‘เอาไว้ว่างเมื่อไหร่ยุ้ยจะเข้าไปค่ะ’
เธออยากจะบ้า ที่แอบรู้สึกดีใจที่เห็นข้อความของพ่อเลี้ยง...
บ่ายวันต่อมา เธอตัดสินใจกลับไปที่บ้าน เพื่อจะจัดการเกี่ยวกับเอกสารของแม่ และเพื่อจะเยี่ยมพ่อเลี้ยงด้วยนั่นแหละ
แต่การกลับไปที่บ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้า มันคือหายนะครั้งใหญ่เลยล่ะ
ลุงเมฆผู้ที่ยังไม่ถอดเฝือกออก นอนอยู่บนโต๊ะอาหาร โดยมีพยาบาลสาวใหญ่ขย่มโยกอยู่บนกายของเขา เสียงร้องครวญครางของทั้งคู่ บ่งบอกถึงความกระสันซ่านเสียวทรมานเหมือนจะขาดใจ
“อ๊า...อ๊า...เสียวค่ะ...อูยยยที่รัก ทำไมของคุณยอดเยี่ยมอย่างนี้ เพ็ญจะตายอยู่แล้ว”
“โอววว ระวังเอาไว้นะ ผมไม่ปล่อยให้คุณขย่มผมฝ่ายเดียวหรอก ผมจะกระแทกคุณให้ตัวลอยติดเพดานเลยคอยดู อื้อ อื้อ อื๊ออออ”
ยงรวีอ้าปากหวอ มองสองร่างที่กำลังเสพสังวาสกันอย่างเมามันส์ พยาบาลสาวรุ่นใหญ่ในชุดพยาบาลสีขาวกำลังขย่มโยกดุ้นดุของพ่อเลี้ยงจอมอึดแบบกัดไม่ปล่อย เสียงขย่มเสียดกันดังลั่นไปทั้งบ้าน
“โอววว...” แว่บแรกที่เห็นเธอรู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนเขากำลังเล่นชู้ แต่พอคิดอีกที เธอลืมไปแล้วหรือว่าแม่ตายไปเกือบเดือนแล้ว
เธอข่มความเคืองขุ่นในใจ ก่อนจะก้มมองที่ปลายเท้าแล้วเห็นถุงยางใช้แล้วถูกทิ้งเกลื่อนจนนับไม่ได้
“ชิ! ขนาดอยู่ในสภาพ เขายังบ้ากามขนาดนี้เหรอ”
“โอ๊ววววส์ซี๊ดส์ ผัวขาเมียเสียว ดุ้นผัวมันสุดเลยค่ะผัวขา เมียไม่ไหวแล้ว” อิทธิฤทธิ์ของดุ้นฝังมุกทำให้พยาบาลสาวรุ่นใหญ่กรีดร้องโหยหวนยามถึงจุดสุดยอดแห่งปรารถนา
“หนีเวรมาล่ะสิ” เธออดกระแนะกระแหนไม่ได้ ก่อนจะหันหลังให้พวกเขาแล้วกลับเข้าห้องนอนของตัวเองอย่างเงียบๆ คิดเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่พ่อเลี้ยงเธอเสร็จธุระกับพยาบาลร่านสวาท ก็ค่อยออกมาคุยกับเขาเรื่องบ้านและเรื่องเอกสาร
แต่เมื่อกลับเข้าห้อง เธอดันเผลอหลับไปประมาณสองสามชั่วโมงเห็นจะได้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ตื่นมาเพราะเสียงที่ดังฝ่าผนังห้องเข้ามา...
“โอ๊วววส์ซี๊ดส์ อื้อ อื้อ หมอไม่ไหวแล้วคุณเมฆ หมอเสียว เสียวเหลือเกิน...”
ตอนแรกเธอคิดว่าฝันไป แต่เสียงร้องครางที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงกระแทกหนักหน่วงจนเตียงแทบทรุด มันทำให้เธอได้สติและคิดได้ว่า...มันยังไม่จบ
“อะไรนะ...หมอเหรอ? พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ..หมอจริงๆใช่มั้ยอ่ะ” เธออยากจะบ้าตายแล้วจริงๆ จบจากพยาบาลเขาก็ต่อกับคุณหมออย่างนั้นเหรอ เธอไม่อยากคิดเลยว่าหนึ่งเดือนที่เขาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน มีผู้หญิงแวะเวียนมาดูแลเขาที่บ้านกี่คน???
