ธนากลับเข้ามาถึงบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ก็พบกับความเงียบภายในบ้าน เพราะทุกคนหลับกันหมดแล้ว ร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน โดยเป้าหมายแรกคือ ห้องของเดียน่า เมื่อพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อค ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าไปที่ห้องของตัวเอง ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
และใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างสูงที่สวมชุดนอนก็เดินออกมาจากห้องตัวเองด้วยท่าทีที่เบาที่สุด และเดินหน้ามุ่งตรง ไปยังห้องของเดียน่าทันที
เมื่อเข้าไปได้กลับพบเพียงความมืดปกคลุม แต่ก็พอมองเห็นรางๆ แสงสลัวจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง และทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน ร่างสูงเดินย่องเข้าไปทางเตียงนอน พบเพียงร่างบางที่นอนหลับสนิทที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา
ร่างสูงยืนมองอย่างพิจารณาอยู่สักพัก และขึ้นไปบนเตียงนอนของหญิงสาว แล้วสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับร่างบาง แล้วสวมกอดหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมๆจากตัวของหญิงสาวตามซอกคอระหง และก็อดใจไม่ไหวที่ยกมือขึ้นมาจับเต้าอวบคู่งามของหญิงสาว
“หึ โนบราด้วย...” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้ม
“อื้อ...อ้ายยย” ร่างบางขยับตัวทันที เมื่อมีสิ่งรบกวนการนอนของเธอ และก็ลืมตาขึ้นมา ก็ต้องตกใจร้องขึ้นเสียงดัง เมื่อพบร่างสูงที่อยู่ในความมืดขึ้นคร่อมเธอไว้แล้ว
“ชู่ว์...ฉันเอง” ร่างสูงของธนารีบเอามือปิดปากของหญิงสาวเอาไว้ แล้วรีบเอ่ยบอกทันทีว่าเขาคือใคร
“คุณ...มาอยู่ที่ห้องเดียร์ได้ยังไงกัน แล้วไหนบอกว่าไปงานยาว แล้วทำไมกลับมาตอนนี้” หญิงสาวถามออกมาด้วยคำถามที่ยาวเหยียด
“พึ่งกลับมานี้แหล่ะ...นอนได้แล้วถามอะไรมาก” เสียงทุ้มของร่างสูงเอ่ยบอก พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้างๆกับเธอ และก็ไม่ลืมที่จะสวมกอดเอาไว้
“นอน คุณก็ไปนอนที่ห้องคุณสิ” เดียน่าเอ่ยปากไล่ทันที เมื่อเห็นร่างสูงทิ้งตัวนอนกับเธอ พร้อมกับพยายามดิ้นหนีออกจากอ้อมกอดนั้นของร่างสูง
“ฉันจะนอนที่นี่คืนนี้” ธนาเอ่ยบอก พร้อมกับกระชับอ้อมกอดที่แน่นขึ้น และก้ยกขาขึ้นพัดหญิงสาวเอาไว้อีกที
“คุณ...” หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นโตเท่าไข่ห่านทันที
“นอน ฉันง่วงแล้ว ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดฉันจะทำมากกว่านอนกอด ฟอด...” ร่างสูงเอ่ยบอกอย่างจริงจัง พร้อมกับทำท่าทางใส่ แล้วหอมแก้มของหญิงสาวไปฟอดหนึ่งเมื่อเอ่ยจบ
“...” เดียน่าได้แต่ทำหน้าเหวอ แล้วยอมนอนอยู่นิ่งๆ ในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างปกิเสธไม่ได้
