ไอรดานั่งทำเซ็งอยู่หน้าจอแมคบุ๊คเพราะอติรุจน์ส่งภาพฮันนีมูนของเขากับพนามาให้ดู แล้วยังใจดีไปถ่ายรูปผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายเธอส่งมาด้วยและเป็นหน้าที่ของไอรดาที่จะตกแต่งภาพนั้นให้ดูสมบูรณ์ขึ้นก่อนจะโพสต์ลงไอจีเพื่อยืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก
เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนมาคอมเมนต์เธอก็ยิ่งรู้สึกผิด หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะโกหกมากไปกว่านี้อีกแล้ว
สามวันที่ผ่านมาไอรดาไม่ได้ลงไปไหนเลยเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก แต่วันนี้มันก็น่าเบื่อเกินกว่าจะนั่งๆ นอนอยู่ในห้อง หญิงสาวจึงหยิบกางเกงยีนขาสั้นขาดๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่กับเสื้อสายเดี่ยวสีครีมมาสวมก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพเพื่อตรงไปยังปราณบุรี เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับไปเริ่มงานในอีกสามวันข้างหน้า หลังจากที่ครบกำหนดวันลา
ไอรดาเข้าพักยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของครอบครัวสริตาซึ่งที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก บ้านพักแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันพอสมควรอีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวอีกด้วย
หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อนจะไปทานอาหารทะเลที่ร้านเล็กๆ ริมหาด
พอตกกลางคืนก็ออกมาฟังเพลงที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งเธอเห็นแล้วว่าด้านในนั้นมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
หญิงสาวนั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์ตามลำพัง เวลาผ่านไปผู้คนก็ยิ่งมากขึ้น เสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดคลอก็เปลี่ยนเป็นจังหวะสนุกสนาน ไอรดาไม่ค่อยแบบนี้เท่าไหร่ หญิงสาวจึงออกมาจากร้านและเดินเล่นยังบริเวณชายหาดของโรงแรมหรูซึ่งเป็นส่วนเดียวกับรีสอร์ตที่เธอเข้าพัก
“อัยย์ อัยย์ครับ”
ไอรดารีบหันไปตามเสียงแล้วหัวใจเธอกระตุกวูบเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอเขาที่นี่อีกครั้ง เธอไม่อยากจะยอมรับเลยว่ารู้สึกดีใจที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง
“คุณชาน์”
“ครับผมเอง ผมดีใจนะที่เจอคุณที่นี่ ตอนแรกที่เห็นคุณเดินผ่านหน้าโรงแรมไปก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่จึงเสี่ยงวิ่งตามออกมาก”
“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
“ผมมาประชุมครับ”
“คุณมาเที่ยวเหรอครับ มากี่วันแล้วคุณพักที่ไหน มาคนเดียวหรือเปล่า” ปิญชาน์แปลกใจที่ตัวเองถามออกไปอย่างนั้นเพราะปกติแล้วเขาเป็นคนไม่ค่อยสนใจคนอื่น แต่กับไอรดาชายหนุ่มรู้สึกว่าการคุยกับเธอเป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุข
“ใจเย็นๆ ค่ะ ถามมาเป็นชุดแบบนั้นอัยย์ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน”
“เราไปหาที่นั่งคุยกันไหม”
“คุยตรงนี้ก็ได้ค่ะ ลมพัดเย็นๆ แบบนี้สบายดีออก”
“งั้นเดินไปคุยไปไหมครับยุงจะได้ไม่กัด”
“ค่ะ”
“คุณพักที่ไหนครับ” เขาเริ่มถามอีกครั้งเมื่อเดินออกมายังบริเวณชายหาดที่ไกลออกมาจากหน้าโรงแรมเรื่อยๆ
“รีสอร์ตเดียวกับโรงแรมนี้แหละค่ะ”
“อ๋อ ผมนึกออกแล้ว” เขาเองก็เคยไปพักที่นั่นเวลาที่มาเที่ยวกับเพื่อน แต่ครั้งนี้เขามาประชุมวิชาการเลยพักที่โรงแรมซึ่งทางบริษัทจำหน่ายยาเป็นผู้สนับสนุนเรื่องที่พักให้กับคุณหมอทุกคนที่มาประชุมในครั้งนี้
“คุณมาคนเดียวใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ผมดีใจที่เจอคุณอีกนะครับอัยย์ เหมือนพรหมลิขิตเลยคุณว่าไหม”
“ไม่คิดว่าคุณจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยนะคะ”
“แต่ก่อนก็ไม่เชื่อครับพอเจอคุณถึงเชื่อ”
“ปากหวานจังเลยนะคะ อย่างนี้เวลาทำงานคนได้ทิปเยอะมาก”
