Share

18. ได้ที่ขายประจำ 2

last update Last Updated: 2025-09-04 12:00:27

“ป้าคะ ลุง อยู่บ้านกันหรือเปล่า”

วงเดือนโผล่หน้าออกมาจากชานเรือน เมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนเรียกอยู่ที่หน้าบ้าน เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ “แก้ว กลับมาแล้วเหรอ ขึ้นมาบ้านก่อนเร็วแดดกำลังร้อน”

หลังจากตื่นนอนวันนี้ พิริยาได้ตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน อย่างน้อย บ้านน้อยหลังนี้ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของเธอ ถึงแม้จะยังไม่รู้สึกคุ้นชินนักแต่เธอก็อยากจะลองปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตตอนนี้ให้ได้ เผื่อจะมีลู่ทางที่ดีเพิ่มขึ้นในอนาคต

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและจริงใจของวงเดือน เธอรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาที่อก บางทีชีวิตที่กำลังดำเนินต่อไปของเธออาจไม่ได้แย่เกินไปนักก็ได้ พิริยาส่งยิ้มพร้อมกับหิ้วของพะรุงพะรังเดินขึ้นบ้านไป

“หิ้วอะไรมาเยอะแยะ”

“ของฝากค่ะป้า ลุงกับไทยไม่อยู่บ้านเหรอคะ”

“ลุงเขาไปทำงานในไร่ ส่วนเจ้าไทยไม่รู้ไปซนที่ไหน หายหัวไปตั้งแต่กินมื้อเช้าเสร็จ ดีว่าอาทิตย์หน้าเปิดเทอมแล้ว”

“นี่ค่ะของฝาก ถุงเล็กนี่เป็นขนมของไทย ส่วนที่เหลือของลุงกับป้านะคะ” พลางยื่นถุงพลาสติกหลายถุงส่งให้วงเดือน

วงเดือนนิ่วหน้ามองอย่างไม่สบายใจ “ซื้อมาทำไมแก้ว แล้วแก้วเอาเงินมาจากไหน”

“แก้วขายเสื้อผ้าที่หน้าโรงหนังในตัวเมืองค่ะ ขายดีมาก ป้าไม่ต้องห่วงตอนนี้แก้วพอมีเงินแล้ว”

“ไหน มานั่งคุยกันดี ๆ ขายเสื้อผ้าอะไร แล้วแก้วไปเอาเสื้อผ้ามาจากไหน”

เพราะเตรียมการมาอย่างดี พิริยาจึงบอกเล่าได้อย่างคล่องปาก “เพื่อนแก้วที่เรียน ม.4 ด้วยกันเค้ามีญาติเปิดร้านขายส่งเสื้อผ้าในตัวเมือง แก้วเลยขอให้เพื่อนช่วยติดต่อให้”

“เขาก็ใจดีค่ะ ให้เสื้อผ้ามาขายส่วนหนึ่งแบบยังไม่คิดเงิน รอขายได้ค่อยไปจ่ายทีหลัง เผอิญขายดีมากค่ะป้า ที่แก้วหายไปหลายวันเพราะอยู่ขายเสื้อผ้านี่แหละ กำไรดีมากค่ะ วันหนึ่งได้ตั้งห้าร้อยบาท”

วงเดือนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไปกับหญิงสาวด้วย “ดีจริงเลยแก้ว แล้วแบบนี้ต้องไปอยู่ในเมืองตลอดเลยรึเปล่า เรื่องกินอยู่จะทำยังไง” แล้วก็อดถามต่อด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

“ตอนนี้แก้วเพิ่งได้ที่ขายประจำ ขายได้เฉพาะเสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น แก้วตั้งใจจะนอนพักในตัวเมืองอาทิตย์ละสองสามวัน ส่วนวันอื่น ๆ ก็กลับมาอยู่บ้าน เรื่องที่พัก แก้วเช่าหอพักใกล้ ๆ โรงหนังไว้แล้ว เป็นหอพักหญิงรับรองปลอดภัยหายห่วงค่ะป้าเดือน”

 “ป้าดีใจกับแก้วด้วยนะลูก เป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว ป้าเชื่อว่าอนาคตของหนูต้องไปได้ดีกว่านี้แน่ ๆ...ว่าแต่แก้วตั้งใจจะขายเสื้อผ้าอย่างนี้ตลอดไปเลยรึเปล่า”

