“เดียร์...แกกลับยังไงเหรอ ยังไม่เห็นรถบ้านแกมารับเลย” มินตรา เพื่อนสนิทในกลุ่มของเดียน่า ถามขึ้นมาทันที เมื่อถึงเวลาเลิกคลาสแล้ว แต่ยังไม่เห็นรถมารับหญิงสาวเลย ทั้งสามจึงเดินออกมารอที่ด้านนอกของมหาลัย
“เดี๋ยวก็มีคนมารับ พวกแกกลับกันไปก่อนเลยก็ได้ เรารอคนเดียวได้” เดียน่าตอบเพื่อนทั้งสองออกไป ที่เดินมาด้วยกัน
“ถ้าอย่างนั้นฉันรออยู่เป็นเพื่อนแกน่ะเดียร์ เพราะแฟนฉันมันก็ยังไม่มาเหมือนกันแหล่ะ” เอกกี้ เพื่อนชาย(ไม่)แท้คนสนิทอีกคนของเดียน่า พูดขึ้นพร้อมกับนั่งรอเป็นเพื่อนอยู่ด้านนอกมหาลัยกับเดียน่าสองคน
เดียน่า มีเพื่อนที่สนิทด้วยกันสองคนที่สนิทที่สุดอยู่กันสอง คือ มินตรา หรือ มีน และอีกคนคือชาย(ไม่)แท้ เอกกี้ มีชื่อเดิมว่า เอก ซึ่งเมื่ออยู่กันสามคน เอกกี้จะทำหน้าที่เป็นองครักษ์ให้แก่หญิงสาวทั้งสอง โดยจะมีบุคลิกเป็นชายอกสามศอก ถ้าคนที่ไม่สนิทจริงๆ จะไม่มีใครมองออกว่าเอกกี้คือผู้ชายที่ชอบชาย บางบุคลิกก้จะออกสาว แล้วแต่สถานการณ์นั้นๆ ทั้งสามคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปีแรกเพราะคณะและสาขาเดียวกัน
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับก่อนน่ะเดียร์ เจอกันพรุ่งนี้น่ะหญิง” มินตราพูดขึ้นมากับเดียน่าประโยคแรก แล้วหันมาพูดต่อประโยคหลังกับเอกกี้
และไม่นานก็มีรถมารับเอกกี้ เพื่อนของเธอออกไปอีกคน เหลือแค่เดียน่าที่นั่งรออยู่คนเดียว เมื่อยังไม่เห็นยังไร้วี่แววรถที่จะมารับเลย เดียน่าจึงตัดสินใจลุกขึ้น หมายจะเดินไปซื้อน้ำจากฝั่งตรงข้าม
ปี๊น ปี๊น
ยังไม่ทันที่เดียน่า จะได้ก้าวเท้าเดินไปไหน เสียงบีบแตรรถที่แล่นมาด้วยความเร็วสูง ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับจอดอยู่ตรงหน้าเธอทันที
“จะไปไหน มาขึ้นรถ” เสียงเข้มลดกระจกลง แล้วพูดเสียงดังขึ้นมาทันที
“...” หญิงสาวทำหน้างงในตอนแรก แต่เมื่อรู้ว่าคนที่ขับรถมาจอดตัดหน้าเธอนั้นคือใคร จึงได้แต่เดินขึ้นรถไปโดยไม่ได้เอ่ยตอบอะไร
“ทำไมเดินออกมาข้างนอก ไม่รออยู่ข้างใน แล้วเมื่อกี้นี้จะไปไหน” ธนาเอ่ยถามร่ายยาวขึ้นมาทันที ที่หญิงสาวขึ้นมานั่งในรถ
“เดียร์กำลังจะไปซื้อน้ำค่ะ แล้วรถคุณล่ะค่ะ ทำไมได้ขับคันนี้มา คันนั้นหายไปไหนแล้วค่ะ” เดียน่าถามขึ้นด้วยท่าทางที่สงสัย เมื่อธนาใช้รถอีกคนมารัฐเธอ
“เข้าอู่ เลยเอาคันนี้มาใช้แก้ขัดไปก่อน เธอนั่งอยู่กับใครก่อนฉันจะมาถึง” ธนาเอ่ยบอก พร้อมกับยื่นถุงที่ตนแวะซื้อติดมาด้วยให้แก่หญิงสาวตรงหน้า แล้วถามขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งอยู่กับผู้ชาย
“เพื่อนค่ะ นี้คุณซื้อมาเหรอ” เดียน่าตอบออกไปตามจริง แล้วเลิกคิ้วขึ้นถามทันที ที่เห็นถุงร้านสะดวกซื้อ ที่ธนายื่นมาให้เธอตรงหน้า
“ทำไม” ธนาถามกลับไปแบบไม่ได้หันไปมอง
“เปล่าค่ะ แค่แปลกใจที่คุณซื้ออะไรพวกนี้เป็นด้วย” เดียน่าเอ่ยตอบออกไป พร้อมกับรับถุงนั้นมาถือไว้ แล้วเปิดดู และก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นสิ่งของที่อยู่ข้างในถุง ซึ่งก็มีแต่ของที่เธอชอบทั้งนั้น
