เสิ่นลู่ซือที่เห็นชายหนุ่มชะงักค้างไป นางก็ฉวยโอกาสคว้าลำคอหนาของเขาให้โน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากเล็กประกบจูบริมฝีปากหนาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเล็กของนางตวัดปาดชิมไปมาด้วยความชอบใจ ก่อนจะผละออกเพื่อดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเขาด้วยความขบขัน
บุรุษผู้นี้ช่างน่าเอ็นดูนัก เขาคงจะไม่ประสีประสากับเรื่องนี้ใช่หรือไม่
ไม่เป็นไรนะ อดีตแม่ค้าสาวที่ชื่นชอบดูหนังเรต 20+ ผู้นี้ จะใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า10 ปีเพื่อสอนเขาเอง
“อ่า...”
โม่โฉ่วที่ถูกสัมผัสนุ่มละมุนของเสิ่นลู่ซือเมื่อครู่ หัวสมองของเขาพลันขาวโพลนไปชั่วขณะ ริมฝีปากหยักหนากระตุกยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกร้อนเร่ามากกว่าคราแรก
“อื้อ ข้า...หายใจไม่ทัน”
มือเล็กยกขึ้นมาทุบหน้าอกแกร่งหลายครั้ง จูบของเขาช่างเผ็ดร้อนยิ่งนัก นี่เขาไม่ใช่ลูกแกะน้อย แต่เป็นสุนัขจิ้งจอกที่ห่มหนังแกะใช่หรือไม่
“เป็นท่านที่ต้องการเองนะคุณหนูเสิ่น”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมากระซิบที่ใบหูเล็ก แล้วขบเม้มที่ติ่งหูของนางอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเบนมาดอมดมที่ซอกคอขาวหอมกรุ่นที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากร้อนลวกไล่ดูดดึงขบเม้มที่ลำคอระหง จนผิวกายที่เคยขาวผ่องปรากฏร่องรอยฝากรักสีแดงระเรื่อ
“อ่า...ข้ากลัวแล้วเจ้าค่ะโม่โฉ่ว อย่ารังแกข้าเลยนะ”
คนใต้ร่างแสร้งร้องห้าม แต่มือเล็กกลับรีบปลดอาภรณ์ของชายหนุ่ม ลูบไล้ที่หน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ดวงตาของนางสั่นระริกเมื่อเห็นลอนคลื่นที่สวยงามที่หน้าท้องของเขา
โม่โฉ่วกระตุกยิ้มหนึ่งครา ก่อนจะปลดอาภรณ์ของสตรีใต้ร่าง เต้าหู้ก้อนอวบที่มีเม็ดทับทิมสีหวานปรากฏแก่สายตาคม เขาเคลื่อนใบหน้าลงมาขบเม้มที่ฐานอก ก่อนจะค่อย ๆ ละเลียดชิมเม็ดทับทิมจนแข็งเป็นไต มืออีกข้างก็บีบเฟ้นเต้าอวบอีกข้างอย่างมันมือ
“อึก อ่า โม่โฉ่ว” นางร้องครางเรียกคนบนร่างเสียงสั่น
ดวงหน้างามเชิดหน้าขึ้น พร้อมกับแอ่นหน้าอกให้แนบชิดกับริมฝีปากของเขามากขึ้นไปอีก
โม่โฉ่วคล้ายกับเด็กน้อยที่ได้ลิ้มรสอาหารเลิศรสตรงหน้า เขาใช้ลิ้นสากตวัดปาดเลียไปมาจนทั่วเต้าหู้อวบก้อนใหญ่ ทั้งยังขบเม้มสร้างรอยรักสีหวานทั่วเต้าอวบของหญิงสาว
มือหนาเลื่อนลงไปลูบที่เรียวขาสวย ก่อนจะแตะลงที่จุดสงวนของร่างกายหญิงสาว เพียงแค่นิ้วของเขาปัดผ่านไปมา เสิ่นลู่ซือก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที
“อ๊ะ ตรงนั้น ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยากำหนัด หรือไฟราคะที่ถูกโม่โฉ่วปลุกปั่นกันแน่ เสิ่นลู่ซือจึงได้ลืมอายเช่นนี้ นางดิ้นเร่าไปมาเมื่อถูกนิ้วร้าย และลิ้นร้อนของชายหนุ่มปรนเปรอมิได้ขาด
โม่โฉ่วกระตุกยิ้มที่เห็นใบหน้าเหยเกของหญิงสาว เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วแหวกกลีบดอกไม้งามเบื้องล่าง แล้วเขี่ยปุ่มกระสันของหญิงสาวไปมา จนเรียกเสียงครางไม่เป็นภาษาจากคนใต้ร่าง
“อื้อ อ่า...”
