พจีพัฒน์นั่งนิ่งทันที เพราะไม่รู้จะเอายังไงต่อกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น และอีกอย่างก็ขัดคำสั่งของพ่อไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขายังอยู่ในวัยเรียน เงินและทรัพย์สินทั้งหมดก็ยังมีไม่มากพอ จะมีเพียงแค่เงินเก็บเล็กๆ น้อยๆ จากเงินเดือนที่พ่อให้ใช้จ่ายในทุกเดือนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ซึ่งก็แอบเก็บสะสมเอาไว้บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก
“ไม่ต้องพูดอะไรกันทั้งนั้นแหล่ะตาพีทกับหนูหริ่งต้องจดทะเบียนสมรสกันให้เร็วที่สุด แล้วเรื่องเรียนก็หยุดพักกันเอาไว้ก่อนทั้งสองคนเลย หนูหริ่งคลอดปีหน้าค่อยเรียนพร้อมกันทีเดียว หลังจากนี้ให้ตาพีทเข้าไปเรียนรู้งานกับตาเพชรที่บริษัทไปก่อน จนกว่าหนูหริ่งจะคลอด แล้วถ้าฉันรู้ว่าใครคิดอกุศลทำชั่วอะไร หรือว่าคิดไม่ดีให้หนูหริ่งแท้งขึ้นมา ได้เห็นดีกันแน่” พัฒน์พงษ์พูดออกมาโดยยื่นคำขาดแก่คนในบ้านทั้งหมดทันที
“ยัยเปียท้อง แต่ผมก็ไม่ได้ท้องนี้ครับพ่อ ทำไมต้องให้ผมพักเรื่องเรียนเอาไว้ด้วย อีกอย่างเราก็ไม่ได้รักกัน ทำไมต้องจดทะเบียนสมรสกันด้วยครับ” พจีพัฒน์พยายามหาเหตุผลมาอ้างขึ้น
“เรียนจบกันเมื่อไหร่ ถ้าไม่ได้รักกันพ่อถึงจะอนุญาตให้หย่ากันได้ แต่ตอนนี้ก็ลองใช้ชีวิต ดูกันไปก่อน ว่ากว่าหนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้นมา แล้วกว่าจะโตขึ้นมาต้องลำบากเลี้ยงกันขนาดไหน พวกลูกจะได้เรียนรู้ชีวิตคู่ไปพร้อมๆกันเลย” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ตั้ง 4-5 ปีเลยน่ะครับพ่อ กว่าจะจบมหาลัย” พจีพัฒน์ ยังคงพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้งกับพ่อ
“เอาตามนี้ พรุ่งนี้พ่อจะให้ทนายกับเจ้าหน้าที่อำเภอเข้ามาทำเรื่องจดทะเบียนสมรสให้” พัฒน์พงษ์รีบตัดบทขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กเริ่มจะต่อกลอนมากจนเกินไป
“แล้วทนายจะมาทำไมกันค่ะคุณพี่ ก็แค่จดทะเบียนสมรสกันเอง” นิษฐาถามสามีขึ้นมา
“สินสมรส และข้อตกลงในระหว่างนี้ ของตาพีทกับหนูหริ่ง และหลานที่กำลังจะเกิดมายังไงล่ะ” พัฒน์พงษ์พูดเพียงแค่นั้น ก็เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านทันที
รุ่งเช้า
เช้าวันนี้ที่พัฒน์พงษ์ได้ให้ทนายประจำตระกูลเข้ามาที่บ้านเพื่อทำข้อตกลงและอะไรในหลายๆอย่าง เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสของลูกชายคนเล็กของบ้าน และผลที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เมื่อทั้งคู่ต้องหย่าขาดจากกัน