“อย่าเพิ่งแตกครับ ฟังก่อน พราวไม่ใช่ลูกพี่สิงขรหรอกครับ เราสองคนไม่ได้เป็นอาหลานกันจริงๆ ผมตรวจดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว ผลออกมาว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกันเลย ดังนั้น ไร่ของเรากำลังจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หากป้าจะเอาเรื่องนี้ไปโพทะนาให้ทั่วไร่ ผมก็ไม่ห้ามนะ”“จริงหรือคะ”“จริงสิครับ”ป้าไฉไลนั้นดีใจยิ่งกว่าพราวนภาเสียอีก ท่านกอดพราวนภาจนแน่น แสดงความยินดีกับเจ้านายทั้งสองคนอย่างจริงใจ“แล้วที่คุณหนูอาเจียน...อย่าบอกนะคะ”รอยยิ้มเจือเขินของสิงหรัตน์และพราวนภาทำให้คุณป้าไฉไลรู้ได้ทันทีว่าไร่แห่งนี้กำลังจะมีเจ้านายน้อยถือกำเนิดขึ้นแล้ว เพราะงั้น เธอในฐานะแม่บ้านคนสนิทของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ตะวันฉาย จึงจะต้องทำหน้าที่กระจายข่าวดีนี้ให้ทั่วถึงกันเสียหน่อย ไอ้พวกที่ชอบนินทาเจ้านายจะได้เงียบปากเงียบคำกันเสียทีเป็นที่เปิดเผยแล้วว่าคุณหนูพราวนภาไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อเลี้ยงสิงขร ดังนั้น เธอจึงไม่ใช่หลานสาวแท้ๆของคุณอาสิงหรัตน์เช่นเดียวกันส่วนข่าวลือที่ว่าคุณหนูพราวนภาหายไปกับผู้ชายถึงสามวันสามคืนนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย ผู้ชายคนนั้นก็คือพ่อเลี้ยงสิงหรัตน์ ซึ่งเป็นพ่อของลูกในท้
"อะไรกันคะคุณสิงห์ พินัยกรรมอะไรกันคะ พี่ไม่เห็นเคยรู้เลย”“มันเป็นพินัยกรรมฉบับที่สองครับ พี่สิงขรได้เขียนเอาไว้ว่า...ภรรยาของข้าพเจ้า นางพิไลลักษณ์ได้คบชู้สู่ชายมานานหลายปี ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความเสียใจและล้มป่วยลงจนอาการทรุดหนัก แต่เธอก็ไม่เคยเหลียวแล ปล่อยปละละเลยเพราะมัวแต่หาความสุขส่วนตน ข้าพเจ้าจึงต้องการให้ภรรยาและชู้รักออกไปจากไร่แห่งนี้ ทันทีที่ข้าพเจ้าเสียชีวิตลง โดยภรรยาของข้าพเจ้าจะไม่ได้ทรัพย์สินใด ๆ ติดตัวไปเลย แม้แต่ลูกสาวสองคนก็ไม่มีสิทธิ์นำพาติดตัวไป ลูกสาวสองคนได้แก่เพ็ญกมลและพรฤดี จะยังคงมีสิทธิ์ในทรัพย์สินตามที่ข้าพเจ้าได้ลงบันทึกไว้ในพินัยกรรมฉบับแรกทุกประการ...”พิไลลักษณ์ ปรีชา และเพ็ญกมลถึงกับหน้าเซียวหน้าซีด แทบจะทนฟังเนื้อความในจดหมายนั้นต่อไปไม่ได้“หมายความว่าพี่จะต้องออกไปจากไร่หรือคะ”“ความจริงผมควรจะทำตามพินัยกรรมของพี่สิงขรตั้งแต่เมื่อ 9ปีก่อน แต่ผมก็ไม่ได้ทำ จึงเกิดเรื่องร้ายขึ้นในวันนี้ ผมถือว่าผมเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เพราะงั้น พี่พิไลกับพี่ปรีชาจึงจะต้องออกจากไร่ไปตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และจะไม่กลับมาที่ไร่แห่งนี้อีกจนตลอดชีวิต”พิไลลักษณ์
