NC นางเอิบผู้หิวโหย
"คุณหญิง"
"เอิบ เรียกข้าว่าเอิบก็พอ"
"เช่นนั้นหรือ"
"เอิบ แม่เอิบของข้า"
หมอผีไกรจับดอกบัวตูมที่ยังเต่งตึง มือนวดคลึงสองเต้านั้น "อือ พ่อหมอ"
"พี่ไกร เรียกเช่นนี้ได้หรือไม่" เขาถาม ก่อนจะเขี่ยที่ยอดอกนาง สามีไม่แตะต้องนางมาสองปีแล้ว หญิงสาวมีความต้องการเอ่อล้น นางแอ่นอก กดเขาลงดูดยอดอกที่กำลังแข็งตัั้ง
"พี่ไกร"
หมอผีไกรพอใจ เขาดูดดึงยอดอกนางขึ้น "อะ อร๊ายยยย" มือก็ลูบถูที่ติ่งสวาทเม็ดใหญ่ของนาง "ข้าอยากเลีย" เขาขยับมากระซิบข้างหู คุณหญิงเอิบเสียววาบ คว้าจับแก่นกายเขาที่กำลังแข็ง
"อูย ยาวจังพี่" นางเลียปาก อยากเหลือเกิน สองปีที่ขาดการกระทุ้งเสียดสี เจ้าพระยาสุรเดชไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ภรรยาหิวโหยมากเพียงใด
"ข้าจะแทงให้ลึก"
"ข้าก็จะอ้าขากว้างๆ"
คำพูดหยาบโลนช่วยปลุกอารมณ์ให้ทั้งคู่ บัดนี้พ่อหมอกลายเป็น'ไอ้ไกร'แล้ว เขาก้มลงเลียกลีบกุหลาบสีชมพูสวย "อ่าาาาาาาาห์" แหวกกลีบอ้า กวาดลิ้นเลียเม็ดสวรรค์นางเอิบ
"อูย พี่ ข้าเสียววววว"
นางสะดุ้งเฮือก เพราะไม่ถูกสามีสัมผัสมานาน นางจึงมีอารมณ์อยากรุนแรง น้ำอยากสีใสไหลเยิ้มเปียก ช่องทางรักขมิบสู้ลิ้น ติ่งสยิวแข็งเป้ง ถูกลิ้นนุ่มๆลากถู เลียเน้นๆ วนทั่วเม็ด
"ฮืออออ เสียวเหลือเกินนนนน" นางไม่รู้จะพูดคำไหน ขาเรียวงามแหกกว้าง สองมือกำหน้าอกตน บีบบี้ระบายความเสียวซ่าน
ไอ้ไกรลุกขึ้น เขาถอดชุดตนออกบ้าง ยืนคร่อมตัวนางเอิบไว้ ท่อนลำเขาสีดำคล้ำ หัวบานใหญ่ ขนาดเกือบเท่าแขนนางเอิบ แถมยังยาวมาก
"อ๊าาาาาา"
นางเอิบอ้าปาก น้ำลายนางไหลออกมา ไอ้ไกรยืนจังก้า มือกำรูดแท่งสวรรค์ตน มันผงกหัวหงึกๆ หัวบานใหญ่เหลือเกิน
"เอามา เอามาาาา"
นางเอิบคว้าหาแท่งใหญ่ยาวนั่น นางนั่งแหงนหน้า อ้าปากรับแก่นกายของหมอผี
"โอ้วววววว"
ไอ้ไกรป้อนของหวานถึงปากนางเอิบ เขาขยับเอวเด้งสู้ นางก็ดูดขึ้นลง แถมยังเลียที่หัวบานๆของเขาจนชุ่มน้ำลาย
"อูยยย เจ้า"
เขามองนางดูดหัวบานให้ ริมฝีปากสีสวยจูบไปทั้งส่วนหัว นางชอบเหลือเกิน อยากเอาหัวมาถูใส่รู
"ข้าอยากเหลือเกินนนน" นางเอิบเว้าวอนเสียงกระเส่า ไอ้ไกรเองก็ไม่ไหวแล้ว เขาอุ้มนางออกมานอกสำนัก ให้นางนั่งบนบันไดทางขึ้น "โอ๊ยๆๆๆๆๆ" นางเอิบแหกขาอ้า มือคว้าหาลำแข็ง ถูเม็ดสวาทใส่หัวบานๆอย่างที่ต้องการ
"อร๊ายๆๆๆๆๆๆ ดีจังเลย โอ้ววววว"
นางระบายอารมณ์ที่อัดอั้นออกมาเต็มที่ ไอ้ไกรสูดปากเสียวมากเช่นกัน เขาจับแก่นกายที่ใหญ่เกือบเท่าแขนนางยัดทีเดียวมิดด้าม
"ฮืออออออออออ"
นางเอิบร้องลั่นป่า สำนักหมอผีที่อยู่ห่างไกลผู้คน บัดนี้มีสองหนุ่มสาวกำลังเล่นบทสวาทกันอยู่
