พอเข้ามาในห้องรับรองชั้นสอง เว่ยอ๋องก็รวบตัวซูเซียวขึ้นมานั่งบนตัก พร้อมทั้งพรมจูบนางไปทั่วใบหน้า“เหอะ ไหนว่าความจำเสื่อมอย่างไรเล่า” นางดันหน้าของเขาออกอย่างรังเกียจ“ก่อนหน้านี้เปิ่นหวางความจำเสื่อม แต่ได้ญาติผู้น้องของเจ้าช่วยเหลือไว้” ซูเซียวชะงักมือที่ดันหน้าเขาทันทีเพราะนางสะดุดกับคำว่าญาติผู้น้องที่เขาเอ่ยถึง นางจำได้ว่าตระกูลเซี่ยทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่เมืองหลวงท่านพ่อท่านปู่ก็ล้วนแต่มาเป็นแม่ทัพอยู่ที่เมืองหลวงทั้งสิ้น ไม่มีใครที่อยู่ที่เมืองหานตงสักคน“ท่านหมายความว่าอย่างไร” นางเอ่ยถามอย่างสงสัย“เจ้ากินอาหารเสียก่อน เปิ่นหวางจะเล่าให้เจ้าฟัง แต่เจ้าต้องรับปากว่าเจ้าจะต้องให้รางวัลเปิ่นหวาง” เว่ยอ๋องจ้องเมียรักด้วยสายตาเร่าร้อน พร้อมทั้งลูบแผ่นหลังของนางอย่างแฝงไปด้วยความหมาย“ก็ต้องดูเสียก่อนว่าเรื่องเล่าของท่านจะทำให้ค่าอยากตกรางวัลหรือไม่” นางจับคางของเขา พร้อมทั้งมองตอบอย่างยั่วยวนเสียงกลืนน้ำลายของเว่ยอ๋องทำให้ซูเซียวหัวเราะเสียงใสออกมา แต่ก่อนที่เขาจะจับนางกลืนกินเสียตอนนี้ อาหารก็เข้ามาส่งด้านในห้องพอดีซูเซียวนางอยากจะรู้เรื่องที่เว่ยอ๋องเกริ่นมาเมื่อครู่ใจแทบขาด จ
ก่อนที่จะออกจากจวนตระกูลเกา เขาเข้าไปพบนายท่านเกาที่นอนป่วยอยู่ภายในห้องนอน“นายท่าน บ่าวมาลาขอรับ” เขานั่งลงที่ข้างเตียงมองเจ้านายที่ร่วมชีวิตมาหลายสิบปีอย่างปวดใจ“เจ้าก็จะทิ้งข้าไปเช่นกันรึ” นายท่านเกามองพ่อบ้านด้วยแววตาที่เศร้าหมอง“บ่าวมิได้คิดที่จะทิ้งท่าน แต่ฮูหยินมิต้องการบ่าวแล้ว” เขาถอนหายใจออกมา เพราะความฉลาดทันคนของเขาทำให้นางเจินซื่อไม่ถูกชะตาเขาตั้งแต่แรกที่เขาจวนมาแต่จะหาเรื่องใส่ความเขาก็เห็นจะไม่ได้ เพราะนายท่านเกาเชื่อใจและไว้ใจเขาไม่น้อย นางจึงต้องทนให้พ่อบ้านเกาอยู่เป็นหนามค่อยทิ่มใจนาง“หึ ข้าในยามนี้จะทำสิ่งใดได้” เขาหัวเราะเยาะตนเองที่ไม่อาจจัดการเรื่องใดได้เลย“ท่านทำได้ อย่างที่คุณหนูใหญ่พูดไว้ หากท่านลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง ท่านจะต้องกลับมารุ่งเรืองเช่นเดิม” หลินเยว่นางไม่ได้พูดกับเกาหยวนโดยตรงแต่ก่อนที่นางจะออกจากจวนตระกูลเกานางได้เอ่ยบอกพ่อบ้านเกาไว้ เพราะนางรู้ว่าภายในจวนต้องขายทาสทิ้ง นางจึงได้เอ่ยชวนเขาไปอยู่กับนางด้วยกันและยังบอกว่าหากเขาคิดจะอยู่เคียงข้างบิดาของนาง นางก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งด้วยความสามารถของทั้งสองจะทำให้ตระกูลเกากลับมารุ่งเรืองได้อีกครั