เสียงหวานที่ร้องครางนั้น ยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งพล่านไปด้วย
เขาค่อย ๆ สอดนิ้วชี้ของตนเองเข้าไปยังร่องรักอ่อนนุ่มของหญิงสาว ก่อนจะขยับเรียวนิ้วเข้าออกไปมาด้วยความเนิบนาบ แล้วเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“อ๊า...โม่โฉ่ว ขะ ข้าไม่ไหวแล้ว”
เสิ่นลู่ซือที่เพิ่งรู้สึกถึงความสุขเป็นครั้งแรกของการถูกปรนเปรอด้วยนิ้ว นางร้องลั่นด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งทะยานขึ้นมา กายสาวดิ้นเร่าไปมาจนผมที่ถูกจัดแต่งมาอย่างดีแผ่หลาบนเตียงกว้าง
ใบหน้างามส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียดเสียว เพียงไม่นานร่างของนางก็กระตุกเกร็งหนึ่งครั้ง ก่อนจะคลายน้ำหวานออกมาจนชุ่มฉ่ำไปทั่วนิ้วมือของโม่โฉ่ว
ความทรมานที่รู้สึกคราแรกเริ่มมลายหายไป เหลือทิ้งไว้ความรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โฉมสะคราญหอบหายใจเหนื่อยหอบกับรสรักเมื่อครู่
มัน...รู้สึกดีมาก มากเสียจนต้องการมากกว่านี้!!
โม่โฉ่วผละตัวออกจากโฉมงามตรงหน้า เมื่อเห็นว่าฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดเริ่มคลายลงแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อ แม้ว่าตรงส่วนนั้นของเขาจะแข็งขึ้นมาจนรู้สึกปวดหนึบ แต่หากเขายังอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะพบเจอกับเรื่องวุ่นวายตามมาอีก
เสิ่นลู่ซือเป็นถึงบุตรสาวของท่านราชครู ผู้เป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท การที่เขากระทำเรื่องเช่นนี้กับนางก็ถือว่าหมิ่นเกียรตินางมากเกินไปแล้ว แม้เขาจะทำไปเพราะต้องการคลายอารมณ์กำหนัดที่เกิดจากยา แต่หากมีผู้อื่นมารับรู้เรื่องในคืนนี้ เกรงว่าชื่อเสียงของนางจะต้องฉาวโฉ่เป็นแน่ ซึ่งเขาไม่ต้องการเช่นนั้น
“ขออภัยที่ล่วงเกินคุณหนูเสิ่น ข้าขอตัวขอรับ”
โม่โฉ่วหมุนกายเดินจากไป แต่เสิ่นลู่ซือย่อมไม่ยอมปล่อยเขาไปเป็นแน่
โฉมสะคราญรีบลุกขึ้นวิ่งไปคว้าแขนของชายหนุ่มให้หันกลับมามองนาง
“ท่านรังเกียจข้าหรือ”
“มิใช่ขอรับ แต่มันไม่สมควร” โม่โฉ่วจัดอาภรณ์ที่หลุดรุ่ยของนางให้เข้าที่ พร้อมกับผูกสายรัดเอวให้นางด้วย
นางมองการกระทำอันอ่อนโยนของเขา ก่อนจะกระตุกยิ้มเจ้าเลห์ออกมา “ท่านล่วงเกินข้าแล้วนะโม่โฉ่ว ท่านจะไม่รับผิดชอบข้าเช่นนั้นหรือ” นางเอ่ยตัดพ้อบุรุษตรงหน้า
“ข้าแค่ช่วยไม่ให้ท่านถูกธาตุไฟเข้าแทรกเพราะฤทธิ์ยาเท่านั้น”
คำพูดที่เคยนอบน้อมแปรเปลี่ยนไปราวกับพูดคุยกับสหาย หาใช่คุณหนูสูงศักดิ์ไม่
นางควรจะดีใจมิใช่หรือ ที่เขาทำราวกับเรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงการช่วยเหลือเท่านั้น คุณหนูที่มาจากตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวงจะสนใจองครักษ์ที่ต่ำต้อยเช่นเขาไปทำไมกัน
“ไม่! ท่านต้องรับผิดชอบข้า ข้าเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้กับท่านแล้ว”
