วาสนาเคียงนิรันดร์

วาสนาเคียงนิรันดร์

last updateLast Updated : 2025-06-17
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
16Chapters
84views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เสิ่นอี้ สูญเสียภรรยารักไปอย่างไม่มีวันกลับ เหือเพียงบุตรชายตัวน้อยที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเขา เขาทนอยู่ในวังวนเดิมๆไม่ได้ จึงพาบุตชายออกจากเมืองหลวง มุ่งหน้าสุ่เมืองฉางเยว่ เมือที่ติดชายแดนเพื่อช่วยปัญหาปากท้องราษฏร แต่เมื่อเขาก้าวเข้ามาที่เมืองแห่งนี้กลับพบว่ามันช่างฟอนเฟะและไม่เป้นระเบียบ เขาจำต้องแก้ไขโดยด่วน จนกระทั่งเขาได้เจอกับ ไป๋จินเซียง สตรีบ้านป่าที่น่ารักและร่าเริง นางร่วมหัวจมท้ายกับเขาในหลายเรื่องๆ โดยไม่มีข้อแม้ เขาและนางจับมือกันก้าวข้ามเรื่องต่างๆ อีก แต่เหมือนว่าเสิ่นอี้และไป๋จินเซียงจะกระทำการได้ไม่ราบรื่นเท่าใดนักเพราะมีคนคอยขัดขวางพวกเขาหมายจะเอาชีวิตคนทั้งสองรวมถึงบุตรชายตัวน้อยอีกด้วย!

View More

Chapter 1

บทที่ 1 สูญเสียภรรยา

เมืองหลวงต้าเฉวียน

"คุณชาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องนำโลงศพของฮูหยินไปฝังแล้วเจ้าค่ะ"

เสียงของสาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้เสิ่นอี้ี่ที่ยามนี้เอาแต่ยืนมองโลงศพตรงหน้าพลันได้สติคืนกลับมา เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปจับโลงศพสีดำเบื้องหน้า และเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอาดูร

"ได้ เจ้าให้คนมานำโลงศพของนางไปฝังเถิด”

เอ่ยจบน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า ชายหนุ่มหลับตาลงพยายามข่มกลั้นความโศกเศร้าภายในจิตใจแต่ทว่ายังคงไม่อาจทำได้

หนิงเอ๋อร์ ข้ารักเจ้านะ

ชายหนุ่มทำได้เพียงร้องรำพันในใจด้วยความปวดร้าว

เขาคือบัณฑิตหนุ่มรูปงาม นามว่าเสิ่นอี้  ตระกูลเสิ่นของเขาเป็นแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน ยามนี้บิดาของเขารั้งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เสิ่น และยังมียังบรรดาศักดิ์ท่านโหว ส่วนเขาเองก็เป็นทายาทเพียงผู้เดียว แม้จะมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊แต่กลับมิได้เข้าร่วมกองทัพเพราะชอบอยู่กับตำราตัวอักษรมากกว่า เมื่ออายุได้สิบแปดปีเขาแต่งงานกับเยี่ยนหนิง บุตรสาวของคหบดีผู้หนึ่งที่ร่ำรวยในเมืองหลวง เสิ่นอี้และเยี่ยนหนิงมีใจรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง เขาแต่งนางเข้ามาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณี ทว่าหกปีต่อมานางก็ล้มป่วยลงโดยไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายก็จากเขาและบุตรชายไปอย่างไม่มีวันกลับ

เขาเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคน แต่เมื่อได้มองเห็นหน้าบุตรชายตัวน้อย เสิ่นอี้ก็คิดได้ว่าเขายังต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลบุตรชายต่อไป จึงตัดสินใจว่าหลังจากจบเรื่องงานศพของเยี่ยนหลิงแล้ว เขาจะพาบุตรชายเดินทางไปอยู่ที่เมืองฉางเยว่ด้วย

เมื่อคิดเช่นนั้นเสิ่นอี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความเศร้าเสียใจ ก่อนจะเดินออกมานอกเรือน เมื่อมาถึงก็พบกับเสิ่นเป่าที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา เสิ่นอี้อุ้มบุตรชายขึ้นมา เสิ่นเป่ายามนี้ร้องไห้จนตาบวมแดง เสิ่นอี้ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยถามบุตรชาย

"อาเป่าของพ่อ เหตุใดเจ้าจึงร้องไห้เช่นนี้เล่า"

"อาเป่า เจ้ามาหาแม่เร็วเข้า"

เสิ่นเป่ายังไม่ทันตอบ ก็มีเสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน เสิ่นอี้เงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะพบกับซูลี่ที่กำลังวิ่งเข้ามา เมื่อนางเห็นว่าเขากำลังอุ้มเสิ่นเป่าอยู่จึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"พี่อี้ ที่แท้อาเป่าก็วิ่งมาหาท่านเองหรอกหรือ ข้าเป็นหวงแทบแย่ อาเป่า มาหาแม่เร็วเข้า"

เสิ่นเป่าไม่ยินยอมไปหาซูลี่อีกทั้งยังซุกหน้าลงมาบนแขนของบิดาราวกับหวาดกลัว เสิ่นอี้เมื่อได้เห็นเช่นนั้นจึงบอกกับบุตรชายอย่างอ่อนโยน

"อาเป่า เจ้าเป็นอะไร"

เสิ่นเป่าเงยหน้ามามองบิดา แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือสะอื้น

"ท่านพ่อ ข้าไม่อยากอยู่กับนาง นางไม่ยอมให้ข้ามาหาท่านแม่ นางบอกว่าหากข้ามาอาจจะนำไออัปมงคลจากศพของท่านแม่ติดตัวมาด้วย ฮือ ท่านพ่อ ข้าจะไปหาท่านแม่"

เสิ่นอี้ปรายตามองซูลี่ด้วยความไม่พอใจทันที ซูลี่ถึงกับเม้มริมฝีปากแน่น นึกด่าทอเด็กนรกเสิ่นเป่าในใจอย่างเกลียดชัง 

ซูลี่ผู้นี้ เป็นหลานสาวของฮูหยินคนใหม่จวนตระกูลเสิ่น น้าสาวของนางเป็นภริยาเอกคนใหม่ของบิดาเสิ่นอี้ ก่อนหน้านี้มารดาของเสิ่นอี้ป่วยตาย จึงแต่งน้าสาวของนางเข้าจวนมา ตระกูลของนางเป็นตระกูลขุนนางเล็กๆ มิได้มีอำนาจใดมากนัก หากคิดจะหาคู่ครองดีดีก็คงนับวาเป็นยาก น้าสาวจึงออกอุบายว่าจะให้นางมาอาศัยอยู่ที่จวนตระกูลเสิ่น เพื่อใกล้ชิดกับเสิ่นอี้ เล็งเห็นการณ์ไกลเผื่อเขาจะรับนางเป็นภรรยารอง

แต่เสิ่นอี้กลับไม่สนใจนาง แม้กระทั่งเวลานี้ที่ฮูหยินเอกของเขาตายไปแล้ว เขาก็ยังไม่คิดจะปรายตามองนางเสียด้วยซ้ำ

ซูลี่ที่ถูกเสิ่นอี้จ้องมองอย่างไม่พอใจก็วางมือวางไม้ไม่ถูก ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยแก้ตัวอะไร เสิ่นอี้ก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

"เหลวไหลสิ้นดี! อาเป่าเป็นบุตรของหลิงเอ๋อร์ภรรยาของข้า แต่เจ้ากลับห้ามไม่ให้บุตรชายมาอำลามารดา เจ้าจะใจกล้าเกินไปแล้ว ซูลี่!"

"พี่อี้ ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้าเพียงเป็นห่วงอาเป่า อาเป่าเจ้าบอกท่านพ่อไปสิ ว่าแม่ดีต่อเจ้ามากเพียงใด"

"หุบปาก!"

ซูลี่พลันสะดุ้งโหยงเมื่อถูกเสิ่นอี้ตะคอกอย่างไม่ไว้หน้า เขามองนางอีกครั้ง ก่อนจะตวาดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด

"เลิกแทนตนเองว่าแม่เสียที อาเป่าไม่ใช่บุตรเจ้า!"

