Share

ตอนที่2.กองไฟลุกโชน

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-26 14:33:14

โม่คังมองเลยผ่านกองไฟลุกโชน ไปยังร่างสูงที่กำลังหย่อนกายลงนั่งยังอีกด้านของกองไฟ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ

โม่คังเอนหันกลับไปยังหรู่อี้ที่นอนหลับตานิ่ง ชายหนุ่มยิ้มละมุน เขารู้ดีว่านางยังไม่ได้หลับอย่างที่ตาเห็น มือหนาเอื้อมไปขยับผ้าคลุมขนสัตว์ผืนใหญ่จนชิดคอของหญิงสาว

ทุกการกระทำช่างอ่อนโยนต่อสายตาของทุกคนเหลือเกิน ไม่เว้นแม้แต่ผู้มาใหม่อย่างอี้เหมย

หญิงสาวมองการกระทำของชายที่นางหมายปองด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังรถม้าอันเป็นที่พักของนาง ซึ่งเยว่คังเป็นผู้จัดการให้โดยมิยอมให้นางพักรวมกับหญิงสาวอีกคน

“กลับมาแล้วรึ อี้เหมย ลุงเป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก ไยทำอะไรตามใจเช่นนี้”

“อย่าบังอาจมาตำหนิข้า จัดการแม่นกน้อยนั่นเสีย ข้ามิอยากเห็นมันอีก”

อี้เหมยขยับเข้าใกล้ชายสูงวัย ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาให้ได้ยินกันเพียงสองคน แล้วก้าวขึ้นไปภายในรถม้า โดยไม่คิดเหลียวมองว่าคนที่รับคำสั่งจะรู้สึกเช่นไรหรือเต็มใจรึไม่ สำหรับนาง ทุกอย่างห้ามมีคำว่า ‘ไม่!’

ต้วนลี่ทำเพียงมองตามหลังผู้เป็นนายหญิง ก่อนจะหันไปยังทิศทางของเป้าหมาย หญิงสาวผู้มีนามว่าหรู่อี้ถูกล้อมรอบไปด้วยบุรุษทั้งคณะเช่นนี้ เขาจะทำอย่างไร นางถึงจะอยู่เพียงลำพังได้เล่า

‘ไยนางช่างเหมือนมารดาของนางถึงเพียงนี้กันนะ’

ชายสูงวัยทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ก่อนจะก้าวไปยังผ้าที่ปูเอาไว้ข้างรถม้าเพื่อหลับพักผ่อน

โม่คังแสร้งไม่เห็นการกระทำของสองลุงหลาน เขาทำเพียงเอนกายลงข้างหรู่อี้ โดยใช้แขนทั้งสองข้างประสานกันใต้ท้ายทอย ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า

สำหรับเขาแล้วมิจำเป็นต้องนั่งถ่างตาเฝ้ายาม เพราะต่อให้เขาหลับตาอยู่เช่นนี้ก็สามารถรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวรอบกายได้เป็นอย่างดี

เสียงสัตว์ป่าหรือแม้แต่จิ้งหรีดพลันเงียบเสียงลง

กร๊อบ!

เสียงของใครบางคนก้าวเข้ามาใกล้ตัวเขาและหญิงสาว ทว่า โม่คังยังคงนอนหลับตานิ่งมิไหวติง เขารู้แล้วว่าคือผู้ใด

“ท่านเยว่ มีการเคลื่อนไหวขอรับ”

“งูออกหากินรึ หรือว่าเป็นพวกหมาในกัน”

“ทั้งสองอย่างขอรับ”

ชายหนุ่มพูดไป มือก็ผูกเชือกกับต้นไม้เพื่อกางผ้าใบกันฝนให้แก่โม่คังและหรู่อี้ เสียงพูดคุยภายใต้ความเงียบ จำต้องควบคุมเอาไว้ให้ดี มิเช่นนั้น ผู้ที่คอยสอดแนมคงจะรู้ความนัยจนหมดสิ้นเป็นแน่

