LOGIN“ไปทำงานได้แล้ว...” กอหญ้าที่ต้องคอยผลักร่างของคริสต์ ที่ไม่ยอมเข้าไปในรถที่สตาร์ทรอเขาพักใหญ่ กอหญ้าเกรงใจเพราะเช้านี้คริสต์ต้องนั่งรถไปกับคุณหญิงศศิธร เขาไม่สามารถไปส่งเธอที่คอนโดได้ คริสต์จึงให้กอหญ้าขับรถเขากลับไป
“เย็นนี้...พี่ไปหาที่คอนโด...ออ!อย่าลืมหยิบหนังสือที่พี่วางไว้บนเตียงเอากลับไปด้วย...อย่าพึ่งถาม...เดี๋ยวเย็นเจอกัน...ขับรถดีๆด้วย...ถึงคอนโดแล้วไลน์บอกพี่ด้วย...” คุณหญิงศศิธรที่นั่งอยู่ในรถ ต้องยิ้มออกมาเมื่อคริสต์ร่ายยาว ทำยังกับกอหญ้าเป็นเด็กห้าขวบก็ไม่ปาน
กอหญ้าที่อ้าปากค้าง ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ และหน้าแดงอย่างฉับพลัน เมื่อคริสต์โฉบเข้าหอมแก้มก่อนเข้ารถไปนั่งเคียงคู่คุณหญิงศศิธร และคนขับรถก็ออกรถไป กอหญ้าที่สวมชุดที่ใส่มาจากบ้านกิ๊ก ได้แต่มองตามจนท้ายรถหายลับไปจากประตูรั้ว
&nbs
“คุณกอหญ้ากับนักเขียนนามปากกากอหญ้าคือคนคนเดียวกัน...และที่เธอมาแสดงเป็นนักแสดงนำฝ่ายหญิงก็เป็นไปตามความต้องการของคุณคริสต์เอง...ศิริ พ่อขอเตือนไว้ก่อนนะ ไม่ว่าคุณคริสต์กับคุณกอหญ้าจะเป็นอะไรกันหรือยัง ถ้าศิริยังไม่ชัดเจนเรื่องนี้ พ่อก็ไม่อยากให้ศิริต้องเอาตัวและหัวใจเข้ามาเกี่ยวข้องกับคุณคริสต์...ที่พ่อเตือนเพราะรักลูกพ่อไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจเป็นครั้งที่สอง ถ้าเขาไม่ใช่ของเรา ศิริก็อย่าฝืนเลยนะ” ผู้กำกับพัฒน์เตือนบุตรสาวด้วยความหวังดี และมีหรือคนเป็นพ่อจะมองไม่ออกยามที่สายตาของศิริมองคริสต์ ศิริ มองผู้เป็นพ่อ สามปีแล้วที่เธอเก็บหัวใจของตัวเองไว้หลังจากที่เธอต้องพบกับความผิดหวังกับรักครั้งแรกที่สั่งสมมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกับคริสต์อีกครั้งจากที่เขาเดินเข้ามาในร้านเธอเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ตัวจริงของคริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ ดูดีกว่าในภาพข่าวตามหน้าหนังสือต่างๆ&nb
คริสต์ก้มมองโพรงสาวกับใบหน้าที่แดงก่ำของกอหญ้าสลับไปมา กรามแกร่งขบกันแน่นเพื่อยับยั้งความต้องการของตัวเอง เมื่อภาพความสวยงามของ กอหญ้าปรากฎตราตรึงให้เขาได้จดจำไปนานแสนนาน คริสต์ขยับมือข้างที่ว่างกอบกุมมือเล็กดึงมาสอดเข้าไปภายใต้กางเกงนอนของเขา “โอ้วววว....” คริสต์ครางออกมาเมื่อมือเล็กกอบกุมตัวตนของเขาภายใต้อาภรณ์นั้น “รู้สึกอย่างไง?” “ร้อน...” คริสต์ยิ้มกับคำตอบของกอหญ้า กรามแกร่งขบแน่นขึ้นเมื่อมือเล็กออกแรงรัดแน่นขึ้นด้วยมือเล็กของเธอ “ต้องการพี่มั้ย?” “ค่ะ...หญ้าต้
“พ่อค่ะ...หญ้าแค่ต้องการคนรักที่รักหญ้า หญ้าไม่อยากต้องไปแข่งขันแย่งชิงกับใครเลย...” เสียงในหัวกอหญ้าที่อยากบอกให้พ่อของเธอได้ยินเพียงคนเดียวและย้ายสายตามามองเพดานเช่นกัน “หญ้า...อย่า...ทิ้ง...พี่...นะ...” คำพูดของคริสต์ที่กอหญ้าได้ยินถึงแม้มันจะเบาแสนเบา อ่อนแรงอย่างชัดเจน แต่กอหญ้าเลือกที่จะเงียบเพราะมันเป็นเรื่องอนาคต “เราเลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะค่ะ...พรุ่งนี้เราต้องไปฟิตติ้งเสื้อผ้าสำหรับละคร ( Fitting Clothes) นอนดีกว่านะคะ” “หญ้านอนก่อนนะ...พี่ยังไม่ง่วง” คริสต์พูดพร้อมขยับตัว จุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากมนนั้นและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้กอหญ้า และเดินออกจากห้องนอนไป ด้วยแววตาและสีหน้าที่ไม่สบายใจ เพียงเพราะกอหญ้าไม่รับปากสิ่งที่เขาร้องขอ และนั้นทำให้คริสต์เข้าใจกอ