พูดจบเขาก็อุ้มอาเป่าจากไปทันที อาเป่าที่เห็นเช่นนั้นก็หันหน้ามาหาซูลี่ก่อนจะแลบลิ้นใส่นางอย่างยั่วยุ ซูลี่โมโหจัดแต่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ นางยังต้องใช้เด็กนี่เพื่อเข้าหาเสิ่นอี้!

งานศพของเยี่ยนหลิงผ่านพ้นไปด้วยดี เสิ่นอี้ต้องปลอบประโลมเสิ่นเป่าอยู่นานกว่าเขาจะยอมสงบลง

หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไปร่วมเดือน เสิ่นอี้ก็ยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้ ขอย้ายตนเองไปอยู่ที่เมืองฉางเยว่เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและปากท้องประชาชน ฮ่องเต้จึงทรงอนุญาต

แต่บิดาของเขาไม่เห็นด้วย บอกว่าเขาจะไปลำบากทุกข์กายห่างไกลเมืองหลวงทำไมกัน อีกทั้งยังสนับสนุนให้เขาแต่งซูลี่เป็นภรรยาใหม่ ทว่าเสิ่นอี้กลับไม่สนใจ เขาเก็บข้าวของเตรียมพร้อมออกเดินทาง ครั้งนี้เขาตัดสินใจว่าจะพาเสิ่นเป่าไปด้วย

เขาไม่ไว้ใจซูลี่และน้าสาวของนาง และไม่อยากให้เสิ่นเป่าต้องโดดเดี่ยว มารดาเพิ่งจากไปบิดาก็ไปอยู่ที่อื่นอีก เสิ่นเป่าอาจจะมีปมด้อยในจิตใจก็เป็นได้

ด้านซูลี่ที่ได้ทราบข่าวว่าเสิ่นอี้จะไปที่เมืองฉางเยว่ อีกทั้งยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับที่แน่นอน นางก็ร้อนใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะตามเขาไป แต่เขาไม่ได้สนใจนาง อีกทั้งยังออกเดินทางไปเมืองฉางเยว่ตั้งแต่เช้าตรู่เรียบร้อยแล้ว ซูลี่กระทืบเท้าเร่าๆ ตั้งใจเอาไว้ว่า นางจะต้องหาทางไปหาเขาที่เมืองฉางเยว่ นางจะต้องได้แต่งงานกับเขาให้ได้ และจะไม่มีสตรีใดมาแย่งเขาไปจากนางได้อีกแล้ว

เสิ่นอี้ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ ระยะทางจากเมืองหลวงไปถึงเมืองฉางเยว่ค่อนข้างไกลไม่น้อยเลย การมาครั้งนี้เขาพาบ่าวรับใช้ชายคนสนิทและสาวใช้มาคนหนึ่ง นางเป็นคนสนิทของเยี่ยนหลิง ร่างกายค่อนข้างบึกบึนเยี่ยงบุรุษ เสิ่นเป่าชอบนางมาก เขาจึงให้นางมาคอยดูแลเสิ่นเป่าที่เมืองฉางเยว่

เสิ่นอี้ควบม้าส่วนเสิ่นเป่านั่งรถม้ากับบ่าวชายและสาวใช้มาตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านป่าเขาหลายลูก ตลอดทางเขาแวะพักบ้างเพื่อให้เสิ่นเป่าได้นอนหลับสบาย ใช้เวลาร่วมสิบห้าวันก็เดินทางมาถึงเมืองฉางเยว่

