หญิงสาวจัดการย้ายข้าวของเข้าไปไว้ในครัวจนเรียบร้อย หลังจากเห็นสามีกลับมาพร้อมปลาตามที่ต้องการ อีกทั้งปลาสองตัวที่จะนำมาทำอาหารเย็น ก็จัดการทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นสามีพาบุตรชายทั้งสองออกไปนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน นางจึงวางใจเดินกลับเข้าห้องไปอีกครั้ง ก่อนจะนำผ้าทั้ง2พับขึ้นมาดูอย่างครุ่นคิด นางเริ่มนำผ้าเช็ดหน้า ถุงเครื่องหอม และ ถุงเงินขึ้นมาพิจารณา จากนั้นจึงเลาะถุงเงิน ตามด้วยถุงเครื่องหอมออกเพื่อศึกษาวิธีการตัดเย็บ อาจจะเป็นด้วยโชคชะตากำหนดไว้ให้ จึงทำให้ช่วงหนึ่งในเวลาที่ยากลำบาก นางเคยทำงานอยู่ในร้านเสื้อผ้าชั้นสูงแห่งหนึ่ง ร้านร้านนี้เป็นร้านไม่ใหญ่มาก แต่ราคาเสื้อผ้าแต่ละตัวแพงลิบลิ่วทีเดียว เนื่องจากเสื้อผ้าที่ตัดแต่ละตัว รวมไปถึงการปักลวดลายต่างๆ จะต้องใช้มือปักเท่านั้น งานที่ออกมาแต่ละตัวจะได้รับการตรวจทานจากสายตาอันเฉียบคมของเจ้าของร้าน หากทำไม่ดีไม่ละเอียดจะถูกต่อว่าและให้นำกลับไปแก้ไขมาใหม่ให้เรียบร้อย เว่ยเหนียนเหยาเป็นคนหัวดี แถมยังละเอียดใส่ใจ เจ้าของร้านจึงเอ็นดูนางเป็นอย่างมาก พร่ำสอนสิ่งต่างๆ ให้อย่างไม่คิดหวงวิชา ตอนนี้นางรู้สึกขอบคุณเจ้าของร้านเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยเวลานี้นางก็สามารถนำมันมาเปลี่ยนเป็นรายได้สำหรับเลี้ยงดูครอบครัวได้แล้ว หญิงสาวมัวแต่ง่วนอยู่กับการตัดเย็บ มารู้สึกตัวอีกทีก็เย็นเสียแล้ว นางรีบนำสิ่งของเข้าไปเก็บในตู้ ก่อนจะกระวีกระวาดเดินออกจากห้องไป ภายในบ้านยังคงไร้เงาคน มีเพียงแต่เสียงที่ดังเล็ดลอดเข้ามา บ่งบอกให้รับรู้ว่ามีคนอยู่ข้างนอกบ้าน ร่างบางเร่งเดินเข้าห้องครัว ก่อนจะลงมือหุงข้าว และทำอาหารเย็นอย่างมีความสุข หญิงสาวเริ่มลำเลียงอาหารออกมาจัดวางบนโต๊ะ "ท่านแม่ขอรับ กินข้าวเย็นได้หรือยังขอรับ ข้าหิวมากมากเลย" "ข้าก็ด้วยขอรับ ท่านแม่ทำอาหารอร่อยที่สุดเลยขอรับ" ร่างบางหันกลับไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะพบว่าสามคนพ่อลูกอาบน้ำมาเป็นที่เรียบร้อย นางยิ้มให้เด็กน้อยทั้งสอง ก่อนจะอุ้มตัวเจ้ารองขึ้นนั่งบนเก้าอี้ หันมาอีกทีเจ้าใหญ่ก็ปีนขึ้นไปนั่งประจำที่เรียบร้อยเสียแล้ว "พวกท่านลงมือกินกันไปก่อน ข้าขอตัวไปอาบน้ำสักครู่" "ท่านแม่ไม่เห็นจะเหม็นสักหน่อย " "จริงด้วยขอรับ ตัวท่านแม่หอมมากมาก" เมื่อมีบุตรชายทั้งสองคอยให้กำลังใจ ทำให้นางค่อยลดความกังวลใจเรื่องกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไปได้ "นั่งลงกินข้าวก่อนเถอะ ข้าหาบน้ำมาให้เจ้าแล้ว กินข้าวเสร็จค่อยไปอาบก็ได้" เมื่อความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ ทั้งหมดจึงนั่งล้อมวงกันเพื่อกินข้าวทันที "โอ้โห ท่านแม่ขอรับ วันนี้ทำไมมีของกินเยอะแยะจังขอรับ" "นั่นสิขอรับ ตอนนี้ข้าไม่รู้จะกินอะไรก่อนดีเลยขอรับ" เสียงเด็กน้อยพูดขึ้นอย่างดีใจ อาหารที่เด็กน้อยบอกว่ามีมากมาย กลับมีแค่ข้าวสวยพร้อมกับข้าว3อย่าง "งั้นพวกเจ้าลองกินทุกอย่างดีไหม จะได้ช่วยแม่ติชมด้วยว่าอร่อยหรือไม่" "ของที่ท่านแม่ทำ แน่นอนว่าต้องอร่อยมากมากขอรับ" หญิงสาวยิ้มรับคำชม ก่อนจะเริ่มตักน้ำแกงใส่เนื้อปลาและหน่อไม้ให้สามีเป็นคนแรก เด็กๆ เมื่อเห็นบิดาลงมือกินอาหาร ก็ใช้ตะเกียบหยิบจับอาหารตามทันทีอย่างไม่รีรอ "ท่านแม่ขอรับ สิ่งนี้เรียกว่าอะไรขอรับ ข้าชอบมากมากเลยขอรับ" "จานนี้เรียกว่าปลานึ่งจ๊ะ" "แล้วจานนี้ละขอรับท่านแม่ จานนี้ก็อร่อยเหมือนกันข้าชอบมากเหมือนกันขอรับ" เสียงเจ้ารองเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้พี่ชาย "จานนี้เรียกว่ามันฝรั่งผัดไข่ หากเจ้าชอบต่อไปแม่จะทำให้กินบ่อยๆ ดีหรือไม่" "ในเมื่อพวกเจ้าชอบก็กินเยอะๆ เลิกซักถามท่านแม่เจ้าเสียที ไม่เห็นหรือไร ว่าท่านแม่ของเจ้ายังไม่ได้ตักข้าวเข้าปากสักคำ" เสียงของบิดาปรามออกมา เมื่อเห็นว่าบุตรชายทั้งสองเอาแต่รบกวนจนนางยังไม่ได้กินข้าวแม้แต่น้อย เด็กทั้งสองเมื่อเห็นบิดาเอ่ยปากดุจึงรีบก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่สนใจพูดคุยกันอีกต่อไป เว่ยเหนียนเหยาให้รู้สึกเอ็นดูบุตรชาย เกรงว่าข้าวจะแห้งติดคอ จึงตักน้ำแกงพร้อมทั้งแกะเนื้อปลาส่งให้บุตรชายคนละถ้วย ก่อนจะลงมือกินข้าวของตัวเอง หลังจากกินข้าวเสร็จ นางก็ถูกสามีไล่ให้รีบไปอาบน้ำทันที เพราะเกรงว่าหากมืดกว่านี้อากาศจะหนาวเย็นจนเกินไป เมื่ออาบน้ำออกมา ก็พบว่าโต๊ะอาหารและข้าวของถูกทำความสะอาดเรียบร้อย รวมทั้งตัวคนก็อันตรธานหายไปเสียหมดสิ้น หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง ฝากเพื่อนๆ กด ❤️ ให้ไรท์ด้วยน้าาาาาาาาาา 🥰🥰🥰"ถูกต้องแล้ว นางไม่ใช่มารดาของเจ้า"หานตงหันกลับไปตามเสียง ร่างของชายชราเว่ยจื้อจงเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก"ท่านพี่ ท่านสัญญาแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ ท่านกล้าผิดคำสาบาน?""