เมื่อมาถึงจวนตระกูลเกาก็ดูจะวุ่นวายไม่น้อย เพราะเจ้าหน้าที่ทางการต่างพากันเข้ายึดทรัพย์ที่อยู่ภายในจวน บ่าวไพร่ อนุ บุตรชายหญิงของเกาหยวนต่างร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังไปทั่วตรอกซอยเว่ยอ๋องให้อาซีและอาซ่ง พาตัวเกาหยวนเข้าไปค้นหาหยกพกมาให้เขาทันทีเพียงไม่นานทั้งสองก็เดินออกมาพร้อมหยกพกสีขาวกลมเกลี้ยงที่สลักอักษรเซี่ยอยู่ตรงกลางเนื้อหยกหลินเยว่นางชะเง้อคอมองอย่างสนใจ แม้แต่เจ้าของร่างเดิมยังไม่เคยเห็นของแทนตัวของผู้เป็นมารดาเลยสักครั้งเขาพยักหน้าอย่างพอใจ “อืม ใช่แล้ว เป็นนาง เซี่ยซูหลาน” พระชายาของเขาก็ได้อักษรซูมาจากชื่อของท่านอาของนาง เพราะบิดาของซูเซียวอยากจะระลึกถึงน้องสาวที่หายหน้าไปหลายปีหลินเยว่เม้มปากแน่น นางไม่รู้ว่าในเมื่อนางยังมีญาติอยู่อีก พวกเขาจะต้อนรับนางหรือว่าจะผลักไสนางเช่นคนตระกูลเกา แต่นางในตอนนี้ก็ไม่ได้หวังเพิ่งญาติพี่น้องอยู่แล้วแต่ก่อนที่ทั้งหมดจะกลับออกจากตระกูลเกาไป นางเจินซื่อก็วิ่งเข้ามาเกาะขาของหลินเยว่ไว้“เยว่เออร์ เจ้าจะทนมองให้พ่อเจ้าโดนเนรเทศได้รึ” นางกรีดร้องออกมาอย่างน่าสงสาร“หึ” หลินเยว่ส่งเสียงขึ้นจมูกมองนางอย่างดูแคลน“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเ
เว่ยอ๋องมองไปที่หญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา ก่อนจะหันไปสบตากับหลินเยว่อย่างรู้กัน เพราะว่าสตรีนางนี้มิใช่สาวใช้ของซินเซียนอย่างแน่นอนแม้จะหาตัวหญิงสาวที่มีรูปร่างและใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน แต่ทั้งสองจดจำสาวใช้ของซินเซียนได้เป็นอย่างดี“เจ้ายอมรับหรือไม่ว่าได้ลงมือทำร้ายท่านอ๋อง โดยที่เจ้ามิรู้ว่าพระองค์คือท่านองค์ แต่คิดว่าพระองค์เป็นบ่าวของฮูหยินฟู่”หลินเยว่กับเว่ยอ๋องเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ เพราะคำถามที่นายอำเภอตู้เอ่ยถามสตรีนางนั้นเป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่ในนั้นแล้ว รอเพียงให้นางพยักหน้ารับก็เท่านั้น“จะ เจ้าค่ะ”“เอ่อ ท่านอ๋อง พระองค์ต้องการให้ตัดสินโทษนางเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ” นายอำเภอตู้ยิ้มเอาใจเว่ยอ๋องทันที“เปิ่นหวางมีคำถามจะถามนาง” นายอำเภอตู้เริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าคำถามที่เว่ยอ๋องถาม จะเหมือนที่เขาได้บอกกล่าวนางไว้ก่อนหรือไม่“พ่ะย่ะค่ะ”“เจ้ามีความแค้นใดกับอาเยว่เช่นนั้นรึ” เขาชี้นิ้วไปที่หลินเยว่ แล้วมองสตรีที่อยู่ด้านหน้าอย่างแข็งกร้าว“เอ่ออ หม่อมฉัน หม่อมฉัน” นางมองไปทางนายอำเภอตู้อย่างร้อนใจ“ว่าอย่างไร” เขาเอ่ยเสียงเย็นออกมา เพื่อไม่ให้นางได้มีเวล
