LOGINพลันความคิดซุกซนก็ทำให้เธอลืมตาขึ้น ภาพที่สะท้อนเพดานกระจกสีดำที่เธอกำลังร่อนสะโพกรับเรียวปากของเขาก็ส่งผลให้สองแก้มเห่อร้อนอีกครา ทว่าเธอไม่คิดถอยหนีอย่างเหนียมอาย เพราะห้วงอารมณ์ของเธอกำลังจะถึงฝั่งฝัน
ความรู้สึกที่กำลังตอดรัดทั้งที่ไม่มีสิ่งใดรุกล้ำเขามา แต่เป็นเพราะลิ้นร้อนที่กำลังทำให้เธอรู้สึกทรมานเพียงครู่ ร่างเล็กก็กระตุกเมื่ออารมณ์ได้พุ่งทะยานสู่ฝั่งฝันอีกครั้ง
เซนนิก้าผละใบหน้าออก เงยขึ้นมองหญิงสาวที่มองมา พลางโลมเลียริมฝีปากตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“หวาน...หวานกว่าที่พี่คิด”
เขาพูดทั้งที่กำลังยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เธอสิที่อายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
เขาเป็นผู้ชายที่หน้าดานเหลือทน ผู้ชายที่เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้โอนอ่อนได้มากขนาดนี้ เป็นรักแรกพบแล้วอย่างไร แต่มันก็หลายปีมาแล้วไม่ใช่หรือ
มิหนำซ้ำครั้งสุดท้ายที่เจอก็เห็นอยู่กำลังแฟนสาวผมบลอนด์ยาวสลวย
แม้ในใจเชอเอมจะแอบน้อยใจ แต่เธอก็ไม่คิดผลักไสเขาแม้แต่นิด สายตาหวานเอาแต่จับจ้องเขาทุกอิริยาบถ กระทั่งตอนนี้ที่ร่างแกร่งขึ้นคร่อม ประกบปากจูบอีกครั้งอย่างร้อนแรง
ไม่มีอีกแล้วความนุ่มนวลความอ่อนโยน
เธอชอบ ชอบมากกว่าครั้งที่อยู่ข้างล่าง ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดตอบรับอย่างไม่ลังเล มือเรียวบางลูบไปตามแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามที่เคร่งครัด ขึ้นมาโอบลำคอแล้วสอดนิ้วลากผ่านเส้นผมนุ่มของเขา ขยุ้มเบา ๆ ด้วยความซ่านสยิว
“อือ...”
เชอเอมครางแผ่วด้วยความเสียววูบที่ท้องน้อย เมื่อรู้สึกส่วนกึ่งกลางกายที่แนบลงมาระหว่างขาของเธอ รู้สึกถึงท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่เพิ่งถอดถอยออกจากโพรงปาก พร้อมกันนั้นมือหนาเคลื่อนมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มเต็มมือ
หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำจนคิดว่ามันจะหลุดออกมา มือหนาไม่เพียงเคล้นคลึงทรวงอก แต่ยังสำรวจเรือนร่างของเธอไปทั่วทุกอณู เอวคอดกิ่วแต่อวบอิ่ม สะโพกงอนงามกลมกลึง เซนนิก้าไม่แปลกใจว่าทำไมแค่มองผ่านเดรสรัดรูปก็ทำให้เขาปวดหนึบที่หว่างขาได้ในทันทีเช่นนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่สวยยามแต่งเนื้อแต่งตัว แต่ก็ดูน่ารักในเวลาเดียวกัน จังหวะที่เธอยิ้มหรือหัวเราะ
เขาไม่ปฏิเสธ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง ด้วยใบหน้ารูปไข่แต่กลับสวยเฉี่ยว ดวงตาหวานหยดเมื่อได้สบตา ริมฝีปากอิ่มที่เขามองแล้วมองเล่า
เธอสวยตามแบบฉบับหญิงไทยได้น่าหลงใหล
หลงใหลจนเขาอดไม่ได้ที่จะสำรวจทั้งมือและริมฝีปาก เซนนิก้าถอนจูบที่เร่าร้อนออกเมื่อรู้สึกได้ว่าริมฝีปากอิ่มเริ่มบวมเจ่อเล็กน้อย ไล้ริมฝีปากแผ่วเบามาที่ข้างแก้มเนียน สูดดมความหอมจากน้ำหอมยี่ห้อดังที่ผสมผสานไปกับกลิ่นกายของสาวเจ้า ไล้มาที่ใบหูเล็กก่อนขบเม้มที่ติ่งหู ขนอ่อนบนหลังคอลุกซู่ยามลมหายใจอุ่นรินรดที่ลำคอขาวพอง
ริมฝีปากของเขายังคงทำหน้าที่ไล้จูบไปทั่วกายตามใจชอบ
เชอเอมปล่อยให้เขาได้ทำตามใจตัวเอง เมื่อบัดนี้เธอตกไปอยู่ในห้วงราคะเรียบร้อย
“อื้อ...”