ตอนนี้อาตงโตแล้ว เขาดูแลตัวเองได้แล้ว ตอนนั้นเจ้าใช้ชีวิตอาตงยามที่เป็นเด็กมาข่มขู่ข้า บีบบังคับให้ข้าไม่กล้าพูดอะไร แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มีคนที่เขารักและรักเขาคอยอยู่เคียงข้าง เขาไม่ต้องการความรักของเจ้าอีกแล้ว ส่วนข้าวันนี้ที่ผิดคำสาบาน ข้ายินดีตายอย่างอนาถ เป็นผีไม่มีญาติที่ไม่มีคนคอยเซ่นไหว้"" ฮ่ะ ฮ่ะ ฮะ่ ท่านยินดีตายอย่างอนาถ เพราะท่านต้องการไปพบนังหมัวเล่อ นังน้องสาวสารเลวคนนั้นของข้าใช่หรือไม่ ข้ารู้นะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท่านเอาแต่คิดถึงมัน"นางเว่ยหมัวหลานสติแตก เมื่อต้องมาพูดถึงคนที่นางเกลียดเข้ากระดูก"อาหลาน คนก็ตายไปนานแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เคยปล่อยวาง""ปล่อยวาง ทำไมข้าต้องปล่อยวางด้วย ข้าเกลียดมัน ตั้งแต่มันเกิดมา ใครๆก็พากันรักแต่มัน ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อท่านแม่ หรือแม้แต่ท่าน มันก็รู้ว่าข้าหลงรักท่าน แต่มันก็ยังจะยั่วยวนท่านให้หลงใหลมัน ได้ยินไหมไอ้เด็กสารเลว แม่ของแกเป็นผู
ภายในห้องนอน หานตงกำลังออดอ้อนเมียรัก อย่างสำนึกผิด ที่ไม่รู้เท่าทันมารยาหญิง ยิ่งเมื่อรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคิดไม่ซื่อกับตน ถึงขนาดให้ญาติผู้ใหญ่ของนาง มาบีบบังคับภรรยาของเขาแบบนี้เขาก็ยิ่งรังเกียจเข้าไปใหญ่"ข้าว่าพวกเขาคงไม่หยุดแค่นี้แน่เจ้าค่ะ ต่อไปพวกเราต้องคอยระวังตัวให้ดีๆ แล้วตอนที่ข้าไม่อยู่ นางได้แสดงกิริยาอะไรกับท่านหรือไม่เจ้าคะ""ก็มีบ้างนะ แต่เจอฤทธิ์เจ้าสองแสบนั่นเข้าไป ก็เลยไม่กล้าทำอะไรอีก มีแต่ท่านแม่กับพี่ใหญ่นี่ละ"หานตงเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่นางออกไป แม่สามีกับพี่ชายคนโตก็บอกว่า รู้มาว่า ทางหานตงต้องการซื้อร้านในเมือง พวกเขามีคนรู้จัก ที่อยากขายร้านในย่านการค้าอยู่พอดี เพียงแต่ราคาที่ตั้งขายค่อนข้างสูง จึงหาคนซื้อได้ยาก หากพวกเขาหาคนมาซื้อได้ จะให้ค่านายหน้าถึงสิบตำลึงทองเลยทีเดียว"ร้านค้าในย่านการค้า ร้านเล็กๆ ก็ขายกันที่เจ็ดสิบหรือแปดสิบตำลึงทองแล้ว ส่วนร้านใหญ่หน่อยก็หนึ่งร้อยถึงสามร้อยตำลึงทอง เพียงแต่ที่ข้าสงสัย พี่ใหญ่ของท่านถึงจะเป็นพ่อค้า แต่ก็ค้าขายผลิตผลทางการเกษตรเท่านั้น จะรู้จักคนที่ย่านการค้าได้ยังไง""อาจจะเป็นน้องเล็กก็ได้ น้องเล็กเข้าไปเรียนหนังสือ