“ขอบคุณนะที่ถาม...จริงที่พี่กับริต้าเคยเป็นคนรักกัน พี่ใช้คำว่าคนรักกัน ไม่ใช่รักกัน เพราะหลังจากที่ริต้าทิ้งพี่ไปทำให้พี่รู้ว่าริต้าไม่เคยรักพี่ และผู้ชายที่หญ้าเจอวันนี้เฟรเดลิค คือคนที่เข้ามาแทนที่พี่ แต่ตอนนี้สองคนนั้นคงเลิกกันแล้ว และริต้าก็กลับเมืองไทย เธอคงรู้ว่าแท้จริงแล้วพี่เป็นใคร ไม่ใช่เป็นเพียงลูกครึ่งไทย-อิตาเลี่ยน ทั่วๆไป เพราะพี่เป็นบุตรชายคนเดียวของคุณหญิงศศิธร ริต้าจึงพยายามกลับมาขอคืนดีกับพี่...และพี่ก็ตกลงแต่การตกลงครั้งนั้นพี่อยากเอาคืนเธอบ้างก็เท่านั้น และวันที่พี่ประกาศขอเลิกกับริต้า ก็เป็นวันเดียวกันที่พี่เจอกับหญ้าในลุ๊คของนักเขียน พี่ยังจำได้อยู่เลยว่าวันนั้นยายเด็กบ้านั้นปากจัดมาก... โอ้ย!” คริสต์ร้องออกมาในตอนท้ายเมื่อกอหญ้าหยิกต้นแขนที่ยังคร่อมร่างเธอไว้ กอหญ้าที่ทำเพียงฟังเงียบๆ “แล้วพี่คริสต์ไม่คิดว่า คุณริต้าอาจจะรักพี่แล้วจริงๆ” “เรื่องความร
“อืม…” คริสต์คำรามตอบรับในคอ กอหญ้าถลึงตาใส่คริสต์ แล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ซึ่งคริสต์ก็ยิ้มตอบกลับเช่นกัน คริสต์ที่ตั้งหน้าตั้งตารอกอหญ้าออกมาจากห้องน้ำ เพราะต่อจากที่เขากับกอหญ้าคุยกัน แม่บ้านก็ขอเข้ามาทำความสะอาดห้องกอหญ้าที่คริสต์พอคุ้นหน้าว่าเป็นแม่บ้านของคอนโด และกอหญ้าก็เอาแต่นั่งวาดภาพเล่น ไม่ยอมพูดและเคลียปัญหาข้อสงสัยที่เกิดขึ้นกับเขา เพราะคริสต์ยอมรับกับตัวเองเลยว่า ไม่เข้าใจและเดาไม่ถูกว่ากอหญ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เพราะตามหลักเธอต้องโกรธ คนรักกันต้องโกรธและน้อยใจ หรือว่ากอหญ้าจะไม่... “อย่าคิดอะไรเป็นเนกาทีฟ” (Nagative) คริสต์เตือนตัวเองเพราะกลายเป็นว่าเขาฟุ้งซ่านเสียเอง “อุย!!!…” กอหญ้าร้องออกมา เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำและเห็นคริสต์ยืนกอดอกจ้องมาทางประตูห้องน้ำ
กอหญ้าเมื่อกลับมาถึงบ้านของคริสต์ รถเลี้ยวเข้ามาในบ้าน คริสต์ลงจากรถและมาเปิดประตูให้คุณหญิงศศิธรลงจากรถ เป็นจังหวะที่กอหญ้าก็ลงจากรถมาเช่นกันโดยที่ไม่ดับเครื่องยนต์ เธอทำเพียงยืน “สวัสดีค่ะคุณแม่” กอหญ้ายกมือทำความเคารพคุณหญิงและรีบกลับเข้าไปในรถ ‘ล็อค’ เสียงล็อคประตูรถทันทีที่กอหญ้าปิดประตู คริสต์ที่ช้าเพียงเสี้ยววินาที เขาช้ากว่ากอหญ้าดึงประตูไว้ไม่ทัน “หญ้า!...ออกมาคุยกันก่อน” กอหญ้าไม่หันไปมองเธอทำเพียงมองกระจกข้างว่าคุณหญิงศศิธรและคริสต์จะไม่ได้รับอันตรายถ้าเธอจะเคลื่อนรถออกไป “หญ้า หญ้า” คริสต์ตะโกนตามหลังแต่ก็ไม่ทำให้กอหญ้าหยุดหรือชะลอรถแต่อย่างใด คริสต์ถอนหายใจสีหน้าแสดงออกถึงความกังวลใจอย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่สามารถตามกอหญ้าไปได้ทันที เพราะรถเขาอยู่ที่สถานี ส่วนรถคันอื่นกุญแจก็อยู่ในบ้านของคุณหญิงศศิธร&