“ก็เคยเห็นแต่เธอกินแบบนี้ พูดมากนั้นก็ไม่ต้องกิน” ธนาตอบไปตามตรง และแกล้งดึงถุงกับมาคืน เมื่อเริ่มทำตัวไม่ถูก
“กินค่ะ กำลังหิวอยู่พอดีเลย ขอบคุณน่ะค่ะ” เดียน่าพูดขอบคุณขึ้นด้วยความดีใจ และส่งยิ้มหวานมาให้แก่ร่างสูงทันที
“จะไปไหนต่อ” ธนาถามออกไปอีกครั้ง
“เดียร์มีสิทธิ์ไปที่อื่นได้ด้วยหรือค่ะ นอกจากบ้าน” เดียน่าเอ่ยถามออกไปด้วยความรู้สึกที่น้อยเนื้อต่ำใจ
“ไม่มี…นอกเสียจากฉันจะเป็นคนพาไปเอง” ธนาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบนิ่ง และออกรถทันที โดยไม่ได้สนใจใบหน้างอของหญิงสาวเลย
อีกด้าน
“นายครับ” อาชา ขานเรียกเจ้านาย เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน
“มีอะไร” เสียงเข้มของเจ้านายอย่างปีเตอร์ เอ่ยขึ้นถามทันที ที่เห็นลูกน้องคนสนิทเข้ามาภายในห้องทำงานของตน
“ไอ้เชนโทรมารายงานข่าวไอ้ธนาครับ” อาชาเอ่ยบอก พร้อมกับก้มหน้าลงเพียงเล็กน้อย เพื่อดูปฏิกิริยาท่าทางของเจ้านายเสียก่อน
“ไอ้เชนมันเห็นอะไรบ้าง” ปีเตอร์ถามกลับไปทันที เมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่ลูกน้องเอ่ยถึง
“เห็นไอ้ธนาพาผู้หญิงคนนั้นไปที่บ้านมันด้วยครับ” อาชาเอ่ยบอกเพียงสั้นๆ
“ไปที่บ้านอย่างนั้นเหรอ คงจะเป็นคนสำคัญของมันจริงๆสิน่ะ ไม่อย่างนั้น คนอย่างไอ้ธนามันไม่ตามติดขนาดนี้หรอก” ปีเตอร์พูดขึ้น พร้อมกับคิดตามที่อาชาบอก แล้วเอามือขึ้นเกาคางพร้อมกับใบหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาทันที
“ทราบมาว่า ผู้หญิงคนนี้ คือเด็กที่ไอ้ธนามันอุปถัมภ์เลี้ยงมาครับ นายจะให้พวกผมทำยังไงต่อครับ” อาชาถามขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายยังไม่สั่งการอะไร
“หาโอกาสไปเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาให้กูได้ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ได้ แต่ต้องจับเป็นนะโว้ย กูอยากจะเห็นหน้าชัดๆ ว่าเป็นผู้หญิงแบบไหนกันถึงเอาคนอย่างไอ้ธนาตามติดได้ขนาดนี้ เป็นแค่เด็กอุปถัมภ์จริงๆ หรือว่าจะมากกว่านั้น” คำสั่งเสียงเข้มออกมาจากปากของปีเตอร์
ณ บ้านปัญญาพิวัฒน์
“วันนี้ไม่มีเรียนเหรอชีโน่ ถึงกลับบ้านไวจัง” ธนาถามลูกชายขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาภายในบ้านแล้วเห็นชีโน่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน
“ครูมีประชุมครับ” ชีโน่ตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ
“แล้ววันนี้ ไม่มีนัดเพื่อนที่ไหนหรือ ปกติว่างก็ออกไปหาเพื่อนตลอด” ธนาถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นลูกชายอยู่ติดบ้าน เพราะปกติถ้าว่าง ลูกชายจะหายไปกับเพื่อนตลอด
“ขอเป็นเด็กดีหนึ่งวันครับ ไม่ได้ชวนพี่เดียร์เล่นเกมนานมากแล้ว” ชีโน่ตอบพ่อออกไป แล้วหันไปพูดกับทางเดียน่าที่เดินมาตามหลังของธนาแทน
