ไอรดายังลังเลที่จะตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงไม่ได้รบเร้ามากนักเพราะเขายังมีเวลาทำความรู้จักเธออีกมาก และตอนนี้เขาก็เดินมาส่งเธอถึงหน้ารีสอร์ต
“ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง”
“จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ”
“คุณเดินมาส่งเองนะคะอัยย์ไม่ได้ขอให้คุณมาส่งสักหน่อย”
“ขอแค่จูบนิดเดียวแล้วจะรีบกลับครับ”
“นิดเดียวแน่นะคะ ห้ามทำมากกว่านั้นนะคะ” ไอรดาเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำ เมื่อเขาจ้องเธอราวกับว่ามันจะไม่จบแค่จูบอย่างที่บอก
“ครับแค่จูบ”
ปิญชาน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อเห็นว่าเธอเลียริมฝีปากของตนเองด้วยความประหม่า ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ ถูจมูกของตนเองกับจมูกของหญิงสาวอย่างหยอกล้อ
ตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อริมฝีปากของคนตัวโตทับทาบลงมาจนชิด จูบครั้งนี้แผ่วเบานุ่มนวลและหวานจนร่างไอรดาอ่อนระทวยแล้วชายหนุ่มก็โอบรัดเธอเข้ามาจนแนบชิดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“อื้ม”
ไอรดาครางประท้วงเมื่อปากร้อนที่กำลังดูชิมความหวานอยู่นั้นเพิ่มความเร่าร้อน ปลายลิ้นดุนดันจนกลีบปากนุ่มเปิดแยกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานจากโพรงปากที่เขาเคยได้ลิ้มรสมาแล้วและยังคิดใจมาจนถึงทุกวันนี้ จูบครั้งนี้มันนานจนไอรดารู้สึกหายใจไม่ออกเธอจึงทุบที่อกแกร่งเบาๆ เมื่อเขาถอนจูบออกเธอก็รีบฮุบอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว
“หวานมาก”
“คุณชาน์อัยย์ว่าคุณควรกลับได้แล้วอัยย์อยากพักผ่อน”
“ฝันดีนะครับอัยย์”
“ฝันดีเช่นกันค่ะคุณชาน์”
พอชายหนุ่มกลับไปแล้วไอรดาก็ถอนหายใจอย่างแรงถ้าเมื่อครู่เข้าไม่ยอมจบแค่จูบเธอก็คงจะห้ามอะไรไม่ได้เพราะร่างกายกำลังเรียกร้องให้เขาทำมากกว่าแค่การจูบ
หญิงสาวรีบอาบน้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มในกายเมื่อแต่เมื่อน้ำจากฝักบัวกระทบกับทรวงอกอวบก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายของเธอร้อนมากขึ้นไปอีก
เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นปฏิกิริยาที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและไม่มีใครฝืนได้ กว่าความรู้สึกจะกลับมาเป็นปกติเธอก็ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าทุกวัน
หญิงสาวล้มตัวลงนอนแต่พยายามหลับยังไงจิตใจก็ยังว้าวุ่นคิดถึงแต่เรื่องที่คุยกับเขาเมื่อตอนหัวค่ำ เธอไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้ว่าการคบกับเขานั้นมันคือการคบแบบไหน และเธอก็โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเองได้
อีกอย่างเธอก็หย่ากับอติรุจน์แล้วถ้าจะลองเปิดใจคบกับเขาดูก็คงไม่ยาก ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาอาจจะเคยทำงานกลางคืนมาก่อนแต่เมื่อเขาบอกว่าจะเลิกทำ ไอรดาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจอดีตของเขา ในเมื่อเขายังรับได้ที่รู้ว่าเธอนั้นเป็นแม่หม้าย