เรื่องที่สาวใช้ของลูกสะใภ้ลงมือทำร้ายคนเมื่อสองวันก่อน เขาเป็นผู้ที่ปล่อยตัวนางให้กลับไปด้วยตนเอง จากคำที่นางบอกเล่าคนที่สาวใช้ของซินเซียนทำร้ายเป็นบ่าวชายของพี่สาวนางเพราะพี่สาวของนางตำหนินางเรื่องที่เปลี่ยนตัวเจ้าสาว สาวใช้ของนางที่มีโทสะแทนจึงได้พลั้งมือทำร้ายเขาลอบปาดเหงื่อไม่หยุด ทั้งยังรับปากว่าจะหาตัวคนร้ายให้ได้ภายในสองวันนี้“เช่นนั้น สองวันเปิ่นหวางจะกลับมาใหม่” เมื่อคนทั้งสี่เดินออกจากที่ว่าการไปแล้ว คนด้านในก็แทบจะยืนไปอยู่ต่างนั่งลงไปที่พื้นอย่างหมดแรงทางด้านนายอำเภอตู้รีบร้อนกลับไปที่เรือน เพื่อไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นทันทีเขาเรียกตัวซินเซียนมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่นางยังยืนยันคำเดิม ว่าเป็นพี่สาวของนางที่เอ่ยตำหนิให้นางได้อับอายผู้อื่นก่อน“เจ้ารู้หรือไม่ บุรุษที่เจ้าบอกว่าเป็นทาส แท้จริงแล้ว เขาคือเว่ยอ๋อง พระอนุชายร่วมอุทรของฮ่องเต้”คำพูดของนายอำเภอตู้ทำให้คนภายในห้องโถงเรือนหลักต่างตกใจ จนตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัวซินเซียนนางกลัวเสียจนแข้งขาสั่นไปหมดแล้ว หากนางเอ่ยออกมาตามความจริง ที่นางทำลงไปเพียงเพราะความอิจฉาที่นางมีต่อหลินเยว่ มิเช่นนั้นนางคงได
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือด เรียกให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาอย่างรวดเร็ว“หยุดประเดี๋ยวนี้”เว่ยอ๋องสะบัดเลือดที่ติดอยู่ที่ปลายดาบทิ้งอย่างไม่ไยดี“หึ มาช้าเสียจริง เจ้าหน้าที่หานตงทำงานเช่นนี้ สงสัยต้องให้ราชสำนักตรวจสอบเสียแล้ว” เจ้าหน้าที่มองมาที่เว่ยอ๋องอย่างหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ใดถึงกล้าพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้เว่ยอ๋องไม่ได้สนใจว่าเจ้าหน้าที่จะมาทำอันใด เขาเดินก้าวเท้าเข้าไปหานายหน้าค้าทาสอย่างช้าๆ จนเขาต้องถดตัวถอยหนี“ของที่ตัวเปิ่นหวางที่เจ้าค้นได้ไปอยู่ที่ใด” นายหน้าค้าทาสหยุดคิดว่าเขาได้สิ่งของอะไรภายในตัวของทั้งสี่มาบ้างแต่ยังนึกไม่ออก ก็ถูกเว่ยอ๋องเหยียบเข้าที่ขา ที่มีมีดสั้นปักอยู่แล้ว “โอ๊ยยยย”“ยะ อยู่ ด้านบน” ห้องทำงานของนายหน้าอยู่ที่ชั้นสอง แต่ของที่ยึดมาได้ก็ไม่รู้ว่าจะยังอยู่หรือไม่ หากเป็นของมีค่าส่วนมากก็จะถูกนำออกไปขายในโรงรับจำนำเสียหมดแล้วอาหลางและอาซี เดินเข้ามาลากแขนของนายหน้าค้าทาสคนละข้างขึ้นไปยังชั้นสองตามหลังเว่ยอ๋องไปเจ้าหน้าที่ต่างถูกอาซ่งกั้นไว้ที่หน้าบันได ไม่ให้ติดตามขึ้นไปด้านบน“เจ้าจะมาขวางทางเจ้าหน้าที่ไว้ได้อย่างไร” ดูเหมือนคนที่จะเป็น