มู่ชุยเหลียนได้ยินเสียงพี่สาวต่างมารดากล่าวแบบนั้นก็ชักสีหน้า เตรียมจะโต้ตอบ แต่ถูกนางมู่ชิงเหมี่ยนจับมือไว้ จึงได้แต่กัดฟันก้มหน้า คิดอาฆาตแค้นอยู่ในใจ หึ รอให้ข้าได้แต่งเข้าไปก่อนเถอะ ข้าจะทำให้พี่เขยเฉดหัวพวกเจ้าสามคนแม่ลูกออกไปให้ได้"เหนียนเหยา วันนี้ท่านย่าของเจ้ากับท่านอารองก็มา นางสั่งให้ข้าพาเจ้าไปพบด้วย เจ้าก็ตามข้าไปคารวะท่านย่าของเจ้าสักหน่อยเถิด"ท่านย่า? หญิงสาวพยายามค้นความทรงจำของร่างเดิม ความทรงจำของร่างนี้กับท่านย่าของนางเรียกว่าเลวร้ายก็ได้ หญิงชราผู้นั้นเกลียดมารดากับเจ้าของร่างเป็นที่สุด เพราะมารดาของนางมาจากครอบครัวที่ยากจน แม้ตระกูลมู่จะไม่ถือว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ท่านพ่อและท่านอาก็มีอาชีพเป็นพ่อค้าที่มั่นคง สามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้สุขสบายได้ ท่านย่าของนางอยากจะให้ท่านพ่อแต่งงานกับหญิงสาวที่มีฐานะสักหน่อย เพื่อที่จะได้ยกระดับครอบครัว แต่ท่านพ่อหลงใหลในความงามของท่านแม่ จึงดื้อรั้นจนในที่สุดก็ได้แต่งงานกัน หลังจากอยู่กันได้ไม่นาน ท่านแม่ก็มีนาง แต่เพราะคลอดนางอย่างยากลำบาก ทำให้ท่านแม่สุขภาพอ่อนแอลง ไม่สามารถปรนนิบัติท่านพ่อได้อีก ท่านย่าถือโอกาสนั้นส่งนาง
"พี่สะใภ้ขอรับ สำหรับสบู่ของข้า ข้าคิดออกแล้วขอรับว่าจะทำยังไง"เซียนย้งเกิดความคิดขึ้นตอนที่เขาฟังพี่สะใภ้กับทุกคนวางแผนการค้าถ่านกัน"ไหนเจ้าลองว่ามาซิ อาย้ง""ตอนนี้สบู่ของข้ามีรูปร่างเหมือนสบู่ทั่วไปที่ขายอยู่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นข้าอยากมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่า นี่เป็นสบู่ของพวกเราด้วยขอรับ""สัญลักษณ์?""ขอรับพี่สะใภ้ ข้าอยากตั้งชื่อทางการค้าให้คนรู้ว่า สินค้าพวกนี้มาจากครอบครัวของพวกเรา""ดีๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า"อาเสิ้นตาโต เขาก็อยากให้ถ่านของเขามีชื่อร้านเหมือนกัน"แล้วเจ้าคิดชื่อไว้แล้วหรือยัง หรือจะให้พวกข้าช่วยคิดให้"หญิงสาวมองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่กระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ก็ช่วยส่งเสริม"ข้าอยากให้ร้านของข้า ชื่อ เหนียนเหยา ขอรับ"หญิงสาวตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเซียนย้งจะเสนอชื่อนางขึ้นมา"เจ้าพอจะบอกเหตุผลข้าได้หรือไม่อาย้ง"หานตงถามขึ้น เขาพอจะรู้ใจของน้องคนนี้ดี แต่ก็อยากจะรู้ว่า จะเหมือนที่เขาคิดไว้หรือไม่"เพราะพี่สะใภ้ เป็นเสมือนแสงสว่างที่สาดเข้ามาในชีวิตของครอบครัวข้า ขับไล่ความมืดมิด ช่วยให้ข้าเห
