LOGIN“พ่อผู้ใหญ่ไม่ได้ชื่อพี่บิ๊ก”
รินรดาเปิดฉากว่าเขาก่อน
“หนูก็ไม่ได้ชื่อลิลลี่”
พ่อผู้ใหญ่ขันว่ายิ้ม ๆ
ยิ้มของเขาทำให้รินรดาหมั่นไส้
ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน
“งั้นก็...ให้เรื่องระหว่างพี่บิ๊กกับน้องลิลลี่จบลงในคืนนั้น ไม่ต้องเอามาพูดถึงอีก เราสองคนก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต ถ้าเจอกันครั้งต่อไป เราก็แค่ทักทายกันในฐานะคนรู้จัก คนตำบลเดียวกัน หรือถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็ไม่ต้องเจอกันอีก จะดีมาก ๆ ค่ะ”
“ไม่ดีครับ”
ผู้ใหญ่ขันพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วพ่อผู้ใหญ่จะเอายังไงคะ”
“เอาอีก”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น รินรดาจ้องหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรคะ เอาอีกคืออะไร”
พ่อผู้ใหญ่ขันยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วบอกว่า
“อยากเอากันอีก”
รินรดารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันทีทันใด เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอตั้งหลายสิบปี เขาน่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ก็ตกลงกันว่าวันไนต์สแตนด์แล้วไง จะมาอยากเอาอีกไม่ได้ และเธอก็ไม่ให้เอาด้วย
“ไม่เอาค่ะ”
“ไม่เอาวันนี้ก็ได้ แต่วันหน้าได้เอากันอีกแน่”
รินรดาชักโมโหที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง เธออยากให้มันจบ ๆ ไป แต่เขากลับพูดจากวนประสาท เหมือนจะไม่ยอมจบ
“หนูไม่ให้เอา”
เธอจ้องหน้าเขาด้วยสายตาเคืองขุ่น
ผู้ใหญ่ขันยิ้ม เอ็นดูคนโมโห จริง ๆ แล้วเจตนาของเขาคืออยากให้เธอผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนว่ายัยหนูลิลลี่แสนเร่าร้อนในคืนนั้นจะไม่ชอบใจ งั้น...เขาจะพูดแบบจริงจัง และพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน
“พี่ชอบหนู”
“ฮะ!” รินรดาขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าไม่เชื่อถือ
“ตั้งแต่คืนนั้นที่เรามีอะไรกัน พี่ก็ไม่มีใครอีกเลย ไม่มีใครมาทับรอยหนู”
“พี่จะบอกหนูว่า หนูควรภาคภูมิใจ และควรทำประกาศนียบัตรไปติดฝาบ้านหรือคะ”
ผู้ใหญ่ขันเงินยิ้มขำ “กล้าเอาไปติดฝาบ้านไหมล่ะ พี่จะสั่งทำให้ พ่อกำนันจะได้รู้ว่า มีลูกเขยแล้ว”
“พ่อผู้ใหญ่!” รินรดาจ้องหน้าเขาเขม็ง เธอไม่อยากให้พ่อรู้ แต่เขากลับเอาพ่อเธอมาขู่
ผู้ใหญ่ขันเงินยิ้มอ่อนบาง ยัยหนูรดาของเขา ยามอยู่บนเตียงก็เร่าร้อนจนเขาแทบละลาย เวลาโมโหก็ดุอย่างกับแม่เสือ ชักอยากเห็นตอนที่เธอออดอ้อนอ่อนหวานบ้างจัง จะน่ารักน่ามันเขี้ยวสักแค่ไหนกันนะ
“เรามาพูดคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่าไหมครับ จะได้หาจุดกึ่งกลางที่หนูพอใจ และพี่ก็พอใจด้วย”
รินรดาถอนหายใจแรง นึกโมโหโลกใบนี้ ทำไมมันถึงกลมได้ขนาดนี้กันนะ เธอเสียตัวอยู่ไกลบ้านไกลช่องขนาดนั้น แต่คนที่ได้กันกลับเป็นคนในตำบลเดียวกัน แถมยังเป็นพ่อผู้ใหญ่หน้ามึนคนนี้ด้วย เทวดาเล่นตลกกับเธอเกินไปแล้ว
“พ่อผู้ใหญ่จะเอาไงก็ว่ามาเลยค่ะ แต่เรื่องที่เราได้กันแล้ว ห้ามให้พ่อหนูรู้เด็ดขาด”
ผู้ใหญ่ขันเงินยิ้มพอใจ เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดว่า
“ก่อนอื่น หนูต้องเลิกเรียกพี่ว่าพ่อผู้ใหญ่ แล้วเปลี่ยนมาเรียกพี่ว่า พี่ขัน ไหน... ลองเรียกสิครับ”
รินรดาทำปากขมุบขมิบ บ่นให้คนที่อยากให้เธอเรียกพี่ แต่บ่นแล้ว เธอก็ยอมเรียกอย่างที่เขาต้องการ
“ค่ะ พี่ขัน” อะไรยอมได้ เธอก็จะยอมไปก่อน อย่าให้ถึงทีเธอบ้างก็แล้วกัน
“น่ารักที่สุด”
“มีอะไรอีกไหมคะ”
“พี่อยากจีบหนู”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น เธอมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“จีบทำไมคะ”
“อยากได้เป็นเมีย”
“คิดว่าจะจีบติดเหรอคะ”
“ลองดูไหมล่ะ”
รินรดาจ้องหน้าหล่อเข้มอย่างท้าทาย
“อยากจีบก็จีบไปค่ะ แต่ถ้าจีบไม่ติด ก็อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งก็แล้วกัน นี่ค่ะ...เสื้อแถมปุ๋ย”
รินรดาเลื่อนถุงใส่เสื้อไปตรงหน้าเขา แล้วลุกขึ้นยืน
พ่อผู้ใหญ่ขันลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“ต่อไปห้ามทำเสื้อปุ๋ยแบบนี้อีก”
“แบบไหนคะ”
“แบบที่พิมพ์หน้าตัวเองลงไปบนเสื้อ”
“ทำไมคะ”
“พี่หวง”
“จีบให้ติดก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยมาหวง”
“ถ้าหนูพิมพ์หน้าหนูลงบนเสื้ออีก พี่จะเหมาปุ๋ยร้านหนูอีก”
“หนูไม่ขายให้พี่ขันแล้ว”
ผู้ใหญ่ขันยิ้มพราว ดีใจที่เธอเรียกเขาว่าพี่ขัน เด็กน้อยว่านอนสอนง่ายจริง ๆ
“พี่ซื้อผ่านพ่อกำนันก็ได้”
“นี่พี่เอาพ่อมาขู่หนูเหรอ”
“ขู่อะไรกันเล่า พี่แค่พูดให้ฟังว่าพี่จะทำยังไง”
“หนูไม่พิมพ์หน้าลงบนเสื้อแล้วก็ได้”
“ว่าง่าย ๆ แบบนี้ พี่รักตายเลย”
“คนงานของหนูขนปุ๋ยลงหมดแล้ว หนูกลับก่อนนะคะ”
เธอไม่อยากพูดกับเขาแล้ว พูดอะไรไป เขาก็สวนกลับได้ทุกเรื่อง
“ครับ”
พ่อผู้ใหญ่ไม่รั้งเธอไว้ ไม่ก่อกวนใจเธออีก แค่ได้พบเจอกันอีกครั้ง และได้รู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่นี้ เขาจะไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่นอน
รินรดาเดินเข้าห้องทำงานทันทีเมื่อกลับถึงร้าน เธอนั่งกอดอก ใบหน้าบึ้งตึง บ่นให้อีตาพี่บิ๊กจอมปลอมไปหลายกระบุงโกย คิดว่าจะจีบเธอติดง่าย ๆ เหรอ ฝันไปเถอะ และก็อย่าหวังว่าจะได้กินเธออีกเลย แม้แต่ขาอ่อนของเธอ เขาก็จะไม่มีวันได้เห็นอีกแน่นอน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้รินรดาถอนหายใจแรง เพื่อจัดการกับอารมณ์ขุ่นมัวในใจ แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไร
5 พ่อผู้ใหญ่ใจดีหลังจากปิดร้านแล้ว รินรดาขับรถเก๋งสีขาวไปยังร้านอาหารชายทุ่ง ตอนที่เธอไปถึงร้าน กลุ่มคนที่จะมาปรึกษากันเรื่องผ้าป่าสามัคคีมากันจำนวนหนึ่งแล้วรินรดายกมือไหว้คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว และเอ่ยคำทักทายตามมารยาท เธอรู้จักพวกเขาเป็นบางคน แต่พวกเขารู้จักเธอทุกคน รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของกำนันรุ่งด้วยความที่โต๊ะเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยม นำมาวางต่อกัน เพื่อให้ทุกคนได้นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน รินรดาจึงมองหาตำแหน่งเก้าอี้ที่น่าจะเหมาะสำหรับเธอ ในตอนที่เธอมองหาที่นั่งนั้น เธอก็เห็นมีคนกวักมือเรียก รินรดาจึงเดินเข้าไปหา และประนมมือไหว้“สวัสดีค่ะ แม่ผู้ใหญ่”หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้าง ๆ แม่นุ้ย... แม่ผู้ใหญ่หมู่บ้านเนินหอยใหญ่ เพราะเธอรู้จักและเคยพูดคุยกับแม่ผู้ใหญ่บ่อยครั้ง“สวัสดีจ้ะน้องรดาคนสวย มาเป็นตัวแทนพ่อกำนันเหรอจ๊ะ”“ค่ะ แม่ผู้ใหญ่”“ดี ๆ มีคนรุ่นใหม่มาคุยด้วย จะได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดกัน”รินรดายิ้มหวาน “ค่ะ”ค
“เชิญค่ะ”รินรดาเอ่ยปากอนุญาต ทั้งที่ใบหน้ายังบึ้งตึงอยู่ เธอเก็บสีหน้าไม่ได้เลย“สาวน้อยของพ่อ เป็นอะไรล่ะนั่น หน้าหงิกยังกับมะเหงก”กำนันรุ่งโรจน์ว่าเสียงกลั้วหัวเราะ ทั้งยังยิ้มล้อเลียนลูกสาวคนเดียวของตนด้วยรินรดาถอนหายใจแรงอีกครั้ง เธอทำปากยื่นอย่างแสนงอนด้วยความเคยชิน เวลางอนพ่อเธอก็จะทำหน้าแบบนี้ใส่ท่าน“พอดี เจอลูกค้าเรื่องมาก เอาแต่ใจ และนิสัยไม่ดีค่ะ หนูเลยอารมณ์เสียนิดหน่อย”กำนันรุ่งหัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของลูก ซึ่งเก้าอี้ทำงานตัวที่ลูกนั่ง เขาเคยนั่งประจำมาหลายปีแล้ว ในที่สุด ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนก็มารับตำแหน่งนี้แทนที่ต้องการให้ลูกมาดูแลกิจการ ไม่ใช่เพราะเขาเหนื่อย ไม่ใช่เพราะมีปัญหาสุขภาพใด ๆ แต่เขาอยากให้ลูกเรียนรู้การทำงาน เรียนรู้คน ฝึกกายฝึกใจให้แข็งแกร่ง การทำงานและการเจอผู้คนมากหน้าหลายตา เจอลูกค้าและคู่ค้าหลายประเภท ทั้งดีทั้งเลวปะปนกันไป จะทำให้ลูกเขาแข็งแกร่งขึ้นเขาจะได้มั่นใจได้ว่า แม้ในวันที่ไม่มีเขาคอยกางปีกปกป้อง ลูกสาวสุดรักสุดดวงใจค