เพียงเวลาไม่นานร่างสูงก็เพียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ เพราะหลับไปแล้ว โดยที่ยังไม่ยอมคลายวงแขนออกจากตัวของเดียน่า แถมลมหายใจยังคงเป่ารดต้อนคอของหญิงสาวอีกด้วย ทำให้ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้ แทบนอนหลับไม่ลงเอาเสียเลย
จนกระทั้งรุ่งเช้าหญิงสาวที่เป็นฝ่ายลืมตา ตื่นขึ้นมาก่อน ยังคงพบร่างสูงนอนกอดเธออยู่ ร่างบางขยับตัวช้าๆ อย่างเบาที่สุด แล้วหันหน้าเข้าหาร่างสูงที่ยังคงหลับสนิทอยู่
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าคมที่ยังคงหลับสนิท *เขาหล่อมาก หล่อแบบไม่มีที่ติเลย* ในตอนที่หลับใบหน้าโหดร้าย ดั่งเสือดุตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากใบหน้าของชีโน่เลย เหมือนลูกชายไม่มีผิดเพี้ยนไปไหนเลย ร่างบางยกมือขึ้นหมายจะแตะไปที่ใบหน้าคมอันหล่อเหล่านั้น
“จะทำอะไร” เสียงทุ้มของร่างสูงดังขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับจับมือของหญิงสาวเอาไว้
“คือ...” หยิงสาวไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร และพยายามที่จะชักมือกับคืนมา
“หลงเสน่ห์ในความหล่อของฉันเหรอ หืมมม” ร่างสูงเอ่ยแซวขึ้นมา และแกล้งจับหญิงสาวพลิกนอนหงาย แล้วเจ้าตัวกลับคร่อมแทน
“...” หญิงสาวหลบหน้าหนี และพยายามใช้มือห้ามโดยดันหน้าอกของร่างสูงเอาไว้ เป็นจังหวะที่มือฝ่าเย็นๆ ของเธอลูบไปโดนเข้ากับหน้าอกของธนาพอดี เพราะไม่ได้ติดกระดุมด้านบนพอดี
“เดียร์...เธอรู้ไหมว่าลูบหน้าอกผู้ชายแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ” ธนาถามขึ้น พร้อมกับสายตาที่ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ดะเดียร์ไม่รู้หรอกคะ เดียร์ไม่ใช่ผู้ชาย แล้วเดียร์ก็เป็นผู้หญิง คุณรีบลุกออกไปจากที่นี่ได้แล้วค่ะ เดียร์จะลงไปช่วยป้านวลเตรียมอาหารเช้า” เดียน่าเอ่ยบอก พร้อมกับพยายามดันหน้าอกแกร่งของธนาออก
“อาหารเช้ามันเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน ฉันจ่ายค่าจ้างนะ เธอไม่ได้รับเงินเดือนจะไปทำให้เปลืองแรงทำไมกัน” ธนาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดุดัน
“ก็คุณเลี้ยงดูเดียร์มา ก็ถือว่าเดียร์ทำงานตอบแทนคุณยังไงละค่ะ” เดียน่ายังคงหาเหตุผลมาโต้แย้งกับร่างสูงตรงหน้า
“สิ่งที่เธอต้องตอบแทนฉันคือ นอนให้ฉันเอาไปตลอดจนกว่าฉันจะเบื่อ นี้ยาอย่าลืมกินด้วยล่ะ หมดแล้วฉันจะเอาแผงใหม่มาให้อีก” ธนาพูดบอกเหตุผลขึ้นมา แล้วเอายาคุมแบบรายเดือน ที่ถือติดมาด้วยเมื่อคืน ยื่นให้ตรงหน้าหญิงสาว
“นี่คุณ...แล้วยาอะไร แล้วทำไมเดียร์ต้องกินด้วย” เดียน่าถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“ยาคุม ไม่รู้จักหรือ” ธนาบอกออกมา พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเดียน่านิ่ง
“ยาคุม แล้วคุณเอามาให้เดียร์ทำไม” เดียน่าเบิกตากว้างเท่าไข่ห่าน เมื่อได้ยินคำว่ายาคุม แล้วถามกลับไปทันที
“ไม่กินก็ได้น่ะ เพราะฉันไม่ได้สนเรื่องนั้นอยู่แล้ว” ธนาพูดขึ้นมาอีกที ด้วยท่าทีที่ประชดประชัน
“คุณ!” เดียน่าตาลุกวาวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นและตั้งสติได้ หญิงสาวกระเข่าตรงกลางเป้าของร่างสูงทันที ที่กำลังจะก้มลงมาจูบเธอ แล้วรีบลุกขึ้นทันที