“มากันครบแล้วก็เข้าเรื่องกันเลยครับ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นทันที เมื่อทุกคนมาพร้อมกันครบแล้ว
เจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารต่างๆ ให้แก่พจีพัฒน์และพีรดาได้เซ็นจนครบทุกอย่างแล้ว จึงนำใบทะเบียนสมรสมอบให้แก่ทั้งคู่ถือคนละใบ
“ยินดีกลับทั้งสองด้วยนะครับ เป็นสามี-ภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอให้ครองรักกันจนแก่เฒ่าเลยนะครับ” เจ้าหน้าที่เอ่ยแสดงความยินดีกับทั้งคู่ และจึงขอตัวกลับออกไปทันที
“คุณทนายช่วยร่างเงื่อนไขและข้อตกลงให้ทั้งคู่เซ็นตามนี้ด้วยนะครับ” พัฒน์พงษ์ยื่นกระดาษแผ่นเท่าA4 ยื่นให้แก่ทนาย ที่ยังคงอยู่ที่นี่ต่อ
ทนายทำการรับกระดาษแผ่นนั้นจากพัฒน์พงษ์มา แล้วร่างขึ้นมาใหม่ทันที พร้อมยื่นให้แก่ทั้งคู่คนละแผ่น เพื่อได้อ่านและเซ็นรับทราบ
“เชิญทั้งคู่อ่าน แล้วก็เซ็นยอมรับเงื่อนไขตรงนี้ได้เลยครับ” ทนายอุเทน พูดขึ้นมาทันที ที่ยื่นกระดาษให้แก่ทั้งคู่
กฎและข้อตกลงสำคัญในระหว่างการสมรส และการหย่าในภายหลัง
ข้อที่ 1. เมื่อนายพจีพัฒน์และนางสาวพีรดาได้ทำการจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ถือว่าทั้งนายพจีพัฒน์และนางสาวพีรดาคือสามี-ภรรยาตามข้อกฎหมาย ทรัพย์สินทั้งหมดของนายพจีพัฒน์ที่มี นับตั้งแต่ตอนที่ได้ทำการทำการจดทะเบียนสมรส ได้ตกเป็นของนางสาวพีรดาครึ่งหนึ่งทันที
ข้อที่ 2. นายพจีพัฒน์ เมื่อได้ทำการจดทะเบียนสมรสกับนางสาวพีรดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะไม่มีสิทธิ์คบหา หรือมีความสัมพันธ์ทางกาย ทางใจ กับบุคคลอื่นใด หรือแม้แต่ใครใดๆทั้งสิ้น จนกว่าจะมีการจดทะเบียนหย่า หากมีการละเมิดกฎ สามารถให้นางสาวพีรดาทำการฟ้องร้องได้อย่างเต็มที่ และเรียกค่าเสียหายทดแทนได้ตามจำนวนที่ต้องการ จากนายพจีพัฒน์โดยตรง และทรัพย์สินทั้งหมดจะตกมาเป็นนางสาวพีรดาแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น
ข้อที่ 3. การหย่า สามารถทำการจดทะเบียนหย่าได้ ก็ต่อเมื่อครบกำหนดตามสัญญาในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้นหลังจากนี้ หากนายพจีพัฒน์หรือนางสาวพีรดา ได้แอบไปจดทะเบียนหย่ากันก่อน ทั้งคู่จะไม่มีสิทธิ์ในการครอบครองบุตร และทรัพย์สินอื่นใดๆทั้งสิ้นจากทางบิดา
ข้อที่ 4. บุตรที่เกิดจากทั้งคู่ จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากทางครอบครัวของฝ่ายชาย และใช้นามสกุลจากทางบิดาเท่านั้น
ข้อที่ 5. การอยู่รวมกันฉันสามี-ภรรยา ข้อนี้แล้วแต่ทั้งคู่จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะถือว่าทั้งนายพจีพัฒน์และนางสาวพีรดาคือสามี-ภรรยากันโดยชอบธรรม เพราะถือว่ามีบุตรร่วมกันแล้ว