ในขณะที่ไอรดากำลังใช้ความคิดอย่างหนักเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมาหญิงสาวก็รีบกดรีบ
“สวัสดีค่ะคุณชาน์ ยังไม่นอนเหรอคะ”
“ผมนอนไม่หลับครับ ผมโทรมากวนคุณหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปิดประตูให้หน่อยได้ไหม”
“ประตูอะไรคะ คุณคงไม่อยู่หน้าบ้านของอัยย์ใช่ไหมคะ”
“บังเอิญว่ามันใช่ครับ”
ไอรดาไม่รู้ว่าเขามาทำไม่เวลานี้แต่เธอก็รีบเดินไปเปิดประตูให้เขาอย่างรวดเร็วอย่างน้อยในคืนที่เหงาและสับสนถ้ามีใครสักคนมาคุยด้วยก็คงจะดีไม่น้อย
“อัยย์คุณก็นอนไม่หลับเหมือนกันใช่ไหม”
“คุณชาน์รู้ได้ยังไงว่าอัยย์นอนไม่หลับ”
“ก็เรื่องเมื่อตอนหัวค่ำ ถ้าเราไม่ทำต่อผมว่าคืนนี้ไม่ผมก็คุณคงมีคนคลั่งแน่ๆ ผมขอนะอัยย์”
ไอรดายังไม่ทันจะตอบคำถามเขาก็เดินเข้ามาในบ้านก่อนจะก้มจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากบางจนหญิงสาวอ่อนระทวยไปทั่วทั้งร่าง
“อื้ม”
เธอครางออกมาเบาๆ นั่นยิ่งเพิ่มแรงปรารถนาในตัวปิญชาน์ให้มากขึ้น เขาอุ้มเธอตรงไปยังห้องนอนที่เปิดกว้างแล้ววางลงบนเตียงก่อนจะทับทาบร่างของตัวเองลงไป จูบบนริมฝีปากบางอีกครั้ง ซุกไซ้ไปทั่วลำคอขาว ดูดเบาๆ แล้วขบเม้มไปที่ติ่งหูอย่างหยอกล้อ
“คุณชาน์”
เธอครางชื่อเขาออกมาอย่างลืมตัวร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟ มือเล็กรูปไล้ไปบนลำตัวของชายหนุ่มอย่างหลงใหล ปิญชาน์ดึงเสื้อยืดออกทางศีรษะก่อนจะปลดตะขอบราสีหวานออกอย่างรวดเร็วคลึงเคล้นอกอวบอิ่มอย่างหลงใหล แล้วริมฝีปากก็กดจูบดูดเม้มเลียไล้ไปมา ตาคมมองขึ้นมาประสานสายตาคู่สวยที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน
“ชอบไหมอัยย์ ชอบที่ผมแบบนี้หรือเปล่า”
เขาถอนริมฝีปากออกจากความอวบอิ่มมาถามไอรดาได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ ปิญชาน์ยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบที่ได้รับส่งเรียวลิ้นร้อนตวัดโลมเลียปลายถันสีชมพูสดที่หดเกร็งเป็นตุ่มไตเข้าปากอย่างโหยหา
หญิงสาวมองใบหน้าหล่อที่ปรนเปรอทรวงอกของตนเองด้วยสายตาที่หวานเชื่อม อารมณ์วาบหวามลามเลียไปทุกรูขุมขน ร่างกายแอ่นโค้งเข้าหาปากร้อน รู้สึกถึงใจกลางความเป็นสาวของตนเองกำลังตอดตุบๆ
ไฟพิศวาสถูกจุดไว้ตั้งแต่หัวค่ำ พอเขามาราดน้ำมันลงไปแบบนี้มันก็ลุกโหมกระหน่ำได้อย่างรวดเร็ว
ปิญชาน์จูบพรมขบเม้นจนเต้าอวบเปียกชื้น มือใหญ่ลากไปตามสีข้างก่อนจะบีบสะโพกงอนงามอย่างอดใจไม่ไหว ไอรดาครางหวานเมื่อเขานวดวนมาทางต้นขาด้านใน
“อัยย์ ขอผมกินนะ”
ชายหนุ่มกล่าวเสียงแหบก่อนจะก้มลงกลางกายสาวที่ตอนนี้มันเปลือยเปล่าเพราะเขาถอดกางเกงขาสั้นกับชั้นในตัวบางออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่เจ้าของก็ไม่ได้เอ่ยห้าม
“คุณชาน์ อย่า อื้ม ....”