“พ่อผู้ใหญ่ไม่ได้ชื่อพี่บิ๊ก”รินรดาเปิดฉากว่าเขาก่อน“หนูก็ไม่ได้ชื่อลิลลี่”พ่อผู้ใหญ่ขันว่ายิ้ม ๆยิ้มของเขาทำให้รินรดาหมั่นไส้ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน“งั้นก็...ให้เรื่องระหว่างพี่บิ๊กกับน้องลิลลี่จบลงในคืนนั้น ไม่ต้องเอามาพูดถึงอีก เราสองคนก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต ถ้าเจอกันครั้งต่อไป เราก็แค่ทักทายกันในฐานะคนรู้จัก คนตำบลเดียวกัน หรือถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็ไม่ต้องเจอกันอีก จะดีมาก ๆ ค่ะ”“ไม่ดีครับ”ผู้ใหญ่ขันพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง“แล้วพ่อผู้ใหญ่จะเอายังไงคะ”“เอาอีก”คิ้วเรียวขมวดมุ่น รินรดาจ้องหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ“อะไรคะ เอาอีกคืออะไร”พ่อผู้ใหญ่ขันยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วบอกว่า“อยากเอากันอีก”รินรดารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันทีทันใด เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอตั้งหลายสิบปี เขาน่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ก็ตกลงกันว่าวันไนต์สแตนด์แล้วไง จะมาอยากเอาอีกไม่ได้ และเธอก็ไม่ให้เอาด้วย“ไ
“พ่อผู้ใหญ่ขันเงิน ผู้ใหญ่บ้านเนินหมีห่าวที่อยู่ติดกับหมู่บ้านของเรานี่แหละจ้ะ”“เขาจะเหมาไปทำไมเยอะแยะคะ”“พี่ก็ไม่รู้ค่ะ แต่เขาจ่ายเงินแล้ว เราก็ต้องเอาของไปส่งนะคะ”“เดี๋ยวหนูสั่งพี่ยอดเอาของขึ้นรถหกล้อ แล้วเอาไปส่งค่ะ หนูจะไปกับพี่ยอดด้วย จะได้ไปขอบคุณเขา แล้วก็เอาหม้อหุงข้าวแถมให้เขาด้วย”“เขาบอกว่าไม่เอาของแถมอื่น เขาขอแค่เสื้อแถมปุ๋ยค่ะ”“งั้นก็แถมให้หมดเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยสั่งทำเสื้อล็อตใหม่ พอดีแหละ หนูจะใช้รูปใหม่พิมพ์หลังเสื้อ”“ค่ะ”พี่จุ๋มรับคำแล้วก็รีบไปทำตามคำสั่งของรินรดา ส่วนเจ้าของร้านก็รีบเก็บของบนโต๊ะ เตรียมตัวไปส่งมอบปุ๋ยให้ลูกค้ารายใหญ่ เธออยากไปขอบคุณเขาด้วยตัวเอง เพราะว่า เขาทำให้ยอดขายเดือนนี้ทะลุเป้าไปเยอะเลยเมื่อคนงานขนปุ๋ยขึ้นรถหกล้อเรียบร้อยแล้ว ไอ้ยอดเป็นคนขับรถไปส่งปุ๋ย และมีลูกน้องอีกสามคนนั่งอยู่บนกระสอบปุ๋ยที่บรรทุกเต็มหลังรถ รินรดานั่งรถไปด้วย เธอขนเอาเสื้อปุ๋ยไปหมดทุกตัว เพื่อเอาไปส่งมอบให้พ่อผู้ใหญ่ขันเงิน