โม่คังดีดตัวลุกขึ้นในสภาพงัวเงีย ก่อนจะไปช่วยผู้ติดตามขึงผ้าใบกันฝน โดยก่อนที่จะลุกขึ้นมา เขาได้เอ่ยกำชับคนที่แสร้งหลับว่าห้ามลุกขึ้นมาเป็นอันขาด ดูจากการเคลื่อนไหวรอบที่พัก ต้องเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน เพราะการที่ไม่บุกเข้ามาแต่พยายามหลอกล่อพวกเขาออกไปแทน นั่นหมายความว่า คนพวกนี้ทำการประเมินฝีมือพวกเขามาแล้วเช่นกัน

“ข้าปวดท้อง ขอออกไปปลดทุกข์สักครู่ก็แล้วกัน ฝากเจ้าเตือนทุกคนให้ระวังฝนเอาไว้ด้วย บรรยากาศเช่นนี้คงมิถึงรุ่งสาง ฝนต้องเทลงมาอย่างหนักเป็นแน่”

“ขอรับท่านเยว่ รอสักครู่ก่อนนะขอรับ”

ชายหนุ่มรีบวิ่งไปคว้าคบไฟจ่อไปยังกองเพลิง ก่อนจะนำกลับมาให้ผู้นำของตนติดตัวไปยังนอกที่พัก เพื่อทำธุระส่วนตัวอย่างที่ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจเช่นนั้น

โม่คังถือคบเพลิงเอาไว้ในมือ ในขณะที่ก้าวผ่านผู้ติดตามไปนั้น ชายหนุ่มได้เอ่ยบอกบางอย่างแก่คนของตน ไม่มีคำพูดใด ๆ ให้มากความสำหรับพวกเขา เพราะเพียงสบตาก็รู้ว่าต้องทำสิ่งใดกันบ้าง

บริเวณน้ำตก

ซ่า!

เสียงน้ำตกไหลกระทบโขดหิน ร่างสูงยืนนิ่งอยู่กับที่ หลังจากได้นำคบไฟปักไว้ยังพื้นดินห่างไปมิไกลนัก การรอคอยของโม่คังดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อมีเสียงของการเคลื่อนไหวจากทางด้านหลัง

รอยยิ้มมุมปากค่อย ๆ คลี่ออกทีละน้อย ฝนก็ใกล้จะตก นักฆ่าที่หมายเอาชีวิตก็ดูเหมือนจะมิยอมเลิกรา เขายังไม่อยากรีบร้อนแหวกหญ้าให้งูตัวอ้วนตื่นจากการจำศีล เขาต้องการเลี้ยงมันไปจนกว่าจะถึงที่หมาย ฉะนั้น บรรดาเหลือบไรพวกนี้ เขาจำต้องกำจัดออกไปให้หมดเสียก่อน

“ใจกล้ายิ่งนักคุณชาย สมกับเป็นที่วางใจของคนสกุลโม่ กล้าที่จะออกมาเพียงลำพัง หึ ๆ”

“ข้าแค่ออกมาสูดอากาศยามดึกเท่านั้น อ๊ะ! ว่าแต่พวกท่านเล่าเป็นใครกันถึงมาพบข้ายามวิกาลเช่นนี้ หากจะปล้นตัวข้า ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะข้ามิได้พกสิ่งของมีค่าติดตัวมาเลย จะมีก็แต่เพียง…เอ่อ…สิ่งสำคัญที่ติดกายข้ามาแต่กำเนิดเท่านั้น แน่นอน สำหรับบุรุษทุกคนแล้วมันมีค่ายิ่งนัก”

โม่คังหันหน้ากับไปยังทิศทางของเสียง พร้อมทั้งแสร้งถามอีกฝ่ายออกไปด้วยน้ำเสียงติดตลก แต่ทว่ากลับไม่ได้รับเสียงหัวเราะหรือปฏิกิริยาใด ๆ จากคนในเงามืด