เสิ่นลู่ซือตีหน้ามึน นางยังคงยืนกรานที่จะให้ชายหนุ่มตรงหน้ารับผิดชอบ
“ท่านต้องการสิ่งใดคุณหนูเสิ่น ท่านอยากใช้ข้าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากองค์รัชทายาทเช่นนั้นหรือ”
หญิงสาวอยากจะตบหัวเขาสักทีให้หายคิดไปเอง นางหรือต้องการเรียกร้องความสนใจจากบุรุษที่ไม่เคยสนใจไยดีนางผู้นั้น
หึ! อย่าพูดให้ขำไปมากกว่านี้เลย
“ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าข้าหาได้รักองค์รัชทายาทผู้นั้นไม่ แต่ข้ารักท่านต่างหากเล่า โม่โฉ่ว...ได้โปรดแต่งงานกับข้าเถิดนะ”
โม่โฉ่วก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก
บุรุษที่เป็นดั่งแขนขาให้กับองค์รัชทายาทผู้มีอำนาจแห่งแคว้นหวง กำลังถูกสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ขอแต่งงานเช่นนั้นหรือ
นี่มันช่าง...น่าขำสิ้นดี
เขาผู้นี้ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะรับมือกับสตรีตรงหน้านี้อย่างไร
หลี่อี้เฉินเงยหน้ามองร่างสูงของหวงเฟยหลง ยังไงวันนี้เขาจะต้องทำให้มู่ซูเจียวกลายเป็นคนรักของเขาให้ได้!“ดี ดีมาก แล้วนี่เล่า”จบคำของเขา องครักษ์ของหวงเฟยหลงก็พาตัวนางกำนัลผู้หนึ่งเข้ามา หญิงสาวเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว นางเอ่ยคำสารภาพเพราะหวาดกลัวความผิด และต้องการรักษาชีวิตรอดเมื่อครู่นี้หลังจากที่นางแยกตัวจากขันทีที่เป็นคนของฮองเฮา คนขององค์รัชทายาทก็มาพาตัวนางให้มาที่นี่ ทั้งยังข่มขู่ว่าหากนางไม่สารภาพผิด นางและครอบครัวจะต้องโทษประหารชีวิต โทษฐานที่ทำร้ายคุณหนูสูงศักดิ์ผู้เป็นว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทนางไม่มีทางเลือกจริง ๆ“เป็น เป็นคุณชายหลี่ที่วางแผนจะล่วง...” สายตาคมกริบที่ตวัดมองมาให้เปลี่ยนคำพูด “เอ่อ...คุณชายหลี่ตั้งใจลวงคุณหนูมู่ให้มาที่นี่เพคะ เพราะต้องการจะทำร้ายคุณหนูมู่ ที่ไม่รับคำสารภาพรักจากคุณชายหลี่เพคะ”“เป็นอย่างไร ทั้งพยานและหลักฐานที่มัดแน่นเช่นนี้ เจ้าจะกล้าเล่นลิ้นอะไรได้อีก”“ไม่ ไม่ใช่ ข้าแค่อยากหลับนอนกับนางเท่านั้น!!”หลี่อี้เฉินที่เผลอหลุดปากสารภาพความจริง หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ สายตาที่เบนไปมององค์รัชทายาท ยิ่งทำให้เขาอยากจะกัดลิ้นตายเสียเดี
บทที่ 5ข้อเสนอหวงเฟยหลงที่ลอบติดตามมู่ซูเจียวก็เห็นความผิดปกติในทันที ทางเดินที่นางกำนัลพาไปนั้นไม่ใช่ตำหนักรับรอง แต่กลับเป็นตำหนักเล็กของพระสนมนางหนึ่งที่ถูกปิดตายไปแล้ว หนทางที่ต้องลัดเลาะไปมานั้นดูวกวนไปมา จนเขาอดจะสงสัยกับการกระทำนี้ของนางไม่ได้มู่ซูเจียวที่เคยมาเยือนวังหลวงหลายคราก็เริ่มตงิดใจ นางหยุดชะงักไม่ก้าวเดินตามนางกำนัลไปอีก“คุณหนูมู่มีสิ่งใดหรือเจ้าคะ”นางกำนัลที่รู้ว่ามู่ซูเจียวไม่ได้เดินตามมานั้นจึงรีบเอ่ยถามทันที หากครั้งนี้นางทำแผนการของฮองเฮาล้มเหลว ตัวนางและครอบครัวคงไม่แคล้วต้องไปเยือนปรโลกเป็นแน่“ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะมาผิดทาง ทางนี้มันเป็นวังหลังของฝ่าบาทมิใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงไม่พาข้าไปตำหนักรับรองกัน”“คือ...