“เห๊อะ...นึกว่ามีเหตุผลอะไรดีๆ พากันเล่นเบาๆล่ะ พ่อจะทำงานต่อ” ธนาเค้นหัวเราะออกมา แล้วหันไปสั่งกับทั้งสองคน
“ไปครับพี่เดียร์ ไปเล่นเกมเป็นเพื่อนผมหน่อย ปล่อยให้คนแก่ขี้บ่นทำงานไปครับ” ชีโน่หันมาชวนทางวเดียน่าที่ยืนทำหน้าเหวอ เพราะทำตัวไม่ถูก
“ถึงเวลาก็พากันลงมากินข้าวด้วย อย่าให้ต้องมีคนไปตามน่ะ ไม่อย่างนั้นจะอดเล่นไปตลอดชีวิตเลย” ธนาหันไปสั่งตามหลังทั้งสองอีกที
“คร๊าบ...ไปครับพี่เดียร์” ชีโน่ขานรับเสียงยาวเหยียด แล้วหันไปชวนทางเดียน่าต่อ
ของขวัญย้อนหลังสามเดือนต่อมาหลังจากนั้นมา ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่าปกติ จะมีก็แต่ธนาที่เริ่มจะทำตัวผิดปกติมากขึ้นทุกวัน มีความกังวลระแวงอยู่ตลอดเวลา ตามหญิงสาวไม่เคยห่าง จะห่างบ้างก็แค่ตอนกลางวัน ที่ทั้งคู่ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง และวันนี้ก็เป็นเช่นดั่งทุกวัน“วันนี้ฉันเข้าไปที่คาสิโนนะ อาจจะมารับช้าหน่อย รอก่อนก็แล้วกัน” ธนาเอ่ยขึ้นบอก เมื่อรถจอดที่มหาวิทยาลัยที่หญิงสาวศึกษาอยู่ เพราะขับรถมาส่งเดียน่าเองอยู่ทุกวัน“เดียร์กลับ...” เดียน่ากำลังจะเอ่ยขึ้น“ห้ามกลับเอง เสร็จธุระ ฉันจะมารับเอง รอหน่อยก็แล้วกัน และห้ามออกมาข้างนอกเป็นอันขาด เข้าใจไหม” ธนาจึงขัดขึ้นมาเสียก่อนเพราะรู้ว่าเดียน่าจะพูดอะไร ละออกคำสั่งกับหญิงสาวทันที“ค่ะ” เดียน่าจึงได้แต่รับคำสั่งอย่างไม่กล้าขัดอะไร“อ่ะ...” ร่างสูงยื่นถุงใบเล็กๆให้แก่หญิงสาว“อะไรค่ะ” เดียน่าเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยทันที ที่เห็น“ของขวัญวันเกิดย้อนหลัง” ธนาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเก็บอาการเอาไว้ เพราะต้องวางมาดเข้มอยู่ตลอด“ให้เดียร์หรือค่ะ” เดียน่าถามขึ้น“แล้วคิดว่าให้ใครล่ะ อยู่กันแค่สองคนในรถแบบนี้” ธนาตอบเสียงเข้มออกไป“...เดียร์คิด
ก็แค่เด็กในอุปถัมภ์“เดียร์...แกกลับยังไงเหรอ ยังไม่เห็นรถบ้านแกมารับเลย” มินตรา เพื่อนสนิทในกลุ่มของเดียน่า ถามขึ้นมาทันที เมื่อถึงเวลาเลิกคลาสแล้ว แต่ยังไม่เห็นรถมารับหญิงสาวเลย ทั้งสามจึงเดินออกมารอที่ด้านนอกของมหาลัย“เดี๋ยวก็มีคนมารับ พวกแกกลับกันไปก่อนเลยก็ได้ เรารอคนเดียวได้” เดียน่าตอบเพื่อนทั้งสองออกไป ที่เดินมาด้วยกัน“ถ้าอย่างนั้นฉันรออยู่เป็นเพื่อนแกน่ะเดียร์ เพราะแฟนฉันมันก็ยังไม่มาเหมือนกันแหล่ะ” เอกกี้ เพื่อนชาย(ไม่)แท้คนสนิทอีกคนของเดียน่า พูดขึ้นพร้อมกับนั่งรอเป็นเพื่อนอยู่ด้านนอกมหาลัยกับเดียน่าสองคนเดียน่า มีเพื่อนที่สนิทด้วยกันสองคนที่สนิทที่สุดอยู่กันสอง คือ มินตรา หรือ มีน และอีกคนคือชาย(ไม่)แท้ เอกกี้ มีชื่อเดิมว่า เอก ซึ่งเมื่ออยู่กันสามคน เอกกี้จะทำหน้าที่เป็นองครักษ์ให้แก่หญิงสาวทั้งสอง โดยจะมีบุคลิกเป็นชายอกสามศอก ถ้าคนที่ไม่สนิทจริงๆ จะไม่มีใครมองออกว่าเอกกี้คือผู้ชายที่ชอบชาย บางบุคลิกก้จะออกสาว แล้วแต่สถานการณ์นั้นๆ ทั้งสามคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปีแรกเพราะคณะและสาขาเดียวกัน“ถ้าอย่างนั้นเรากลับก่อนน่ะเดียร์ เจอกันพรุ่งนี้น่ะหญิง” มินตราพูดขึ้นมากับเดีย
