หยวนเพ่ยได้ยินเช่นนั้นก็แทบทรงตัวไม่อยู่ โชคดีที่มีหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลานช่วยประคอง และมีหยวนหลี่ผู้เป็นมารดาบีบมือบุตรสาวไว้แน่น แล้วเอ่ยเบาๆ“ใจเย็นๆ ฟังให้จบก่อน”หญิงสาวได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นก็พยักหน้า นางสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย“เรื่องเป็นมาอย่างไร”อู่จี๋หอบหายใจครู่หนึ่งจึงกัดฟันเอ่ยต่อ“เมื่อวั
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างไม่มั่นคงและทุกข์ทรมานที่สุดนับตั้งแต่หยวนเพ่ยรู้จักวิธีหายใจ รายงานอาการบาดเจ็บของฉู่หวางที่ถูกส่งมาสัปดาห์ละสองฉบับนั้น แต่ละครั้งล้วนเป็นรายงานที่ไม่อาจนับได้เต็มปากว่าเป็นข่าวดี ถึงแม้เขาจะพ้นขีดอันตราย แต่ร่างกายของเขาก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งตัวกลับมายังซีหนิงได้ ทำให้หยวนเ
หวงตี้จูงมือหยวนเพ่ยเข้ามายังสวนด้านใน สร้างความแตกตื่นให้แก่นางกำนัลที่พบเห็นไม่น้อย หยวนเพ่ยเองก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง หนึ่ง ด้วยนางกำลังครรภ์แก่ใกล้คลอด สอง อีกฝ่ายเป็นถึงหวงตี้ ตอนนี้สถานการณ์ในจวนก็ย่ำแย่พอแล้ว ถ้าเกิดนางเผลอพลั้งมือซัดหวงตี้สลบเหมือนตอนสยบท่านข่านด้วยขากวาง เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่
หยวนเพ่ยได้ฟังข้อหาใหม่เช่นนี้ยิ่งงุนงงหนัก “เขาไปล่วงเกินฝ่าบาทตอนไหนหรือเพคะ”“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า” เขาชี้มาทางนาง“หม่อมฉัน? ผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็นแค่หรูเหริน เทียบเท่ากับตำแหน่งพระสนมขั้นไฉเหรินลำดับห้า ถ้านับตามยศแล้วหม่อมฉันย่อมต่ำชั้นกว่า หม่อมฉันจะคารวะเขาก่อนย่อมไม่แปลกเพคะ และที่เขาแตะ
ราตรีนี้เป็นวันแรกที่ฟู่หยวนเพ่ยถวายตัว...นางเป็นน้องสาวของลี่เฟย ฟู่หยวนฉุน พระสนมที่พระองค์โปรดปราน บัดนี้สามปีผ่านพ้น อีกทั้งลี่เฟยที่กำลังตั้งครรภ์ประสงค์ให้คนในครอบครัวอยู่ดูแล ตระกูลฟู่จึงได้ส่งนางเข้าวังฟู่หยวนเพ่ยภายนอกดูเหมือนคุณหนูในห้องหอทั่วไป คราแรกที่ได้พบ ใบหน้าเรียวขาวดังไข่ปอก ร่า
ฟู่หยวนเพ่ยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจถวายตัวแล้ว จึงกลับตำหนักชุนชิวที่พี่สาวของนางพักอยู่ เนื่องจากเป็นพระประสงค์ของลี่เฟยที่ต้องการให้น้องสาวอยู่ใกล้ๆ หวงตี้ จึงมีรับสั่งให้ยกเรือนฝั่งปีกซ้ายของตำหนักชุนชิวให้เป็นที่อยู่ของนาง เด็กสาวเดินเข้าไปยังภายในโดยไม่ลืมไปยังตึกฝั่งปีกขวาของตำหนักเพื่อคารวะลี่เ
ฟู่หยวนเพ่ยใช้เวลาอึดใจหนึ่งทำความเข้าใจกับที่บุรุษตรงหน้าเอ่ยขึ้นมา "ให้หม่อมฉันใช้เท้าเหยียบพระองค์หรือเพคะ?"อีกฝ่ายพยักหน้า "เหยียบเรา แบบที่เจ้าทำเมื่อสองวันก่อน"ทีแรกพระองค์นอนปวดกายอยู่บนเตียง ขยับไม่ได้แม้เพียงปลายนิ้ว แม้พยายามขยับก็ปวดร้าวแทบขาดใจ ไม่นึกเลยว่าตนเองต้องมีสภาพน่าสมเพชอยู่ถ
การที่หยวนเพ่ยเอ่ยออกมาเช่นนั้นเพราะไม่อยากให้เรื่องราวของนางไปบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยไม่จำเป็น เคยมีคนกล่าวว่า แม้ผีเสื้อขยับปีกย่อมเกิดผลกระทบใหญ่หลวง ถ้าเกิดว่าวิชาของนางทำให้ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไป ตัวนางเองหรือแม้แต่คนอื่นๆ บนภพภูมิที่จากมา อาจได้รับผลกระทบที่น่าหวาดหวั่นตามมา นางคิดเพียงว่าแ