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
16 Chapters
บทที่ 1 สูญเสียภรรยา
เมืองหลวงต้าเฉวียน"คุณชาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องนำโลงศพของฮูหยินไปฝังแล้วเจ้าค่ะ"เสียงของสาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้เสิ่นอี้ี่ที่ยามนี้เอาแต่ยืนมองโลงศพตรงหน้าพลันได้สติคืนกลับมา เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปจับโลงศพสีดำเบื้องหน้า และเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอาดูร"ได้ เจ้าให้คนมานำโลงศพของนางไปฝังเถิด”เอ่ยจบน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า ชายหนุ่มหลับตาลงพยายามข่มกลั้นความโศกเศร้าภายในจิตใจแต่ทว่ายังคงไม่อาจทำได้หนิงเอ๋อร์ ข้ารักเจ้านะ ชายหนุ่มทำได้เพียงร้องรำพันในใจด้วยความปวดร้าวเขาคือบัณฑิตหนุ่มรูปงาม นามว่าเสิ่นอี้ ตระกูลเสิ่นของเขาเป็นแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน ยามนี้บิดาของเขารั้งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เสิ่น และยังมียังบรรดาศักดิ์ท่านโหว ส่วนเขาเองก็เป็นทายาทเพียงผู้เดียว แม้จะมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊แต่กลับมิได้เข้าร่วมกองทัพเพราะชอบอยู่กับตำราตัวอักษรมากกว่า เมื่ออายุได้สิบแปดปีเขาแต่งงานกับเยี่ยนหนิง บุตรสาวของคหบดีผู้หนึ่งที่ร่ำรวยในเมืองหลวง เสิ่นอี้และเยี่ยนหนิงมีใจรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง เขาแต่งนางเข้ามาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณี ทว่าหกปีต่อมานางก็ล้มป่วยลงโดยไ
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 2 เมืองฉางเยว่
เมืองฉางเยว่"เร่เข้ามาจ้า เร่เข้ามา วันนี้เหลาสุราซือจี๋มีสุรารสเลิศมาขายอีกแล้ว วันนี้ผู้ใดสั่งสุราสองไห ที่ร้านจะมอบเนื้อตุ๋นให้หนึ่งจาน เร่เข้ามาจ้า เร่เข้ามา"เสียงหวานใสของสตรีนางหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเหลาสุราซือจี๋ พร้อมกับตีกลองไปด้วย สร้างความสนใจให้แก่ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาไม่น้อย ไม่นานนักผู้คนก็เดินข้ามาที่เหลาสุรา ลูกค้าเริ่มเบียดเสียดแน่นขนัดตา"ซินซิน ไปเอาเนื้อตุ๋นมาเพิ่มที""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้น้อยรับคำ ก่อนจะไปจัดการตามที่เจ้านายสั่งในทันที"จินเซียง เอาสุรามาเพิ่มที""เจ้าค่ะท่านพ่อ"หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบไปนำสุราที่เก็บเอาไว้ในห้องหมักสุราออกมาเพิ่มอีกหลายไหหญิงสาวนามว่าไป๋จินเซียง ปีนี้มีอายุสิบเก้าปีแล้ว นางเป็นบุตรสาวเจ้าของเหลาสุราซือจี๋ เหลาสุราที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฉางเยว่เดิมทีนางไม่ใช่คนในยุคสมัยนี้ นางมาจากยุคปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เพราะนางล้มป่วยจนเสียชีวิต จู่ๆ วิญญาณของนางมาอยู่ในร่างของสตรีนามว่าไป๋จินเซียง สตรีที่มีชื่อเดียวกับนาง อีกทั้งยังมีใบหน้าเหมือนกันราวกับฝาแฝดอีกด้วย บิดาของนางในยุคโบราณนี้เป็นเจ้าของเหลาสุรา ส่วนมารดาตายจากไปนานแล้ว นางเป็นบ