สะโพกงอนงามเด้งขึ้นเมื่อปลายกุหลาบดอกสวยถูกภมรหนุ่มเชยชมด้วยปลายลิ้นเปียกร้อน เขาลากไล้ขึ้นลงอย่างหลงใหลก่อนจะตวัดเลียชอนไชดื่มกินน้ำหวานที่กำลังไหลออกมา ร่างเย้ายวนดิ้นพล่านแทบจะขาดใจ เสียวซ่านกับสัมผัสร้อนที่เขาปรนเปรอให้ เธอสะท้านเยือก รู้สึกซ่านสยิวราวใจจะขาด
หญิงสาวแอ่นหยัดสะโพกเข้าหาลิ้นร้อนที่กำลังตวัดรัวบนเกสรสวาทส่งให้น้ำหวานไหลรินอย่างไม่ขาดสาย สองมือดึงรั้งผ้าปูที่นอนขึ้นมาจนยับย่น
“คุณชาน์ อื้อ อัยย์จะไม่ไหว"
หญิงสาวครางกระเส่าร่างกายบิดเร่า โพรงถ้ำตอดรัดปลายลิ้นร้อน สมองพร่าเลือนเมื่อไปถึงฝั่งฝันอย่างที่ปรารถนา
ปิญชาน์ดูดซับน้ำหวานพร้อมครางต่ำอย่างพึงพอใจ ยิ่งได้ลิ้มรสร่างกายก็ตื่นตัวและปวดร้าว
“อัยย์ ขอนะ”
“มาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังจะขออีกเหรอคะ
“ก็ผมอยากมั่นใจว่าผมไม่ได้บังคับคุณ” เขาตอบด้วยเสียงที่เจอไปด้วยอารมณ์ตัณหาอย่างปิดไม่มิด และเมื่อเห็นรอยยิ้ม และแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการเขาก็กระตุกยิ้มก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรวดเร็วราวกับว่าถ้าช้าไปกว่านี้หญิงสาวจะเปลี่ยนใจและหนีหายไปจากเขา
ลำกายแข็งร้อนค่อยๆ กดคลึงเข้าช่องทางรัก ที่อาบไปด้วยน้ำหวานทีละนิด ผ่านความคับแน่นอย่างช้าๆ ปากร้อนก็บดจูบเติมไฟตัณหาสองมือบีบขยำสองเต้าอวบอิ่ม จนเธอต้องจิกไปบนแผ่นหลังอย่างทนไม่ไหว
“อย่าเกร็งนะอัยย์”
เขาพยามให้เธอผ่อนคลายอย่างเต็มที่ขณะกดตัวตนเข้าไปอย่างยากลำบาก กว่าจะเข้าลึกได้สุดทางรักก็ปวดร้าวเจียนจะขาดใจ
“อัยย์ ของคุณคับแน่นมาก อ่าห์..”
ปิญชาน์ครางแหบพร่าเมื่อตัวตนของเขาถูกความอ่อนนุ่มโอบรัด เขาเริ่มขยับเข้าหาช่องทางสวาท ช้าเนิบนาบกดหมุนวนจนหญิงสาวครางกระเส่า ก่อนจังหวะจะเปลี่ยนเป็นแรงขึ้นเมื่อไฟราคะในกายปะทุเดือด
“คุณชาน์...อื้ม”
ไอรดาครางกระเส่า ร่างกายตอบรับกับทุกจังหวะที่ถาโถม เวลาผ่านไปก็ยิ่งเสียวสะท้านยิ่งขึ้น เธอเสียวจนไม่อาจครองสติของตนเองได้
ร่างขาวนวลบิดเร่าส่ายรักกับความใหญ่โตที่เข้ามาลึกครั้งแล้วครั้งเล่า คนตัวโตก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ยั้ง ยิ่งเห็นร่างเธอสั่นคลอนเต้าอวบเด้งไปตามจังหวะสะโพกที่สวนเข้าออกก็ยิ่งกระตุ้นให้ถาโถมแรงขึ้นไปเรื่อย
ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวก้มลงมาดูดกลืนเม็ดทับทิมสีสวยอีกครั้ง ดูดแรงสลับซ้ายขวาทุกสัมผัสสร้างความเสียวซ่านจนไอรดาเริ่มจะทนไม่ไหว
“คุณชาน์ อัยย์ไม่ไหว คุณชาน์ขาอีกนิดนะคะ เร็วอีกนิด อื้อ แบบนั้น อัยย์ อื้อคุณชาน์....”
