LOGIN“พี่พิมพูดบ่อยจนเค้กเริ่มกลัวหมอธามแล้วนะคะ” เขมมิกาพูดยิ้มๆ จริงๆ แล้วเธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิด อดคิดตื่นเต้นไม่ได้ว่าเขาจะจำเธอได้หรือไม่
“กลัวไว้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่คิดเกินเลย เชื่อพี่ สนใจแค่งานพอจะได้ไม่มีปัญหาอะไร” พิมอรพูดด้วยท่าทีเมามันเสียจนเขมมิกาอดยิ้มไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นพี่พิมมีอะไรจะเตือนเกี่ยวกับหมอธามให้เค้กรู้ก่อนไหมคะ เค้กจะได้ทำตัวดีๆ ไม่ให้หมอธามเพ่งเล็ง” หญิงสาวถามขึ้น เพราะเมื่อคิดไปคิดมาแล้ว หากหมอธามไทไม่ถูกชะตาเธอขึ้นมา ความพยายามทั้งหมดที่ได้ทำไปก็จะสูญเปล่าไปในทันที
“ก็…อันดับแรก อย่าเล่นหูเล่นตากับหมอธามเด็ดขาด สงสัยหรือไม่รู้อะไรให้รีบถามทันที หมอธามไม่ใช่คนดุมากธรรมดาแต่ ถ้าพลาด หมอธามก็ให้โอกาสครั้งแรก แต่อย่าพลาดเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด แล้วก็อย่าเซ้าซี้เรื่องส่วนตัวด้วย หมอธามีโลกส่วนตัวสูงเหมือนเขาเอเวอร์เรส” พิมอรกล่าวเตือนสาวน้อยด้วยความหวังดี ที่ผ่านมาเลขาฯ หลายๆ คนพยายามที่จะเข้าถึงตัวหมอธามไท แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องลาออกไปด้วยความรู้สึกอดสู
“เข้าใจแล้วค่ะ เค้กจะทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เสียชื่อที่พี่พิมแนะนำเข้ามาเลย” เขมมิกาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอไม่ใช่เด็กสาวเรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่เด็กก๋ากั่นเสียเกินงาม นี่อาจจะเป็นเสน่ห์ที่ทำให้พิมอรชื่นชอบก็เป็นได้
“อะแฮ่มๆ เด็กฝึกงานใหม่เหรอครับคุณพิม” หนุ่มสวมชุดกาวน์เดินเข้ามาทักทายพิมอรและเขมมิกาที่นั่งรับประทานอาหารอยู่
“ใช่ค่ะ ฝึกงานเป็นเลขาฯ ของหมอธาม เค้ก นี่หมอวินนะจ๊ะ” พิมอรพูดด้วยท่าทีเรียบร้อย เนื่องจาก ‘มาวิน’ เป็นหมออายุรกรรมของที่นี่
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เขมมิกาพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ก่อนจะส่งยิ้มเบาๆ ให้กับหมอมาวิน
“สวัสดีครับ เค้กใช่ไหม ผมได้ยินคุณพิมเรียกแบบนี้” มาวินมองไปยังเขมมิกาแบบตาไม่กะพริบ ใช่ว่าที่โรงพยาบาลจะรับเด็กฝึกงานบ่อยๆ แถมรับมาคราวนี้ก็ ‘เด็ด’ กว่าครั้งไหนๆ อีก
“ใช่ค่ะ หมอวิน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” หญิงสาวก้มหัวอย่างสุภาพ นาทีนั้น พิมอรแอบมองหมอมาวินก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กฝีกงานคนใหม่กระแทกตาหมออย่างแรง หมอหนุ่มหลงเสน่ห์เด็กสาวเข้าให้แล้ว