“โอ้ยยย...ยัยตัวแสบ เธอกล้าทำร้ายฉันเหรอ” ร่างสูงร้องออกมา พร้อมกับปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ แล้วนอนขุดตัว กุมเป้าตัวเองอยู่สักพัก จึงรีบสาวเท้ายาวตามหญิงสาวไป แต่ก็ไม่ทันเอาเสียแล้ว
“ว้าย...” เดียน่าร้องขึ้นอย่างตกใจ รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ และล็อคประตูไว้ทันที เพื่อไม่ให้ร่างสูงเข้ามาได้
ปัง
“เดียร์ เปิดประตู” ธนาเปล่งเสียงเข้มขึ้นมา พร้อมกับทุบไปที่ประตูห้องน้ำ
ปัง ปัง
ร่างสูงยังคงยืนทุบประตูอยู่ แต่ยังไร้เสียงตอบรับจากหญิงสาวคนที่อยู่ด้านใน ธนาจึงยอมหยุด และเดินออกมา
“ยัยตัวแสบ ฝากไว้ก่อนเถอะ เธอได้ชดใช้อีกยาวแน่” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เมื่อกำลังจะเปิดประตูออกจากห้องของหญิงสาวไป
ตามติดหนึ่งปีผ่านไปนับตั้งแต่นั้นมา ธนาก็ออกไปงานตอนกลางคืนหรือคาสิโนลดน้อยลงมากว่าเก่า ถึงจะไปก็จะกลับมาเร็วขึ้น แถมไม่ค่อยแวะเข้าผับไปหารันเวย์เหมือนแต่ก่อนอีก เริ่มลดคราบมาเฟียหายไปทีละนิดแถมงานทุกอย่างที่เป็นงานสีเทา ก็จะคอยมอบหมายให้ลูกน้องไปจัดการแทนแทบทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองกลับต้องมาคอยรับ-ส่ง เดียน่าไปมหาลัยแทน และจะเข้าไปที่บริษัทใหญ่ ซึ่งผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์คือบริษัทในเครือของเขาอยู่ตอนนี้แถมกลางดึกก็แอบเข้าไปนอนที่ห้องของเดียน่าเกือบแทบทุกคืน และมีอะไรกับเธอแทบจะทุกครั้ง ที่มีโอกาสได้อยู่กันสองคน แต่สถานะของทั้งคู่ ก็ยังคงเป็นความลับของคนในบ้าน โดยที่ยังไม่มีใครรู้ หรือทราบเลยแต่ก็มีนวลจันทร์ แม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้าน ที่เริ่มจะระแคะระคายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย เพียงแต่แค่หวังว่า เจ้านายหนุ่มจะไม่ทิ้งคว้างหญิงสาวเพียงคนเดียวของบ้านก็เท่านั้น“วันนี้มีเรียนกี่โมง” ธนาเอ่ยถามขึ้นทันที ที่เห็นเดียน่าเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน ด้วยชุดนักศึกษาที่เพรียบพร้อมแล้ว“เรียนแค่ช่วงเช้าค่ะ บ่ายอาจารย์ยกคลาส” เดียน่าเอ่ยตอบออกไปตามตรง เพราะไม่มีอ
ปากอย่าง ใจอย่างณ บ้านปัญญาพิวัฒน์ธนากลับเข้ามาถึงบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ก็พบกับความเงียบภายในบ้าน เพราะทุกคนหลับกันหมดแล้ว ร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน โดยเป้าหมายแรกคือ ห้องของเดียน่า เมื่อพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อค ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าไปที่ห้องของตัวเอง ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างสูงที่สวมชุดนอนก็เดินออกมาจากห้องตัวเองด้วยท่าทีที่เบาที่สุด และเดินหน้ามุ่งตรง ไปยังห้องของเดียน่าทันทีเมื่อเข้าไปได้กลับพบเพียงความมืดปกคลุม แต่ก็พอมองเห็นรางๆ แสงสลัวจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง และทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน ร่างสูงเดินย่องเข้าไปทางเตียงนอน พบเพียงร่างบางที่นอนหลับสนิทที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาร่างสูงยืนมองอย่างพิจารณาอยู่สักพัก และขึ้นไปบนเตียงนอนของหญิงสาว แล้วสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับร่างบาง แล้วสวมกอดหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมๆจากตัวของหญิงสาวตามซอกคอระหง และก็อดใจไม่ไหวที่ยกมือขึ้นมาจับเต้าอวบคู่งามของหญิงสาว“หึ โนบราด้วย...” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นมาเบาๆ พร้อม
มีความมั่นใจสูง“หนูเดียร์ มาแล้วหรือค่ะ ป้าทำข้าวต้มไว้รอเสร็จพอดีเลย ทานพร้อมกันกับคุณธนาเลยนะคะ มาค่ะป้าตักข้าวให้” นวลจันทร์ถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับร่างสูงของธนาที่เดินมาตามหลัง และนั่งลงโดยไม่ได้เอ่ยอะไร“ค่ะ...ขอบคุณป้านวลมากนะคะ” เดียน่าเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับนั่งลงอย่างเรียบร้อย โดยไม่ได้สนใจร่างสูงของธนาที่นั่งอยู่อีกฝั่ง เมื่อเดินตามหลังเธอมา“ขอบคุณอะไรกันค่ะ หน้าที่ของป้าอยู่แล้วที่ต้องดูแลทุกคนในบ้าน” นวลจันทร์พูดขึ้นมาอย่างถ่อมตัว เพราะเธอคือแม่บ้าน มันคือหน้าที่อยู่แล้ว“เดียร์ขอโทษนะคะ ที่วันนี้เดียร์ไม่ได้ลงมาช่วยทุกคนเลย” เดียน่าพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด พร้อมกับถลึงตาใส่ธนาเพียงเล็กน้อย เป็นปกติเธอจะไม่ใช่คนที่ตื่นสายเลย และก็จะลงมาช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าแทบทุกวัน“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ดูสิค่ะ หนูเดียร์ของป้าหน้าซีดหมดเลย” นวลจันทร์เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับมองหน้าของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ที่วันนี้สาวน้อยของบ้าน มีใบหน้าที่ไม่สดใสเลย“...” หญิงสาวก้มหน้าลงทันที“ตักข้าวต่อได้เลยครับป้านวล เย็นนี้ผมมีงานต้องไปจัดการอีกเยอะ ขืนช้ากว่านี้มีหวังได้กลั
คนไร้สถานะ“คุณธนาหายดีแล้วหรือค่ะ” นวลจันทร์ ถามขึ้นมาทันที ที่เห็นเจ้านายหนุ่มเดินลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร ในเวลาเกือบจะคล้อยบ่ายแล้ว“เอ่อ...อ่อครับ แล้วเดียน่าละ ลงมากินข้าวยังครับ” ธนาทำหน้างงทันที แต่พอนึกขึ้นได้ว่า คนที่บ้านอาจคิดว่าเขาป่วย เพราะเขาเป็นคนที่ให้หมอมาหาเอง จึงเฉไฉตามน้ำไปก่อน“หนูเดียร์ยังไม่เห็นลงมาทานข้าวเลยค่ะ นี้ก็จะบ่ายแล้ว ปกติหนูเดียร์ไม่เคยตื่นสายนี้ค่ะ หรือว่าจะป่วยอีกคน” นวลจันทร์เอ่ยตอบเจ้านายหนุ่มออกไปตามตรง เพราะตั้งแต่เช้าก็ยังไม่เห็นหญิงสาวลงมา“ชีโน่ล่ะครับ” ธนาเปลี่ยนเรื่อง ถามหาลูกชายทันที“คุณหนูออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณธนาจะทานข้าวต้มไหมค่ะ ป้าจะได้ทำให้ใหม่ พอดีป้าทำไว้ตั้งแต่ที่คุณหมอสิบทิศมาแล้ว กลัวว่าจะเสียเอา”“...” ธนาได้แต่พยักหน้ารับ“เดี๋ยวป้าไปเรียกหนูเดียร์ให้น่ะค่ะ จะได้ลงมาทานพร้อมกัน ป่วยหรือเปล่าไม่เห็นลงมาสักที” นวลจันทร์เอ่ยบอก พร้อมกับกำลังจะสาวเท้าเดินออกไป“ไม่ต้อง...ผมไปเอง” เสียงเข้มเอ่ยบอก พร้อมกับลุกขึ้น เดินไปชั้นบนของบ้านทันที โดยไม่สนใจว่านวลจันทร์จะมองเขาแบบไหนก๊อก ก๊อก ก๊อก“เดียร์...เปิดประตู” เสียงเข้มกระโ
