อย่างไรก็ตามหลี่ยู่หลานก็เป็นนักแสดงเก่า วันเกิดปีนี้จะต้องไม่จบลงเช่นนี้ เธอปรับอารมณ์แล้วเดินไปดึงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่าน “ซีหว่านเรื่องนี้ฉันผิดเอง…”เธอเริ่มขอโทษและยอมรับผิด หากเซี่ยซีหว่านไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็จะกลับมาได้เปรียบต่อหน้าฝูงชนอีกครั้งแต่น่าเสียดายที่ความคิดของหลี่ยู่หลานนั้นเซี่ยซีหว่านมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง มีคนอยากจะแสดงละคร แต่เธอต้องการที่จะทำลายเวที ดังนั้นเธอจึงรีบดึงมือเล็ก ๆ ของเธอกลับ และพูดว่า “มันเป็นความผิดของหนูเองที่ทำให้ทุกคนไม่มีความสุข พวกคุณสนุกกันให้เต็มที่เถอะค่ะ หนูขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ”เซี่ยซีหว่านที่รู้ทัน เดินออกไปจากห้องโถงมือของหลี่ยู่หลานแช่แข็งอยู่กลางอากาศ เธอยังไม่ทันได้ดึงมือกลับ ครั้งนี้เธอจะอาเจียนเป็นเลือดจริง ๆ !...เซี่ยซีหว่านออกจากห้องโถง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพบกับข้อความใน WeChat ที่เยี่ยหลิงส่งมา “เป็นยังไงบ้าง เธอได้ทำวงแตกกระเจิงหรือเปล่า?”เซี่ยซีหว่าน “อือ”เยี่ยหลิง “หว่านหว่านเจ๋งมาก!”ก่อนที่เซี่ยซีหว่านจะกลับมายังเมืองไห่เฉิง เธอได้ขอให้เยี่ยหลิงจับตามองการเคลื่อนไหวของหลี่ยู่หลานในวงการบันเทิงแล้
เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่เมืองไห่เฉิงไม่เพียงแต่มีตำนานของหว่านสาวงามแห่งทิศใต้และหลิงสาวงามแห่งทิศเหนือเท่านั้น แต่ยังมีตำนานของเซี่ยซีหว่านและซูซีคู่รักกิ่งทองใบหยกด้วยดังนั้นทุกคนตรงนั้นต่างก็รู้ว่าเซี่ยซีหว่านเคยเป็นคู่หมั้นของซูซี แต่ความรู้สึกของผู้ชายก็เหมือนกับการพลิกหน้าหนังสือ มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลายเป็นคู่หมั้นของซูซีและยังเป็นอนาคตคุณนายตระกูลซู ทุกคนจึงรีบปรับตัวไปตามสถาณการณ์ “อดีตก็คืออดีต”เดิมทีเมื่อครู่นี้เซี่ยซีหว่านได้พลิกกลับสถานการณ์ภายในห้องโถงได้อย่างสวยงามแล้ว แต่เมื่อเห็นซูซีที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น แม้ว่าเหล่าคนรวยพวกนี้จะเห็นอกเห็นใจเธอ แต่ร่างกายของพวกเขากลับยืนอยู่ข้างเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอย่างเห็นได้ชัดทันใดนั้นสมาชิกทั้งสามคนของตระกูลเซี่ยต่างก็เชิดหน้าชูคอเซี่ยซีหว่านยืดร่างกายผอมเพรียวของเธอขึ้น เธอทั้งสวยและมีเสน่ห์ แล้วเธอก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมาต่อหน้าของทุกคน “แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าขบขับที่ได้เห็นสิ่งที่ฉันทิ้งไปถูกหยิบขึ้นมาเป็นสมบัติของใครบางคน แต่ฉันก็ยังหวังว่าพวกคุณจะรักกันยืนยาว เพราะพวกคุณคือคู่แท้ที่ช่างเหมาะส
เธอส่งรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำไปให้ลู่หานถิงแล้ว!ทั้งสองคนได้ทำสัญญาตกลงร่วมกันจึงได้เพิ่มการติดต่อของกันและกันไว้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอเคยถามเขาว่าต้องเพิ่มวีแชทไว้ไหม?นักธุรกิจใหญ่อย่างลู่หานถิงขมวดคิ้วคมเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยใช้อะไรแบบนี้มาก่อน แต่คืนวันนั้นเองที่เขากลับมาก็พบว่าบนมือถือของเขามีข้อความจากวีแชทเต็มไปหมด และเพิ่มเธอเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้วทำอะไรของเธอ?มือบอนเหรอ?เซี่ยซีหว่านคิดจะลบรูปนั้นออก แต่ก็ไม่ทันการเนื่องจากเธอส่งไปนานแล้วนี่เธอบ้าไปแล้วจริง ๆจู่ ๆ ก็มีรูปภาพจากเยี่ยหลิงเด้งขึ้นมาสองสามรูปพร้อมกับข้อความว่า ไหนลองบอกสัดส่วนเธอมาสิ ดูสิว่าสัดส่วนเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า ไม่นานมานี้แบรนด์ Victoria’s Secret ได้ออกคอลเลคชั่นชุดนอนแบบใหม่ ลองดูสิว่าคุณสามีเธอเขาชอบแบบไหน?“แบบนี้ก็ดูสดใสดีนะ”“หรือแบบนี้ดี”เซี่ยซีหว่าน “...” ณ ต่างประเทศ ภายในอาคารบริษัทการเงินที่สูงที่สุดกว่าหมื่นฟุต ผู้บริหารบริษัทระดับสูงแต่ละคนมีบัตรสีฟ้าห้อยอยู่ที่คอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะประชุมยาวทั้งสองข้างของห้องประชุมวีไอพี หัวหน้าฝ่ายการเงินกำลังรายงานเรื่องงบประมาณการขายในป
พอเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดมาถึงตรงนี้ มือของซูซีที่กำลังถือแก้วไวน์แดงยกจิบก็หยุดชะงักทันที แล้วคิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันเป็นปมยุ่งชนกันในฐานะที่ซูซีเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองไห่เฉิง แน่นอนว่าเขาต้องรู้จักตระกูลลู่ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รู้จักตระกูลนี้ไปมากกว่าคนอื่น ๆ นัก คุณชายลู่หานถิงแห่งตระกูลลู่นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างลึกลับและเก็บตัว เขาไม่เคยปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชนที่ไหนเลย ซูซีเคยให้คนไปตามสืบข้อมูลของเขา รู้เพียงว่าเขาเพิ่งมาอยู่ที่ไห่เฉิงได้ไม่กี่ปีและเป็นเจ้าของ...มหานครเอมพีเรียลมหานครเอมพีเรียลเป็นเมืองแห่งธุรกิจการเงินที่รุ่งเรื่องที่สุด หากเดินอยู่บนถนนย่านนั้นคุณจะพบกับลูกเศรษฐีอยู่ทั่วทุกที่ และหากฐานะครอบครัวอยู่ในระดับปานกลางก็จะไม่สามารถย่ำกรายเข้าไปที่นั่นได้แน่นอนว่าในมหานครเอมพีเรียลนั้นยังมีตระกูลระดับวีไอพีเป็นของตัวเอง ตระกูลเหล่านั้นเรียกได้ว่าเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจ และเป็นที่รู้จักในฐานะเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียซูซียังเคยได้ข่าวมาว่าทายาทของตระกูลอันดับหนึ่งในมหานครเอมพีเรียลนั้นยังเป็นตระกูลลู่อีกด้วยบังเอิญมากเลยใช่ไหม?อันท
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?ลู่หานถิงเป็นผู้ใหญ่และนั้นก็เป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของเขา ถ้าหากไม่ใช่คนสนิทแล้วจะมารับสายได้อย่างไร?เขาทำอะไรอยู่นะ?เซี่ยซีหว่านไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่?เธอเป็นอะไรกันกับเขา ลู่หานถิงจะมาช่วยเธอทำไม?เธอมันก็เป็นแค่เจ้าสาวที่มาแต่งงานแทนและเราสองคนก็มีสัญญาร่วมกันแล้ว เขาจะมีคนรักที่อื่นมันก็เป็นเรื่องปกตินี่เซี่ยซีหว่านเหงื่อออกจนชื้นมือ ตอนเธออายุ 9 ขวบ ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด ทุกคนทอดทิ้งเธอ สิบปีที่ผ่านมาเธอเรียนรู้ที่จะเติบโตได้ด้วยตัวเอง เรียนรู้ที่จะรับมือกับความอ่อนแอและความแข็งแกร่ง นอกจากเยี่ยหลิงแล้วเธอก็ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ อีกเลยเธอไม่อยากถูกคนที่เธอรักและไว้ใจแทงข้างหลัง และผลักเธอให้ตายอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนแต่ทำไมกับผู้ชายที่ชื่อลู่หานถิงเขาถึงได้เข้ามาควบคุมและมีอิทธิพลต่อชีวิตเธอได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาสามารถทำลายสิ่งที่เธอเรียนรู้มาเป็นสิบ ๆ ปีลงได้ และทำให้เธอเชื่อใจเขาได้จากความเชื่อใจก็กลายมาเป็นความคุ้นเคย กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนอ่อนแอเซี่ยซีหว่านสงบสติอารมณ์ตัวเองได้สักพัก เธอ
ผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตในตอนนั้น?เซี่ยซีหว่านจำได้ว่าตอนนั้นเธออายุได้ 12 ปี และช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่นอนหมดสติอยู่ท่ามกลางหิมะที่หนาวเย็น เธอมั่นใจเลยว่าถ้าเธอไปช้ากว่านั้นผู้ชายคนนั้นคงตายอยู่ท่ามกลางหิมะเป็นแน่ตอนนั้นมีหิมะหนาขวางถนนอยู่ ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ อากาศก็หนาวจนสั่นไปทั้งตัว เธอจึงพาเขาไปในถ้ำที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นด้วยความทุลักทุเล เธอนำกิ่งไม้มาจุดไฟเพื่อทำให้ตัวอุ่นขึ้น แต่เนื่องจากอากาศหนาวมากจึงทำให้แขนขาของเขาแข็งทื่อไปหมดเซี่ยซีหว่านจึงถอดเสื้อของเธอออกแล้วกอดผู้ชายคนนั้นไว้แน่น ใช้อุณหภูมิในร่างกายของเขาและเธอทำให้ตัวอุ่นขึ้น เพราะแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นถึงรอดมาได้เซี่ยซีหว่านพยายามคิดทบทวน ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุแค่ 12 ปี และในใจก็เพียงอยากจะช่วยคนก็เท่านั้น แต่ในสายตาของคนอื่นมันกลับเป็นภาพที่ดูหวานซึ้งจากการยุยงใส่ร้ายของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและทำให้ซูซีเข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงสกปรกเยี่ยหลิงพูดถูกแล้ว คนพวกนี้น่ะสกปรกที่สุดแต่เรื่องผู้ชายคนนั้น...เซี่ยซีหว่านพิมพ์กลับไปว่า “เวลา 8 ปีนั้นผ่านไปไวมาก ฉันจำผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยได้แล้ว ต่อให้เขามายืนอยู่ตรงหน้าฉัน
ซูซีมาที่นี่พร้อมกับบอดี้การ์ดชุดดำอีกจำนวนหนึ่ง เขามองไปที่เซี่ยซีหว่าน “หว่านหว่าน คุณจะพาอาหลินไปไหนเหรอ?”เซี่ยซีหว่านหยุดชะงักฝีเท้าลง “ซูซี คุณรู้เหรอว่าฉันจะมาที่นี่?”“หว่านหว่าน ผมไม่รู้จริง ๆ นะว่าคุณตามมาเจออาหลินที่นี่ได้ยังไง แต่เราสองคนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ดังนั้นผมรู้จักคุณดีว่าคุณเป็นคนฉลาดทำให้คนใกล้ตัวต้องคอยระวังเสมอ เมื่อเย็นนี้ผมเลยให้คนพวกนี้มารอคุณที่นี่ แล้วคุณก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ”เซี่ยซีหว่านมองหน้าซูซีแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้อาหลินไอออกมาเป็นเลือด ต่อให้ฉันรักษาโดยการใช้เข็มแล้วแต่ยังไงก็ต้องพาอาหลินไปโรงพยาบาลอยู่ดี ฉะนั้นเรื่องของเราเอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังจะได้ไหม?”ซูซีมองเข้าไปยังนัยน์ตาสว่างเป็นประกายนั่น รัศมีที่เต็มไปด้วยความฉลาด มันช่างสวยงามเหลือเกิน แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเธอกลับทำให้เขาส่ายหัวไปมา “หว่านหว่าน ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้คุณมีแผนอะไรอยู่ในหัว แต่ค่ำคืนนี้ยังไม่จบง่าย ๆ แน่ ผมจะให้คนไปส่งอาหลินที่โรงพยาบาลเอง แต่คุณต้องอยู่ที่นี่เพื่อทำเรื่องที่ยังค้างคาของเราให้เสร็จก่อน”เซี่ยซีหว่านขมวดคิ้วเป็นปม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธ
ต่างคนต่างสบตากัน แววตาของลู่หานถิงนั้นเย็นยะเยือกและนิ่งสงบเสียจนทำให้ไม่มีใครกล้าขยับและทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นเซี่ยซีหว่านหลบสายตาของเขา “คืนนี้ ฉันต้องขอขอบคุณคุณมากนะคะ”เมื่อเห็นอาการหลบเลี่ยงของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของลู่หานถิงนั้นเผยยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา “นอกจากคำว่าขอบคุณก็ไม่มีอะไรจะพูดกับผมแล้วเหรอ?”เซี่ยซีหว่านขบกัดริมฝีปากสีแดงเบา ๆเมื่อลู่หานถิงยกมือขึ้น ทันใดนั้นนิ้วเรียวยาวก็แตะลงที่บนกระดุมคอเสื้อของเธอเซี่ยซีหว่านหรี่รูม่านตาเล็กลง รีบร้อนคว้ามือแกร่งของเขาไว้แล้วพูดด้วยความระแวงว่า “คุณคิดจะทำอะไร?”ลู่หานถิงมองไปที่เธอแล้วยิ้มหยันออกมาหน่อยๆ จากนั้นติดกระดุมคอเสื้อสองเม็ดนั้นที่ติดไม่เรียบร้อยให้เธอ “ไหนคุณพูดซิว่าผมคิดจะทำอะไร?”เซี่ยซีหว่านไม่เคยที่จะเถียงเขาได้เลย เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีและมีท่าทางฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียดเอามาก ๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะทำให้คนแค่คนเดียวอับอายขายขี้หน้าไม่ได้ ถ้าเขาจะฉีกหน้าใครสักคน คนคนนั้นก็คงจะเป็นทุกข์อย่างสุดขีดเซี่ยซีหว่านถูกบีบบังคับให้ถอยไปข้างหลังและรู้สึกเขินเล็กน้อย ติ่งหูที่ขาวราวหิมะปร