เว่ยเหนียนเหยายืนอยู่บนระเบียง คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางนับถือนางลี่สือหลินมาก แม้จะรักบุตรชายเพียงใดแต่ก็ไม่ยอมเห็นผิดเป็นถูก กัดฟันส่งบุตรชายเข้ารับโทษที่ก่อตอนแรกนางยังคิดว่า นางลี่สือหลินจะล้มป่วยเพราะตรอมใจอยู่หลายวัน หากเพียงแค่สองวัน นางลี่สือหลินกลับลุกขึ้นไปทำงาน นางกับซินเซียงพยายามห้ามปรามขอให้พักผ่อนอีกสักหน่อยรอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากคู่นั้น ก่อนจะกล่าวว่า" อาเหยา คนเป็นแม่จะอ่อนแอไม่ได้ ตอนนี้บุตรชายของข้ากำลังหกล้ม ข้าหวังว่า สักวันเขาจะคิดได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ เมื่อนั้นมือคู่นี้ของข้ายังต้องช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น"เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็น้ำตาคลอ ชาติที่แล้ว นางไม่มีพ่อแม่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของพ่อแม่มาก่อน หญิงสาวคิดไปถึงต้นโสมเจ้าปัญหาต้นนั้น ที่บัดนี้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องของนางเป็นที่เรียบร้อยต้นโสมเพียงหนึ่งต้น แต่กลับลากดึงเอาความโลภโมโทสันภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ออกมาตีแผ่ นางหวังเพียงแต่ว่า ลี่ห่าวฟง จะไม่ทำให้มารดาของเขาผิดหวัง"พี่สะใภ้ พี่หานตงให้ข้ามาบอกท่านว่า วันนี้เป็นวันที่นัดกับช่างเฟิ่งไว้ขอรับ""เจ้าช่วยไปเรียกอาเสิ้นมาพบข้าหน
"ภรรยาเจ้าเร็วหน่อยเถอะ เราต้องรีบไปให้ทันรถเที่ยวเช้านะ""ท่านพี่จะรีบไปไหน ป่านนี้คนพวกนั้นยังไม่มีใครรู้หรอกน่า"นางลี่สือหลินยืนกำมือแน่นที่หน้าประตู จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ห่าวฟงเห็นมารดา พร้อมน้องเขย น้องสาวยืนอยู่ก็ตกใจ พยายามตั้งสติ"ท่านแม่ ท่าน มาได้ยังไงขอรับ"นางลี่สือหลินมองดูบุตรชายที่ก้าวเท้าถอยหลังเข้าไปในบ้าน ในมือถือห่อผ้าห่อหนึ่ง"เจ้าใหญ่ พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหนกันแต่เช้า"นางลี่สือหลินไม่ตอบ แต่ย้อนถามบุตรชายแทน"พอ ดี แม่ภรรยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยจะพานางไปเยี่ยมดูอาการขอรับ"สะใภ้ตระกูลลี่เมื่อเห็นสามีส่งสายตามาให้ ก็รีบเอ่ยเสริมคำ"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่สามี ท่านแม่ข้าไม่สบาย ข้าจึงจะรีบไปเยี่ยม อีกอย่างข้าอยากจะนำข่าวดีไปบอกท่านด้วยตัวเอง""พวกเจ้าก็เลยทำตัวเป็นบุตรเขยบุตรสาวที่ดี เอาต้นโสมไปเยี่ยมซินะ"นางลี่สือหลิน ตวาดออกไปอย่างหมดความอดทน มองมือบุตรชายที่กุมห่อผ้าแน่นเข้าไปอีก"ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจขอรับ""ข้าก็พูดเรื่องที่เจ้าสองสามีภรรยาเข้าไปขโมยโสมที่บ้านของอาเหยาไงละ"ห่าวฟงหน้าซีด เขารู้ตั้งแต่เห็นหน้ามารดาที่หน้าประตูแล้ว ว่าม