ตำหนักรับรองมีคุณหนูคุณชายมาพักกันหมดทุกห้องแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูมู่ไปที่ตำหนักรับรองอีกที่หนึ่งนะเจ้าคะ”“เช่นนั้นหรือ แต่ข้าว่า...”ฟุบ!!ขันทีที่ติดตามมาทางด้านหลัง ลอบสับมือที่หลังคอของมู่ซูเจียวจนนางสลบไปในทันที ขันทีผู้นี้ประคองร่างที่ไร้สติของมู่ซูเจียวไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น“ไม่ได้เรื่อง แค่งานง่าย ๆ ยังทำไม่สำเร็จ”“ขะ ขอโทษเจ้าค่ะ”“รีบพานางไปเร็
เสิ่นลู่ซือที่เห็นชายหนุ่มชะงักค้างไป นางก็ฉวยโอกาสคว้าลำคอหนาของเขาให้โน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากเล็กประกบจูบริมฝีปากหนาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเล็กของนางตวัดปาดชิมไปมาด้วยความชอบใจ ก่อนจะผละออกเพื่อดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเขาด้วยความขบขันบุรุษผู้นี้ช่างน่าเอ็นดูนัก เขาคงจะไม่ประสีประสากับเรื่องนี้ใช่หรือไม่ไม่เป็นไรนะ อดีตแม่ค้าสาวที่ชื่นชอบดูหนังเรต 20+ ผู้นี้ จะใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า10 ปีเพื่อสอนเขาเอง“อ่า...”โม่โฉ่วที่ถูกสัมผัสนุ่มละมุนของเสิ่นลู่ซือเมื่อครู่ หัวสมองของเขาพลันขาวโพลนไปชั่วขณะ ริมฝีปากหยักหนากระตุกยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกร้อนเร่ามากกว่าคราแรก“อื้อ ข้า...หายใจไม่ทัน”มือเล็กยกขึ้นมาทุบหน้าอกแกร่งหลายครั้ง จูบของเขาช่างเผ็ดร้อนยิ่งนัก นี่เขาไม่ใช่ลูกแกะน้อย แต่เป็นสุนัขจิ้งจอกที่ห่มหนังแกะใช่หรือไม่“เป็นท่านที่ต้องการเองนะคุณหนูเสิ่น”ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมากระซิบที่ใบหูเล็ก แล้วขบเม้มที่ติ่งหูของนางอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเบนมาดอมดมที่ซอกคอขาวหอมกรุ่นที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากร้อนลวกไล่ดูดดึงขบเม้มที่ลำคอระหง จนผิวกายที่เ
บทที่ 4ข้าต้องการท่านหวงเฟยหลงที่คอยมองคู่หมั้นของตนตลอดเวลานั้น เขารู้สึกว่าเรื่องราวครั้งนี้มีข้อพิรุธหลายจุด และเขาเองก็ยังคงหวาดระแวงในตัวเสิ่นลู่ซือไม่เสื่อมคลายขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไร กระดาษแผ่นเล็กก็ถูกลอบส่งมาให้กับโม่โฉ่วผ่านทางนางกำนัล ด้านในมีข้อความว่า 'ช่วยซูเจียว' โม่โฉ่วยื่นแผ่นกระดาษให้องค์รัชทายาท เขารับมาอ่านก่อนจะเอ่ยสั่งการเสียงเข้ม “ลายมือของลู่ซือ เจ้าไปจับตาดูลู่ซือเสีย ข้าเกรงว่าจะเกรงเรื่องร้ายกับนางเช่นกัน”“แล้วคุณหนูมู่เล่าขอรับ”“ข้าจะไปดูแลนางเอง ฝากด้วยนะโม่โฉ่ว อย่างไรนางก็เปรียบเหมือนน้องสาวของข้า”“ขอรับ”โม่โฉ่วที่เป็นหัวหน้าองครักษ์ขององค์รัชทายาท จึงได้ลอบปลีกตัวออกจากงานเลี้ยง โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นฝีเท้าบางเบาดุจขนนกลอบติดตามเสิ่นลู่ซือมาไม่ห่าง คิ้วกระบี่ขมวดกันแน่นเมื่อเริ่มเห็นความผิดปกติของหญิงสาว เรือนร่างบอบบางของนางเดินโซเซไปมาคล้ายกับคนเมาสุรา แต่เท่าที่เขาเห็นนางเพิ่งดื่มสุราไปเพียงสองจอกมิใช่หรือ'เหตุใดจึงเมามายเสียแล้ว นางคงจะคออ่อนมากสินะ'ร่างสูงใหญ่ที่ติดตามมาไม่ห่างหัวเราะขันคนงาม รู้ว่าตัวเองคออ่อนแล้วยังยกจอกสุร