พิริยาส่ายหน้าเบา ๆ “แก้วตั้งใจจะขายแค่ชั่วคราวค่ะป้า ขายเพื่อให้มีเงินในมือสักก้อน ระหว่างนั้นก็จะลองมอง ๆ ดูว่าอาชีพไหนอีกที่เหมาะกับแก้ว ตอนนี้ยอมรับเลยค่ะว่ามองตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าชอบอะไร”

“แล้วเรื่องเรียนล่ะลูก”

“เหมือนที่แก้วเคยบอกลุงกับป้าไว้ แก้วตั้งใจจะกลับไปเรียน กศน.ในปีหน้าค่ะ ระหว่างนี้ ถ้าเจองานที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด แก้วก็จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ยังไงแก้วก็จะไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน”

“ดีแล้วแก้ว เรียนให้สูงไว้ไม่เสียหลาย อนาคตหากงานของเราเจอทางตัน เราก็ยังมีความรู้เพื่อหาเลี้ยงชีพต่อไปได้” วงเดือนเบาใจขึ้นเยอะเมื่อได้ยินคำยืนยันที่หนักแน่น

“วันนี้แก้วมากินมื้อเย็นที่บ้านป้านะ เดี๋ยวป้าทำของชอบให้หลาย ๆ อย่างเลย”

“ขอบคุณมากค่ะป้า เย็น ๆ แก้วจะมาช่วยทำ แต่ตอนนี้ขอไปปัดกวาดบ้านก่อน ไม่อยู่หลายวันฝุ่นคงหนาเป็นนิ้วแล้ว”

-----

หลังจากทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้ว พิริยาก็ได้นั่งทอดอารมณ์อยู่ตรงชานบ้าน เธอกำลังคิดถึงอนาคตของตัวเองหลังจากนี้

แน่นอนว่าการขายเสื้อผ้านั้นเป็นเพียงอาชีพชั่วคราวเท่านั้น เสื้อผ้าที่อยู่ในพื้นที่คงต้องหมดลงไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง เธอจำต้องหาอาชีพที่มั่นคงอื่นเพื่อเลี้ยงชีพของตัวเองให้ได้

แต่ถ้าจะให้รอจนเรียนจบแล้วค่อยหางานทำในระบบตามปกติ เธอก็ไม่มีใจรักในงานด้านนี้แม้แต่น้อย สำหรับเธอแล้ว ถ้าให้เลือกระหว่างการทำงานในระบบกับการทำธุรกิจ ใจเธอเอนเอียงมาทางการทำธุรกิจมากกว่า และธุรกิจที่พิริยาให้ความสนใจมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง

ชาติก่อนเธอเป็นคนชอบกิน และชาตินี้หากจะคิดทำธุรกิจสักอย่าง เธอก็อยากทำธุรกิจที่ถนัดมากที่สุด ถ้าจะเรียกว่าถนัดก็เหมือนจะไม่ถูกต้องนัก เธอกินเป็นอย่างเดียวแต่ทำไม่เป็นแม้แต่น้อย

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้มีแท็บเล็ต ไอเทมเด็ดอยู่กับตัว มีคนทำคลิปวิดีโอเผยแพร่สูตรอาหารอยู่มากมาย เพียงแค่ตั้งใจศึกษา หญิงสาวมั่นใจว่าย่อมไม่เหลือบ่ากว่าแรง

แต่ปัญหาสำคัญมากที่สุดคือ เธอยังคิดไม่ออกว่าจะขายอาหารประเภทไหน ตอนนี้จึงได้แต่รอ รอให้ถึงปลายสัปดาห์นี้ตอนเข้าเมืองไปขายเสื้อผ้า พิริยาตั้งใจจะเดินวนดูรอบตัวเมืองสักรอบเพื่อสังเกตการณ์ว่ารสนิยมการกินของผู้คนในจังหวัดนี้ไปในทิศทางไหน แต่เธอไม่ได้คิดจะขายของเหมือนคนอื่นหรอกนะ

คนมาก่อนย่อมได้กินพุงปลา

พิริยาจำคติของป๊าที่พูดให้ได้ยินบ่อย ๆ ได้ ถึงแม้เธอจะแอบแย้งในใจทุกครั้งว่าพุงปลาเนื้อมันแหยะ เธอไม่ชอบกิน แต่ตอนนี้คงต้องหัดชอบกินพุงปลาเหมือนป๊าบ้างแล้ว หญิงสาวตั้งใจจะทำของที่แปลก แหวกแนว หากินยาก และติดตลาดง่าย เพื่อชิงความเป็นผู้นำในตลาดก่อน

