แชร์

บทที่ 2 หลุมพราง (2)

ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-09 18:40:20

แค่เธอขยุ้มเส้นผมแผ่วเบาอย่างอ้อยอิ่งกลับทำให้กึ่งกลางกายขยับขยายอย่างรวดเร็วจนปวดร้าวไปทั่วกลางกาย แต่เขาจะยังไม่ทำตอนนี้ ถ้ายังไม่สำรวจให้มากกว่านี้

รอก่อน ชายหนุ่มอยากเห็นหญิงสาวแสดงสีหน้ายามที่มือหนาสัมผัสไปทั่วเรือนร่าง แผ่ความร้อนระอุให้เธอวาบหวามไปทั่วสรรพางค์เพียงปลายนิ้วสัมผัส มือหนาเคลื่อนออกมาถกปลายกระโปรงขึ้นไปอยู่ที่สะโพก แล้วเคลื่อนมาที่เนินเนื้ออูมอีกครา ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวขอบชั้นในแล้วจึงสอดมือหนาเข้าไปสัมผัสสิ่งที่ไร้สิ่งกีดขวางใด ๆ ทั้งสิ้น

“เนียนมาก...ฉันชอบ” 

เขาผละริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูที่แดงระเรื่อ ขบเม้มเบา ๆ แล้วไล้ริมฝีปากพรมจูบที่แก้ม ก่อนกดจูบริมฝีปากอิ่มอีกครั้งอย่างอ้อยอิ่ง นุ่มลึก และหนักหน่วงจนเธอครางอยู่ในลำคออีกครั้งอย่างปรารถนา ซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยเวลาได้จูบกับแฟนที่เคยคบหาในวัยเรียน

เธอปรารถนาจนรุ่มร้อนไปทั่วสรรพางค์

จูบที่นุ่มนวลอ่อนโยนผลัดเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงจนเร่าร้อนให้กายสาวเหมือนถูกแผดเผา ยามมือหนาหยอกเย้าสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าเนินเนื้ออูมเพื่อเล้าโลมให้เธอโอนอ่อนไปกับสัมผัสของเขาโดยง่าย สร้างความพรั่นพรึงให้กับสาวเจ้ายามที่นึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาในไม่ช้า มือหนาของเขาช่างร้ายเหลือทน แหวกกลีบดอกไม้แยกออกลากผ่านความอ่อนไหวที่เริ่มชื้นแฉะเล็กน้อย สัมผัสความนุ่มของกึ่งกลางกายสาวเจ้าอย่างไม่ใจดี คลึงนิ้วหยอกเย้าสอดใส่โพรงแคบอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าทำกายสาวสั่นระริก ปลายเท้าจิกลงด้วยความซ่านสยิวจากสัมผัสร้อนที่ปลายนิ้ว

ชอบจัง...เธอรู้สึกชอบอย่างที่ไม่เคยมาก่อน รู้สึกดีอย่างที่ไม่มีใครทำให้เธอได้รู้สึกได้เท่ากับเขา

อ๊ะ!

เธออุทานในใจเมื่อรู้สึกถึงแรงกัดที่ริมฝีปากผสมผสานไปกับความซ่านสยิวยามที่นิ้วเรียวยาวสอดใส่เข้าออก คลึงเย้าเม็ดติ่งอ่อนไหวจนเรียวขาทั้งสองสั่นระริก เรียวนิ้วที่เสียดสีเข้าออกจากที่ค่อยเป็นค่อยไปเริ่มทวีคูณขึ้นถึงความเร่าร้อนเมื่อหยาดน้ำหวานไหลเยิ้มจนชื้นเรียวนิ้วทั้งสองนิ้วไปหมด

เขาอยากลิ้มลองชิมว่าจะหวานเหมือนกับริมฝีปากอิ่มหรือไม่

แต่ยังก่อน...เขาอยากค่อย ๆ ชิมเหยื่อที่เพิ่งตกหลุมพรางห้วงอารมณ์ราคะของเขา เรียวนิ้วกดคลึงหนักหน่วง ถอดถอนออกเกือบสุด แล้วสอดใส่กลับเข้าไปอีกครั้ง เสียดสีให้ลึกขึ้นอีกสองสามที

เชอเอมรู้สึกซ่านสยิวไปทั่วกายด้วยอารมณ์ที่หลากหลายแปลกใหม่ พลันลมหายใจสะดุด หูเริ่มพร่า ตาเริ่มลาย สมองขาวโพลน ท้องน้อยหกเกร็ง เสี้ยวนาทีต่อมาเธอก็กระตุกพร้อมกับร้องเสียงหวานออกมา เมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการจากริมฝีปากบาง

“อ่าส์”

“เสียงหวาน แล้วตรงนั้นจะหวานเหมือนปากหรือเปล่า” เขาถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ

เซนนิก้าถอดถอนเรียวนิ้วทั้งสองออกจากโพรงคับแคบที่ตอดรัด

ตุบ ๆ ไม่หยุด จนรู้สึกไปถึงท่อนเนื้อร้อนที่แข็งขึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดผ่านเป้ากางเกง มือหนาดุนปลายกระโปรงของเธอลงพร้อมกับขยับลุกช้อนตัวหญิงสาวอุ้มขึ้นจากโซฟาตัวยาว สายตาหวาดปรือมองอย่างคนไร้สติเมื่อความเสียวซ่านยังคงแผ่ไปทั่วสรรพางค์ ช้อนตามองเขาอย่างยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจ แขนที่ยังโอบลำคอแกร่งไม่คลายออกแม้แต่นิด เมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างใคร่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป เรียวปากร้อนจึงขยับตอบด้วยรอยยิ้มบาง

“ฉันไม่อยากให้ครั้งแรกระหว่างเราถูกขัดจังหวะ”

ดวงตาหวานประสานสายตาคมที่จับจ้องมาที่เธอ ไม่ใช่เชอเอมไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ และ...

