[สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง]
"อยากทานอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"สักห้าทุ่มค่อยกลับ"
"ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องตามใจผู้ใหญ่ขนาดนั้นก็ได้"
"น้อง.." ชายหนุ่มไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่ายเลย เขาชูมือขึ้นแล้วสั่งพนักงานเสิร์ฟให้นำเหล้ามาเพิ่ม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
"เราชื่ออะไรนะ" แก้วเหล้าที่เพิ่งชงเสร็จถูกวางลงตรงหน้าฝ่ายหญิงพร้อมกับถามชื่อ
"....." ที่จริงชื่อของเธอ เขาได้ยินไป 2-3 ครั้งแล้ว เพราะผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก่อนที่จะออกมา..แต่มันคงไม่สำคัญเขาถึงไม่จำ "สโรชาค่ะ"
"ดื่มเก่งนิ" ชงแก้วไหนให้เธอก็ยกดื่ม จะไม่ชมว่าดื่มเก่งได้ยังไง
มือหนาเอื้อมไปหยิบแก้วเหล้าที่เธอเพิ่งจะดื่มหมดมาผสมให้อีกครั้ง
"ถ่ายรูปกันหน่อยนะ" ว่าแล้วเขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อเซลฟี "ขยับเข้ามาอีกหน่อยสิ"
สโรชาก็ทำตามโดยการขยับมานั่งใกล้ ..ก่อนที่จะถ่ายมือของเขาได้เอื้อมมาแตะไหล่พร้อมกับใช้แรงดันอีกฝ่ายให้เข้ามาชิดตัว
"??" หญิงสาวแอบมองดูอยู่ว่าเขาจะทำอะไรกับภาพนั้น
ลง I* ไปได้ครู่หนึ่งก็เริ่มมีคนมากดถูกใจให้ และเหมือนเขาจะพอใจมากที่เห็น account หนึ่งเข้ามากดถูกใจ ใบหน้าหล่อยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็เก็บโทรศัพท์
เวลาผ่านไป.. และตอนนี้ก็เลยเวลาที่ทั้งสองคุยกันแล้วว่าจะกลับบ้าน
"ยัง..ยัง..จำได้ม๊ายยย" เสียงเพลงที่ร้องออกมาก็เริ่มจะเพี้ยน
"คุณหนักแล้วนะ"
"โอ๊ยยโอ๊ยยย" (ผสมเพลงไปมั่ว)
"เก็บตังค์ด้วย" เมาขนาดนี้ก็คงจ่ายไม่ได้แล้วแหละ เธอก็เลยต้องเป็นคนจ่ายเอง
ที่จอดรถ..
"คนบ้าอะไรตัวหนักชิบหาย" จริงๆ เธอก็เมาไม่ต่างกัน แต่ก็ยังพอตั้งสติได้ "กุญแจรถอยู่ไหน" หญิงสาวค้นในกระเป๋ากางเกงอีกฝ่าย เพราะเธอนั่งรถออกมากับเขา
"ไหวไหมครับคุณผู้หญิง" พนักงานผู้ชายที่แบกออกมาช่วยถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ"
"ทางเรามีห้องให้ ผมว่าพาคุณผู้ชายไปพักให้หายเมาก่อนค่อยกลับจะดีกว่าไหมครับ"
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บ้านเขาอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย หญิงสาวก็เลยสั่งคนงานสถานบันเทิงเปิดห้องให้
"ห้องว่างพอดีเลยครับ" คนที่คอยเช็คห้องรีบไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่ามีนักท่องราตรีจะมาใช้บริการ
"มีกี่ห้องคะ"
"อย่าถามว่ากี่ห้องเลยครับ เกือบไม่ว่างแล้วคนเมื่อสักครู่เพิ่งออกไปเอง"
เอาไงดี..ส่งเขาเข้าไปนอนแล้วกลับดีกว่าเรา "เดี๋ยวก่อนสิคะ" ขณะที่เธอกำลังจะบอกให้ช่วยพาเขาเข้าไปส่งในห้องให้หน่อย แต่ก็ไม่ทัน เพราะคนของที่นี่คิดว่าจะมาใช้บริการเรื่องอย่างว่าก็เลยรีบกลับออกไปแบบรู้งาน
"รู้ว่าตัวเองคออ่อนไม่รู้จะกินเข้าไปทำไมเยอะแยะ" หญิงสาวบ่นในขณะที่ต้องเป็นคนพยุงร่างของอีกฝ่ายให้เข้าไป "โอ๊ย!"
จังหวะที่ทิ้งตัวเขาลงไป มือหนาของชายคนที่เธอพาเข้ามาพักได้คว้าร่างของเธอลงไปบนเตียงด้วย
"ปล่อยนะ ฉันแค่มาส่ง อืมม"
ยังไม่ทันพูดจบเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกอีกฝ่ายดึงเข้ามาปิดปากโดยการจูบ
กำปั้นเล็กทุบลงตามลำตัวเพื่อให้เขาได้สติ และปล่อยเธอ แต่ยิ่งดิ้นอีกฝ่ายก็ยิ่งล่วงเกินมากกว่านั้นโดยการล้วงเข้ามาด้านในเสื้อ
"อื๊ดดด" จะกรี๊ดออกมาก็ไม่ได้เพราะถูกปิดปากอยู่ แต่มือที่เขาล้วงเข้ามาเริ่มจะไม่อยู่นิ่ง เพราะตอนนี้มันกำลังเขี่ยยอดเม็ดที่ดันเสื้อชั้นใน ..หญิงสาวทำได้แค่ร้องอู้อี้ในลำคอ
จูบจนพอใจริมฝีปากหนาก็เลยปล่อยแล้วขยับต่ำลงมาครอบครองยอดรัญจวนที่เขาเพิ่งจะกำจัดสิ่งกีดขวางออกไปให้พ้นทาง
"ปล่อย.." คนตัวเล็กพยายามเรียกสติตัวเองให้กลับมา เพราะแอลกอฮอล์ในร่างกายของเธอก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขาเลย และตอนนี้ร่างกายดูเหมือนว่าจะอ่อนระทวยไปตามการเล้าโลมของอีกฝ่าย
เขียนโดยชะนีติดมันส์
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"