ข้อที่ 6. นางสาวพีรดาจะไม่ได้รับสิทธิในการครอบครองหรือดูแลบุตร เพราะบุตรจะอยู่ในการดูแลของนายพจีพัฒน์แต่เพียงผู้เดียว นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนหย่า แต่จะได้รับค่าทดแทนและทรัพย์สินจากนายพัฒน์พงษ์ ในจำนวนเงิน 100 ล้านบาท โฉนดที่ดินพร้อมกับบ้าน 1 หลัง เพื่อไปสร้างอนาคตและสามารถมีครอบครัวใหม่ได้ หลังจากที่จดทะเบียนหย่าไปแล้ว 1 ปี
ข้อที่ 7. หากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทั้งนายพจีพัฒน์และนางสาวพีรดา สามารถศึกษาจบก่อนในระยะเวลา 5 ปี หรือทั้งคู่สามารถชอบพอกันจริงๆ เงื่อนไขและข้อตกลงดังกล่าว ตามกระดาษแผ่นนี้ถือว่าเป็นโมฆะทั้งหมด สามารถจดทะเบียนหย่ากันหรือไม่หย่าก็ได้ (แต่นางสาวพีรดา จะไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในตัวบุตร) และจะคืนสิทธิ์ให้แก่ทั้งสองตามความเหมาะสม
ทันทีที่พจีพัฒน์อ่านจบ ก็รีบเซ็นชื่อโดยไม่ได้คัดค้านหรือโต้แย้งใดๆเลยแม้แต่ข้อเดียว ถึงจะเสียผลประโยชน์ไปมากก็ตามแต่ เพราะความที่ยังอายุน้อยอยู่แล้วไม่ได้คิดตะหนักถึงวันข้างหน้า ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร
“เซ็นได้แล้ว จะอ่านอะไรนักหนา เธอมีแต่ได้กับได้ จะกังวลอะไรอีก ฉันนี้สิต้องคิดหนักเสียทั้งอิสรภาพ เสียทั้งทรัพย์สิน” พจีพัฒน์พูดขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าพีรดาไม่ยอมเซ็นเอกสารที่ทนายวางให้ตรงหน้า นานมากพอสมควร
“หนูหริ่งมีข้อข้องใจตรงไหนไหม” พัฒน์พงษ์ถามขึ้น
“หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวลูกเลยใช่ไหมค่ะ หากว่าหนูหย่า ถ้าอย่างนั้นหนูขอไม่รับอะไรเลย แต่หนูขอเพียงแค่...” พีรดาพูดขอกับพัฒน์พงษ์ขึ้นมา แต่ก็ไม่ทันที่จะได้พูดจบ
“หรือว่ามันน้อยไปหรือ” พจีพัฒน์สวนขึ้นมาทันที
“เก็บเอาไว้พิจารณาเถอะน่ะ ผู้ชายเมื่อหย่าแล้วไม่มีอะไรเสียหาย แต่ผู้หญิงเรามันไม่เหมือนกันนะหนูหริ่ง แล้วอีกอย่าง ต่อไปก็เรียกพ่อด้วย ในเมื่อเป็นสามีภรรยากันกับตาพีทแล้ว” พัฒน์พงษ์พูดออกมาอีกครั้งให้พีรดาได้ฟัง
หญิงสาวจึงได้แต่จำใจ ต้องจรดปากกาเซ็นเอกสารตรงหน้านี้อย่างลำบากใจ และก็ไม่อาจจะปฏิเสธผู้มีพระคุณตรงหน้านี้ได้ด้วย
ครอบครัวสุขสันต์(จบ)หนึ่งปีต่อมาเข้าปีที่สามของการเป็นนักศึกษาของทั้งคู่แล้ว โดยพจีพัฒน์ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะพาหญิงสาวจบภายในปีนี้ให้ได้ เพราะวางแผนว่าจะมีหลานให้กับแม่ของเขาเพิ่มอีก และเขาก็อยากมีด้วย เพราะไม่อยากให้ลูกอายุห่างกันมากตอนนี้ลูกชายของเขาอายุได้สองขวบกว่าแล้ว และเข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย นิษฐาเลยว่างในช่วงกลางวัน เพราะหลานไปโรงเรียน เลยมาเย้าแหย่ให้พจีพัฒน์มีหลานให้เลี้ยงอีก เหตุผลเพราะว่าเหงาเพราะพี่ชายและพี่สาว ก็ไม่เห็นท่าทีว่าจะมีแฟนกันเลย ผลเลยมาตกอยู่ที่ลูกชายคนเล็กอย่างเขาที่ยังเรียนไม่จบ แต่แม่อยากที่จะมีหลานเพิ่ม จึงต้องทำให้ทั้งคู่เร่งให้จบภายในปีนี้“ดึกมากแล้วนะพักผ่อนเถอะ พีทอย่าฝืนร่างกายตัวเองเลย ปีนี้เราไม่จบปีหน้าก็รอจบพร้อมกันกับเพื่อนๆก็ได้นี้” พีรดาเอ่ยบอกร่างสูง เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่ร่างสูงเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำวิจัยจบอย่างเดียว“ใกล้จะเสร็จแล้ว หริ่งหริ่งง่วงก็ไปนอนก่อนเถอะ” พจีพัฒน์ตอบออกมาโดยไม่หันหน้าไปมองหญิงสาวเลย“ไม่ค่ะ หริ่งจะเอาเปรียบพีทคนเดียวได้ยังไงกัน แค่พีทอดหลับอดนอนช่วยทำวิจัยให้หริ่ง แค่นี้ก็เกรงใจอยู่แล้ว” หญิงสาวรีบป
เปิดตัวอย่างเป็นทางการซึ่งก็เป็นการชื่นชอบ มีทั้งชื่นชมและทั้งวิจารณ์บ้างต่างๆนาๆ และก็ทำเอาตกใจเป็นอย่างมากในวงเพื่อนฝูงอยู่ไม่น้อย เพราะบางคนที่สนิทต่างไม่มีใครทราบข่าวมาก่อน แม้กระทั้งกวินพัทธ์เอง ที่สนิทกันมามากพอสมควร ก็พึ่งจะทราบข่าวมาก่อนหน้านี้เอง จึงอดไม่ได้ที่จะคอมเมนต์แซวทั้งคู่ออกมาไม่ได้ ‘เปิดตัวทั้งที ทำเอาคนอึ้งไปเลยน่ะมึง ทำไมไม่รอให้ลูกบวชก่อนวะ...ค่อยเปิดตัว 555’“พีท โพสต์อะไรลงไปแบบนั้นค่ะ...” หญิงสาวต่อว่าออกมาทันที เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาไม่หยุด เพราะเสียงแจ้งเตือนข้อความ แม้กระทั้งสายเรียกเข้า“ก็โพสต์ความจริงยังไงล่ะ” ร่างสูงเอ่ยตอบได้แค่นั้น เพราะตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหลือล้นมีความสุขมากมาย ที่ได้ปลดล็อคออกมา“แต่เรา...” หญิงสาวยังคงมีใบหน้าที่วิตกอยู่ไม่น้อย“ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้นแหล่ะ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ ไม่ช้าก็เร็วคนต้องรู้อยู่ดีแหล่ะหริ่งหริ่ง” พจีพัฒน์ได้แต่ปลอบให้หญิงสาวเชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะอายุเยอะกว่าเขาตั้งสามเดือน แต่หญิงสาวในสายตาเขาก็ยังเป็นน้องเขาอ
จากนี้และตลอดไป NCทางด้านของพจีพัฒน์เอง ตอนนี้ขับรถพาพีรดาออกจากเมืองกรุงในเวลากลางดึก มุ่งหน้าตรงสู่ยังภาคเหนือของประเทศ ในเมื่อสัปดาห์ไม่สามารถที่จะกลับบ้านไปได้ จึงถือโอกาสนี้พาหญิงสาวไปพักผ่อน และปรับความเข้าใจกันเสียเลย โดยที่หญิงสาวไม่อาจที่จะปฏิเสธได้“พีทจะพาหริ่งไปไหน...