“หมอวินคะ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ หมอธามผ่าตัดเสร็จหรือยัง หมอวินพอจะทราบไหมคะ” พิมอรเอ่ยขึ้นเพื่อแทรกบทสนทนาของทั้งคู่ ที่เธอกล้าถามหมอมาวินเช่นนั้น เพราะหมอหนุ่มค่อนข้างเป็นกันเองและเฟรนด์ลี่กับพนักงานทุกคน จึงทำให้ทุกคนกล้าพูดเล่นด้วยมากกว่าหมอธามไท
“อืม…เหมือนผมจะเห็นว่าหมอธามเข้าไปในห้องพักแล้วนะครับ” มาวินทำท่านึก ทว่า แม้จะตอบพิมอรแต่สายตากลับจับจ้องไปที่เขมมิกาอย่างโจ่งแจ้ง
“อะแฮ่มๆ หมอคะ จ้องเด็กฝึกงานของหมอธามไม่วางตาเลยนะคะ เดี๋ยวก็โดนหมอธามเล่นงานให้หรอกค่ะ” พิมอรอดพูดแซวให้หมอมาวินรู้ตัวไม่ได้ ว่าตอนนี้ เขาเผลอจ้องเขมมิกาเสียจนเกินงาม
“อ๊ะ ฮ่าๆ ขอโทษทีครับ ป่านนี้ น้องเค้กคงคงกลัวสายตาหมอไปแล้วไหมเนี่ย อย่าคิดมากนะครับ หมอขอโทษที่มองมากไป”
มาวินหัวเราะแก้เก้อ ปกติแล้ว เขาไม่ใช่คนที่จะคอยป้อกะลิ้มกะเลี่ยให้ความสนใจเด็กฝึกงานแบบนี้ แต่สำหรับเขมมิกา เธอมีแรงดึงดูดที่เขาเองก็ไม่สามารถห้ามได้เหมือนกัน ยอมรับว่า
‘เด็กคนนี้น่ารัก เกินต้าน’
“เปล่าค่ะ ใครจะกล้าคิดกับหมอวินแบบนั้นล่ะคะ”
เขมมิกาตอบพร้อมกับยิ้มร่าเริงออกไป เพราะค่อนข้างชินที่ถูกหนุ่มน้อยใหญ่มองด้วยสายตาแบบนี้ แต่เธอก็ไม่เคยนึกหลงตัวเอง แม้จะรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก็คือข้อได้เปรียบเรื่องรูปร่างหน้าตา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่เคยเขินอายเวลาถูกผู้ชายจับจ้องเช่นนี้ แต่หากเลือกได้ก็อยากให้ผู้ชายเข้ามาเลือกเธอจากภายในจิตใจมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
“ถ้างั้น เดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรก็ปรึกษาหมอได้นะ ถ้าหมอธามดุก็มาคุยกับหมอวินได้ เพราะหมอวินใจดี” มาวินส่งยิ้มให้กับเขมมิกาอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวลาไปเพราะใกล้ถึงเวลาตรวจรอบบ่ายแล้ว
“เสน่ห์แรงจริงๆ น้า หมอวินเนี่ยโสดของจริง ถึงจะเฟรนด์ลี่ แต่ไม่เจ้าชู้ พี่เพิ่งเคยเห็นหมอวินทำสายตาแพรวพราวใส่ผู้หญิงครั้งแรกเนี่ย” พิมอรไม่ได้อยากสปอยล์เขมมิกา แต่อย่างที่บอก ว่าหากไม่ใช่หมอธามไท เธอเองก็พร้อมสนับสนุนความรักของทุกคน
“พี่พิมคะ เค้กเพิ่งมาวันแรก แถมยังไม่รู้เลยว่าหมอธามจะชอบเค้กไหม เค้กไม่กล้าคิดเรื่องอื่นหรอกค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยสายตาจริงจัง แต่ก็ขอบคุณในความหวังดีของพิมอร
“ดีมาก คิดแบบนี้ถือว่าดีมากเลยเค้ก ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่พี่เลือกเค้กมา เพราะงั้น เราจะทำให้หมอธามชอบเค้กให้ได้”