เสียงหวานครางกระท่อนกระแท่นก่อนจะกรีดร้องอย่างสุขสมเมื่อร่างกายพบพานกับความสุข เธอเกร็งกระตุก สองมือจิกไปบนไหล่อย่างหาที่ระบาย หอบเหนื่อยจนตัวโยน
“เด็ดมากอัยย์ ผมชอบที่คุณเรียกชื่อผมเวลาเสร็จ”
เขาเอ่ยเสียงพร่าขณะที่ยังคงสอบสะโพกเข้าออกอย่างไม่ยั้ง ร่างกายปวดร้าวเพราะแรงบีบรัดจนต้องรีบตอกอัดกระแทกเข้าถ้ำลึก
“อื้ม อัยย์ตอดแรงๆ แบบนั้น เยี่ยมเลยอัยย์ของผมคนเก่ง”
ใบหน้าของปิญชาน์แดงก่ำ ทั้งเสียวซ่านและทรมานกับการถูกบีบรัด
“อื้อ คุณชาน์ทำอัยย์เสียวอีกแล้วคุณชาน์”
ไอรดาครางหวานเมื่อถูกฝ่ามือหนาจับบีบคลึงสะโพกอวบกระชับแน่นก่อนที่จะกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เธอรู้สึกว่าครั้งนี้เขาเข้ามาลึกจนส่วนปลายกระทบกับปากมดลูกอย่างแรง มันสร้างความเสียวซ่านขึ้นมาอีกเป็นทวีคูณ
เมื่อเสียงหวานครางไม่ขาดปากเขาก็เรียนรู้ว่าจุดไหนในร่างกายของเธอที่เขาควรจะตอกย้ำเพื่อเพิ่มความเสียวซ่าน เมื่อจุดอ่อนไหวที่สุดของร่างกายโดนกระตุ้นถี่ๆ ช่องทางรักก็บีบรัด ร่างกายสั่นสะท้านอย่างคุมไม่อยู่
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะทานทนกับความรู้สึกแบบนี้ได้ แม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
“ตอดแรงดีมากอัยย์ โอ่วว ซี๊ดดดดด” เสียงทุ้มครางออกมาอย่างไม่อาจห้าม
“คุณชาน์ อื้อ อัยย์ว่ามันจะถึงอีกแล้ว คุณชาน์มันเสียว”
“ใจเย็นอัยย์ อีกนิดเราจะไปพร้อมกันนะ”
ไอรดาสั่นสะท้านก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อคลื่นความเสียวถาโถมเข้าใส่ระลอกแล้วระลอกเล่า ปิญชาน์กดปลายนิ้ว สัมผัสบนติ่งกระสันที่กำลังสั่นระริกไป สะกิดรัวอย่างหนักหน่วงในขณะที่แก่นกายร้อนก็กระแทกกระทั้นอย่างเร่าร้อนจนเธอแทบขาดใจ น้ำหวานจากโพรงอ่อนนุ่มชโลมจนชุ่มโชกท่อนเอ็นร้อนทำให้เกินเสียงดังอย่างน่าอาย
“คุณชาน์อัยย์ อื้อ อัยย์จะไม่ไหว”
“อีกนิดอัยย์ ตอดแรงแบบนั้นโคตรเด็ดเลยอัยย์”
เสียงกระซิบแหบพร่า อารมณ์ปรารถนาของเขากำลังพุ่งสูง สะโพกสอบโจนจ้วงกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง ไอรดาเกร็งสะโพกขึ้นรับแรงกระแทกจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังกว่าทุกครั้ง ช่องทางรักบีบรัดอย่างรุนแรงจนคนที่ขยับโยกอยู่ทางด้านบนเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นแบบไม่มียั้งจากนั้นเปลี่ยนเป็นถอนออกเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าลึกอีกไม่กี่ครั้งทั้งสองคนก็ร้องครางลั่นห้อง
ลาวาร้อนพวยพุ่งเข้าสู่โพรงสาวจนเธออุ่นวาบไปทั้งท้องน้อย
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