นี้มันดึกมากแล้วน่ะ” หญิงสาวถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าพจีพัฒน์ขับรถออกนอกเส้นทาง“...” ชายหนุ่มไม่เอ่ยใดๆ กลับขับรถไปตามเส้นทางเรื่อยๆ เพราะเส้นทางที่ไม่ค่อยชิน“พีท...ทางมันมืดมากเลยน่ะ แถมยังปลอดรถคันอื่นอีกด้วย” หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะกับมองไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย แถมไม่มีรถคันอื่นๆอีก“กลัวเหรอ...ไม่ต้องกลัวหรอก พีทไม่ให้หริ่งหริ่งเป็นอะไรหรอกน่า” ชายหนุ่มถามออกมาเมื่อสังเกตุเห็นอาการวิตกของหญิงสาว แล้วพูดติดตลกออกมาเพื่อให้หญิงสาวสบายใจ และคลายความกังวล“ไม่ใช่แบบนั้น หริ่งเป็นห่วงพีทต่างหาก ที่ขับรถมานานแล้ว กลัวพีทจะง่วงเอา” หญิงสาวเอ่ยบอกออกไปด้วยความเป็นห่วง“เดี๋ยวก็ถึงแล้ว...ขอบคุณน่ะ ที่คุยเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ถึงแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้ดีเลย ไม
ความจริงก็คือ...พจีพัฒน์ตามหญิงสาวออกมาจนทัน เห็นหญิงสาวกำลังยืนโบกแท็กซี่อยู่พอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปใกล้ พากลับมายังรถของเขาที่จอดอยู่ แต่ไปยังไม่ถึงหญิงสาวก็สะบัดแขนออก เดินหน้างอไปที่รถเองโดยไม่พูดไม่จาสักคำ“หริ่งหริ่ง...” เสียงนุ่มเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวเมื่อเดินมาถึงรถ“ไม่ต้องมาพูดเสียงหวานใส่เลยน่ะ...ไอ้คนโกหกกะล่อนปลิ้นป้อนไปทั่ว ที่แท้ก็แอบไปมีแฟนอยู่แล้ว ฮึก...” ใบหน้างอยับยู่ยี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนักร่างสูงไม่พูดพร่ำ รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ กับหญิงสาวแล้วสวมกอดเธอไว้จากทางด้านหลังทันที โดยที่เธอไม่สามารถที่ขยับหนีไปไหนได้อีก“หริ่งหริ่งครับ...” พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนละมุนเอ่ยเรียกชื่อของเธอ“ไอ้คนบ้า...” พีรดาพยายามที่จะขยับและดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนนั้น“หริ่งหริ่งครับ ช่วยมีเหตุผลหน่อย” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาที่ข้างหูของเธอ “ปล่อย...ใช่สิหริ่งมันคนไม่มีเหตุผล งี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง ปล่อย...หริ่งจะกลับบ้านไปหาลูก” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ประชดประชัน และพยายามที่จะดิ้นออกจากอ้อมแขนเพื่อให้เป็นอิสระ“ไม่ให้กลับ...ขึ้นรถครับ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาว” ร่างสูง