"อูยยย แน่นจังเลย" ไอ้ไกรถึงกับตัวเกร็ง รูเสียวนางเอิบยังคับแน่น บีบรัดแก่นกายเขาสุดแรง "อ่าาาาา" เจ็บและเสียวมากๆ ไอ้ไกรแหงนหน้าเด้าสุดแรง
"ใหญ่เหลือเกินพี่ไกร"
นางเอิบใจแทบขาด นางนั่งเอนตัวไปด้านหลัง แก่นกายยาวกระแทกนางดังตั่บๆ เสียวแทบตายเป็นเช่นไรนางพึ่งได้รู้วันนี้
"อะๆๆๆๆๆ รู...ข้า"
นางเอิบกัดปากตัวเองอย่างแรง ไอ้ไกรตอกอัดนางไม่ยั้ง นางดิ้นทุรนทุราย ทั้งเสียวทั้งจุก และยิ่งนางดิ้น ไอ้ไกรยิ่งเสียวหัวลำ
"โอ้วๆๆๆๆๆๆ แม่เอิบ โอ๊ยๆๆๆๆ"
เขาเลียยอดอกนาง ก่อนจะบีบอย่างรุนแรง
"ฮืออออ พี่ไกร"
นางเอิบใจจะขาดแล้ว แท่งใหญ่แทงลึกถึงมดลูกนาง "ข้าเสียวท้อง" นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน นางเอามือกดท้องน้อยไว้ น้ำอยากไหลออกมาจนแฉะ ไอ้ไกรชักแก่นกายออกแล้วกระแทกเข้ามาสุดแรงที่มี
"โอ้วววววววววว"
นางตาเหลือกตาค้าง สองขาสั่นพั่บๆ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยว ทั้งเสียวและทรมาน สองปีที่ขาดหายไปทำให้นางมีความต้องการมากขึ้นจริงๆ
"ซี๊ดดดด เข้าไปข้างในกัน"
ไอ้ไกรอุ้มแตงนางเข้ามาในสำนัก "อื้อ พี่มันเข้าลึก" นางเอิบขย่มสู้ ก่อนร่างนางจะลงพื้น หันหลังโก้งโค้ง แก่นกายเขาแทงลึกในท่าหมา
"โอ้พี่จ๋าาาาา"
นางเอิบผู้เปลี่ยวกายเปลี่ยวใจร้องครางลั่น ท่านี้แท่งยาวยิ่งเข้าลึก เขากระแทกพั่บๆ ตีก้นนางไปด้วย ช่างเมามันเหลือแสน
"อ่าาาา เจ้า"
"พี่ไกร จ๋าาาา พี่"
สองคนสุขสม กระแทกใส่กันเสียงดังระงม ไอ้ไกรเชิดหน้า เขาเด้าจนแก่นกายหลุด นางเอิบผวารีบเข้ามาดูด "อืม เสียวมากแม่เอิบ" นางดูดเลียจนแก่นกายเขาฉ่ำเยิ้ม "มาเร็วพี่" ก่อนจะนอนหงาย อ้าขาเชิญชวนเขา
"อะ อะ อืมมมม"
พวกเขาครางพร้อมกัน ไอ้ไกรจับขานางแหกออกอีก เขากระหน่ำใส่เต็มแรง แก่นกายยาวแทงเข้าแทงออก "อื้อๆๆๆๆ" นางเอิบตัวบิดตัวงอ นางไม่เคยโดนท่านเจ้าคุณเอาแรงขนาดนี้มาก่อน แก่นกายแข็งตอกระรัว กระแทกตั่บๆตั่บๆ คุณหญิงเอิบผู้เหงากายไม่สามารถทานทนต่อคลื่นความเสียวได้อีกต่อไป
"ข้าน้ำจะออกกกก"
นางเอิบเสียงสั่น ไอ้ไกรยิ่งรุนแรงขึ้น เขาจับสองขานางพาดบ่าแล้วจับนางยกล้อ ส่งแท่งสวรรค์เข้าไปให้ลึกที่สุด
"ฮือออออออ"
นางเอิบจุกมากๆแถมยังเสียวสุดขีด "อะ อะ ข้าน้ำออก ข้าน้ำออกแล้ว" นางสะดุ้งสุดแรง ตัวกระตุกเฮือก ไอ้ไกรยิ่งกระแทกปลุกเร้า "โอ๊ยยยยยย" นางเสียวที่สุดในชีวิต แม้แต่ผู้เป็นสามีก็ไม่เคยปรนเปรอนางได้เช่นนี้
"อ่าห์ๆๆๆๆๆๆ" ไอ้ไกรเองก็ทนไม่ไหว เขาสาดน้ำใส่รูนางเอิบอย่างสะใจ "ซี๊ดดดดดด" น้ำขาวขุ่นล้นทะลักออกมานอกรู ทั้งนางเอิบและไอ้ไกรครางลั่น เสียวสยิวกอดกันกลมในสำนักหมอผี
