LOGIN
บทนำ
สายลมหอบใหญ่พัดลมหนาวไปทั่วผืนฟ้าในยามราตรีที่มืดมิดไม่ต่างจากสายฝนที่โปรยปรายลงมาไปทั่วเมืองหลวงให้อากาศที่เย็นชื้นเริ่มหนาวขึ้นมา ทว่าลมหนาวไม่ทำให้เหล่านักท่องราตรีที่กำลังวาดลวดลายเต้นลดความร้อนแรงในตัวได้ เมื่อฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กำลังได้ที่
Snow Nightclub สถานบันเทิงชื่อดังที่มีสาขาไปทั่วประเทศกำลังครึกครื้นไปด้วยเหล่านักท่องราตรีที่พากันหลั่งไหลเข้ามาสังสรรค์ในคืนสุดสัปดาห์ บ้างก็เข้ามาเพื่อหาผู้หญิงกลับไปสร้างความหฤหรรษ์ต่อ บ้างก็มาพักผ่อนหลังจากทำงานมาตลอดห้าวัน เฉกเช่นเดียวกับ…
“รับอะไรเพิ่มไหมครับคุณเซน”
บ๋อยที่ได้รับหน้าที่เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มราคาเป็นหมื่นอย่างเตกีลาให้กับเจ้าของไนต์คลับถามขึ้นหลังวางขวดแก้วที่ถูกเจียระไนมาอย่างสวยงามพร้อมแก้วล็อกบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา มือหนายกขึ้นโดยไม่พูดคำใดออกไปเชิงปฏิเสธ บ๋อยหนุ่มจึงเดินกลับออกจากห้องวีวีไอพีไปทำหน้าที่ตัวเองต่อทันที
เซนนิก้า ปาเนส บากาเรซ นักธุรกิจหนุ่มวัยสามสิบสามปี เจ้าของไนต์คลับชื่อดังที่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำในทุกปี ตั้งแต่เปิดมาได้สิบปีหลังตัดสินใจได้ว่าจะเข้ามาทำธุรกิจที่บ้านเกิดของผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้กำลังท่องเที่ยวไปทั่วโลกกับผู้เป็นพ่อ ชายหนุ่มใช้เวลาเพียงไม่นานกับการสร้างชื่อเสียงของไนต์คลับให้ดังและมีคนนิยม ไม่ว่าจะทั้งกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ
อาจด้วยเพราะญาติห่าง ๆ แสนห่างทางฝั่งพ่อที่กำลังจะแต่งงานกับรองประธานบริษัทพีเอสกรุ๊ป จึงทำให้ไนต์คลับของเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทว่าความจริงแล้วญาติผู้น้องคนนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่นิด แต่เขาก็ยังเลือกที่จะยกความดีความชอบให้กับหญิงสาวด้วยเพราะพี่ชายของเธอยอมร่วมหุ้นด้วยจนไนต์คลับเติบโตมาได้นานเช่นนี้ จากที่เขาต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่เพียงหนึ่งปีครึ่ง เซนนิก้าจึงตัดสินใจเปิดร้านจิวเวลรีที่ห้างสรรพสินค้าด้วยการสร้างแบรนด์ให้กับว่าที่สามีญาติผู้น้องคนนี้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปวางขายเพื่อเป็นการตอบแทน ทั้งยังเป็นของขวัญแต่งงานให้กับคนทั้งสองไปทีเดียว สายตาคมกวาดมองลูกค้าที่กำลังสนุกสนานไปกับเสียงเพลงอย่างตรวจตรา วันนี้เขาเลือกที่จะเข้ามาก็เพราะหายหน้าหายตาบินไปตรวจงานทางฝั่งอิตาลีและฝรั่งเศสอยู่หลายเดือน ด้วยเพราะตอนนี้เขาได้ทั้งสองสัญชาติ จึงอยู่ที่ประเทศไทยและประเทศอิตาลีได้อย่างไม่ติดขัด
ทว่าการที่เขายืนอยู่ชั้นบนของไนต์คลับซึ่งเป็นโซนวีวีไอพีที่ถูกจัดแบ่งเป็นห้อง ๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่กระนั้นก็ถูกตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ราคาเป็นแสนเพื่อเก็บเสียงไม่ให้ดังออกไปหรือเสียงเพลงจากด้านล่างเล็ดลอดเข้ามามากจนทำให้รำคาญเอาได้ ร่างสูงสง่าภูมิฐานในชุดเชิ้ตสีดำปลดกระดุมสองเม็ดเผยให้เห็นกล้ามหน้าอกน้อย ๆ ทับด้วยกางเกงสแลคสีดำ กำลังถูกสายตาแม่เสือลูกเสือสาวมองขึ้นไปอย่างส่งสายตายั่วยวน เพราะเขาอยู่ในชุดออลแบล็กในวันนี้ยิ่งเสริมให้สง่าอย่างสุขุมและดูสมาร์ตในเวลาเดียวกัน แม้เขาจะเป็นเสือร้ายที่นอนกับผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้า
แต่เขาก็เลือก…เลือกที่จะนอนกับผู้หญิงที่เป็นเหยื่อ ไม่ใช่ผู้ล่าเหล่านั้น
ใช่ เซนนิก้าเป็นที่รู้จักไปทั่วโดยเฉพาะสาว ๆ ไม่ว่าจะสาวใหญ่สาวน้อยต่างก็สนใจในตัวผู้ชายคนนี้
ผู้ชายเหลือร้ายอีกคนไม่ต่างจากอัฐพล!
