดว่าจะไปสั่งกระบี่ให้พี่ชายสักเล่มหรือไม่ก็เป็นอาวุธลับที่เอาไว้ป้องกันตัว แต่หากตำลึงไม่พอก็คงเป็นพู่ห้อยกระบี่งาม ๆ แทน

            “แต่ขอคู่ครองด้วยก็ไม่เสียหายนะเจ้าคะ”

            “ไม่ล่ะ ข้าคิดว่าการเป็นคุณหนูฟ่านเช่นนี้แหละดีที่สุด” นางกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปในอารามเพื่อไหว้พระ ทิ้งให้สาวใช้ถอนหายใจกับความคิดแปลกประหลาดของคุณหนู ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่ที่เริ่มฝันร้ายเป็นครั้งแรก

            “รอบ่าวด้วยเจ้าค่ะคุณหนู” ซูฉีรีบก้าวเท้าเดินตามคุณหนูของตนไป

[1] บุรุษที่รักชอบบุรุษด้วยกัน

[2] ผู้สืบทอดตำแหน่งอ๋องต่อจากบิดา

[3] คนที่มีความสามารถแต่หลบซ่อนคมเอาไว้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : โปรดปรานจนวาระสุดท้าย (จบบริบูรณ์)

    โปรดปรานจนวาระสุดท้าย เวลาผ่านไปนานถึงยี่สิบห้าหนาว ฮ่องเต้คังเฟยหลงในวัยสี่สิบเจ็ด ป่วยและจากไปด้วยโรคประจำตัว แม้ในวังหลังจะมีสนมมากมาย แต่ทว่าฮ่องเต้กลับมีโอรสและธิดากับฮองเฮาเพียงสามพระองค์โดยสนมทุกคนจะถูกบังคับให้ดื่มน้ำแกงไร้บุตรก่อนที่จะเข้าถวายการรับใช้ ซึ่งฮ่องเต้จะเป็นผู้ยืนดูความเรียบร้อยด้วยตนเอง แม้จะมีฎีกาคัดค้านเรื่องนี้จากขุนนางมากมาย แต่ทว่าขุนนางเหล่านั้นก็จะโดนฮ่องเต้กล่าวหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูงหวังอยากเป็นพระอัยกาของฮ่องเต้พระองค์ถัดไปทั้งคิดจะกลืนกินราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งพระประสงค์ของฮ่องเต้ด้วยกลัวว่าจะต้องโทษกบฏ องค์ไท่จื่อที่ได้รับการแต่งตั้งจึงเป็นองค์ชายใหญ่ ส่วนองค์ชายรองก็รับหน้าที่ส่งเสริมพี่ชายโดยได้รับตำแหน่งอ๋อง และองค์หญิงก็ได้แต่งกับท่านราชบุตรเขยซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ ทั้งสามพี่น้องรักใคร่เกื้อกูลกันเนื่องจากประสูติจากครรภ์ของฮองเฮา “ชินอ๋องซื่อจื่อแจ้งว่ายามได้รับทราบข่าวของพระองค์ ชินอ๋องและพระชายารีบเร่งเดินทางออกจากเมืองจิ่นเฟิงเพคะ” “อืม...แต่เจิ้นคงรอพวกเขาไม่ไหวหรอก อย่างไรฝากขอโทษพวกเขาด้ว

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (4/4)