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 3 ความเน่าเหม็นของทางการ
เมื่อไล่คนกลับไปหมดแล้ว เสิ่นอี้ก็เดินไปหาเสิ่นเป่าที่อยู่อีกห้องหนึ่งกับสาวใช้ร่างบึกบึนนามว่าจิ้นอิ๋ง เมื่อมาถึงก็พบว่าเสิ่นเป่านอนหลับไปเสียแล้ว เสิ่นอี้จึงไม่อยากรบกวนเวลานอนของบุตรชาย เขาจึงกำชับให้จิ้นอิ๋งดูแลเสิ่นเป่าให้ดีเพียงเท่านั้นยามกลางคืนที่เมืองฉางเยว่มีลมพัดเย็นสบาย ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่อากาศเย็นกำลังดี เสิ่นอี้เดินทางมาทั้งวันก็รู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย แต่เขากลับไม่ยอมพัก ชายหนุ่มจึงออกมาจากจวนเจ้าเมือง เขาไม่ได้นั่งเกี้ยวมา แต่ว่าเดินมาตามทางเรื่อยๆ พร้อมกับองค์รักษ์คนสนิทที่แต่งกายธรรมดาผู้หนึ่ง คนทั้งสองเหมือนพ่อค้าต่างถิ่นที่มาค้าขาย เพราะเดินทางมาถึงที่นี่ก็ค่ำมืดมากแล้ว จึงยังไม่มีราษฏรในเมืองฉางเยว่เห็นหน้าเขามากนัก นับว่าเป็นเรื่องดี ชายหนุ่มเดินดูของต่างๆไปเรื่อยเปื่อย สิ่งไหนที่ดูแล้วเหมาะกับเสิ่นเป่า เขาก็ซื้อกลับไปฝากบุตรชายที่เมืองฉางเยว่ค่อนข้างคึกคักไม่น้อยเลย มีชาวบ้านมาเดินเล่นกันเยอะแยะ มีร้านสุราและร้านอาหารมากมาย เขามองไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ป้ายร้านเหลาสุราซือจี๋เสิ่นอี้พลันนึกถึงสุรารสชาติดีที่นายอำเภออู๋นำมามอบให้ได้ จึง
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 4 อันธพาล
ไป๋จินเซียงเดินกลับมาที่เหลาสุรา นางเริ่มสงสัยแล้วว่าเพราะเหตุใด เขาจึงต้องมาสอบถามนางถึงเรื่องพวกนั้นด้วย แต่คิดเท่าใดก็คิดไม่ออก นางจึงพยายามระงับสติตนเอง และเตรียมเปิดร้านต่อยามบ่ายเหลาสุราของนางก็เปิดขายเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้ลูกค้าค่อนข้างหนาแน่นไม่น้อยเลย ไป๋จินเซียงยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของตน เวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงยามเย็นท้องฟ้ามืดค่ำมากแล้ว นางให้บิดากลับจวนไปก่อน ส่วนตนก็อยู่เก็บร้านโดยมีซินซินเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือ "น้องจินเซียง วันนี้งดงามยิ่งนัก จะเก็บร้านแล้วหรือ"ไป๋จินเซียงที่กำลังเก็บเก้าอี้พลันหันมามอง ก่อนจะพบกับพวกอันธพาลที่มักจะชอบมาก่อกวนชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง เป็นพวกขี้เมาวันๆ ไม่ทำการทำงาน มักรีดไถเงินชาวบ้านไปเล่นการพนันในโรงพนัน เขามีนามว่าหูถงเป็นหัวหน้าอันธพาล ไป๋จินเซียงกลอกตาไปมา ก่อนจะเท้าเอวมองหูถงอย่างไม่เป็นมิตร"มีอะไร วันนี้ข้าไม่ว่างมาสนทนากับพวกเจ้า"หูถงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มลามก พลางหยอกเย้านาง"น้องจินเซียง ลองพูดกับพี่ดีๆ สิจ๊ะ เผื่อว่าพวกพี่จะช่วยเก็บร้านได้ หากทำให้พวกพี่ไม่พอใจ พวกพี่พังร้านไม่รู้ด้วยนะ"หูถงพูดพร้อมกับขยับเข้ามาใกล