“ป๊า ม้า พ่อ แม่ เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ” พิริยาหันพูดกับรูปที่ตั้งอยู่ในห้องโถงของบ้านด้วยใบหน้ายิ้มกระจ่าง ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าพ่อและแม่เจ้าของร่างเดิม คือป๊ากับม้าของเธอในชาติก่อน ถึงแม้จะเสียใจอยู่มากที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอพวกท่าน แต่เธอยังลูกสาวของพวกท่านไม่ใช่เหรอ เธอต้องมีเลือดนักสู้เหมือนพวกท่าน เธอต้องสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาให้ได้

เอาล่ะ ไหน ๆ ชีวิตมันก็ถูกออกแบบมาในรูปนี้แล้วคงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก การก้าวเดินต่อไปข้างหน้าต่างหากที่สำคัญมากที่สุด

ชื่อพิริยาคงต้องเก็บไว้เป็นเพียงรอยจารอยู่ข้างใน

ณ ตอนนี้เธอพร้อมจะเป็นปิ่นแก้ว หญิงสาววัยสิบหกปีที่อยู่ในยุคปี พ.ศ.2525 อย่างเต็มตัวแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   104. เข้าไปยุ่งอีกจนได้

    ยุพินและมานพกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างชอบใจเมื่อเห็นเงินห้าหมื่นบาทในมือ ไม่นึกเลยว่าแค่รอบแรกก็ได้มากถึงเพียงนี้ แล้วรอบต่อไปนั้นเป็นกาแฟซึ่งร่ำลือกันว่ารายได้ดีกว่าดอกไม้แห้ง คงได้จับเงินแสนกันก็คราวนี้“แม่ยุพินที่หลักแหลมจริง ๆ” มานพเอ่ยชมภรรยาไม่หยุด“เอาเชียว ที่แรกทำท่าเหมือนไม่เต็มใจ”“ฉันขอโทษ ต่อไปไม่ค้านแล้ว ไม่คิดเลยว่ารายได้จะมากขนาดนี้ แล้วรวมทั้งปีที่เจ้าดินได้มันไม่เหยียบล้านไปแล้วเหรอ”“ก็คงประมาณนั้นแหละพี่ คราวหน้าฉันว่าจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว ฉันจะเอาเมล็ดพันธุ์มาปลูกเองด้วย นี่ก็ไปมอง ๆ ที่เปล่าในหมู่บ้านของพ่อฉันเอาไว้แล้ว ฉันตั้งใจจะเอาไปปลูกตรงโน้น จะได้ไกลหูไกลตาไอ้ดินมันหน่อย”“ดี อีกหน่อยบ้านเราก็จะมีเงินมากมายเหมือนกับมันแล้ว”“ว่าแต่เราเอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้ที่ยืมมาก่อนเถอะ ที่เหลือก็พอส่งให้นารีได้อีกสามสี่เดือน รอขายงวดหน้าเราก็สบายกันแล้ว”“เจ้านะตั้งแต่ย้ายไปทำงานในเมืองนี่หายเงียบไม่ยอมกลับมาบ้านเลย” มานพเอ่ยด้วยสุ้มเสียงไม่พอใจ“ลูกสอนพิเศษหลายที่ กำลังช่วยกันเก็บเงินซื้อที่ดินเพื่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   103. คนโกง

