LOGINแต่แล้วเชอเอมก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งบนขอบเตียง เซนนิก้าผละออกมายืนอยู่ข้างเตียงให้เธอได้ปลดกางเกงยีนส์ถนัด มือเรียวบางยังคงจับอยู่ที่ขอบกางเกง
ยิ่งระดับที่พอดีหน้าอย่างชัดเจน เชอเอมยิ่งทั้งกลัวทั้งประหม่า
มือเรียวบางเคลื่อนอย่างช้า ๆ ด้วยความลังเล แต่แล้วมือเล็กก็รูปซิปกางเกงลง ยีนส์สีดำร่วงลงไปกองที่ข้อเท้า เธอแอบกลั้นใจแล้วพรูออกมา เมื่อยังมีบ็อกเซอร์สีเทาติดกายเพียงชิ้นเดียว
เธอทั้งเขินทั้งอาย
เขาน่ะหรือ…ไม่มีท่าทีเหนียมอายแม้แต่นิด!
เชอเอมรู้สึกว่าตัวเองกำลังปั่นป่วนไปหมด เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวอยู่ในสถานการณ์ที่ใครต่อใครเรียกว่าเซ็กซ์ ใช่ เธอกำลังจะมีความสัมพันธ์เช่นนั้นกับเซนนิก้า
เธอห้ามตัวเองไม่ได้
หรือนี่เธอจะตกหลุมพรางเขาให้แล้วนะ หลุมพรางที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าได้ก้าวเดินเข้ามาอย่างเต็มใจที่จะอยู่ในกรงขังของเขา
“ถอดให้หมดสิ”
เรียวปากสวยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม รอยยิ้มยกขึ้นมุมมากเมื่อการกระทำและสีหน้าของเธออยู่ในสายตาเขาตลอด ความเก้อเขินเหนียมอาย ทำให้เขาชอบยิ่งกว่าผู้หญิงที่นอนรออย่างเย้ายวน
สายตาคมมองปลายนิ้วที่จับขอบกางเกงบ็อกเซอร์ที่กำลังสั่นน้อย ๆ
เพียงครู่เดียว เรือนร่างของเซนนิก้าและเชอเอมก็เปลือยเปล่า ให้ความรู้สึกพรั่นพรึงแหละซาบซ่าน แต่คงไม่เท่าสายตาหวานที่เห็นท่อนเนื้ออวบใหญ่ขรุขระด้วยเส้นเอ็นที่แข็งขึงขึ้นมาอย่างไม่เต็มความอวบใหญ่ที่หว่างขา สายตาซุกซนไม่คิดหลุบตาหนีหรือเบือนหน้าด้วยความพรั่นพรึง
ทว่าเธออยากลิ้มลอง
“ทำให้พี่สิน้องเอม”
เซนนิก้าออกคำสั่งอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาที่แสนซุกซน พลันมุมปากยกขึ้นเมื่อคนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมามองพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเต้นแรงอีกครั้ง
“เอม...เอมไม่เคย”
พูดอย่างเก้อนเขิน สองแก้มเนียนเห่อร้อนจนขึ้นสีแดงระเรื่อ กระทั่งปลายหูก็เปลี่ยนสี
“ทำตามพี่ ไม่ต้องรีบ ช้า ๆ พร้อมกับปากของน้องเอม...พี่สะอาด”
ชายหนุ่มพูดพลางกุมมือเล็กมาวางแล้วกอบกุมท่อนเนื้อเต็มมือ ดันมือเล็กให้ทำตามอย่างช้า ๆ เพียงครู่เดียว มือเรียวบางก็เริ่มที่จะรูดรั้งท่อนเนื้อร้อนที่เริ่มแข็งขึงขึ้นกว่าเดิมอย่างช่ำชอง สายตาซุกซนยังคงมองท่อนเนื้อที่ตัวเองกำลัง ‘ทำ’ เป็นครั้งแรก ไม่นานเรียวปากเล็กก็เข้ากอบกุมเต็มปาก
เชอเอมพรั่นพรึงในใจกับสิ่งแปลกใหม่ครั้งนี้
แต่เธอไม่คิดปฏิเสธหรือรู้สึกว่ามันสกปรก ไม่ใช่เพราะเขาบอก แต่สายตาเห็นด้วยตัวเองว่าเขา ‘สะอาด’ จริง ๆ อย่างที่พูด
ความอวบใหญ่และยาวสอดใส่เต็มโพรงปากที่ถอดถอนเข้าออกเริ่มขยับขยายขึ้น ยิ่งมือเรียวบางรูดรั้งไปพร้อม จนชายหนุ่มขบกรามไปกับความวาบหวามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนกับผู้หญิงคนไหนที่ทำให้
“อือ...”
