{"ตอนนี้ผมยังไม่ว่าง"} พูดแค่นี้ปลายสายก็ตัดสายไป
"เขากำลังติดธุระอยู่ค่ะแม่" ถึงแม้จะรู้สึกเสียหน้ามากแค่ไหน เธอก็ต้องยิ้มไว้
"วันหลังชวนเขามาค้างที่บ้านเราสิ" นางชักจะเริ่มสงสัย ตกลงรักกันจริงหรือแค่เล่นละครตบตา
"ชวนมาค้างที่บ้านหรือคะ"
"เห็นไปค้างอ้างแรมด้วยกันที่อื่นมาแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ก็ใช่ค่ะแต่ว่า.."
"ทำไม? หรือว่าไม่ได้ไปค้างกับเขา" สายตานางเริ่มจับพิรุธ
"แต่โรสเป็นผู้หญิงนะคะแม่" ถ้าชวนเขามาค้างที่บ้านแล้วเขาจะคิดยังไง
"นิ่มนวล"
"เออ..คุณแม่คะ ก็ได้ค่ะโรสจะลองชวนดู" ถ้านางใช้เสียงแบบนี้เรียกคนสนิท นั่นหมายถึงว่าให้มาลากตัวเธอไปกักบริเวณ หญิงสาวก็เลยต้องได้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน
[ห้องประชุมที่บริษัท]
"ถ้าไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร เดี๋ยววันแต่งงานผมจะเข้ามาดูอีกที"
"ผมว่าวันแต่งงานท่านไม่ต้องเข้ามาหรอกครับ ที่เหลือเดี๋ยวพวกผมจะจัดการกันเอง"
"ผมมาได้" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องนั้นไปก่อน
หลายคนที่มองตามคิดว่าเขาคงจะรีบไปจัดการเรื่องว่าที่ภรรยาโทรมาแน่เลย
แต่ไม่ใช่หรอกเรื่องนั้นเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
[สถานบันเทิง]
โต๊ะประจำที่รามสูรเคยมานั่งกับหญิงคนรัก ได้ถูกเก็บไว้ให้ถ้าเขาโทรมาจอง
เหลือเวลาอีกแค่สามวันก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว รามสูรแค่อยากจะเห็นว่าเธอยังแคร์เขาอยู่ และมาขอร้องไม่ให้มีงานแต่งนั้นเกิดขึ้น ขอแค่เธอพูดมาเขาพร้อมที่จะยกเลิกทุกอย่าง
ชายหนุ่มถ่ายภาพสถานบันเทิงแห่งนั้นแล้วก็โพสต์ลงไอจี เผื่อว่าเธอจะเข้ามาเห็น
นั่งมองโทรศัพท์นานหลายนาทีก็ไม่มี account นั้นเข้ามาส่องเลย
จากนาทีผ่านไปเป็นชั่วโมง จนตอนนี้เขาดื่มแทบไม่หยุด
หญิงสาวที่พยายามนอนแล้วแต่นอนไม่หลับ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเขามีไอจี เธอก็เลยค้นหาตามชื่อที่มองเห็นวันนั้น
"เขาไปที่นั่นอีกเหรอ" สโรชารีบลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินออกมาเรียกแท็กซี่ ที่จริงเธอก็มีรถส่วนตัว แต่จะใช้ได้เมื่อผกาแก้วอนุญาตเท่านั้น
สโรชาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสถานบันเทิงแห่งนั้น
"ปราง"
"?" คนตัวเล็กที่เพิ่งจะเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ารีบมองกลับไปด้านหลังของตัวเอง แบบสงสัยว่าเขาทักใคร "คุณเมาแล้วเหรอคะ" ปรางคงจะเป็นชื่อหญิงคนรัก ถึงขนาดได้เพ้อชื่อที่ไม่ใช่ชื่อของคนตรงหน้า นั่นหมายถึงว่าคงจะหนักแล้ว
"คุณมาหาผมเหรอ"
"ค่ะฉันเห็นคุณโพสต์ลงไอจี"
"คุณกลับมาหาผมแล้วจริงๆ เหรอปราง"
เอ้า..นึกว่าเราคุยเรื่องเดียวกันซะอีก ปรางก็ปรางวะ "ฉันว่ากลับกันดีกว่าค่ะ" หญิงสาวก็เลยจ่ายเงินให้แล้วพาเขาออกมา
เมาแบบนี้ก็ดี..พากลับบ้านเลยแล้วกัน ยิ่งคิดหนักอยู่ว่าจะทำยังไงเรื่องที่จะชวนเขาไปค้างที่บ้านด้วย
ออกมาถึงเธอก็เลยเรียกแท็กซี่ให้พามาส่ง ส่วนรถของเขาทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ กลัวว่าจะขับไม่ได้เดี๋ยวไปเปลี่ยนระบบเพราะแฟนดื้ออีก
[คฤหาสน์ของท่านพลโท]
"ขอบคุณนะคะลุงที่พาขึ้นมาส่ง" ที่เธอใช้ให้คนขับรถพยุงเขาขึ้นมาช่วย เพราะอยากให้เรื่องนี้ถึงหูแม่ ยังไงลุงคนขับรถก็ต้องไปเล่าให้แม่บ้านที่เป็นภรรยาฟังอยู่แล้ว
"เดี๋ยวผมพาเข้าไปส่งในห้องครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะลุงกลับลงไปเถอะ" หญิงสาวก็เลยพยุงเขามานอนลงที่เตียง
อึบ!