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 5 ฝายชะลอน้ำ
เสิ่นอี้เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รีบรุดตรงไปยังคุกที่คุมขังพวกอันธพาลเอาไว้เมือคืนนี้อย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็เป็นดั่งที่หมิงเจ๋อกล่าวเอาไว้ไม่มีผิด พวกอันธพาลยามนี้กลายเป็นบ้าเสียสติไปกันหมดแล้ว ปากก็เอาแต่พร่ำว่าในคุกมีผี ผีหลอกพวกเขา เสิ่นอี้ขมวดคิ้วนิ่วหน้า ก่อนจะให้คนไปตามหมอมาตรวจดูอาการ แต่กลับพบว่าไม่พบความผิดปกติใดๆ เลยแม้แต่น้อย เสิ่นอี้ถึงกับสงสัยเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่เชื่อว่าในคุกแห่งนี้จะมีผี หากว่ามีจริงๆ นักโทษคนอื่นๆ ย่อมจะต้องกลายเป็นบ้าไปตั้งนานแล้ว ทว่านักโทษคนอื่นๆ ก็ยังปกติดีนี่ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่จะหาสาเหตุอื่นใดย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องนี้คงต้องทำการตรวจสอบอย่างลับๆ เขาจึงสั่งให้หมิงเจ๋อไปสืบให้ละเอียดว่าเมื่อคืนนี้เกิดขึ้นบ้างทว่ากลับไม่พบร่องรอยใดเลยแม้แต่เล็กน้อยช่างน่าแปลกยิ่งนักแม้จะสืบไม่พบร่องรอยใดๆ แต่เสิ่นอี้ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ เขายังคงให้หมิงเจ๋อจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของนายอำเภออู๋และคนรอบตัวอย่างไม่ให้คลาดสายตาเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปหลายวัน เสิ่นอี้มาอยู่ที่เมืองฉางเยว่ได้ร่วมเดือนแล้ว เหล่าชาวบ้านเองก็เริ่มจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขามากขึ้น แต่กลั
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 6 น้องชายที่ตายจากไป
เรื่องที่เสิ่นอี้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังพลิกสถานการณ์ให้ทุกอย่างไม่เลวร้ายลงไปกว่าเดิม สร้างความปวดหัวให้นายอำเภออู๋ไม่น้อย หากยังปล่อยให้เสิ่นอี้ทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่นต่อไปเช่นนี้ เขาเกรงว่าสักวัน เสิ่นอี้อาจจะล่วงรู้เรื่องราวที่เขาและนายท่านกำลังลงมือทำเข้าสักวันต้องหาทางกำจัดเสียก่อนการจะกำจัดเสิ่นอี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก เขาเดินทางมาอยู่ที่นี่ซึ่งห่างไกลจากเมืองหลวง เป็นบุตรชายแม่ทัพแล้วอย่างไรเล่า ก็จัดฉากว่าเขาล้มป่วยตายไปเสียก็สิ้นเรื่อง ส่วนบุตรชายของเขาก็ให้ตายด้วยอุบัติเหตุ เช่นนี้แล้วใครจะมาสาวถึงตัวเขาได้อีกทั้งนายท่านย่อมเตรียมหาทางหนีทีไล่เอาไว้อยู่แล้วเมื่อคิดได้เช่นนั้นนายอำเภออู๋จึงรีบให้คนส่งจดหมายไปแจ้งเจ้านายของตนถึงแผนการที่ตนกำลังคิดจะลงมือทำ นายท่านที่ว่านั้นเมื่ออ่านจดหมายจบแล้วก็เพียงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเขียนจดหมายตอบกลับว่าให้ลงมือได้เลย อีกทั้งยังต้องทำอย่างลับๆ และต้องรัดกุมอีกด้วยเช้าวันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส ไป๋จินเซียงออกมาหาซื้อของเอาไว้ไปทำขายที่เหลาสุราเช่นเดิม จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึงยามบ่ายนางก็คิดจะกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่ที่จ