    “นี่บ้านเก่า ๆ โทรม ๆ ที่เธอเคยเล่าจริง ๆ เหรอ” นิสารัตน์หันมาถาม“เมื่อก่อนเคยเก่าและโทรมมาก” ปิ่นแก้วยืนยัน “เพิ่งได้ปรับปรุงใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง”“ไม่พ้นพี่ดินอีกแล้วแน่เลย” อรรณพหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ขณะที่แดนดินยืนยิ้มกว้างอยู่ข้าง ๆ“เฮ้อ..พี่ดินไม่ควรมีคนเดียวในโลก” อรรณพยังคงรำพึงรำพันต่อไปคราวนี้พาเอาทุกคนหัวเราะครืนด้วยความชอบใจเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลังจากจัดเก็บข้าวของกันแล้วปิ่นแก้วจึงพาทุกคนไปที่สวนผลไม้ของแดนดินที่ตอนนี้ทุเรียนและมังคุดออกลูกแก่จัดรอเก็บเกี่ยวในอีกสองสามวันข้างหน้านี้แล้ว“พวกเรากินได้จริง ๆ หรือคะพี่ดิน” มาลินีหันมาถามชายหนุ่มอีกทีเพื่อความแน่ใจ“กินได้เลย ไม่ใช่แค่ทุเรียนและมังคุดนะ สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รีที่ปลูกในสวนข้าง ๆ ก็เข้าไปเด็ดกินได้เหมือนกัน ห้ามเกรงใจพี่เด็ดขาด คิดเสียว่าเป็นสวนบ้านตัวเอง” แดนดินอนุญาตอย่างใจดี“หน้าร้อนแบบนี้สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รียังออกผลได้อีกเหรอคะ” นิสารัตน์อดทึ่งไม่ได้“เมล็ดพันธุ์ของเราค่อนข้างพิเศษน่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันมา

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   102. เป็นที่รู้จัก

    แดนดินขมวดคิ้วเมื่อเห็นปริมาณดอกไม้แห้งที่เก็บเกี่ยวได้จากไร่ของผาด หนึ่งในคนที่เซ็นสัญญาปลูกดอกไม้และกาแฟเมื่อคราวก่อน“ที่ดินตั้งสิบไร่ ทำไมได้ดอกไม้แห้งพอ ๆ กับไร่น้าทาที่มีเพียงห้าไร่”“ม..แหม ความชำนาญมันต่างกันนะดิน น้าทานั่นชาวไร่ดีเด่นประจำหมู่บ้าน แกมีฝีมือในการดูแลต้นไม้อยู่แล้ว ปลูกดอกไม้ได้เยอะก็ไม่แปลก ไอ้ฉันมันมือใหม่ ถึงพื้นที่จะเยอะกว่าแต่ดันไม่มีฝีมืออย่างใครเขา เลยได้มาเท่านี้” ผาดละล่ำละลักอธิบายแดนดินกวาดตามองไปทั่วไร่อย่างสงสัย ในใจไม่คิดเชื่อคำพูดของผาดแม้แต่น้อย เขารู้ดีถึงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ ขนาดคนที่ปลูกอะไรไม่เป็นเลยอย่างปิ่นแก้วยังสามารถปลูกจนออกดอกออกผลได้งดงาม แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ทำไร่ทำนาอยู่ทุกวันแบบนี้ล่ะถึงจะไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมาเรื่องนี้ผิดปกติเกินกว่าจะละเลยได้ เมื่อกลับถึงบ้านเขาเล่าความผิดปกตินี้ให้กับทั้งคำปันและวงเดือนได้รับทราบ ผู้สูงอายุทั้งสองคนต่างมีสีหน้าเครียดลงถนัดตา“ดินคิดว่ามีเรื่องคดโกงเกิดขึ้นแน่ใช่ไหม” คำปันถามเสียงเครียด

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   101. ห้ามดูถูกตัวเอง

    “จินตนานั่งรถประจำทางไปหาน้าที่ต่างอำเภอ แล้วรถเกิดคว่ำทับจินตนาจนแขนขาด”ปิ่นแก้วใจหายวาบเมื่อได้ยิน นึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและบุคลิกที่ไม่คิดอะไรมากของจินตนา ปิ่นแก้วก็ยิ่งใจหาย ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกันนักแต่ก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยกันหลายครั้ง จินตนานับว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยง่ายคนหนึ่งแล้วคนที่เคยมีครบทั้งสามสิบสอง จู่ ๆ กลายเป็นคนพิการแบบนี้ ที่สำคัญยังอายุน้อยแค่นี้ จินตนาจะทำใจได้อย่างไรปิ่นแก้วเหลียวมองไปรอบห้อง “แล้วนิสารัตน์?”“เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน คอยอยู่เป็นเพื่อนรอพ่อกับแม่จินตนาที่กำลังนั่งรถมาหา”“แก้วใจไม่ดีเลย สงสารจินตนา แล้วนี่เราจะไปเยี่ยมกันดีไหม”คราวนี้มาลินีเป็นฝ่ายเล่า “ฉันกับอันนาไปเมื่อเย็นวานแต่ไม่ได้เจอ นิสารัตน์ให้กลับมาก่อนเพราะสภาพจิตใจของจินตนายังไม่สู้ดีนัก ให้รอพ่อกับแม่เค้ามาก่อนสักสองสามวัน ให้สงบลงอีกนิดแล้วค่อยไปเยี่ยมกันตอนนั้น”-----“อย่าตัดอนาคตตัวเองแบบนี้สิจิน”“นั่นสิลูก แค่เสียแขนซ้ายไปเอง แขนขวาก็ยัง