‘ข้าคิดไปเองใช่หรือไม่ ว่ามันไม่ตลกเอาเสียเลย’

“อย่ามามัวเล่นลิ้นให้เสียเวลาเลยคุณชายเยว่ ข้ามิสนว่าเจ้าจะเป็นใคร และสิ่งล้ำค่าอันใดที่เจ้าหวงแหนนั่นด้วย เพราะมันไม่ได้จำเป็นต่อภารกิจของพวกข้า ซึ่งข้าไม่ชอบที่จะต้องมาเสียเวลาพูดคุยให้มากความกับคนเช่นเจ้า”

“แล้วที่อ้าปากพ่นลมอยู่นี่...เขามิเรียกว่าพูดคุยรึ ข้าเองก็สงสัยอยู่ว่า คนเช่นข้ามันเป็นอย่างไรรึ นี่! ข้าก็ไม่ค่อยรู้ด้วยสิว่าตัวข้าเป็นเช่นไร”

โม่คังยังคงเอ่ยยั่วเย้าแขกผู้มาเยือนอย่างรื่นเริง ในเมื่ออีกฝ่ายทำให้เขาเสียเวลารอ เขาก็จะเมตตาให้พวกมันมีลมหายใจต่ออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

“จะ…เจ้า ช่างมิรู้จักอะไรเอาเสียเลย กำลังจะตายยังจะมายอกย้อนข้าอยู่อีก”

ชายชุดดำมิรู้จะสรรหาคำใดมากล่าวกับชายหนุ่มตรงหน้าดี ด้วยทุกคำนั้นนอกจากจะยอกย้อนแล้วยังแอบแฝงไปด้วยคำยั่วยุ

“แล้วอย่างไร ก็ข้าพอใจจะพูด หากเจ้ามิพอใจ อยากกลับเมืองหลวงถวายฎีกาต่อฮ่องเต้เลยก็ย่อมได้ ว่าพ่อค้าบ้านนอกเช่นข้าปากดีกับนักฆ่าสวะของแผ่นดินเช่นเจ้า”

โม่คังไม่ได้สนใจคนที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมา นอกจากส่งเสียงโต้ตอบกับเขาเท่านั้น ชายหนุ่มยกถุงหอมของหรู่อี้ขึ้นมาสูดดมด้วยพึงพอใจ

เคล้ง!

เสียงดาบกระทบกันจนเกิดประกายไฟแปลบปลาบออกมา เมื่อถูกจู่โจมจากด้านข้าง

“อย่าทำตัวเยี่ยงสุนัขต่อหน้าข้า”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 83.จบบริบูรณ์

    “มิได้นะพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา”“นี่คือคำสั่ง ไปซะ”จงกงกงที่ถืออาวุธประจำกายผู้เป็นนายมาด้วย ได้ก้าวไปยังเตียงนอนก่อนจะวางกระบี่ไว้ข้างกายผู้เป็นนายหญิงแล้วขยับออกห่างเยว่เหยียนลุกขึ้นโดยยื่นมือไปรับน้องสาวกลับมาผูกติดกายไว้เช่นเดิม ก่อนจะเดินห่างผู้เป็นมารดาด้วยอาการนิ่งเงียบ มิเอ่ยสิ่งใดกับผู้ใดแม้แต่ครึ่งคำสองแม่ลูกเจ้าของบ้านกลับเข้ามาในห้องพร้อมห่อผ้า มารดาของหย่งฉีก้าวไปหยุดตรงหน้าขององค์ชายเยว่เหยียน ก่อนจะย่อกายให้“บุตรชายของข้าจะนำทางองค์ชายเข้าไปหลบซ่อนในป่าเพคะ”“เจ้าไปกับพวกเขา นี่คือคำสั่งของข้า อย่าได้มีใครขัดคำสั่งหากยังเห็นข้าเป็นฮองเฮาอยู่”“เพคะ เช่นนั้น หม่อมฉันจะปกป้องทั้งสองพระองค์ด้วยชีวิตเพคะ”สองแม่ลูกไม่รอช้า โดยหย่งฉีเป็นคนเดินนำหน้า มีเยว่เหยียนเดินตามไป มารดาของหย่งฉีและองครักษ์ติดตามไปอีกหนึ่งคน ส่วนที่เหลืออยู่ดูแลฮองเฮา รวมถึงจงกงกงที่มิห่างกายผู้เป็นนายหญิงไปที่ใด“พวกเจ้าคิดจะขัดคำสั่งข้าหรืออย่างไรกัน”“พระนาง มิว่าอย่างไร พวกข้าก็มิอาจทอดทิ้งพระนางไปที่ใดได้ ได้โปรดอย่างทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ”ก่อนที่จะทันได้เอ่ยสิ่งใดต่อ เสียงของผู้บุกรุกได้เรียกความสน

