แชร์

บทที่ 1 เหยื่อ (1)

ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-06 19:33:40

บทที่ 1

เหยื่อ

สายตาคมจ้องมองร่างสูงเพรียวของหญิงสาวในชุดไปรเวตของขนิษฐาเดินออกจากห้องผู้เป็นอาเข้าลิฟต์ไป ก่อนดึงสายตามาที่ประตูห้องของอัฐพลอีกครั้งเมื่อมันถูกเปิดออกเป็นครั้งที่สอง เผยให้เห็นร่างสูงของญาติผู้น้องอีกคนที่เดินทางมาประเทศไทยเพราะเรื่องน้องสาวที่กำลังจะแต่งงานกับรองประธานพีเอสกรุ๊ป

คิ้วเข้มสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยมองเซนโซก้าที่ส่งยิ้มกล่าวทักทายกลับมา

“พี่เซน สวัสดีครับ ไม่ค่อยได้เจอกันเลย”

“อืม…ผู้หญิงคนนั้นแฟนนายหรือเซน” เซนนิก้าพยักหน้ารับคำทักทายญาติผู้น้องแล้วถามออกไปด้วยความใคร่รู้ ชายหนุ่มไม่นิยมใช้ของร่วมกับใคร โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ความสนใจในตัวของเชอเอมกำลังลดลงเมื่อคิดไปแล้วว่าสาวเจ้าคบหากับเซนโซก้า ต่อให้เขาเป็นคนชอบนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ผู้หญิงเหล่านั้นจะต้องไม่มีแฟนหรือสามี เขาไม่นิยมชมชอบในเรื่องของการเป็นมือที่สามของใคร ฉะนั้นเมื่อคิดว่าเธอคงคบกับญาติผู้น้องจึงไม่คิดที่จะเข้าไปสานสัมพันธ์กับเธอ

ทว่าคำปฏิเสธของเซนโซก้าช่างมีผลต่อเขาเสียจริง รอยยิ้มจาง ๆ มุมปากยกขึ้นด้วยความพอใจจนอีกฝ่ายไม่ทันสังเกตเห็นว่าเขากำลังแสดงสีหน้านักล่า

“ไม่ใช่ครับ ถ้าผมกับเธอคบกัน หัวคงปวดกับลำดับญาติแน่” ตอบเสียงกลั้วหัวเราะ

“แล้วทำไม…” ถามอย่างลองเชิง

“อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เมื่อคืนเธอเมาจนกลับบ้านไม่ได้ ผมเลยพามานอนห้องหนูนิดครับ” เขาตอบอย่างขบขันที่ถูกเข้าใจผิด

“แค่นอนงั้นหรือ” ถามกลับด้วยความไม่อยากเชื่อ

“ครับ เอ่อ…” เขาอึกอักแล้วตอบอีกครั้ง “คือเมื่อคืนเธอเมาแล้วโวยวายวิ่งถอดเสื้อผ้าไปทั่วห้อง อ้วกใส่ผมอีก เลยต้องกอดรัดฟัดกันเล็กน้อยจนหลับไปนั่นแหละครับ ผมกับเธอไม่ได้คบหรือมีอะไรกัน…มีอะไรหรือเปล่าครับ”

เซนโซก้าตอบพลางเกาท้ายทอยเมื่อนึกถึงภาพที่เชอเอมลุกขึ้นมาโวยวายแล้ววิ่งถอดเสื้อผ้าออกจนเขาเกือบคว้าผ้าห่มมาคลุมเอาไว้ไม่ทัน หนำซ้ำแรงเยอะมาจากไหนก็ไม่รู้ ต้องกอดรัดให้อยู่นิ่ง ๆ จนถูกอ้วกใส่จนต้องถอดเสื้อใส่ตะกร้าเหลือแค่กางเกงผ้าขายาวเท่านั้น นอนกอดรัดไม่ให้เธอลุกขึ้นมาบ้าดีเดือดอีก เพราะความเหนื่อยที่ต้องรับมือกับเชอเอมจนเกือบเช้าจึงทำให้ผล็อยหลับไปทั้งแบบนั้น

“ไม่มีอะไร” เขาตอบอีกฝ่ายเสียงเรียบเรื่อย

“คบกับเธออยู่เหรอ” เซนโซก้าถามอย่างตรงไปตรงมาเมื่อจับสังเกตญาติผู้พี่ได้

“ไม่” เขาตอบคำเดียวสั้น ๆ แล้วหันหลังกลับเตรียมจะเดินเข้าห้องตัวเองที่อยู่ถัดไปอีกห้องจากห้องของอัฐพล แต่แล้วเท้าที่กำลังก้าวเดินต้องชะงักกึก ถึงจะเป็นญาติห่าง ๆ แต่พวกเขาก็สนิทมากกว่าญาติพี่น้องคนอื่น ๆ สนิทที่เรียกได้ว่ามองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่

“เธอไม่ใช่เหยื่อที่พี่จะเอามาเล่นได้ ถ้าสนใจเธอ…ทำไมไม่ลองเปิดใจรักใครอีกสักครั้งล่ะครับ” เซนโซก้ามองแผ่นหลังกว้างของญาติผู้พี่และก็เป็นอาของผู้หญิงที่เขากำลังคบหาอย่างไม่เปิดเผย แต่ก็ไม่ได้ปิดบังเช่นกัน

เขารู้ว่าเพราะเหตุใดเซนนิก้าเป็นเสือล่าเหยื่อไม่ซ้ำหน้า หากไม่ใช่เพราะอดีตที่ถูกคนรักทิ้งไปแต่งงานกับเศรษฐีดูไบที่แก่คราวพ่อ สาเหตุที่ทำให้เซนนิก้าปิดประตูหัวใจกลายเป็นผู้ชายเย็นชาไร้หัวใจขึ้นมาเช่นนี้ หาก