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   100. สัมภาษณ์

    ถ้าพวกเขาได้มีโอกาสมาเห็นปิ่นแก้วในตอนนี้รับรองเลยว่าคงพูดไม่ออกเลยสักคนเดียว ปิ่นแก้วที่นวดแป้ง ปั่นส่วนผสมของขนมอย่างคล่องแคล่ว ปิ่นแก้วที่สามารถสั่งการได้อย่างเฉียบขาดและทุกคนที่อยู่รายรอบพร้อมจะทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะปิ่นแก้วคนนี้คือเจ้าของร้านขนมรสชาติอร่อยที่สร้างความประทับใจให้กับประธานหอการค้าของจังหวัด m จนได้มาทำขนมจัดเลี้ยงผู้เข้าร่วมสัมมนากว่าสามร้อยคนในครั้งนี้“พวกเธอรู้ไหม รายได้ต่อวันของร้านแก้วสามารถจ่ายค่าเทอมทั้งปีได้อย่างสบาย” อรรณพเล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มคล้ายกับว่าทั้งสองร้านนี้เป็นของเขาก็ไม่ปาน“ทำไมปิ่นแก้วถึงไม่คิดพูดแก้ต่างเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ในคณะล่ะ ปล่อยให้พวกเรามองเขาเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ตั้งนาน” จินตนาบ่นงึมงำ“เค้ามองว่าเสียเวลาไง ถ้าเค้าพูดแก้ต่างพวกเธอคิดว่าจะมีใครยอมเชื่อไหม คนเราลองมีอคติต่อกันแล้ว ถึงจะแก้ตัวหรือทำดีให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองหรอก พวกเขาเลือกที่จะเชื่อมุมที่พวกเขาคิดเสมอ สู้เอาเวลาที่เสียไปตรงนี้มาหาความสุขให้ตัวเองและมาใส่ใจคนที่รักและเข้าใจตัวเองดีกว่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   99. ปิดกิจการ

    “ก็ไปพูดไม่ไว้หน้าเขาแบบนั้น ใครเขาจะไปทนไหว มานี่ฉันช่วยเอง” นิสารัตน์นั่งลงยอง ๆ อยู่ด้านข้างและคว้ากรรไกรมาช่วยตัด ขณะที่จินตนาลูกคู่ของเธอก็มานั่งช่วยพับกระดาษเป็นรูปดอกไม้ให้ด้วย“ขอบใจนะ” ปิ่นแก้วหันไปยิ้มให้“ไม่เป็นไร งานจะได้เสร็จไว ๆ”นิสารัตน์เงยหน้ามองปิ่นแก้วก่อนพูดออกมา “อันที่จริงการุณเขาก็พูดถูกนะ คนที่มีแววอนาคตจะสดใสแบบเธอน่าจะหันกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบเพื่อน ๆ ได้แล้ว”หลังจากเหตุการณ์เย็นวันนั้น บรรดานักศึกษาและผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยกันอย่างสนุกปาก การุณรู้สึกอับอายอย่างที่สุด และมักจะทำหน้าบูดบึ้ง ส่งตาขวางให้ทุกครั้งที่เห็นปิ่นแก้ว ซึ่งปิ่นแก้วทำเพียงแค่ยักไหล่และใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองไปวัน ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใบหน้าการุณยิ่งบูดบึ้งมากขึ้นเมื่อได้ยินข่าวว่าปิ่นแก้วย้ายออกจากหอในไปอยู่กับผู้ชาย และยิ่งใบหน้าการุณบูดบึ้งเท่าไหร่ ใบหน้าของสกุณาก็ยิ่งสดชื่นมากขึ้นเท่านั้น-----“แก้ว ร้าน Best Bake ปิดกิจการไปแล้วนะ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status