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 7 สหายต่างวัย
"อร่อยจัง นี่เป็นมื้อแรกที่ข้ากินข้าวหมดสามชาม ขอบคุณพี่สาวมาก"เสิ่นเป่าเอ่ยไปยิ้มแย้มไป เขาลูบพุงของตนพร้อมกับเรอออกมา ไป๋จินเซียงมองดูเด็กน้อยตรงหน้าและยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูเมื่อเสิ่นเป่ากินอิ่มแล้ว ไป๋จินเซียงก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ นางจึงซักถามเขา"เสิ่นเป่า เจ้าบอกว่าเจ้าจำตำแหน่งของบิดาเจ้าไม่ได้ แต่เจ้าจำชื่อบิดาของเจ้าได้หรือไม่""แน่นอน"เสิ่นเป่าตอบอย่างรวดเร็ว"บิดาข้ารูปงามองอาจ เป็นบุรุษรูปงามที่สุดในเมืองหลวง เขาชื่อว่าเสิ่นอี้ และข้าก็ถ่ายทอดความงดงามมาจากเขา"ไป๋จินเซียงที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มพลันสำลักออกมาทันที ก่อนจะถามเสิ่นเป่าอย่างรวดเร็ว"เจ้าบอกว่าบิดาเจ้าชื่อว่าอะไรนะ""เสิ่นอี้""เสิ่นอี้หรือ""ถูกต้อง ท่านจะตกใจทำไมนักหนา เก็บท่าทีตกใจไว้ตอนเจอบิดาข้าก่อนเถอะ รับรองว่าจะต้องตกตะลึงในความหล่อเหลาแน่นอน"ไป๋จินเซียงมองดูท่าทางแก่แดดแก่ลมของเสิ่นเป่าก็อดขำออกมาไม่ได้ แต่เมื่อคิดถึงเสิ่นอี้นางก็ลอบสูดปาก ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีบุตรชายโตถึงเพียงนี้แล้ว อยู่ๆ ความรู้สึกเศร้าใจก็พาดผ่านจิตใจของนางไปเมื่อคิดว่าเขาคงมีภรรยารออยู่ที่เมืองหลวงแล้ว นางก็อดปวดใจไม่ได้
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 8 ส่งอาหาร
เสิ่นอี้พยายามหว่านล้อมเท่าใดเสิ่นเป่าก็ไม่ยอมถอยง่ายๆ ด้วยความเป็นห่วงบุตรชายเกรงว่าเขาจะไม่ยอมกินอาหารจนล้มป่วย เสิ่นอี้จึงตัดสินใจเรื่องหนึ่งหลังจากสะสางการงานเรียบร้อยแล้ว เขาจึงมาพบไป๋จินเซียงที่ร้านสุราจิ้นซือในเย็นวันนั้น ไป๋จินเซียงกำลังเก็บร้านสุรา เมื่อเห็นว่าเสิ่นอี้มา นางจึงเชิญให้เขาเข้ามานั่งด้านในร้านและยกสุรามาให้เขา เสิ่นอี้ยิ้มขอบคุณ เขามีสีหน้าประหม่าไม่เป็นตัวของตัวเอง และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไรดี ไป๋จินเซียงมองดูเสิ่นอี้ด้วยความสงสัย ก่อนจะถามเขาว่า"ท่านเจ้าเมือง ท่านมีอะไรหรือเปล่า เหตุใดจึงดูมีสีหน้าลำบากใจเช่นนี้เล่า?"เสิ่นอี้ยกจอกสุราขึ้นดื่ม ก่อนจะตัดสินใจพูดกับไป๋จินเซียง"คือว่าหลายวันมานี้ เสิ่นเป่าไม่ยอมกินอาหารที่แม่ครัวในจวนทำเลย เขาบอกว่าอยากกินแต่อาหารฝีมือเจ้าเท่านั้น ข้าจึงตั้งใจมาเจรจาว่าจะจ้างเจ้าทำอาหารสามมื้อ ช่วยนำไปส่งที่จวนของข้าและมอบให้เสิ่นเป่าได้หรือไม่ ข้ารู้ว่าเจ้ามีงานมากมายต้องทำ หากเจ้าไม่สะดวกข้า...""ข้ายินดี ข้าจะทำอาหารส่งไปให้เขาสามมื้อเอง มิได้ลำบากเลยแม้แต่น้อย งานที่ร้านก็มีซินซินคอยดูแลอยู่แล้ว"เสิ่นอี้ไม่คาดคิดว่า