    “อืม” คังซืออี้หน้าตึงไม่ค่อยพอใจอยู่บ้างที่เห็นพระชายาของตนส่งยิ้มให้โอรสสวรรค์ “ซีถิง อากลับก่อนนะ เอาไว้วันหน้าอาจะนำของเล่นมามอบให้” “พ่ะย่ะค่ะ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวตอบรับเสียงอ่อน “ฟู่กงกง ส่งเสด็จฮ่องเต้” “เชิญพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่กงกงรีบมาทำหน้าที่ พลางคิดว่าคงจะมีแต่ตำหนักนี้กระมังที่ให้ขันทีเป็นคนออกไปส่งฮ่องเต้ที่หน้าตำหนักหาใช่เจ้าของตำหนัก คล้อยหลังโอรสสวรรค์แล้ว พระชายาฟ่านก็หันหน้ามาจ้องหนึ่งบุรุษ หนึ่งเด็กน้อยที่หน้าตาคล้ายคลึงกันยิ่งนัก ไหนจะท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยแล้วช้อนตาขึ้นมองเพื่อเรียกร้องความน่าสงสารนั่นอีก ‘สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน’ นางเกือบเผลอยิ้มออกมาก่อนจะแสร้งทำหน้าเคร่งขรึม “ท่านแม่ขอรับ เรื่องนี้เป็นท่านพ่อที่ผิดนะขอรับ ลูกเพียงแต่น้อยใจ...” “บิดาเจ้าเพียงห่วงใยมารดา จึงไม่อยากให้เจ้าไปรบกวน พ่อผิดที่ใด” “หยุดเอ่ยวาจาเลยเจ้าค่ะ นับตั้งแต่นี้ชินอ๋องและชินอ๋องซื่อจื่อจะต้องย้ายไปอยู่เรือนท้ายตำหนักและถูกกักบริเวณเป็นเวลาสามวันห้ามก้าวเท้าออกจากเรือนท้

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (3/4)

    “ข้าคิดดีแล้วขอรับ ท่านอามาเป็นสามีใหม่ของมารดาข้าเถิด ข้ายินดีจะเรียกท่านว่าบิดาอย่างไม่อิดออด” “หน๊อย! เจ้าเด็กนี่ เฟยหลงเจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” ชินอ๋องร้องโวยวายเมื่อถูกน้องชายจับตัวไว้หวังช่วยเหลือเจ้าเด็กมากมารยา “ท่านพี่ใจเย็น ๆ ก่อนเถิด ซีถิงยังเยาว์วัยนักท่านอย่าได้ถือสาเขาเลย” “ท่านพ่อคนใหม่ ช่วยข้าด้วยขอรับ เห็นหรือไม่ บิดาคนเก่าของข้าใจร้ายเพียงใด” ท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยพลางตอบเสียงอ่อน ทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูได้ไม่อยาก แต่ยกเว้นบุรุษที่เจ้ามารยาไม่แพ้กันเช่นชินอ๋อง “หยุดเอ่ยเรียกผู้อื่นว่าบิดาได้แล้ว มิเช่นนั้นข้าจะลงโทษเจ้า” คังซืออี้รู้สึกอยากลงโทษบุตรชายก็คราวนี้ จะมารยาเรียกร้องความสนใจเช่นไรเขาไม่นึกถือสา แต่หากคิดจะหาบุรุษมาให้ชายาของเขา เขามีหรือจะยอม “จะลงโทษซีถิงด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ฟ่านซีอิ๋งเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง นางถูกสาวใช้คนสนิทปลุกให้ตื่นหวังให้มาห้ามทัพระหว่างบุรุษทั้งสอง ด้วยกลัวว่าท่านอ๋องน้อยจะถูกลงโทษเพราะไปยั่วโทสะบิดาเข้า เรื่องที่แตะเกล็ดมังกรย้อนของชินอ๋องผู้นี้เห

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (2/4)

    “ท่านอ๋องสั่งไว้ว่าไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนขอรับ” “บังอาจ! พวกเจ้าไม่เห็นข้าเป็นนายหรือ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวยืนกอดอกจ้องทหารยามด้วยสายตาดุ แต่ในสายตาผู้อื่นกลับดูน่ารักไปเสียได้ “ย่อมเห็นขอรับจึงไม่อยากให้ท่านอ๋องน้อยต้องถูกท่านอ๋องลงโทษที่ขัดคำสั่ง” “ปล่อย...” ชินอ๋องซื่อจื่อตัวน้อยยังส่งเสียงร้องโวยวายไม่ทันจบก็ถูกบุรุษตัวโตปิดปากแล้วอุ้มให้ออกห่างจากเรือน “ชายาข้ากำลังพักผ่อน เจ้าอย่าได้ส่งเสียงรบกวนนาง” เรียกได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อตะวันฉายแสงจะดีกว่า ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาทั้งรักและโปรดปรานนางยิ่งนัก ทันทีที่ร่างเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เจ้าตัวน้อยก็กอดอกแล้วต่อว่าผู้เป็นบิดาทันที “ท่านพ่อใจร้าย ไม่ยอมให้ข้าเจอท่านแม่เลย” “ซีถิง เจ้าโตแล้ว เป็นบุรุษจะทำตัวเป็นลูกแง่เกาะติดมารดาตลอดไปไม่ได้ ในภายหน้าเจ้าจะได้เป็นชินอ๋องที่น่าเกรงขาม เห็นหรือไม่ บิดาทำไปเพื่อฝึกฝนเจ้า” คังซืออี้กล่าวพลางตีหน้าเคร่งขรึมหวังหลอกล่อบุตรชายให้หลงเชื่อ ทั้งที่จริงแล้วยามเดินทางเขาไม่ได้ใกล้ชิดนางดั่งใจต้องการ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (1/4)