"คนอะไรตัวหนักชิบ" วางลงแล้วเธอก็ถอดรองเท้าตามด้วยถุงเท้าให้
มือเรียวเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเพื่อให้เขานอนได้สบายตัวหน่อย
สายตาซุกซนแอบมองซิกแพคที่เรียงกันอยู่เป็นชั้นๆ เราบ้าไปแล้วหรือไง ใบหน้างามนั้นแดงขึ้นมาจนเห็นได้
"อุ๊ย" จังหวะที่ดึงผ้าห่มซึ่งมีคนร่างโตนอนทับอยู่ มันก็เลยทำให้เธอเสียหลักล้มลงไปทับแผ่นอกของอีกฝ่าย
"ปราง"
"ฉันไม่ใช่ปรางค่ะปล่อยนะ" ตอนที่ล้มลงไปมือของเขาได้โอบตัวเธอไว้ คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนั้น
"แค่คุณบอกมาว่าไม่ให้ผมแต่ง ผมก็พร้อม.." ถึงแม้เสียงนี้จะเบามาก แต่คนฟังก็พอจับใจความได้
หญิงสาวก็เลยคิดถึงสิ่งที่เขาโพสต์ลง I* หรือว่าเขารอผู้หญิงคนนั้นมาหา เธอดันสอใส่เกือก ไปพาเขาออกมาก่อนงั้นเหรอ
"ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่คนรักของคุณ" เธอก็มีหัวใจมีเลือดมีเนื้อเหมือนกัน
พอได้ยินประโยคนั้นสายตาคมหรี่ขึ้นมองเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็จับร่างของเธอให้นอนลงข้างๆ
"เอ้าไอ้บ้านี่บอกให้ปล่อยไง!" เห็นสายตาตอนที่เขามองเหมือนจำได้ว่าเธอเป็นใคร แต่เห็นการกระทำแล้ว เขายังคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนั้นอยู่เหรอ? เพราะตอนนี้มือของเขากอดร่างเธอไว้จนขยับไม่ได้
"นายอสูรเอามือออกไปนะ!" ตอนที่เธอพยายามผลักเขาออกแต่มือนั้นกลับวางแนบลงตรงกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้าง
"จริงเหรอ" เสียงนี้ดังมาจากประตู และเธอจำได้แม่นว่าเป็นเสียงของใคร หญิงสาวที่กำลังจะกรี๊ดก็เลยต้องได้ปิดปากตัวเองไว้ก่อน แม่คงรู้แล้วว่าเธอพาเขาขึ้นมานอนบนห้องนี้ "ลูกสาวคนนี้ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ"
จังหวะที่เธอกำลังได้รับคำชม แต่มือของอีกฝ่ายไม่อยู่นิ่ง ล้วงเข้าไปด้านในแล้วก็ขยับนิ้วเล่นตรงเม็ดที่ไวต่อความรู้สึก
"อือ" ขาเรียวพยายามชิดเข้าหากันไม่ให้อีกฝ่ายล้วงเข้าไปได้ลึกกว่านั้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะตอนนี้มันได้เข้าไปหยุดอยู่ในร่องเล็ก
จมูกโด่งแนบลงที่ซอกคอระหงแล้วสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่าย พร้อมกับพรมจูบจนทั่วบริเวณนั้น
"ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย" หลังจากแนบหูฟังที่ประตูอยู่ครู่หนึ่งก็ดูเหมือนว่าข้างในเงียบมาก
"อ๊อย..ซี๊ดด..คุณรามสูรขาา" จากที่กัดฟันไว้ตั้งนาน เธอก็เลยปล่อยเสียงออกมาเบาๆ
ดวงตาคมหรี่มองดูผู้หญิงที่ครวญครางออกมา นิ้วที่มันยังคาอยู่ก็เริ่มขยับเข้าออก
"อ่ะ อ่ะ อ่ะ" เสียงครางนั้นดังออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ถ้านี่มันคือกรรมเก่า เธอขอชดใช้มันให้หมดภายในชาตินี้เลยแล้วกัน ขาเรียวค่อยๆ เปิดกว้าง "โอ๊ย"
พอเห็นว่าเธอเปิดทางให้จากที่ใช้นิ้วเดียวเขาก็ส่งเข้าไปอีกนิ้วหนึ่ง..แล้วก็กระแทกรัว
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"