“กูจะตัดของมึงด้วย อีแก่จะได้ไม่มีอะไรใช้งานในนรก!”“ฮือ...ไอ้สารเลว! มึงไม่ได้ตายดีแน่! โธ่ลูกแม่ เจ็บมากมั้ยลูก! ไอ้ชั่วมึงทำลูกกู”“อ้าว ทีลูกคนอื่น มึงยังสั่งให้กูไปทำเลย พอทำลูกสาวมึงบ้าง มึงกลับมาแช่งกูซะงั้น...จุ๊ๆๆๆ แต่ลูกสาวมึงอร่อยเหาะเลยว่ะ ชักเสียดาย เก็บไว้ก่อนดีมั้ยนะ เอาไปรวมกับอีวารีที่กระท่อมดีกว่า จะได้อยู่กันแบบสามคนผัวเมียไปจนเบื่อ แล้วพอเบื่อ ก็ค่อยทุบหัวฝังดินในหลุมเดียวกันไปเลย ง่ายดีออก!!”ขาดคำนั้น...ลูกปืนปริศนายิงเข้ามาที่ต้นขาของไอ้เมฆจนมันล้มลงไป“โอ๊ย!”สิหรัตน์พร้อมลูกน้องอีกประมาณห้าคนเดินเข้ามาในบ้าน โดยมีอาวุธครบมือทุกคน“ขจร จับตัวมันส่งตำรวจ แล้วก็ให้คนไปช่วยวารีที่กระท่อมกลางป่าด้วย”“ครับพ่อเลี้ยง!”เมื่อเห็นสิงหรัตน์ยืนอยู่ตรงหน้า พิไลลักษณ์ถึงกับปล่อยโฮออกมาด้วยความโล่งใจ“ฮือ...คุณสิงห์ ช่วยพี่ด้วย ช่วยยัยเพ็ญด้วยค่ะ มันจะฆ่าพวกเราทั้งหมด!”“ใจเย็นครับพี่พิไล มันกำลังจะได้รับผลกรรมที่มันก่อขึ้นแล้วครับ”พราวนภาตามเข้ามา ด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ เธอตรงเข้าไปหาร่างของเพ็ญกมลที่ยังนอนไม่ได้สติทันที“คุณพี่เพ็ญ!...เป็นยังไงบ้างคะ คุณอาคะ รีบพาคุณพี่เพ็
“ฉันหวังให้เป็นอย่างนั้นล่ะ แต่ถ้าวันพรุ่งนี้ยังติดต่อทั้งสองคนไม่ได้ ฉันจะขอให้คุณสิงห์ช่วยแล้วล่ะ”“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะครับ...แล้วเรื่องคุณหนูพราวเป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่ากลับมาแล้ว”“ก็ดูระรื่นดี” พิไลลักษณ์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นใจ “ถึงว่าแววตามันดูมั่นใจนัก มันทำให้ไอ้เมฆทรยศเราได้ ยัยนี่ไม่ธรรมดา สงสัยจะปล่อยมันไว้ไม่ได้แล้ว คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด!”“ก่อนที่จะจัดการคุณหนูพราว หรือจัดการไอ้เมฆ ผมว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่านะ เก็บแรงเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้เรายังมีเรื่องต้องสะสางอีกเยอะ ไปเถอะ ผมจะพาไปนอน...”ขาดคำนั้น ปรีชาร้องลั่นออกมาเต็มเสียง ก่อนจะสลบฟุบลงไปนอนกองกับพื้น เลือดแดงสดไหลออกมาจากท้ายทอยแทบจะทันที“หา....” พิไลลักษณ์ตกใจตาเหลือก ก่อนหันขวับมองคนร้ายที่ยืนถือไม้หน้าสามตรงหน้า“ไอ้...ไอ้...ไอ้เมฆ!!”“หึ! ใช่ กูเอง คนที่พวกมึงอยากฆ่าให้ตายไง!” ไอ้เมฆย่างสามขุมเข้ามาหาพิไลลักษณ์ “กูมานี่แล้วไง อยากฆ่ากูนักไม่ใช่เหรอ มาสิ มาฆ่ากูเลย!”“อย่าเข้ามานะ!!” พิไลลักษณ์ถอยหลังรนรานโดยไม่ทันระวังจึงเหยียบนลำตัวของปรีชาเข้าอย่างจัง จึงทำให้เธอล้มหงายลงไปอีกคน “โอ๊ย! ไอ้สารเล