    หาคนรักให้มารดา เสียงร้องโวยวายของเจ้าก้อนแป้งวัยห้าหนาวดังลั่นเรือนพร้อมเจ้าตัวที่กำลังดีดดิ้นและพยายามช่วยเหลือตนเองจากการถูกหิ้วคอเสื้อจากทางด้านหลัง “ท่านพ่อ ปล่อยข้านะขอรับ ข้าจะไปหาท่านแม่” เด็กน้อยเอื้อมแขนสั้น ๆ ของตนพยายามแกะมือที่จับยึดคออาภรณ์ของเขา “ท่านแม่เจ้ากำลังพักผ่อนให้คลายจากความเหน็ดเหนื่อยเจ้าอย่าได้ไปรบกวน” “นี่มันยามโหย่ว (17.00-18.59) แล้วนะขอรับ” “แล้วอย่างไร มีกฎข้อใดไม่ให้ชายาข้าพักผ่อนในยามโหย่ว (17.00-18.59)” “ก็มันใกล้จะมืดค่ำแล้วขอรับ” ประเดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วยามก็ต้องเตรียมตัวเข้านอนอีก “เจ้ายังเด็กนัก บิดาจึงไม่อาจบอกได้ว่าแท้จริงยามค่ำคืนคนที่เติบโตแล้ว ไม่ต้องเข้านอนก็ได้” “ท่านพ่อกำลังโกหกข้า อีกอย่างหากท่านแม่ทราบว่าข้ากำลังร้องเรียกหา ท่านแม่หรือจะเมินเฉย” “ที่เจ้ากล่าวมาก็ไม่ผิด ด้วยเหตุนี้พ่อจึงได้พาเจ้ากลับมาที่เรือนแยก แม่นม จือไห่ จือซวน จือหม่า จือหมิง” “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ” คนที่รออยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาพลางโค้งตัวรอรับคำส

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (5/5)

    “ในเมื่อพี่ตกลงกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่ย่อมมีเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวในเรือนหลัง หากเจ้าลองสังเกตดี ๆ เจ้าจะพบว่านอกจากบิดาของพี่จะมีฮูหยินเพียงคนเดียวแล้ว สหายของพี่ที่เป็นถึงชินอ๋อง ก็ยังแต่งพระชายาคือน้องสาวของพี่เพียงคนเดียว ไร้อนุฯ หรือสาวใช้อุ่นเตียง บ่งบอกว่าพวกเราคนตระกูลฟ่านต้องการมีรักเดียวชั่วชีวิต” “นี่ท่าน!” หูเซียงเฟยตกใจยิ่งนัก มิคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด “เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องข้อเสนอนั่นอีกเลย ในเมื่อการกราบไหว้ฟ้าดินของเราเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ” สิ้นเสียงเขาก็เชยคางมนขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาจงใจทำให้นางคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาจึงทำเพียงกินเต้าหู้นางเล็ก ๆ น้อย ๆ ลิ้นร้อนลิ้มรสความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเรียวเล็กของนางพยายามตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ยิ่งทำให้เข้าปรารถนาอยากจะกดนางลงบนเตียงแล้วทำให้นางกลายเป็นฮูหยินของเขาเต็มตัว “เซียงเซียง เจ้าหวานเหลือเกิน” เขากล่าวพลางจ้องมองนางด้ว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status