เซนนิก้าครางต่ำในลำคออย่างซาบซ่าน มือหนายกขึ้นรวบเส้นผมนุ่มสลวยเอาไว้ที่ท้ายทอย แล้วออกแรงดันเล็กน้อยช่วยให้เธอออรัลเซ็กซ์
ชายหนุ่มใคร่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงได้ใช้ปากได้เก่งเช่นนี้ ทั้งที่ไม่เคยมาก่อน แต่เธอรู้ว่าควรโลมเลียท่อนเนื้อร้อนเช่นไร ดูดดุนอย่างไร หยอกเย้าหัวหยักบานอย่างไรที่กระตุ้นให้เขาเกือบทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมา มือหนากระตุ้นกลุ่มเส้นผมให้สาวเจ้าได้รู้ว่าควรพอแค่นี้ก่อนที่โพรงปากของเธอจะทำให้เขาถึงฝั่งฝันเสียก่อน
เขาแปลกใจอยู่ไม่น้อย เธอปลุกให้เขาตื่นอย่างรวดเร็ว
เชอเอมมองเซนนิก้าที่นั่งลงคุกเข่าอยู่ตรงหน้า เพียงไม่นานเธอก็ได้รู้ว่าเขาจะทำเช่นไรต่อไป มือหนาแตะลงบนเท้าของเธอแล้วก้มลงพรมจูบอย่างนุ่มนวลและอ้อยอิ่ง ไล้ขึ้นมาที่ปลีน่อง ขึ้นมาทีละนิดจนเธอซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์เพียงเพราะริมฝีปากอุ่นทาบทับอย่างแผ่วเบา ตั้งแต่ข้อเท้าจนขึ้นมาถึงต้นขาอ่อนเนียน เพียงครู่เดียวเธอนอนราบไปกับเตียงนอน เรียวขาทั้งสองถูกแยกออกด้วยมือหนา จัดการดันให้เธอชันเข่าขึ้นพาดลงบนบ่าแกร่งที่เจ้าตัวยังคงวนเวียนไล้จูบอย่างดื่มด่ำ แล้วหยุดลงที่กึ่งกลางกายสาวจนเธอสะดุ้ง
“อ๊ะ!”
เธอซ่านสยิวทันทีที่ริมฝีปากอุ่นทาบทับลงบนกลีบนุ่มที่ชุ่มไปด้วยน้ำหวาน พลันมือเรียวบางขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปตามห้วงอารมณ์ที่ทวีคูณขึ้นยามที่เรียวปากดูดดื่มโลมเลีย
เลียร้อนลากไล้ผ่านกลางกลีบขึ้นลงอย่างเร่าร้อนจนเธอเสียวซ่านจากจุดที่เขากำลังโลมเลียแล่นขึ้นมาที่ท้องน้อย ลมหายใจของเธอเริ่มสะดุด ท้องน้อยหดเกร็งเล็กน้อยไปกับสัมผัสที่หนักหน่วง ลิ้นร้อนของเขาทำหน้าที่ได้ดีจนเธอหลุดร้องเสียงหวานออกมาไม่เป็นภาษา
เธอเสียวซ่านอย่างไม่เคยรู้สึก
เชอเอมหลับตาพริ้ม กำผ้าปู นิ้วเท้าจิกเข้าหากันเมื่อความเสียวซ่านทวีขึ้นไปตามเรียวปากที่ดูดดุนและโลมเลีย พร้อมกับปลายนิ้วที่กำลังกดคลึงเม็ดติ่งอ่อนไหว
“อ๊ะ...อ่า”
หญิงสาวรู้สึกถึงลิ้นร้อนที่ยังคงดูดดุนเย้าหยอก รู้สึกถึงหยาดน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด ยิ่งเขาโลมเลียไม่พัก เธอก็ยิ่งหอบหายใจด้วยความเสียวซ่าน ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยแล้วร่อนรับปากของเขาอย่างน่าอาย
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