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 82. ถงไท่ซิน

    ชายป่านอกหมู่บ้านร่างสูงของถงไท่ซินยืนเอามือไพล่หลังมองไปยังอีกด้านของป่าที่เป็นเนินเขาเตี้ย ๆแกร๊บ! เสียงเหยียบใบแห้งมาจากทางด้านหลัง เขามิจำต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร“วันนี้ ข้าหวังว่าจะได้รับข่าวที่ดี”“นายท่าน ตอนนี้ที่เฉินอันยังคงนิ่งเงียบอยู่ขอรับ คนของเราพยายามที่จะสืบหาว่า ข่าวเรื่องนายหญิงยังมีชีวิตอยู่นั้นมาจากที่ใดขอรับ ข้าเกรงว่า…เอ่อ...”“เกรงจะเป็นกลลวงให้ข้าเผยตนสินะ” ถงไท่ซินต่อความให้ผู้มารายงาน“ขอรับ”“ในเมื่อตัวข้าก็ชรามากแล้ว จะตายวันใดก็มิอาจบอกได้ แล้วข้าจะกลัวไปเพื่ออะไรกัน”ถงไท่ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย เขารู้สึกมีความหวังขึ้นมาเมื่อรู้ข่าวว่า แท้จริงแล้ว ภรรยาของเขายังคงมีชีวิตอยู่จากแหล่งข่าวที่ใดสักแหล่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ จึงทำให้ชรารีบลงจากเขาเพื่อที่จะมาพบกับคนขอตนเพื่อฟังความจริงจากปากอีกครั้งภาพใบหน้าภรรยาผู้เป็นที่รักเวียนกลับมาในห้วงความคิด พาให้ถงไท่ซินนึกย้อนไปยังเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วด้วยหัวใจอันร้าวรานแคว้นเฉินอันตำหนักหลวงซึ่งเป็นที่พำนักร่วมกันของฮ่องเต้เยว่ไท่ซานกับฮองเฮาเยี่ยซีเซียน เวลานี้ทั่วทั้งแคว้นต่างเฉลิมฉลองการถือกำเนิดขององค์