หยวนเพ่ยได้ฟังข้อหาใหม่เช่นนี้ยิ่งงุนงงหนัก “เขาไปล่วงเกินฝ่าบาทตอนไหนหรือเพคะ”“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า” เขาชี้มาทางนาง“หม่อมฉัน? ผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็นแค่หรูเหริน เทียบเท่ากับตำแหน่งพระสนมขั้นไฉเหรินลำดับห้า ถ้านับตามยศแล้วหม่อมฉันย่อมต่ำชั้นกว่า หม่อมฉันจะคารวะเขาก่อนย่อมไม่แปลกเพคะ และที่เขาแตะ
หวงตี้จูงมือหยวนเพ่ยเข้ามายังสวนด้านใน สร้างความแตกตื่นให้แก่นางกำนัลที่พบเห็นไม่น้อย หยวนเพ่ยเองก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง หนึ่ง ด้วยนางกำลังครรภ์แก่ใกล้คลอด สอง อีกฝ่ายเป็นถึงหวงตี้ ตอนนี้สถานการณ์ในจวนก็ย่ำแย่พอแล้ว ถ้าเกิดนางเผลอพลั้งมือซัดหวงตี้สลบเหมือนตอนสยบท่านข่านด้วยขากวาง เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างไม่มั่นคงและทุกข์ทรมานที่สุดนับตั้งแต่หยวนเพ่ยรู้จักวิธีหายใจ รายงานอาการบาดเจ็บของฉู่หวางที่ถูกส่งมาสัปดาห์ละสองฉบับนั้น แต่ละครั้งล้วนเป็นรายงานที่ไม่อาจนับได้เต็มปากว่าเป็นข่าวดี ถึงแม้เขาจะพ้นขีดอันตราย แต่ร่างกายของเขาก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งตัวกลับมายังซีหนิงได้ ทำให้หยวนเ
หยวนเพ่ยได้ยินเช่นนั้นก็แทบทรงตัวไม่อยู่ โชคดีที่มีหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลานช่วยประคอง และมีหยวนหลี่ผู้เป็นมารดาบีบมือบุตรสาวไว้แน่น แล้วเอ่ยเบาๆ“ใจเย็นๆ ฟังให้จบก่อน”หญิงสาวได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นก็พยักหน้า นางสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย“เรื่องเป็นมาอย่างไร”อู่จี๋หอบหายใจครู่หนึ่งจึงกัดฟันเอ่ยต่อ“เมื่อวั
สองเดือนหลังจากนั้น หยวนเพ่ยก็ได้รับข่าวดีว่าทัพของฉู่หวางได้รับชัยชนะ บัดนี้อยู่ในค่ายของซีซย่า คาดว่าอีกสามวันถึงจะเดินทางกลับสู่ซีหนิงหญิงสาวที่ได้ยินข่าวดีเช่นนี้ก็ให้เบาใจ นางในตอนนี้อายุครรภ์เจ็ดเดือน แต่ครรภ์กลับใหญ่โตอุ้ยอ้ายยิ่ง จะนั่งก็ลำบาก จะยืนก็ปวดขา ขนาดหยวนหลี่ผู้เป็นมารดายังอดทักไม
ย้อนกลับมาปัจจุบันฉู่หวางรู้ดีว่าพระเชษฐาของตนเป็นบุรุษที่ไม่เคยทำให้ผู้อื่นสมความปรารถนาได้โดยที่คนผู้นั้นไม่ทำสิ่งใดให้ ดังนั้นสิ่งที่ฉู่หวางต้องตอบแทนคือการปราบปรามความสงบในชายแดนซีหนิงที่มีพวกทั่วป๋าและทังกุสออกอาละวาด ชายแดนซีหนิงสงบเมื่อใด สารแต่งตั้งหยวนเพ่ยเป็นหวังเฟยจะส่งถึงมือเขาทันทีหยว
คืนนั้นหวงตี้มาค้างยังตำหนักของซูเฟย เนื่องจากโปรดองค์หญิงเมี่ยวอวิ๋น ธิดาที่ประสูติจากซูเฟย บัดนี้พระชนมายุเกือบหกเดือน น่ารักน่าชังยิ่งนัก ดังนั้นเมื่อพอมีเวลา พระองค์จะมีรับสั่งให้นำฎีกาส่วนหนึ่งที่ยังสะสางไม่เสร็จจากห้องทรงพระอักษรไปยังตำหนักซูเฟย พระองค์โปรดเล่นหยอกเย้ากับพระธิดาตัวน้อยพร้อมส่ง
ย้อนกลับไปยังพระราชวังต้าหมิงกง ฉางอัน หลายเดือนก่อนหน้าในวังหลวง กระแสแห่งยศศักดิ์ขึ้นลงรุนแรงราวกระแสน้ำหลาก เฉากุ้ยเฟยได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นหวงโฮ่ว แต่งตั้งองค์ชายจื่อหยวนเป็นหวงไท่จื่อ [1]มีกำหนดการสถาปนาในอีกสี่เดือนข้างหน้า บัดนี้ตำแหน่งโซ่วคังของเฉากุ้ยเฟยคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ของขวัญแสดงความ
หลังจากกลับมายังซีซย่า ฉู่หวางก็ส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง ขอพระบรมราชานุญาตจากหวงตี้ขออยู่ที่ซีหนิงต่ออีกหนึ่งปี จนกว่าหยวนเพ่ยจะคลอดและแข็งแรงพอที่จะกลับไปยังฉางอัน ถ้ามีเอกสารอันใดเร่งด่วน ขอให้ใช้ม้าเร็วส่งเอกสารมาหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราชโองการอนุญาตก็ส่งมาถึง พร้อมทั้งทองคำและแพรพรรณวิจิ