NC ท่ายากกับเมีย!!ไกรยืนแนบอยู่กับขอบประตู มุมปากยกยิ้มอย่างพึงใจ นัยน์ตาดำขลับเต็มไปด้วยไฟปรารถนา นางเอิบช่างงดงามยามต้องแสงเช่นนี้ ผิวขาวเนียนชุ่มไปด้วยเหงื่อ เส้นผมยุ่งเหยิงปรกลงมาตามลาดไหล่ ริมฝีปากแดงช้ำเผยอออกจากเสียงหอบกระเส่าเขาเดินเข้าหานางที่ยังไม่ทันตั้งตัว มือหยาบกร้านของเขาจับข้อเท้านางไว้ ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงมา ปลายจมูกของเขาไล้ผ่านต้นขา สร้างความร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งกาย นางเอิบสั่นสะท้านทุกสัมผัสของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของไกรไล่ผ่านผิวเนื้ออ่อนไหว แหย่ลิ้นเข้าไปในรูนาง ตวัดลิ้นระรัว ปลุกกระแสความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างยากจะห้ามใจนางเอิบเสี้ยนรูมาก ดวงตานางฉ่ำเยิ้ม หัวใจเต้นรัว“พี่ไกร...” นางครางเสียงแผ่วไกรไม่พูดอะไร เขาลุกขึ้นแล้วโน้มตัวไปหานางเอิบ จับปลายคางนางเชยขึ้นก่อนกดริมฝีปากลงอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัด ดูดดึงความหวานจากริมฝีปากของนางจนแทบหมดสิ้น มือหนากอบกุมทรวงอกอวบ ลูบไล้ บีบคลึงราวกับกำลังหลอมละลายนางไปทั้งร่าง"อ่าาาาห์"นางเอิบครางกระเส่าเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากลงมา ซุกไซ้ที่ซอกคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดง ไล้ต่ำลงมาสู่เนินอก นางแอ่นอกข
NC เ.ี่ยน อยากมีลูกยามเช้าตรู่ของวันใหม่มาถึง หมอกจาง ๆ ปกคลุมลำน้ำ ขับเน้นให้ท่าเรือดูเงียบเหงานางดวงยืนส่งนางเอิบที่ละทิ้งยศถาบรรดาศักดิ์ ตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับไกรที่ละทิ้งอาชีพหมอผีแล้วเช่นกันเมื่ออยู่ที่ท่าเรือ สายตาของนางดวงเต็มไปด้วยความห่วงใย "ข้าหวังว่าท่านจะพบความสุขแท้จริงที่นั่น" นางกล่าวพลางยื่นห่อเสบียงให้เอิบ"ขอบน้ำใจแม่ดวงนัก" เอิบเอื้อมมือรับ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายหลาก"ไปเถิด" นางดวงยิ้ม ก่อนหันไปพยักหน้าให้ไกร ชู้รักของนางเอิบ ที่บัดนี้เลื่อนขั้นมาเป็นสามีเต็มตัว"โชคดีเช่นกันนะแม่ดวง" นางเอิบกล่าวลาเรือของพวกเขาเคลื่อนออกจากท่า ล่องไปตามสายน้ำเชี่ยวของเจ้าพระยา ใช้เวลาเดินทางอยู่หลายวันกว่าพวกเขาจะมาถึงหมู่บ้านดงเร้นอีกคราหมู่บ้านกลางป่าลึกแห่งนี้ยังคงสงบเช่นเดิม กระท่อมไม้ไผ่ของพวกเขายังคงตั้งอยู่ท่ามกลางไร่ผักและคอกไก่ที่พวกเขาช่วยกันสร้างขึ้นเมื่อคราก่อนหนึ่งเดือนต่อมาชีวิตที่นี่เรียบง่ายและสงบสุข เอิบตื่นเช้าขึ้นมาตักน้ำจากบ่อ เตรียมสำรับกับข้าว ไกรออกไปหาสมุนไพรในป่าลึก ตกเย็นเขาจึงกลับมาพร้อมปลาสด ๆ ที่หามาได้จากลำธาร"ข้าชักชอบชีว