พิมอรพูดอย่างอารมณ์ดี น้อยครั้งนักที่พิมอรจะถูกชะตาใครแบบนี้ อาจจะเพราะความพยายามของเขมมิกาที่ทำให้เธอเห็นมาตลอดว่าอยากมาฝึกงานที่นี่ บวกกับความยิ้มแย้ม เฟรนด์ลี่ แต่ไม่ขี้อ่อยของนักศึกษาฝึกงานสาว ก็ยิ่งทำให้รู้สึกชื่นชอบเขมมิกามากเป็นพิเศษ
“ว่าแต่เห็นหมอวินบอกว่า หมอธามออกจากห้องผ่าตัดแล้ว ไม่ลงมาทานข้าวหรอคะ” เขมมิกาพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“สงสัย วันนี้ หมอจะมีนัดน่ะสิ งั้นเรารีบกินดีกว่า จะได้ไปพบหมอธาม” พิมอรเร่งก่อนที่หมอธามไทจะออกไปโดยที่ไม่ทันได้พาสาวน้อยคนสวยเข้าไปรู้จัก
ธามไทนั่งจ้องหน้าจอคอมฯ ของตนเอง ก่อนจะลงรายละเอียดเคสผ่าตัดเมื่อสักครู่ ทุกครั้งหลังจากที่ทำการผ่าตัดคนไข้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและทรวงอก คุณหมอหนุ่มก็มักจะจดบันทึกอย่างละเอียดอีกทีเพื่อกันข้อผิดพลาด วันนี้ทั้งวัน เขาเหนื่อยล้าเสียจนไม่มีแรงทำอะไร และเย็นนี้เขาเองก็มีนัดพบกับหุ้นส่วนสำคัญที่ไม่สามารถเลี่ยงได้
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ธามไทต้องหันไปมอง
“เชิญ” หมอหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแบบที่ชอบทำ และเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกลายเป็นคนเย็นชาแม้แต่นิด เพียงแต่ด้วยการงานและความตึงเครียดของงานหล่อหลอมให้กลายเป็นคนบุคลิกเช่นนี้ มีเพียงคนสนิทเท่านั้นที่จะได้เห็นตัวตนจริงๆ ของเขา
“สวัสดีค่ะหมอธาม” พิมอรเดินเข้ามาพร้อมกับเขมมิกา ก่อนจะยกมือไหว้หมอธามไทอย่างสุภาพ
“อื้ม” ธามไทตอบรับโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองพิมอรแม้แต่นิด เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ฝ่ายบุคคลคงพยายามหาเลขาฯ มาให้ แต่เขาเบื่อที่จะรับใครเข้ามา เนื่องจากทุกคนที่เข้ามาต่างมีปัญหาเหมือนกันหมด เอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงาน และเรื่องความรักมันก็ไม่ควรเกิดในที่ทำงานด้วย แค่คิด คนบ้างาน ชีวิตมีแต่คำว่างานกับงาน ถอนหายใจพรืดยาว
“คือว่า พิม…”
คุณหมอหนุ่มพูดอย่างไม่ใส่ใจอีกตามเคย จะว่าเขาใจร้ายก็ได้ แต่สิ่งที่ศศิทำ หรือแม้แต่การเอาเรื่องเขมมิกาไปประจานแบบนี้ แค่เขายังให้พ่อของเจ้าหล่อนเป็นหุ้นส่วนของโรงพยาบาลอยู่ก็ถือว่าใจดีมากแล้ว“ค่ะ งั้นก็เอาที่พี่ธามเห็นว่าสมควรละกัน” เขมมิกาไม่อยากเซ้าซี้คนรักต่อ ในเมื่ออีกฝ่ายคิดแบบนั้น เธอก็เคารพการตัดสินใจของเขา“พี่แค่หลีกเลี่ยงการปะทะ พี่ไม่อยากให้ศิมาพูดอะไรไม่ดีใส่เค้กอีก แค่นี้ก็มากพอแล้ว นี่พี่ต้องอดทนมากนะที่รู้ว่าศิประจานเค้กแบบนี้” ธามไทมองหน้าเขมมิกาด้วยสายตาจริงจัง“เค้กไม่ได้คิดมากค่ะ ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องก็นานมากแล้ว เรามาดูชื่อคนอื่นต่อเถอะนะคะ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าคุณหมอหนุ่มเริ่มอารมณ์เสียเรื่องศศิขึ้นมา“ตอนนี้ พี่เหนื่อยแล้ว อยากหาอะไรกินจังแลย”เจ้าของร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับเอนศีรษะพิงไหล่หญิงสาวอย่างเหนื่อยล้า การได้อยู่กับเธอแบบนี้ มันเหมือนการพักผ่อนชั้นดีสำหรับเขา“ถ้าอย่างนั้น พี่ธามรอเค้กอยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวเค้กไปทำอะไรให้ทาน” เขมมิกาค่อยๆ ขยับตัว พร้อมกับให้หมอหนุ่มเอนตัวนอนที่โซฟา“ให้พี่ไปช่วยไหม” เอ่ยถามด้วยสายตาที่ปรือจนแทบจะหลับลง
เสียงปรบมือดังขึ้นจากคนที่มาใหม่ ทำให้คนรักทั้งสองต้องหันไปมองทันที เวทัสกับเมรีญาเดินเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม“แหม โชคดีจริงๆ มาทันเห็นโมเมนต์สุดแสนโรแมนติกของมึง ไอ้เพื่อนรัก”เวทัสมาถึงก็รีบแซวธามไททันที จริงๆ เขาพาเมรีญามาภูเก็ตครั้งนี้ก็เพื่อพักผ่อน แต่พอรู้ว่าธามไทจะพาเขมมิกามาเจอบิดาด้วย ก็เลยคิดว่าคงต้องนัดพบเพื่อนเสียหน่อย“เออ กูอุตส่าห์จะรีบทำก่อนมึงมา แต่มึงเสือกมาพอดี” ธามไทพูดด้วยความหัวเสีย เขาแค่ไม่อยากให้เวทัสได้เห็นตนเองในมุมนี้เท่าไรนัก เพราะเท่านี้ก็โดนมันล้อจะแย่แล้ว“อะไรกันวะ อย่าบอกนะว่ามึงอายกู คุณเค้กดูสิครับ จะแต่งงานอยู่แล้ว มันยังเขินเรื่องไม่เป็นเรื่อง” เวทัสได้ทีหันไปพูดกับว่าที่เจ้าสาว“สงสัยถูกหมอว่านแกล้งบ่อยมั้งคะ” เขมมิกาตอบกลับอย่างปกป้องว่าที่สามี“ใช่ค่ะ หมอว่านน่ะชอบแซวหมอธาม สงสัยจะลืมไปว่า ก่อนหน้านี้ ตัวเองก็ไม่ต่างจากเพื่อนเท่าไรหรอก” เมรีญามองสามีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์จนอีกฝ่ายหลุดขำออกมา“โธ่ ที่รัก อย่าไปบอกเขาสิ ให้ผมได้เท่หน่อย” เวทัสพูดอย่างขำขัน จริงอยู่ว่าช่วงนี้ เขาแซวธามไทบ่อย แต่ที่พูดไปทั้งหมดก็เพราะยินดีกับเพื่อนทั้งนั้น“ช่างเถอะ