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 81.ตอนพิเศษ 4 ถงไท่ซิน

    “ท่านตาขอรับ ไยท่านตาถึงได้ชอบที่จะอยู่บนเขาซินไห่นี่เล่าขอรับ ไยมิลงไปอยู่กับพวกเราขอรับ”ถงเอ่อหลางเอ่ยถามผู้เป็นตาด้วยความสงสัย เขาจะขึ้นมาอยู่บนเขาเพื่อฝึกฝนวิชากับผู้เป็นตา ในช่วงเวลาที่ผู้เป็นตากลับจากเกาะดอกเหมย“ตาจะได้มองเห็นยายเจ้าได้ทุกวันอย่างไรเล่า นางอยู่ทิศนั้น ในที่ที่เราจะไม่มีโอกาสไปถึง”“ท่านตาชรามากแล้วก็ทำใจให้สงบเถิดขอรับ ท่านยายได้หลับไปนานแล้วนะขอรับ”“ฮา ๆ เจ้าเด็กน้อย เจ้ามันช่างเจรจาเกินไปแล้ว ไม่นาน ตาของเจ้าก็จะหลับไปชั่วกาลเช่นเดียวกับท่านยายของเจ้า”“ท่านตาขอรับ ท่านอาม่งเหยางดงามมากเลยใช่ไหมขอรับ”เมื่อหลานชายเอ่ยถึงบุตรสาวผู้ล่วงลับ แววตาอ่อนแสงเจือความอาลัยพลันฉายบนดวงตาที่เริ่มฝ้าฟาง ถงไท่ซินหันมามองเด็กชายช่างซัก ก่อนปล่อยวางเรื่องโศกเศร้าในอดีตไปกับสายลม ใช้ลมหายใจที่เหลืออยู่กับปัจจุบันทุกเสี้ยวเวลา ยามลาจากโลกนี้ไปแล้วจะได้มิรู้สึกผิดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ระลึกเช่นนั้นจึงส่งยิ้มกว้างให้หลานชาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมหยอกเย้าเอ็นดู“ใช่แล้ว นางงดงามมิแพ้มารดาของเจ้าเลย เจ้าอยากรู้ไปทำไมรึ”“ก็เพราะใคร ๆ ก็ว่ามู่หลันเหมือนท่านอามาก เอ่อ…จากที่ข้ามองดู

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่80. ตอนพิเศษ 3.

    “เสด็จพี่ทั้งสองอย่าทรงกังวลไปเลย อย่างไรเสีย ลูกหลานของเราก็เลือกที่จะทอดทิ้งเราไปแล้ว”โม่เหยียนเฉาและโม่เหยาต่างหันขวับมามองน้องชายเป็นตาเดียว ด้วยถ้อยคำตอนท้ายมันขัดกันกับคำตอนต้น โม่หยางจงยิ้มร่า เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาสงสัยของพี่ชายทั้งสอง“เจ้ายังเป็นปกติดีอยู่หรือไม่ หยางจง”“ข้าแค่อยากให้เสด็จพี่ทั้งสองผ่อนคลายลงบ้าง อนาคตจะเป็นเช่นไร เรามิอาจบอกได้ แค่ตอนนี้ เราสามพี่น้องยังมีลมหายใจดื่มด่ำกับความสุขยามชราก็ดีมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“หึ ๆ เจ้าก็เป็นเสียแบบนี้ เข้าข้างในกันดีกว่า ข้าหิวมากแล้ว”สามพี่น้องพากันก้าวเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข เสียงสนทนากันอย่างออกรสของพี่น้องสกุลโม่นั้น ยากที่ใครจะได้พบเห็น ยามใดที่มายังบ้านหลังนี้ พวกเขาจะละวางเรื่องบ้านเมืองลงชั่วคราวเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจากสัมพันธ์พี่น้องร่วมสายเลือดที่น้อยครั้งจะได้มีโอกาสพบปะกันพร้อมหน้าเช่นนี้หุบเขาเหมยแดงหญิงสาวในชุดสีดำนั่งเหม่อมองไปยังด้านนอกหน้าผาที่ยื่นออกไปยังน้ำตก ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกปิดด้วยหน้ากากสีเงิน ดวงตานั้นกลับมามองเห็นแล้วก็จริง ทว่า รอยแผลที่อยู่ภายใต้หน้ากากกลับยังคงมีอย