“หา...ไอ้..ไอ้เมฆ! แกคิดจะทำอะไร...ไอ้สารเลว! แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าทำฉันนะ!!”“แหม..ร้องลั่นเชียว เวลาสั่งให้ทำคนอื่น เสียงระริกระรี้มีความสุขสะใจสุดๆเชียวนะ แต่พอถึงตาตัวเอง สั่นเป็นลูกหมาตกน้ำเลยโว๊ย...หือ...น่าจะจับอีแก่กับลูกสาวมาอีกคน จะได้พร้อมหน้าพร้อมตา แล้วก็ให้ไอ้ปรีชานี่แหละ ทำพวกมึง...แต่ถ้ามากันเยอะ กูก็ต้องเหนื่อยอีก งั้นจัดไปทีละคนแล้วกัน เอาแบบชัวร์ๆแต่ไม่ต้องเสี่ยงมาก ดีมั้ยครับคนสวย”“กรี๊ดดดดด อย่านะ อย่าเข้ามา!!!” วารีทิพย์หวีดร้องลั่นไปทั้งป่า ยามถูกไอ้เมฆกดร่างแล้วสอดท่อนเอ็นเข้ารูสาวของเธออย่างแรงไร้ปราณี“อ๊า...อร๊ายยยย เจ็บ...ช่วยด้วย ช้วยด้วย!”เธอร้องลั่น น้ำตาไหล ไอ้เมฆหนวกหูจัด เลยฟาดหน้าเจ้าหล่อนไปสองที จนเลือดซึมมุมปาก“โอ๊ย! ไอ้ชั่ว ไอ้สารเลว! มึงตบกูทำไม”“มึงจะได้หยุดร้องซะทีไง กูรำคาญ!!”“คอยดูเถอะ มึงทำกูแบบนี้ มึงไม่ได้ตายดีแน่!”“มึงคิดว่ากูกลัวมึงเหรอ ถ้ากูกลัว กูไม่จับมึงมาหรอก ป่านนี้กูหนีไปถึงพม่าแล้ว กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อมึงจะทำกับลูกเขยได้ลงจริงเหรอ”“ไอ้บ้า! กูไม่ใช่เมียมึง!”“ไม่ใช่ได้ไง ดูสิดู แหกตาดู อะไรอยู่ในรูปู”วารีทิพย์หลับตา
“จริงด้วย วันนี้คุณหนูได้กลับบ้านแล้วนี่นา”ขจรศักดิ์ยิ้มกริ่ม เพราะรู้ใจเจ้านายดีว่าคิดอย่างไรกับสาวน้อย...“พ่อเลี้ยงไม่ต้องห่วงครับ รีบกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง ถ้ามีอะไรคืบหน้า ผมจะรีบโทรไปรายงานทันที”“ฝากด้วยนะ ขอบใจมากที่ทำงานสำเร็จลุ่ล่วงเป็นอย่างดี เสร็จจากงานนี้ ทุกคนจะได้รับโบนัสไม่อั้น”ห้านาทีต่อมา รถกระบะคันใหญ่ของสิงหรัตน์ขับเคลื่อนลงจากเขา มุ่งสู่ไร่ชาอันกว้างใหญ่ บ้านแสนรักของเขาที่มีหญิงสาวที่เขารักรออยู่...พิไลลักษณ์ยืนรอวารีที่จุดนัดพบซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างไร่ตะวันฉายและไร่ภูวารีนั่นเองที่แห่งนี้กลายเป็นที่นัดหมายพูดคุยงานอย่างลับๆมานานนับเดือนแล้ว หลังจากที่รู้กันว่าต่างมีเป้าหมายเป็นคนเดียวกันหญิงสูงวัยรอด้วยใจกระวนกระวาย เดินไปเดินมาไม่หยุด ชะโงกชะเง้อชะแง้แลหนทางจนคอจะเคล็ดอยู่แล้ว“ยัยเพ็ญก็หายจ้อย ปรีชาก็ไม่ยอมกลับบ้าน โทรศัพท์ก็ไม่รับทั้งคู่ ยังไม่รู้ตัวอีกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”จังหวะนั้นเอง วารีทิพย์ก็โผล่มา ด้วยสีหน้าหนักใจไม่แพ้พิไลลักษณ์“ไอ้เมฆ ไอ้เฮงซวย! ไหนคุณพิไลบอกว่าไว้ใจได้ มันเพิ่งจะส่งข้อความมาขู่วารีเมื่อกี้ มันน่านัก!”“มันส่