เซนนิก้าสนใจอยากคบหาจริงจังกับเชอเอม เขาก็พร้อมจะช่วยไม่ต่างจากน้องสาวของเขา เซนนิก้าไม่ได้ทำอะไรกลับไป เพียงผินหน้ามาเล็กน้อยให้เห็นดวงตาคมฉายแววเล่ห์เหลี่ยม มุมปากยกยิ้มบางจนมองไม่ออกว่าเขาจะร้ายหรือจะดี เซนโซก้าได้แต่มองตามหลังเซนนิก้าเดินเข้าห้องไปเท่านั้น เพราะอากัปกิริยาเช่นนั้นกำลังบอกให้เขา…

อยู่เฉย ๆ จะดีกว่า

เซนนิก้าทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหนังราคาแพง เอนหลังพิงพนักโซฟา เงยหน้าขึ้นหลับตาด้วยความเหนื่อยจากการทำงานทั้งคืนที่ผ่านมา ในคราแรกชายหนุ่มตั้งใจจะเป็นคนอาสาพาสาว ๆ กลับ แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้า ร่างสูงของคนคุ้นตาก็ปรากฏขึ้นจนต้องยืนมองอยู่เช่นนั้น กระทั่งทุกคนเดินออกจากไนต์คลับไป

เขาหงุดหงิดไม่พอใจ

ใช่ ในตอนนั้นเขาหลงเข้าใจผิดคิดว่าเซนนิก้ากำลังคบอยู่กับเชอเอม ด้วยความหงุดหงิด เขาจึงเลือกที่จะขึ้นไปชั้นบนสุดของคลับซึ่งเป็นห้องทำงาน นั่งขังตัวเองดูเอกสารเก่า ๆ จนถึงล่าสุดภายในคืนเดียว

ฟ้าสว่างเซนนิก้าถึงยอมปล่อยตัวเองออกมาจากห้องทำงาน เดินทางกลับคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองสุดหรูมาพักผ่อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงสาวรีบเปิดประตูห้องเดินสวนเขาไปอย่างไม่คิดมอง ทว่าเป็นเขาที่ทันมองและได้สังเกตเห็นถึงความตกใจบางอย่าง บางอย่างที่เขาเองก็ตกใจเมื่อเห็นเซนโซก้าเดินออกตามมา แต่เขาเป็นพวกไม่ชอบค้างคาถึงได้ถามออกไปตรง ๆ และคำตอบของเซนโซก้าก็สร้างความพอใจให้กับเขาเป็นอย่างดี แม้ในตอนท้ายอีกฝ่ายจะยั่วโมโหเขาก็ตาม รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรพูด แรงสั่นจากสมาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงดึงให้เซนนิก้าตื่นจากภวังค์ ยกมือขึ้นมาล้วงหยิบสมาร์ตโฟนราคาเกินครึ่งแสนขึ้นมาดูรายชื่อของบุคคลที่ต่อสายทางไกลมาหาเขา สายตาคมมองชื่อที่ปรากฏอยู่บนจอ ฉายแวววูบไหวอยู่ครู่แล้วจึงกดรับสาย กรอกเสียงลงไปราบเรียบ

“มีอะไร”

“อายังโกรธวิไม่หายอีกเหรอคะ เขา…” วิเวียนถามเสียงอ่อยด้วยความเสียใจอยู่น้อย ๆ ที่ผู้เป็นอายังคงโกรธ ไม่ยอมพูดด้วยดี ๆ ตั้งแต่รู้เรื่องระหว่างเธอกับเซนโซก้าเมื่อครึ่งเดือนก่อน

ในตอนแรก เธอไม่ได้คบหากับเซนโซก้าด้วยเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ครั้นเมื่อได้เจ็บปวดกับความรักแล้วได้เขาเป็นคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ ถึงทำให้รู้ว่าคนที่เธอควรยกหัวใจให้ควรเป็นคนคนนี้ ที่ไม่ว่าจะตอนไหนของชีวิตเธอก็พบว่าเขาอยู่ข้าง ๆ เสมอ

จะให้เธอทิ้งคนดี ๆ แบบนี้ได้ยังไง

“เรื่องเธอกับเขา อาจะไม่ยุ่ง…แล้วมีอะไร” เซนนิก้าบอกปัดเพื่อไม่อยากเอาเรื่องของหลานสาวมาให้ปวดหัว ไม่ใช่เขาไม่เห็นด้วย แต่แค่ไม่อยากยุ่งเรื่องความรักของใครทั้งนั้น แต่ที่เขามึนตึงใส่คนทั้งสองก็เพราะไม่ยอมบอกอะไรก่อนจนเกิดเรื่องให้เขาต้องมารับมือกับพี่สะใภ้ที่ไม่ใคร่ชอบมากนัก

ถึงจะไม่ชอบแม่ของวิเวียน แต่หลานสาวของเขาก็ได้นิสัยของพี่ชายมาเต็ม ๆ เขาถึงได้รักและเอ็นดูหลานคนนี้

“วิอยากจะมาบอกข่าวดีกับอาก่อนเป็นคนแรก เขายังไม่รู้เลยนะคะ เนี่ย อาสำคัญกว่าเขาอีก” วิเวียนเย้าด้วยรอยยิ้มหวานที่ผู้เป็นอาไม่มีทางได้เห็น

“อะไร” ถามเสียงเรียบกลับ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (4)

    มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (3)

    หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (2)

    สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

    บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (4)

    เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (3)

    ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status