แต่บัดนี้อัฐพลเพิ่งมีข่าวดีประกาศลงหน้าหนึ่งทุกแพลตฟอร์มข่าวว่ากำลังจะแต่งงาน ทำให้สาว ๆ ที่ชื่นชอบพากันอกหักไปตาม ๆ กัน บางคนก็หันมาเข้าบ้านแฟนคลับที่ตั้งขึ้นให้กับผู้ชายฮอตในประเทศอีกคนอย่างเขา
เขาไม่สนใจผู้หญิงที่กำลังส่งสายตาเชิญชวนมาแม้แต่หางตา ยังคงกวาดตาดูความเรียบร้อยภายในไนต์คลับไปทั่วอย่างคนไม่มีงานอะไรทำต่อ ใช่ เขาไม่มีงานอื่นที่จะทำต่อ ด้วยเพราะส่วนใหญ่ก็จ้างคนให้ทำงานแทนในบางส่วนที่เขาไม่จำเป็นต้องลงไปจัดการเอง
มีเงินก็จ้าง จะเสียเวลาไปกับงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไม
ระหว่างที่เขายังคงตรวจตราอยู่นั้นก็ต้องหยุดสายตาคมนิ่งเอาไว้ที่โซนวีไอพีด้านหลัง กลุ่มหญิงสาวที่กำลังดื่มสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเพื่อเลี้ยงสละโสดให้กับหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่ม
ใช่ เขารู้จักผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มนั้นเป็นอย่างดี
ยกเว้นก็แต่…
เจ้าของวงหน้าสวยเฉี่ยวแต่ก็ดูหวานในเวลาเดียวกันเพราะดวงตาที่กลมโตหวานคู่นั้น เรียวปากอิ่มขยับขึ้นระบายยิ้มเสริมให้เธอดูมีเสน่ห์ คิ้วทรงสวยถูกจัดแต่งรับเข้ากับจมูกโด่งเป็นสันสวย
เธอโดดเด่น
ฉับพลัน มือหนาที่ถือแก้วล็อกกำแน่นจนเส้นเลือดและเส้นเอ็นปูดขึ้นเป็นแนวยาวขึ้นเลยข้อมือไป เมื่อเพียงสายตามองสำรวจวงหน้าเรียวรูปไข่ ไล่สายตามาที่ลำคอขาว ลมหายใจของเขาสะดุดเล็กน้อย ขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปะทุ
“ธาม ผู้หญิงที่กำลังคุยอยู่กับหนูนิด นายรู้จักหรือเปล่า” เซนนิก้าเอ่ยถามเลขาส่วนตัวที่เพิ่งเดินเข้ามาหลังให้ความสะดวกกับลูกค้าวีไอพีอย่างคุณหนูเชอเอม พาณิชวิสุทธิ์ที่พาขนิษฐาเพื่อนสนิทมาเลี้ยงสละโสด
“คุณเชอเอมครับ เธอเป็นหลานสาวของคุณอัฐพล”
เซนนิก้าพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการรับรู้โดยไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก ธีรเดชจึงเดินไปรินเตกีลาลงแก้วของตัวเองบ้าง เพราะเขาไม่ใช่แค่เลขาส่วนตัวทั่วไป ชายหนุ่มมองธีรเดชเหมือนน้องคนหนึ่ง จึงไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายกำลังล้ำเส้นระหว่างลูกน้องกับเจ้านายอย่างเสียมารยาท
นัยน์สีอำพันราวนัยน์ตาหมาป่าร้ายมองอิริยาบถของสาวเจ้าอย่างไม่ละสายตา ไม่ว่าเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือกำลังแสดงสีหน้าที่หลากหลายอารมณ์ เขาก็ละสายตาไปจากเธอไม่ได้
พลันมือหนาข้างที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสแลคก็ถอนมือออกขึ้นมาทาบลงบนหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