ตามติดหนึ่งปีผ่านไปนับตั้งแต่นั้นมา ธนาก็ออกไปงานตอนกลางคืนหรือคาสิโนลดน้อยลงมากว่าเก่า ถึงจะไปก็จะกลับมาเร็วขึ้น แถมไม่ค่อยแวะเข้าผับไปหารันเวย์เหมือนแต่ก่อนอีก เริ่มลดคราบมาเฟียหายไปทีละนิดแถมงานทุกอย่างที่เป็นงานสีเทา ก็จะคอยมอบหมายให้ลูกน้องไปจัดการแทนแทบทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองกลับต้องมาคอยรับ-ส่ง เดียน่าไปมหาลัยแทน และจะเข้าไปที่บริษัทใหญ่ ซึ่งผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์คือบริษัทในเครือของเขาอยู่ตอนนี้แถมกลางดึกก็แอบเข้าไปนอนที่ห้องของเดียน่าเกือบแทบทุกคืน และมีอะไรกับเธอแทบจะทุกครั้ง ที่มีโอกาสได้อยู่กันสองคน แต่สถานะของทั้งคู่ ก็ยังคงเป็นความลับของคนในบ้าน โดยที่ยังไม่มีใครรู้ หรือทราบเลยแต่ก็มีนวลจันทร์ แม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้าน ที่เริ่มจะระแคะระคายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย เพียงแต่แค่หวังว่า เจ้านายหนุ่มจะไม่ทิ้งคว้างหญิงสาวเพียงคนเดียวของบ้านก็เท่านั้น“วันนี้มีเรียนกี่โมง” ธนาเอ่ยถามขึ้นทันที ที่เห็นเดียน่าเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน ด้วยชุดนักศึกษาที่เพรียบพร้อมแล้ว“เรียนแค่ช่วงเช้าค่ะ บ่ายอาจารย์ยกคลาส” เดียน่าเอ่ยตอบออกไปตามตรง เพราะไม่มีอ
ปากอย่าง ใจอย่างณ บ้านปัญญาพิวัฒน์ธนากลับเข้ามาถึงบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ก็พบกับความเงียบภายในบ้าน เพราะทุกคนหลับกันหมดแล้ว ร่างสูงเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน โดยเป้าหมายแรกคือ ห้องของเดียน่า เมื่อพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อค ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าไปที่ห้องของตัวเอง ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างสูงที่สวมชุดนอนก็เดินออกมาจากห้องตัวเองด้วยท่าทีที่เบาที่สุด และเดินหน้ามุ่งตรง ไปยังห้องของเดียน่าทันทีเมื่อเข้าไปได้กลับพบเพียงความมืดปกคลุม แต่ก็พอมองเห็นรางๆ แสงสลัวจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง และทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน ร่างสูงเดินย่องเข้าไปทางเตียงนอน พบเพียงร่างบางที่นอนหลับสนิทที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาร่างสูงยืนมองอย่างพิจารณาอยู่สักพัก และขึ้นไปบนเตียงนอนของหญิงสาว แล้วสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับร่างบาง แล้วสวมกอดหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมๆจากตัวของหญิงสาวตามซอกคอระหง และก็อดใจไม่ไหวที่ยกมือขึ้นมาจับเต้าอวบคู่งามของหญิงสาว“หึ โนบราด้วย...” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นมาเบาๆ พร้อม