หัวใจกำลังเรียกร้องให้ปล่อยไปตามห้วงอารมณ์

เธอไม่เข้าใจตัวเอง เพราะอะไรถึงอยากลิ้มลองกับสัมผัสจาก

เซนนิก้าอีกครั้ง เธอยังรู้สึกไม่พอกับสิ่งที่เขาทำให้ก่อนจะขึ้นมาบนห้อง แม้จะเป็นครั้งแรกที่เธอถูกเพศตรงข้ามสัมผัสมากกว่าจูบมากว่ากอด

ครั้งแรกที่เธอจะลองกับเขา

เชอเอมไม่รู้ว่าเดรสสั้นรัดรูปหลุดออกจากร่างกายไปเมื่อไร รู้สึกตัวได้อีกทีแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าสัมผัสความเย็นบนเตียงนอนนุ่มคิงไซซ์ หญิงสาวรับรู้ตั้งแต่เขาพาขึ้นมาชั้นบนจนเข้ามายังห้องพักด้านหลังห้องทำงาน แต่แล้วสติก็หลุดกระเจิงเมื่อเท้าได้แตะลงพื้น

ริมฝีปากร้อนทาบทับลงมาอย่างเร่าร้อนจนเธอรู้สึกหูพร่าตาลาย กระทั่งสัมผัสได้ถึงเตียงนุ่ม เขาผละริมฝีปากออก ชำเลืองสายตาขึ้นมามอง ครานี้เองที่เธอรู้สึกตัว

เขาคือพี่ชายเพื่อน

เซนนิก้าเป็นผู้ชายฮอตที่สุดในเวลานี้ เธอเพิ่งรู้ได้ไม่นานด้วยเพราะไม่ได้ใส่ใจคนดัง กระทั่งได้ยินจากปากของซิกก้าอีกครั้ง

ใช่ เขาฮอตจริง

เพราะเธอกำลังหลงไปกับเสน่ห์ของเขา!

เธอไม่ปฏิเสธว่าเขาหล่อเหลามากแค่ไหนในวัยสามสิบห้าปี คิ้วเข้มทรงสวยเหนือดวงตาคม จมูกโด่งสวยรับริมฝีปากหยัก ยิ่งเสริมให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างถูกมนตร์สะกดก็คือนัยน์ตาสีอำพันที่เธอหยุดมองไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เธอลอบมองเขาอยู่บ่อยครั้งที่ห้องวีวีไอพี กระทั่งได้สบตากับเขาถึงได้รู้ตัวแล้วหลุบหนี

นั่นแหละ ที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าแอบมองเขา

ดวงตาหวานประสานสายตาคมอีกครั้ง แล้วหลับตาพริ้มเมื่อริมฝีปากร้อนประกบจูบอีกครั้ง ปลายนิ้วที่หยาบกร้านแตะลงที่แก้มอย่างไม่รู้สึกรังเกียจเท่าผู้ชายที่พยายามลวนลาม ไม่เพียงแตกต่าง แต่มันทั้งร้อนทั้งวาบหวาม ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นให้เขาได้รุกล้ำ ครู่ต่อมาลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดกันอย่างนุ่มลึกและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน

เขาทำให้เธอซาบซ่านได้อย่างรวดเร็ว ทว่าเธอเองก็ทำให้เขาแทบทนไม่ไหวที่จะยังจูบเธออยู่เช่นนี้ สายตาหวานลืมขึ้นเมื่อริมฝีปากร้อนผละออก ยืนกายขึ้นทั้งที่ยังคร่อมอยู่ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกอย่างช่ำชอง เพียงไม่นาน เสื้อสีดำสนิทก็ถูกโยนออกไปให้พ้นทาง เผยให้เห็นแผ่งอกที่ตึงแน่นและกล้ามหน้าท้องที่เคร่งครัด สายตาซุกซนยังคงมองอย่างห้ามใจไม่ได้ ไล่สายตาลงมองวีไลน์ที่สิ้นสุดหายเข้าไปในขอบกางเกงยีนส์สีดำ เพียงแค่หยุดอยู่ตรงนั้น ลมหายใจของสาวเจ้าก็สะดุด

แต่สายตายังคงมองกล้ามหน้าท้องและวีไลน์อย่างหลงใหลและอยากยื่นมือไปสัมผัส…ไวเท่าความคิด มือเล็กยกขึ้น ยื่นออกไปตรงหน้าแล้วทาบทับมือและเรียวนิ้วทั้งห้า ลากไล้เส้นวีไลน์อย่างอ้อยอิ่ง ช้อนสายตาขึ้นมองเจ้าของมือหนาที่คว้ากุมมือเธอเอาไว้ไม่ให้มันต่ำไปมากกว่านี้

เชอเอมรู้สึกแปลกใหม่กับห้วงอารมณ์ที่กำลังปะทุ

“ถอดให้พี่…”

เธอลังเล ชะงักเล็กน้อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (4)

    มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (3)

    หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (2)

    สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

    บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (4)

    เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (3)

    ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status