“พ่อ…” ธามไทห้ามพ่อด้วยน้ำเสียงโอดครวญตามเคย“ฉันถามหนูเค้ก แกไม่ต้องยุ่ง” คราวนี้ คนเป็นพ่อหันไปดุลูกชายทันที“เอ่อ ค่ะ เค้กคิดว่าเค้กเข้าใจงานของพี่ธามดีค่ะ พี่ธามไม่ได้เป็นแค่หมอ แต่พี่ธามเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลด้วย ตอนทำงานกับพี่ธาม เค้กเข้าใจดีว่าเพราะอะไร พี่ธามถึงต้องทำงานหนัก แต่เค้กจะไม่ยอมให้พี่ธามทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองเหมือนแต่ก่อนแน่นอนค่ะ”เขมมิกาพูดออกไปด้วยความมั่นใจ ที่ผ่านมา ชายหนุ่มทำงานหนักจริง แต่ทุกอย่างย่อมมีเหตุผลของมัน และต่อไปนี้เธอเองจะเป็นคนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับเขา“บอกตามตรงว่า ฉันไม่ได้ติดอะไรเลยกับการที่จะรับหนูมาเป็นสะใภ้ นึกดีใจด้วยซ้ำที่ลูกชายฉัน มันรักใครเป็นสักที แต่ที่ห่วงก็คือกลัวว่ามันจะทำให้หนูเสียใจอีก” ธนาธรพูดออกมาด้วยเป็นห่วง แม้ว่าธามไทจะเป็นลูกชายตนเองก็จริง แต่เขาก็ไม่เคยเข้าข้างลูกในทางที่ผิด“โธ่ พ่อ ผมไม่ทำอะไรแบบนั้นแล้วครับ ผมรักเค้ก แล้วก็จะมีหลานให้พ่ออุ้มห้าคนเลย” ธามไทพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ จนโดนหญิงสาวตีไหล่เข้าให้“พี่ธาม! ห้าคนเกินไปไหมคะ” เขมมิกาตอบกลับด้วยใบหน้าแดงก่ำ“ฮ่าๆ ถ้ามีน้ำยาขนาดนั้นก็ลองดู ฉันจะรออุ
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ต่อให้พี่ธามไม่มีแหวน หรือไม่มีอะไรเลย เค้กก็อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ค่ะ” เธอจับมือเขาให้ลุกขึ้นยืนเคียงข้างกันอีกครั้ง “เค้กเคยบอกพี่แล้วไงคะว่า ทรัพย์สมบัติ หรือฐานะเงินทองของพี่ไม่ได้สำคัญสำหรับเค้กเลย ที่เค้กรักพี่มาตลอดหลายปี มันมาจากความดีและความอบอุ่นของหมอธามคนนั้น คนที่เคยช่วยเค้กเอาไว้ แค่ความรักที่พี่ธามมีให้เค้กวันนี้ มันก็มากเกินพอแล้วค่ะ”เขมมิกาพูดทุกอย่างออกมาจากใจ ต่อให้วันนี้ธามไทกลายเป็นคนล้มละลายเธอก็ยังเลือกที่จะอยู่เคียงข้างชายหนุ่มเช่นเคย“น่ารักที่สุด เค้กของพี่ สรุปแต่งงานกับพี่นะ” ถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แม้หญิงสาวจะดูไม่ติดอะไร แต่เขาก็อยากจะได้คำยืนยันจากปากของเธอ“แค่นี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอคะ…แต่งค่ะ”หญิงสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง แม้เรื่องนี้จะเกินความคาดหวังที่คิดเอาไว้ แต่ก็รู้ใจตัวเองดีว่า ตอนนี้ ตนเองรักคุณหมอหนุ่มมากแค่ไหน และก็ไม่อยากหนีไปไหนอีกแล้ว ในเมื่อเขาและเธอต่างใจตรงกัน“เย่! พี่จะมีเมียแล้ว” ธามไทก้มลงหอมแก้มคนตัวเล็กฟอดใหญ่ทันทีด้วยความดีใจ“แล้วทำแบบนี้ คนที่โรงพยาบาลว่าไงบ้างคะ”เขมมิกาพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะกา
เขมมิกาเดินทางมาที่โรงพยาบาลอินทรารามด้วยหัวใจเต้นรัว แม้บรรยากาศตอนนี้จะสงบแล้วเพราะกองทัพสื่อมวลชนได้ทยอยกันกลับไป แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี“เค้ก!”เสียงเรียกจากพิมอรทำให้เขมมิกาต้องหยุดเดินก่อนจะไปถึงห้องของหมอธามไทเพื่อทักทายรุ่นพี่สาวทันที“พี่พิมสวัสดีค่ะ” เขมมิกายกมือไหว้พิมอรอย่างนอบน้อมเช่นเคย“มาหาหมอธามใช่ไหม หืม เค้กน่ะ ทำไมไม่บอกเรื่องนี้กับพี่ ถ้าพี่รู้แต่แรกก็คงจะได้ไม่เชียร์หมอมาวินกับเค้ก เฮ้อ...ป่านนี้ หมอมาวินอกหักแย่แล้ว”พิมอรพูดด้วยรอยยิ้ม เพราะอดปลื้มใจแทนเขมมิกาที่ถูกขอแต่งงานสดๆ ร้อนๆ ไม่ได้จริงๆ“เอ่อ เค้กขอโทษนะคะที่ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด” เขมมิการู้ดีว่าพิมอรคงเป็นห่วงตนมาก แต่หากตอนนั้นเล่าให้ฟัง ฝ่ายบุคคลสาวคงไม่อยากให้เธอต้องตกอยู่ในสถานะแบบนั้น“ช่างมันเถอะ อย่างน้อย ตอนนี้ หมอธามก็กล้าออกมาพูดเรื่องนี้แล้ว พี่ว่าเค้กไปหาหมอเถอะ” พิมอรรีบดันหลังให้เขมมิกาเดินไปยังห้องทำงานของหมอหนุ่มทันที“งั้นไว้เค้กแวะมาหาพี่พิมใหม่นะคะ” สาวน้อยพูดด้วยความเกรงใจ“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ หลังจากนี้ พี่ว่าเรามีแววจะได้เจอกันแทบทุกวันแน่นอน”สาวรุ่นพี่พูดแซวออกไปอีกค
วันเวลาผ่านไปร่วมสัปดาห์ ธามไทไม่ได้ติดต่อมาหาเขมมิกาตามที่บอกเอาไว้จริงๆ ดูเหมือนคุณหมอหนุ่มไม่เร่งรีบหรือคอยทวงเอาคำตอบ จนหญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าเขาเองอาจจะไม่ได้หวังในตัวเธอแล้ว ยิ่งช่วงนี้เห็นว่าโรงพยาบาลอินทรารามกำลังประกาศเปิดสาขาใหม่ ชายหนุ่มอาจจะเอาเวลาทั้งหมดของตนเองไปใส่ใจเรื่องควรใส่ใจอยู่ก็ได้“เค้กครับ เชิญห้องทำงานพี่หน่อย”ปริญเดินออกมาเรียกเลขาฯ ส่วนตัวของตนเองเข้าไปด้านในห้อง สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เขาสังเกตเห็นว่าเธอเริ่มเหม่อลอย และดูไม่ร่าเริงเหมือนปกติจนแอบคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวอาจกำลังคิดถึงใครอยู่“พี่ปริญมีอะไรให้เค้กทำหรือคะ” เขมมิกาเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา“ไม่มีครับ พี่แค่อยากเรียกเค้กมาคุย พักนี้เห็นเค้กดูเครียดๆ” ปริญพูดด้วยสีหน้ากังวลใจ และสัญชาตญาณบางอย่างมันบอกให้เขาเตรียมใจเอาไว้ว่าหญิงสาวอาจพูดเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรขึ้นมาก็ได้“เหรอคะ เค้กต้องขอโทษด้วยนะคะที่เค้กอาจจะทำงานได้ไม่ดี”“เรื่องงานไม่มีปัญหาเลยเค้ก แต่พี่แค่เห็นว่าเค้กดูไม่ร่าเริงเหมือนก่อนหน้านี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า หรือว่าเรื่องหมอธาม” CEO หนุ่มเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่วันนั