เข้าใจผิด“แต่งตัวโป๊เกินไปหรือเปล่า แค่จะไปรับไลลาเองน่ะ ทำไมต้องจัดเต็มขนาดนี้ด้วย พีทไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ” พจีพัฒน์พูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าวันนี้หญิงสาวแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยจนเกินไป และหุ่นก็เริ่มที่จะอวบขึ้น เนื้อหนังเต่งตึงขึ้นมาบ้างแล้ว ทุกสัดส่วนช่างยั่วยวนเหลือเกิน ไม่พอแค่นั้นยังโชว์ไหล่ขาวเนียนๆนั้นอีก“พูดมาก พีทก็ไม่ต้องไป หริ่งจะไปหาไลลาคนเดียวเอง” หญิงสาวเอ่ยคำขาดขึ้นมาขู่ทันที เมื่อเห็นว่าร่างสูงเริ่มจะบ่นเธอ“ได้ยังไงกัน หริ่งหริ่งเป็นเมียพีทน่ะ ใครจะยอมปล่อยให้แต่งตัวแบบนี้ออกไปเป็นอาหารตาของคนอื่นได้ยังไงกัน พีทต้องไปคุมสิ แล้วอีกอย่างไลลาก็เป็นเพื่อนของเราทั้งคู่น่ะ” พจีพัฒน์ยกเหตุผลขึ้นมาอ้างกับหญิงสาวทันที“จะไปหรือไม่ไปค่ะ” หญิงสาวหันมาร่างสูงที่ตอนนี้ทำหน้างอเหมือนเด็กใส่เธออยู่“ไปครับ” ร่างสูงรีบลุกขึ้น แล้วหยิบเอากุญแจรถ เดินตามหญิงสาวออกจากห้องไปทันที อย่างไม่อาจที่มีสิทธิ์คัดค้านหรือปฏิเสธอะไรได้เลยเดิมทีวันนี้ทั้งคู่จะต้องกลับไปค้างที่บ้านกับลูกเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่พีรดาขอปฏิเสธที่จะไม่ไป เพราะพึ่งจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดกัน และไม่อยากให้พจ
ไม่อาจทนทางด้านของไลลาที่พึ่งจะเลิกกับแฟนหนุ่มมาหมาดๆ เพราะจับได้ว่าธันวาแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงอื่น และยังมารู้อีกว่าตลอดเวลาที่ชายหนุ่มคบอยู่กับเธอ ก็แอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นตลอด โดยที่เธอไม่เคยรู้เลย เพราะเธอไม่ยอมมอบความสาวนั้นให้เขาคืนนี้เลยตัดสินใจออกมาดื่มคนเดียวตั้งแต่ร้านพึ่งจะเปิด เพราะอยากลืมทุกอย่าง และทิ้งไม่ไปให้หมดภายในวันนี้“มันก็แค่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยละว่ะ ไปได้เร็วๆสะยิ่งดี ฮึก...” ใบหน้าเคียดแค้นก้นด่าออกมา พร้อมกับเสียงเค้นหัวเราะอยู่ในลำคอ“พี่สาว...เมาหรือเปล่าค่ะ” ปรียาภัทร หรือ เอิงเอย หญิงสาววัย 20 ปี สาวเสิร์ฟที่พึ่งจะมาทำงานที่นี่ได้ไม่กี่วันมานี้เอง เพราะต้องการหารายได้ระหว่างเรียน“พี่ไม่เป็นอะไรค่ะน้อง พี่แค่อยากดื่มเพื่อให้ลืมสิ่งที่ไม่ดีเฉยๆค่ะ ถ้าพี่เมาน้องช่วยโทรหาเพื่อนพี่ที่เบอร์นี้ทีน่ะค่ะ” ไลลาพูดขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น พร้อมกับยื่นกระดาษโน๊ตให้แก่ปรียาภัทรทันทีหญิงสาวรับไว้โดยที่ไม่พูดอะไรตอบ แล้วจึงขอตัวกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ ปล่อยให้ไลลาได้นั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่เธอก็จะคอยมาสอดส่องดูตลอดหากว่างจากโต๊ะอื่นคอนโดฯหรูของพจีพัฒน์พจีพัฒน์พา