ลาก่อน..ไอ้เดช!!แสงแรกของวันค่อย ๆ ทาบทับลงบนหลังคาเรือนภายในพระนครศรีอยุธยา หมอกจาง ๆ ลอยอ้อยอิ่งเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา ลมยามเช้าพัดกรูมาต้องผิวน้ำเกิดเป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ ที่สะท้อนแสงตะวันเป็นประกายระยิบระยับ รุ่งอรุณเช่นนี้มักเป็นช่วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าเริ่มตั้งร้านริมคลอง ชาวบ้านพากันออกจากเรือนมุ่งหน้าไปยังตลาด ขณะที่เหล่าขุนนางและข้าราชการต่างเตรียมตัวเข้าสู่การทำงานตามหน้าที่ของตนแต่เช้านี้แตกต่างออกไปความเงียบสงัดอันผิดปกติค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วพระนคร ไม่มีเสียงหัวเราะของบรรดาเด็กเล็กที่วิ่งไล่จับกันหน้าบ้าน ไม่มีเสียงพ่อค้ายกยอปอปั้นสินค้าอันโอชะของตน เหล่าผู้คนต่างมารวมตัวกัน ณ ลานหน้าศาลหลวง ตั้งแต่ยังไม่ทันฟ้าสาง เพื่อรอชมเหตุการณ์สำคัญ นั่นก็คือการตัดสินคดีความของเจ้าพระยาสุรเดชและพรรคพวกอีกด้านหนึ่ง ภายในเรือนใหญ่ของเจ้าพระยาสุรเดช นางจันทร์ หญิงสาวผู้เคยสำเริงสำราญกับทรัพย์สินที่ได้มาจากสามี พอรู้ว่าคดีพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก็ถึงกับหน้าซีดเผือด "ข้าต้องไป..." นางเดินวนไปมาอยู่ภายในห้อง หยิบข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของมีค่าอัดแน่นลงไปในหีบไม้ แต่พอปิดหีบก็พบว่ามันหนัก
NC จุกรูหูแทบตาย!!!ในเช้าวันรุ่งขึ้น ศาลหลวงได้รับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการปล้นเรือนของบิดาคุณหญิงเอิบ และมีคำสั่งให้ขุนศรีนำพยานหลักฐานเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วกรุงศรีอยุธยา บรรดาขุนนางที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพระยาสุรเดชเริ่มแตกตื่น พวกมันบางคนพยายามทำลายหลักฐาน บางคนหาทางหลบหนีแต่ไม่มีใครหนีพ้น....หลวงพิชัย ผู้เคยหวังจะเอาตัวรอด กลับถูกจับกุมเสียเอง"ปล่อยข้า ...ไอ้ไพร่อย่ามาแตะตัวข้า""ข้าไม่เกี่ยว ข้าถูกใส่ร้าย ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!!"ขุนศรียืนอยู่ในศาลหลวง ในมือของเขาคือจดหมายและคำให้การของพยาน "คดีนี้ต้องได้รับการพิจารณาโดยละเอียด ขอให้ศาลหลวงโปรดพิจารณาอย่างยุติธรรม"บรรดาขุนนางที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พยักหน้า พวกเขารับเอกสารอย่างเคร่งขรึมในที่สุด แผนการของคุณหญิงเอิบก็มาถึงจุดสำคัญที่สุดในคืนหนึ่ง ก่อนวันที่ศาลจะตัดสินชะตากรรมของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คุณหญิงเอิบยืนมองพระจันทร์เต็มดวง นางยกมือขึ้นแตะแหวนหยกเบาๆ ก่อนจะพึมพำ"เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ข้าต้องทำ ก่อนจะจากที่นี่ไปตลอดกาล"