เธอครางในลำคอเมื่อริมฝีปากที่เคยจูบอย่างเร่าร้อนกำลังโลมเลียทรวงอกอวบ หยอกเย้ายอดถันอย่างรู้ว่าควรเย้าเช่นไรให้เธอสะดุ้งเสียว ลิ้นร้อนกระหวัดเย้ายอดถันที่ชูชันรับเป็นอย่างดี
มือหนาที่สำรวจไปทั่วเรือนร่างบัดนี้ได้กอบกุมเนินเนื้อร้อนอีกครั้ง หยอกเย้าจนหยาดน้ำหวานไหลชุ่ม ใช้ปลายนิ้วแหวกกลีบเนื้อออก สอดใส่นิ้วเรียวทั้งสองเข้าลึก กดคลึงให้เสียดสีกับเม็ดติ่งอ่อนไหว ถอดถอนเข้าออกช้าบ้างเร็วบ้างเพื่อเล้าโลมให้เธอพร้อมที่จะรับกับความอวบใหญ่
“อ๊ะ...อ๊า”
เธอเริ่มครางไม่เป็นภาษาด้วยเสียงหวาน ทั้งปากทั้งมือของเขาช่างร้ายเสียจริง
เซนนิก้าเป็นเสือร้ายที่ล่าเหยื่อได้อย่างง่ายดาย หลอกล่อให้เหยื่อเข้ามาตกหลุมพรางได้โดยไม่ต้องพูดคำหวานหรือใช้การกระทำ เพียงแค่เขาตวัดสายตามามอง เหยื่ออย่างเชอเอมก็ติดกับดักได้แล้ว
เธอคือเหยื่อที่เร่าร้อนและหอมหวาน
เขาติดใจ
โดยเฉพาะกึ่งกลางกายที่กำลังตอดขมิบถี่ขึ้น ตอดรัดจนรู้สึกปวดหนึบจากเรียวนิ้วทั้งสองแล่นปราดไปสู่กึ่งกลางกายที่แข็งขึงขึ้น เรียวนิ้วเร่งรัวขึ้นจนในที่สุดร่างเล็กกระตุกในเวลาต่อมาพร้อมกับหยาดน้ำหวานที่ไหลเยิ้ม
เซนนิก้าผละออก ยืดตัวขึ้น มือหนาจับลงบนท่อนเนื้อร้อนระอุ รูดรั้งสองสามทีให้มันแข็งขึ้นอีกนิดแล้วถูไถหยอกเย้าเนื้อสาวที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำหวาน จนเชอเอมสะดุ้งถดถอยหนีเล็กน้อย มือหนาสอดเข้าใต้สะโพก รั้งดึงให้เธอขยับเข้ามา เตรียมมอบความอวบใหญ่ให้แก่เธอ
หัวหยักที่ถูไถหยอกเย้าเนื้ออ่อนนุ่มอยู่สองสามทีแล้วจึงสอดใส่เข้าไปเพียงครึ่งท่อนก็ต้องชะงักค้าง ดวงตาคมเบิกขึ้นเล็กน้อย มองเชอเอมที่นิ่วหน้าครางออกไป มือเรียวบางกำผ้าปูแน่นจนยับยู่ยี่
“จะ เจ็บ เอมเจ็บ”
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