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 9 ค้าเกลือเถื่อน
ไป๋จินเซียงเริ่มมีท่าทางลนลานทำอะไรไม่ถูก เสิ่นอี้มองนางแวบหนึ่ง แล้วบอกขึ้นว่า"ข้าให้คนเตรียมอาหารเอาไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้ารีบไปกินเถิด"เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร คล้ายไม่ไ่ด้สนใจเลยด้วยซ้ำว่านางทำอะไร ภายในใจไป๋จินเซียงรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง แต่เพียงครู่เดียวความรู้สึกนี้ก็ก็พลันหายไป นางยิ้มให้เขาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย และไปกินอาหารที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ เดิมทีนางไม่หิวเท่าใดนัก แต่ในเมื่อเขาทำมาให้แล้ว นางจึงมิอาจปฏิเสธน้ำใจของเขาได้ เมื่อนางกินอิ่มแล้วจึงคิดจะขอตัวกลับจวน ก่อนกลับยังกำชับอีกว่าอาหารของเสิ่นเป่านางจะทำมาให้เอง ไม่ต้องกังวล เสิ่นอี้เอ่ยขอบใจไป๋จินเซียงหลายคำ ก่อนจะให้คนไปส่งนางกลับจวนเมื่อกับมาถึงจวน ไป๋จินเซียงจามออกมาหลายครั้ง เพราะน้ำในแม่น้ำค่อนข้างเย็นไม่น้อย นางจึงมีอาการหวัดขึ้นมา หญิงสาวยกถ้วยน้ำขิงขึ้นมาดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนจะนั่งพักต่ออีกหน่อย ก่อนจะไปที่เหลาสุราและจัดการเรื่องบัญชีต่างๆ ตกเย็นก็รีบมาทำอาหารไปส่งให้เสิ่นเป่าที่จวนเจ้าเมืองเสิ่นเป่ารุ้สึกตัวแล้ว เด็กน้อยมีท่าทางร่าเริงเป็นอย่างมาก หลังจากกินอาหารที่นางทำก็นอนหลับไปอีกครา ไป๋จินเซี
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
บทที่ 10 ไฟไหม้
เมื่อกลับมาถึงจวน ไป๋จินเซียงก็ทำเช่นเหมือนที่เคยทำทุกวัน แต่ว่าวันนี้จัดการปิดร้านสุราเร็วขึ้นตามที่เสิ่นอี้บอกเอาไว้ ไป๋จงเองก็มิไ่ด้เอ่ยถามบุตรสาวให้มากความ เขาเองก็เหนื่อยไม่น้อยอยากพักแล้วเช่นกันไป๋จินเซียงรีบกลับไปทำอาหารเย็นให้บิดา ก่อนจะสั่งให้ซินซินนำอาหารมื้อเย็นไปส่งที่จวนเจ้าเมือง และบอกเสิ่นเป่าว่าวันนี้นางมีเรื่องต้องจัดการที่จวนจึงไม่อาจไปหาได้ ไว้พรุ่งนี้จะรีบไปเล่นด้วยแต่เช้าสองพ่อลูกกินอาหารด้วยกัน ก่อนจะยกย้ายกันเข้านอน ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าใด อยู่ๆ ไป๋จินเซียงก็สะดุ้งตื่นเพราะหายใจไม่ออก เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะยามนี้ทั่งทั้งห้องนอนมีควันสีขาวลอยคลุ้งเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นไหม้ปรากฏเด่นชัดขึ้น ไป๋จินเซียงส่งเสียงไอออกมาอย่างทรมาน ก่อนจะลนลานไปที่ประตูห้องและเปิดประตูออกเมื่อออกมากด้านนอกห้องนอนก็พบว่ายามนี้ทั่วทั้งจวนมีแสงไฟลุกโติช่วง ไป๋จินเซียงตกใจลนลานร้องเรียกหาบิดาทันที"ท่านพ่อ ท่านพ่อ แค่กแค่ก"เพราะควันที่มีมากจนเกินไป ทำให้ไป๋จินเซียงไออกมาไม่หยุด นางรีบพุ่งเข้าไปที่ห้องของบิดา ก่อนจะพบว่ายามนี้ท่านพ่อของนางนอนสลบไม่ได้สติไปเสียแล้ว หญิง
last updateLast Updated : 2025-06-17
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status