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่79. รับโทษ

    เสียงอู้อี้ของถงมู่หลัน ทำให้จ้าวอวิ๋นรีบลุกขึ้นไปคว้าตัวหลานรักขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพานางก้าวมายังเตียงของผู้เป็นพี่ชายตามคำเว้าวอนร่างอ้วนกลมดิ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะลงไปนั่งบนเตียงของพี่ชายที่ตอนนี้กำลังนอนกระสับกระส่าย มือป้อมนุ่มนิ่มเอื้อมไปแตะยังแก้มของพี่ชาย ก่อนจะทุ่มตัวลงไปเต็มแรงทับอยู่บนอกของถงเอ่อหลาง สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ก่อนที่โม่ฟางเล่อจะยื่นมือไปเพื่ออุ้มบุตรสาวออกมาหมับ! มือของถงเอ่อหลางรวบกอดร่างอ้วนของน้องสาวเอาไว้แนบอกราวกับปกป้อง เช่นที่เคยทำมาตลอดในยามที่เขาเกรงว่านางจะเสียใจหรือกลัวใครจะมาทำร้ายน้องสาวเพียงคนเดียวเด็กชายหวาดกลัวว่าจะไม่อาจคุ้มครองคนที่ตนรักให้ปลอดภัย เหมือนในอดีตที่เขามิอาจปกป้องคนที่รักเอาไว้ได้“พี่จะปกป้องเจ้ามิให้ผู้ใดทำร้ายเจ้าได้”“อือ ๆ พี่ใหญ่ ข้าร้อน ท่านพี่ตื่นได้แล้ว”ถงเอ่อหลางลืมตาโพลงขึ้นในทันที ร่างอ้วนกลมที่อยู่บนตัวเขานั้นช่างเหมือนใครบางคนในอดีตเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มยุ้ยของน้องสาว“พี่รู้สึกว่ามีหินก้อนใหญ่หล่นทับตัวอย่างไรไม่รู้”“มีที่ไหนเล่าเจ้าคะก้อนหิน มีแค่อนาคตของหญิงงามที่สุดใต้หล้า

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่78.คราวหลัง

    อวี้หลิงเซียวยกมือขึ้นห้ามองครักษ์เอาไว้เสียก่อน นางในตอนนี้แม้จะมียศแต่ก็เป็นธิดาของเจ้าเมืองเท่านั้น จะถืออำนาจบาตรใหญ่มากเกินไปมันดูไม่ดีสักเท่าไร ยิ่งมองการแต่งกายของเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นแล้วบอกได้เพียงว่ามิธรรมดาเป็นแน่ไหนจะบุรุษหลายคนที่ยืนอยู่นั่นอีก มองแค่ปราดเดียวนางก็รู้ได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงทุกคน โดยเฉพาะคนที่อุ้มเด็กหญิงตัวอ้วนนั่นด้วยแล้ว ยิ่งมิควรที่จะต่อกรด้วย นางฝึกยุทธ์ตั้งแต่ห้าขวบ เติบโตมากับพี่ชายที่เป็นทหารย่อมต้องถูกสอนมาเป็นอย่างดี“ข้าน้อยหลิงเซียว ต้องขออภัยท่านอาด้วยนะเจ้าคะที่มารบกวน ด้วยข้านึกว่าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เกรงจะเกิดอันตรายเอาได้หากมีโจรป่าผ่านมา”“ขอบใจเจ้ามากคุณหนู แล้วคราวหลัง ข้าจะเตือนหลาน ๆ ให้ระวังตัวให้มากขึ้น” จ้าวอวิ๋นนึกชื่นชมแม่สาวน้อยคนนี้ในใจ ดูเหมือนความนึกคิดของนางจะเติบโตกว่าวัยที่แท้จริงหลายปีทีเดียว“เจ้าค่ะ”“พี่สาว มากินกุ้งด้วยกันสิเจ้าคะ มู่หลันอยากมีพี่สาว มู่หลันไม่ชอบพี่ชายแล้ว”เด็กน้อยแก้มยุ้ยมิพูดเปล่า แต่ยังทำท่าทางน่าเอ็นดู พร้อมรอยยิ้มกว้างจนทำให้ตาของนางกลายเป็นเส้นตรง ก่อนจะสะบัดหน้าให้ผู้เป็นพี่ชายที่หันกลับ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status