NC วางแผนจนน้ำเยิ้ม...สองวันต่อมาเสียงกลองยามตีบอกเวลายามสองดังก้องทั่วอยุธยา แสงจันทร์สาดส่องเป็นประกายเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา ทว่าภายในเงามืดของที่พำนักแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา สองร่างกำลังนั่งสนทนาอย่างเคร่งเครียดพ่อหมอไกรและคุณหญิงเอิบ"พวกมันเริ่มไหวตัวแล้ว" พ่อหมอไกรพูดเสียงต่ำ พลางวางม้วนกระดาษเก่าคร่ำคร่าลงบนโต๊ะไม้เล็กๆ ในห้องลับ "เจ้าพระยาสุรเดชถูกจับ แต่คนที่เกี่ยวข้องยังมีอีกหลายคน หากเราต้องการลากมันลงมาให้หมด เราต้องหาหลักฐานที่แน่นหนากว่านี้""ท่านคิดว่าเราควรเริ่มจากที่ใด" คุณหญิงเอิบถาม ดวงตาของนางทอประกายเยือกเย็น แต่แฝงไปด้วยความร้อนเร่าอย่างลึกล้ำพ่อหมอไกรสบตานาง ความมืดของค่ำคืนไม่อาจปิดบังแรงปรารถนาที่สุมอยู่ในอกได้ มือของเขาเอื้อมไปแตะหลังมือของนาง ลูบไล้ปลายนิ้วเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ สอดประสาน มือของเขาเย็นเฉียบ แต่นางกลับรู้สึกว่ามันกำลังแผดเผาทั้งร่างให้ร้อนรุ่ม"ข้าเพิ่งได้ข่าวจากแหล่งข่าวในราชสำนัก มีขุนนางบางคนที่ได้รับเงินจากเจ
บาปนั้นคืนสนอง"ที่แท้โจรชั่วนั่นคือท่าน!!"คุณหญิงเอิบปาดน้ำตา นางรู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือใคร และนางก็รู้เช่นกันว่า จะไม่มีวันยอมให้ความจริงนี้ถูกฝังกลบไปพร้อมกับอดีตในคืนที่เงียบสงัดภายใต้แสงจันทร์นวลผ่อง คุณหญิงเอิบซ่อนกายอยู่ในเงามืดของเรือนเจ้าพระยาสุรเดช หัวใจเต้นแรงระรัว นางเม้มริมฝีปากแน่น กลั้นลมหายใจให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ใครจับได้ นางดวงที่อยู่เคียงข้างกันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูคุณหญิงเอิบด้วยเสียงสั่นเครือ“ขออภัยเถิดเจ้าค่ะคุณหญิง ข้ามิรู้มาก่อนว่าวันนี้ที่เรือนใหญ่จะมีแขก” นางดวงกล่าว สีหน้ารู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง นางเป็นเพียงทาสที่ทำงานอยู่ในไร่ในสวน ไม่ค่อยได้ขึ้นมาเรือนใหญ่ จึงไม่อาจรู้ได้ว่าคืนนี้เจ้าพระยาสุรเดชมีแขกมาดื่มสุราด้วยที่เรือน"ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ"เสียงหัวเราะหยาบโลนดังลอดออกมาจากโถงกลางของเรือน น้ำเสียงกระด้างและคำพูดส่อเสียดของเหล่าบุรุษที่กำลังสนุกสนานกับเหล้าและการเล่นพนัน ทำให้คุณหญิงเอิบต้องรีบตัดสินใจ นางร