“คุณพูดเหมือนไม่ค่อยพอใจกับงานของผม”
“เปล่านะคะ อัยย์แค่พูดไปตามความรู้สึก”
“อัยย์ ผมว่าจะเลิกทำงานกลางคืนแบบนั้น”
“เพราะอะไรคะ”
“ถ้าบอกว่าเพราะคุณจะเชื่อไหม”
“ไม่ค่ะ อัยย์คงไม่มีอิทธิพลกับคุณขนาดนั้นหรอกนะคะ”
“ผมพูดจริงๆ ตั้งแต่คืนนั้นผมก็ไม่รับงานอีกเลย”
“คุณทำให้อัยย์รู้สึกผิดที่ทำให้คุณขาดรายได้”
“งานนั้นก็แค่งานเสริม ผมยังมีงานประจำนี่ครับ”
“แล้วเจ้านายคุณจะไม่ว่าเหรอคะ”
“ไม่หรอกครับ”
“อัยย์ว่าหน้าตาดีอย่างคุณคงเรียกแขกเข้าร้านได้มาก ถ้าพี่รัชรู้ว่าที่คุณลาออกเพราะอัยย์เขาได้มาเล่นงานอัยย์แน่ๆ”
“ผมอยากเป็นเพื่อนคุณแต่ถ้าผมยังทำงานแบบนั้นอยู่ผมว่ามันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“คุณอยากเป็นเพื่อนกับอัยย์เหรอคะ”
“จริงๆ แล้วผมก็อยากเป็นมากกว่านั้นได้ไหม ผมชอบคุณจริงๆ นะ คุณจะเชื่อไหมว่าผมไม่เคยนอนกับแขกคนอื่นนอกจากคุณคนเดียวเพราะมันเป็นกฎของที่ร้าน ถ้าคุณไม่เชื่อจะลองไปถามคุณรัชก็ได้นะครับ”
“แล้วทำไม่คืนนั้นถึงมานอนกับฉันล่ะ”
“เพราะผมชอบคุณ คุณเป็นคนที่สวยมากโดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม แต่พอพูดถึงอดีตสามีคุณกลับทำหน้าเศร้าซึ่งผมไม่ชอบเท่าไหร่ ผมเลยอยากอยู่กับคุณอยากทำให้คุณยิ้ม”
“ฉันว่ามันฟังดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่นะคะ”
“ผมพูดจริงๆ นะอัยย์”
“คุณชาน์คะ อัยย์ว่าคุณกำลังอยากรับผิดชอบเรื่องคืนนั้นมากกว่า”
“คุณไม่อยากให้ผมรับผิดชอบเหรอ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เราต่างก็มีความสุขด้วยกันทั้งคู่ อีกอย่างใครๆ ก็รู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว เรื่องความบริสุทธิ์มันถูกทำลายไปตั้งแต่คืนเข้าหอแล้วล่ะคะ”
“คุณอย่าปิดกันตัวเองสิ ลองคบกันดูก่อนไหม”
“คุณไม่อึดอัดเหรอคะถ้าคบกับฉัน เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้จนกว่าจะครบหนึ่งปี”
“ผมว่าตื่นเต้นดีออก เหมือนอย่างวันนี้เราไม่ได้มาด้วยกันแต่เราก็มาเจอกัน”
“นะครับอัยย์” ชายหนุ่มหยุดแล้วหันมามองหน้าเธออยากต้องการคำตอบ
“อัยย์ขอถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหม”
“ครับถามมาเลย”
“ในสายตาคุณ อัยย์เป็นผู้หญิงใจง่ายใช่ไหม”
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ”
“ก็เพราะอัยย์ยอมนอนกับคุณตั้งแต่เจอกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ”
“เวลามันไม่สำคัญหรอกครับ ผมโฟกัสที่ความสุข อีกอย่างคุณกับแฟนคบกันมาเกือบสามปี แต่ไม่เคยมีอะไรกันเพราะคุณกับเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนกันนี่ครับ”
“คุณกำลังจะบอกว่าเพราะคุณกับฉันรู้สึกเหมือนกันเหรอคะคุณชาน์”
“ครับ คุณกำลังกับผมกำลังเหงาด้วยกันทั้งคู่”
“เพราะเหงาเหรอคะถึงมาทำงานกลางคืน”
“ครับ” ยิ่งคุยกับไอรดาปิญชาน์ก็ยิ่งรู้สึกผิด
“คุณอัยย์ครับถ้าผมไม่ได้ทำงานแบบนั้นเราจะคบกันได้ไหมครับ”
“ที่อัยย์ไม่คบกับคุณไม่ใช่เพราะงานของคุณหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะอัยย์ยังไม่มั่นใจตัวเองเลยว่าระหว่างที่เราคบกันมันจะไม่มีปัญหาอื่นตามมา”
“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องที่คนอื่นจะรู้ หรืออดีตสามีของคุณจะรู้ล่ะก็ ผมสัญญาเลยครับว่าผมจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ผมจะรอจนครบหนึ่งปี”
“คุณไม่คิดบ้างเหรอคะว่า เราอาจจะเลิกกันก่อนถึงหนึ่งปีก็ได้”
“ผมนึกไม่ออกว่าเราจะเลิกกันด้วยสาเหตุอะไร” ปิญชาน์จับมือของหญิงสาวขึ้นมากุมไว้ทั้งสองข้าง ความรู้สึกที่มีให้กับเธอนั้นจะเรียกว่ารักก็คงจะไม่ผิด มันคงฟังดูไม่น่าเชื่อแต่เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ได้ขโมยหัวใจของเขาไปแล้ว และคงขโมยไปตั้งแต่คืนนั้น คืนที่เขากับเธอเต้นรำด้วยกันในผับของสารัช
“อย่าพูดว่าเลิกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลองคบสิอัยย์”
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