ระหว่างเราคืออะไร(NCนิดหน่อย)เดียน่าที่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ จึงได้แต่นอนลงอยู่นิ่งๆ อย่างว่าง่าย และหันหน้าหนีไปทางอื่น พร้อมกับหลับตาลงอย่างสนิท เพราะอายไม่กล้าที่จะสู้หน้าร่างสูง ที่ก้มลงมองส่วนนั้นของเธอ“ก็ไม่บวมแล้วนี้ แค่ยังแดงๆอยู่ เดี๋ยวก็คงหายแหล่ะ” ธนาเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง โดยไม่ได้เก้อเขินเลยแม้แต่น้อยแต่ในทางกลับกัน คนที่ถูกจ้องมอง กลับต้องนอนม้วนผ้าห่มอยู่เพราะทำตัวไม่ถูก และก็เขินอายหน้าแดงยังกับลูกตำลึงอยู่ตอนนี้“เขินเหรอ หน้าแดงเชียว” ธนาเอ่ยแซวขึ้นมา เมื่อจ้องมองไปที่หญิงสาว“หยุดมองได้แล้ว” เดียน่าเอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงจ้องมองที่หว่างขาของเธออยู่ พร้อมกับพยายามที่จะหุบขาลง“เดี๋ยวช่วยรักษาให้” เสียงทุ้มของธนาเอ่ยขึ้นมา“รักษา...รักษายังไง คุณไม่ใช่หมอน่ะ” เดียน่าเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยในตัวของชายหนุ่ม เพราะเขาไม่ใช่หมอ จะรักษาเธอได้อย่างไรกัน“นอนเฉยๆก็พอ” ธนาเอ่ยบอก พร้อมกับก้มลงไปละเลงลิ้นใส่บัวกลีบกุหลาบที่ตอนนี้ยังคงเป็นสีแดงอยู่ จากการร่วมรักกันมาทั้งคืน“อ๊ะ...คะ คุณ อื้อ...” ร่างบางของเดียน่าบิดไปมาทันที เมื่อร่างสูงปรนเปรอส่วนนั่นของเธอ
หมอจำเป็นเมื่อทำการตรวจดูอาการของเดียน่าจนเสร็จสิ้นแล้ว สิบทิศก็ได้ฉีดยาไปให้หนึ่งเข็ม และจัดการเตรียมยา แล้วจัดแจงรายละเอียดต่างๆ ให้แก่ธนาฟังอย่างละเอียดอีกที“อันนี้คือยาแก้ปวด-ลดไข้ ให้เธอทานได้เลย ไข้จะได้ลดเร็ว พี่ฉีดยาให้แล้วอาการคงไม่น่าเป็นห่วง” สิบทิศเอ่ยบอก พร้อมกับอธิบายเรื่องยาให้ฟังอีกครั้ง“เดี๋ยว...พี่จะทำอะไร” ธนารีบห้ามและเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นสิบทิศกำลังจับผ้าชุบน้ำที่เปียกบิดน้ำออกให้หมาดๆ“เช็ดตัวยังไงล่ะ ตัวร้อนขนาดนี้” สิบทิศเอ่ยบอกออกไป“เอามาครับ ผมเช็ดเอง” ธนาแย่งผ้านั้นจากมือของสิบทิศไปถือไว้เสียเอง“เฮ้อ...นี้คือยาแก้อักเสบน่ะ ทานหลังอาหาร” สิบทิศได้แต่ส่ายหน้าอย่างน่าเบื่อหน่ายให้แก่ธนา แล้วหยิบยาขึ้นมาอธิบายบอกอีกอย่าง“เอ่อ...” ธนาได้แต่ทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ ไม่กล้าพูดออกมา“มีอะไรอีก” จนสิบทิศต้องเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเสียเอง“ขอยาคุมฉุกเฉินด้วยครับ” ธนารวบรวมความกล้า แล้วก็พูดออกมา“ห๊ะ...นี้แกสดเลยเหรอว่ะ” สิบทิศเอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าธนาจะทำอะไรที่มักง่าย และประมาทแบบนี้“ครับ ปล่อยในด้วย แฮร่ ๆ...” ธนาก้มหน้าตอบ พร้อมกับยิ้มแห้งๆให้กับสิบทิศ