LOGINแต่ทว่าความสัมพันธ์ที่ผ่านมาในอดีตใช่ว่าเธอจะไม่เข้าใจ เพราะท้ายที่สุด คนที่ถูกทำร้ายความรู้สึกก็คือเธอจากผู้ชายเหล่านั้นที่ลุ่มหลงความจอมปลอม
ทำไมกัน...ทำไมคนที่คิดจะจริงจังกับความรักและอยากทุ่มเทให้กับมันถึงได้ถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ กับคนที่มองไม่เห็นค่าความรักนอกจากเงิน ถึงได้มีแต่คนมอบความรักให้กันนะ เธอไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้ก่อนหน้าจะคบกับใครเพราะสถานะก็ตาม แต่สาวเจ้าไม่เคยเลยที่จะมองเป็นเรื่องไม่สำคัญ ต่อให้คบกันเพราะความเหมาะสม แต่เธอก็ให้ความสำคัญ ให้เกียรติอีกฝ่ายเสมอ
สาวเจ้ายังคงบ่นกับตัวเองภายในใจ พลางก้าวเดินต่อเพื่อหาจุดนั่งลงดูพระอาทิตย์ตรงลับขอบฟ้า แม้จะไม่ใช่มุมที่สวยเท่าแหลมพรหมเทพ แต่คนก็ไม่เยอะวุ่นวายจนหมดอารมณ์โรแมนติกยามได้มองพระอาทิตย์ตกที่ริมขอบฟ้าซึ่งบรรจบเป็นเส้นตรงกับผืนทะเลกว้าง
พลันคำพูดและการกระทำของเขาเมื่อช่วงบ่ายก็หวนกลับมาอีกครั้งเมื่อในหัวมีพื้นที่ว่างจนมันแทรกเข้ามาให้คิดอย่างหักห้ามใจไม่ได้ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาฉับพลัน แค่เพียงคิดกับเรื่องเมื่อช่วงบ่าย คำพูดหยอกเย้าและรอยยิ้มของเขาที่ไม่คิดเลยว่าจะปรากฏกับคนอย่างเขา ซิกก้าแอบบ่นทุกครั้งให้ฟังเสมอยามที่ได้โทร. คุยกันเพื่อระบายเรื่องความรักด้วยกันยามทะเลาะ
‘เอาจริงฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อก่อนพี่เซนเป็นคนเย็นชา สุขุมจนใครก็เข้าถึงยาก แต่พออยู่กับแกเหมือนคนเจนเรื่องความรักเสียอย่างนั้น’
‘พูดเกินไปค่ะคุณ เขาก็ปกติ แต่รู้สึกว่าจะรู้จักที่จะเอาใจใส่มากกว่า’
‘แกคงรู้เรื่องพี่เซนแล้ว’
‘รู้แล้ว’
‘ดูพี่เซนจะรักเอเรียน่ามากนะ แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจเหมือนแก หรือเพราะเข็ดจากรอบก่อนเลยเอาใจใส่แก’
คำพูดของซิกก้าทำให้หัวใจดวงน้อยเจ็บแปลบเล็กน้อย แต่แล้วก็ถูกแทนที่เมื่อคิดว่าเขาอยากใส่ใจเธอจริง แต่แล้วก็ดึงความสนใจกลับมาที่ซิกก้าเมื่อเจ้าตัวอุทานแล้วพูดใหม่
‘ไม่สิ พี่เซนจริง ๆ ก็เอาใจใส่นะ แต่มันไม่เหมือนกับแก ดูพิเศษกว่า โอ๊ย ช่างเถอะ พูดถึงคนเดายากยิ่งปวดหัว’
‘จริง’
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะ มันเหลือเชื่อมากเลยกับความแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างที่ซิกก้าบอกกล่าว ใครจะคิดว่าเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่ากำลังอินเลิฟ เมื่อความรู้สึกเกิดขึ้นในยามเย็นที่คิดถึงเขาเช้ามาได้นอนกอดอยู่บนเตียงมาตลอดเกือบสองเดือน
ภายในหัวของสาวเจ้ายังคงมีแต่เรื่องเมื่อคืนและเรื่องเมื่อบ่ายจนหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง และอดนึกไม่ได้ว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกนึกคิดเหมือนกับเธอหรือไม่ คำพูดของเขาที่ชื่นชอบกับการกระทำของเธอที่มอบความรู้สึกดีให้กับเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินอายไปกับการกระทำของตัวเองเพียงคนเดียว ครั้นจะไปถามตรง ๆ ว่าชอบขนาดนั้นเลยหรือก็ดูจะเกินงามไปเสียหน่อย คิดเองนี่แหละ มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะเป็นไปตามที่คิดว่าเขาน่ะชอบที่ให้เธอทำมากกว่า พลันก็ต้องยกมือเล็กขึ้นมาโบกไปมาให้คลายความร้อนบนใบหน้าที่ทวีคูณขึ้นทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนเหมือนช่วงกลางวันแดดจ้า
แต่ทว่าเพราะสัมผัสจากเขาที่ยังคงวนเวียนทั่วเรือนร่างจาง ๆ ถึงได้ทำให้กายเธอร้อนได้เพียงนี้ ไม่พอทำให้หัวใจเธอร้อนรุ่มที่เขาทิ้งร่องรอยให้เธอคะนึงหาตลอดวันเช่นนี้ หงุดหงิดใจตัวเองไปอีกเท่าตัวก็ตรงที่เธอดันอยากให้ถึงเวลาเข้านอนเสียนี่
เชอเอมก้าวเดินไปเรื่อย ๆ ในหัวก็พลางเอาแต่เผลอคิดวนไปจนไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มทองมากขึ้นกว่าเดิมจนเกือบจะมืด และลืมไปว่าชายหนุ่มหายไปนานเกือบครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเกลียวคลื่นซัดเข้าฝั่งพร้อมลมหอบใหญ่ที่พัดผ่านมาจนเส้นผมยาวสลวยพลิ้วไปตามแรงลมมาปรกแก้ม คลอเคลียที่ลำคอจนต้องเกลี่ยเส้นผมทัดใบหน้า เธอถึงรู้สึกตัวว่าเดินมาไกลจนเกือบจะเลยเขตชายหาดที่ห่างออกไปจากที่พัก และเดินเลยจุดที่จะนั่งชมพระอาทิตย์ตกแล้วด้วย
เมื่อรู้สึกตัวก็อดโทษชายหนุ่มคนที่ทำให้ต้องเดินเหม่อลอยไม่รู้ทิศรู้ทางเดินมาไกล อดนั่งชมพระอาทิตย์ตกอย่างที่ใจหวัง หลังจากที่เมื่อวานช่วงบ่ายเธอกับเขาเร่าร้อนจนถึงฟ้าสางอีกวัน พอได้พักจากเรื่องบนเตียงก็อยากพักผ่อนร่างกายให้เต็มที่ ทั้งยังได้พักจากการทำงานมาหลายวันด้วย เพราะเครื่องเพชรชุดใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ในแต่ละวันที่ผ่านมาเธอต้องคอยเข้าบริษัทไปทำหน้าที่เกือบทั้งวัน เจอปัญหากับนางแบบคนนั้นคนนี้ จบงานถึงได้รู้สึกว่าได้พักเต็ม ๆ ก็ครั้งนี้ แต่ก็ไม่วายคิดว่าจะต้องมาคิดไม่ตกเพียงเพราะเขาคนเดียว
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