เสิ่นลู่ซือที่รู้สึกถึงสายตาที่มองมาของหวงเฟยหลง นางจึงได้เงยหน้าขึ้นไปมองบ้าง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นสายตาที่แทบจะกลืนกินมู่ซูเจียวองค์รัชทายาทผู้นี้ช่างคลั่งรักมากไปหรือไม่ ขนาดอยู่ในงานเลี้ยงยังไม่มีการสงวนท่าทีเลย มิน่าเล่ามู่ซูเจียวของนางจึงได้ถูกผู้อื่นปองร้าย และริษยามากถึงขนาดนี้แล้วองครักษ์ผู้หล่อเหลาของนางเล่า เขามาที่นี่ด้วยหรือไม่นะด้วยความสงสัยเสิ่นลู่ซือจึงได้ย้ายสายตาของตนเองมองรอบกายของหวงเฟยหลง ก่อนจะสบสายตากับโม่โฉ่วที่มองมาทางนางพอดีโฉมสะคราญแย้มยิ้มอย่างยินดี พลางยกจอกสุราผลท้อขึ้นมา หมายจะสื่อความนัยให้โม่โฉ่วได้รู้‘สุราจอกนี้ ข้าขอดื่มให้ท่าน...ว่าที่สามีของข้า’มุมปากเล็กยกโค้งดั่งพระจันทร์เสี้ยว ก่อนจะกระดกจอกสุราในมือจนหมดจอกโม่โฉ่วที่มองเสิ่นลู่ซือพลันชะงักค้าง เขาเผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพราะสายตาที่ดูไม่น่าไว้วางใจของนาง และไม่คิดว่าเขาผู้นี้กำลังถูกหญิงงามหยอกเย้า ยิ่งสายตาหวานที่มองมานั้นพาลให้เขารู้สึกคันยุบยิบในหัวใจหากเป็นน้องสาว เขาคงจะเอาไม้มาฟาดที่ก้นนางเสียเต็มแรง โทษฐานที่กล้าเกี้ยวพาบุรุษซึ่ง ๆ หน้าเช่นนี้!!ทางด้านหญิงงามที่เย้าแหย่บ
บทที่ 3พบหน้าว่าที่สามีขณะที่สตรีทั้งสองกำลังปรับความเข้าใจอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งกลับมีเงาของสตรีนางหนึ่งยืนหลบมุมอยู่หลังเสา นางมองมาทางทั้งสองด้วยแววตากรุ่นโกรธ เพลิงโทสะอัดแน่นไปทั่วร่างกายบอบบาง แววตามาดร้ายจับจ้องทั้งสองไม่วางตา“ที่ข้าสั่งไปได้เรื่องหรือไม่” น้ำเสียงหวานเอ่ยถามนางกำนัลที่ถูกซื้อตัว“ระ เรียบร้อยเจ้าค่ะ ข้าน้อยใส่ในถ้วยน้ำชาของคุณหนูมู่แล้วเจ้าค่ะ”“ดี” ดวงหน้างามเผยรอยยิ้มเย็นชานางหยิบเงินตำลึงทองให้กับนางกำนัลผู้นั้น แล้วหมุนกายเดินจากไปในทันที ทำเหมือนกับทั้งสองไม่เคยพบหรือรู้จักกันมาก่อนหลังจากที่เสิ่นลู่ซือปรับความเข้าใจกับมู่ซูเจียว ทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันได้อย่างถูกคอมากยิ่งขึ้น“องค์รัชทายาททรงเคยร้องไห้เพราะวิ่งหนีหนอนด้วยหรือเจ้าคะ”มู่ซูเจียวยิ้มขำกับเรื่องเล่าในวัยเด็กของพระคู่หมั้น นางเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกจึงอดจะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ดูท่าทั้งสองคงจะผูกพันกันมาก คงไม่แปลกที่ตอนแรกเสิ่นลู่ซือจะหึงหวงองค์รัชทายาท จนพาลมาผิดใจกับนางที่เป็นพระคู่หมั้นของพระองค์“พระองค์ทรงขยะแขยงสัตว์ตัวเล็กที่เนื้อตัวนุ่มนิ่มเจ้าค่ะ ข้าเลยชอบแกล้งจับหนอ