มีความมั่นใจสูง“หนูเดียร์ มาแล้วหรือค่ะ ป้าทำข้าวต้มไว้รอเสร็จพอดีเลย ทานพร้อมกันกับคุณธนาเลยนะคะ มาค่ะป้าตักข้าวให้” นวลจันทร์ถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับร่างสูงของธนาที่เดินมาตามหลัง และนั่งลงโดยไม่ได้เอ่ยอะไร“ค่ะ...ขอบคุณป้านวลมากนะคะ” เดียน่าเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับนั่งลงอย่างเรียบร้อย โดยไม่ได้สนใจร่างสูงของธนาที่นั่งอยู่อีกฝั่ง เมื่อเดินตามหลังเธอมา“ขอบคุณอะไรกันค่ะ หน้าที่ของป้าอยู่แล้วที่ต้องดูแลทุกคนในบ้าน” นวลจันทร์พูดขึ้นมาอย่างถ่อมตัว เพราะเธอคือแม่บ้าน มันคือหน้าที่อยู่แล้ว“เดียร์ขอโทษนะคะ ที่วันนี้เดียร์ไม่ได้ลงมาช่วยทุกคนเลย” เดียน่าพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด พร้อมกับถลึงตาใส่ธนาเพียงเล็กน้อย เป็นปกติเธอจะไม่ใช่คนที่ตื่นสายเลย และก็จะลงมาช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าแทบทุกวัน“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ดูสิค่ะ หนูเดียร์ของป้าหน้าซีดหมดเลย” นวลจันทร์เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับมองหน้าของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ที่วันนี้สาวน้อยของบ้าน มีใบหน้าที่ไม่สดใสเลย“...” หญิงสาวก้มหน้าลงทันที“ตักข้าวต่อได้เลยครับป้านวล เย็นนี้ผมมีงานต้องไปจัดการอีกเยอะ ขืนช้ากว่านี้มีหวังได้กลั
คนไร้สถานะ“คุณธนาหายดีแล้วหรือค่ะ” นวลจันทร์ ถามขึ้นมาทันที ที่เห็นเจ้านายหนุ่มเดินลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร ในเวลาเกือบจะคล้อยบ่ายแล้ว“เอ่อ...อ่อครับ แล้วเดียน่าละ ลงมากินข้าวยังครับ” ธนาทำหน้างงทันที แต่พอนึกขึ้นได้ว่า คนที่บ้านอาจคิดว่าเขาป่วย เพราะเขาเป็นคนที่ให้หมอมาหาเอง จึงเฉไฉตามน้ำไปก่อน“หนูเดียร์ยังไม่เห็นลงมาทานข้าวเลยค่ะ นี้ก็จะบ่ายแล้ว ปกติหนูเดียร์ไม่เคยตื่นสายนี้ค่ะ หรือว่าจะป่วยอีกคน” นวลจันทร์เอ่ยตอบเจ้านายหนุ่มออกไปตามตรง เพราะตั้งแต่เช้าก็ยังไม่เห็นหญิงสาวลงมา“ชีโน่ล่ะครับ” ธนาเปลี่ยนเรื่อง ถามหาลูกชายทันที“คุณหนูออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณธนาจะทานข้าวต้มไหมค่ะ ป้าจะได้ทำให้ใหม่ พอดีป้าทำไว้ตั้งแต่ที่คุณหมอสิบทิศมาแล้ว กลัวว่าจะเสียเอา”“...” ธนาได้แต่พยักหน้ารับ“เดี๋ยวป้าไปเรียกหนูเดียร์ให้น่ะค่ะ จะได้ลงมาทานพร้อมกัน ป่วยหรือเปล่าไม่เห็นลงมาสักที” นวลจันทร์เอ่ยบอก พร้อมกับกำลังจะสาวเท้าเดินออกไป“ไม่ต้อง...ผมไปเอง” เสียงเข้มเอ่ยบอก พร้อมกับลุกขึ้น เดินไปชั้นบนของบ้านทันที โดยไม่สนใจว่านวลจันทร์จะมองเขาแบบไหนก๊อก ก๊อก ก๊อก“เดียร์...เปิดประตู” เสียงเข้มกระโ