ไอ้ตึ๋งเดินมารับเงินจากมือพ่อผู้ใหญ่ แล้วก็รีบวิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้างโรงครัวพ่อผู้ใหญ่ขันมองตามหลังไอ้ตึ๋ง แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้ว ทำไมเขารู้สึกคุ้น ๆ รูปที่พิมพ์อยู่บนหลังเสื้อที่ไอ้ตึ๋งใส่ใช่ไหมใช่แหละ...เขาว่าต้องใช่แน่ ๆ“ไอ้ตึ๋ง!”เสียงเรียกของพ่อผู้ใหญ่ขันดังขึ้นพร้อมกับเสียงไอ้ตึ๋งสตาร์ตรถมอเตอร์ไซค์ และพอมันสตาร์ตเครื่องติดแล้ว มันก็ยังเบิ้ลเครื่องจนเสียงดังลั่นทุ่ง พ่อผู้ใหญ่ขันเรียกซ้ำอีกหลายครั้งมันก็ไม่ได้ยินคนที่อยากเห็นรูปผู้หญิงที่พิมพ์อยู่บนหลังเสื้อไอ้ตึ๋งชัด ๆ จึงได้แต่ถอนหายใจหงุดหงิด เอาไว้มันกลับมาก่อน แล้วค่อยขอดูให้ชัด ๆ ถ้าใช่เธอจริง ๆ เขาจะได้ซักถามที่มาที่ไปของเสื้อด้วยแค่เห็นรูปไม่ชัด แค่นี้ก็สะกิดใจให้เขาคิดถึงค่ำคืนเร่าร้อนกับเธอ ผู้หญิงคนนั้นที่หนีออกจากห้องไปก่อนที่เขาจะตื่น เธอทำให้เขาพร่ำเพ้อคิดถึงตลอดมา เธอทำให้เขาอยากเก็บทุกรอยสัมผัสของเธอเอาไว้ และเขาก็ไม่ยอมให้ใครมาทับรอยของเธออีกเลยนับตั้งแต่คืนนั้น3 ผู้สาวเสื้อปุ๋ย “พ่อผู้ใหญ่ อยากเหล้าขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ลุงเสริมถามเจ้านาย เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงไม่ยอมนั่ง แถมย
“น้องรดาจ๊ะ นี่จ้ะ รายงานยอดขายเดือนที่แล้วกับเดือนนี้” “ขอบคุณค่ะ พี่จุ๋มนั่งก่อนสิคะ”รินรดายิ้มให้พนักงานบัญชีของร้าน เธอรับเอารายงานการเปรียบเทียบยอดขายมาดู พอดูเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มกว้างเต็มใบหน้า“ของเดือนนี้ ยอดขายตั้งแต่กลางเดือนเป็นต้นมา ดีขึ้นกว่าเดิมระดับหนึ่งเลยนะคะ”“ใช่ค่ะ เพราะน้องรดาจัดโปรซื้อปุ๋ยแถมเสื้อนี่แหละค่ะ เสื้อปุ๋ยร้านเราไม่เหมือนใคร ชาวบ้านเลยอยากได้ โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ” “ก็เสื้อปุ๋ยแบบทั่วไปร้านไหนก็มี หนูเลยคิดว่า ถ้าเราทำให้มันแตกต่าง เด่นชัด สะดุดตา ใครเห็นแวบแรกก็รู้เลยว่าเป็นเสื้อจากร้านเรา แบบนี้จะน่าสนใจและดึงดูดกว่า”“ที่เสื้อปุ๋ยของร้านเราน่าสนใจกว่าเสื้อปุ๋ยร้านอื่น ก็เพราะมีรูปน้องรดาพิมพ์เต็มหลังนี่แหละค่ะ”“ก็จะได้รู้กันไปเลยค่ะว่า เสื้อตัวนี้มาจากร้านกำนันรุ่ง และรูปที่แปะอยู่ข้างหลังเสื้อคือลูกสาวกำนัน”“เดือนหน้า ยอดจะต้องพุ่งกว่านี้แน่นอนค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านจะมาซื้อปุ๋ยไปหว่านนาข้าว”“ขอให้ปัง ๆ เถอะค่ะ หนูจะได้ขอเพิ่มค่าแรงจากพ่อ”พี่จุ๋มหัวเราะกับคำพูดของรินรดา ก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อพอพี่จุ๋มออกจากห้องทำงานส่วนตัวของเธ







