Share

บทที่ 55

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-02 22:17:45

ไท่โฮ่วเดาความคิดสะใภ้ออก ทว่าทั้งนางและหวงโฮ่วก็ล้วนเป็นคนสกุลเดียวกัน เหตุใดนางจะไม่อยากสนับสนุนหวงโฮ่ว ช่วยอุ้มชูหลานชายที่มีสายเลือดเดียวกันกับตนเองถึงสองชั้น

รอจนถึงคราวที่ภาพวาดของเฉินเซียงหรงเปิดเผยแก่สายตาทุกคน สวีไท่โฮ่วประเมินแล้วว่าภาพนั้นมิได้มีสิ่งใดเสียหายก็ปรบมือดังสนั่น แย้มรอยยิ้มงดงามยิ่งกว่าบุปผา เอ่ยเสียงนุ่ม ทว่าดังกังวาน

“วาดได้ดี ดียิ่ง!” ไท่โฮ่วกล่าวชื่นชมคล้ายลืมตัว “ผู้อื่นวาดภาพสาวงามกับดอกไม้งาม บ้างวาดภาพโบตั๋นสีแดงสื่อความนัย คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงกลับวาดสิ่งที่ต่างออกไป ช่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา ทั้งยังมีฝีมือการวาดภาพเหนือชั้นยิ่งนัก หากบุปผาเปรียบได้กับสตรี ใต้หล้านี้จะมีสตรีใดเหมาะสมกับคำว่า ‘ยอดบุปผา’ ยิ่งกว่ามารดาของแผ่นดิน!”

สวีหวงโฮ่วใจเต้นรัว คาดไม่ถึงว่าไท่โฮ่วจะกล่าวยกย่องพระนางต่อหน้าคนทั้งหมดชัดแจ้งถึงเพียงนี้

โชคดีเหลือเกินที่ตนเกิดมาในสกุลสวี จึงนับได้ว่าอยู่ฝักฝ่ายเดียวกันกับไท่โฮ่วอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่แรกเข้าวัง แม้จะมีที่ต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากอยู่บ้าง แต่ลงท้ายแล้วทุกครั้งก็ล้วนผ่านมาได้ด้วยดี กล่าวได้ว่าชั่วชีวิตนี้ ต่อให้ไม่อาจปีนป่ายถึงตำแหน่งหวงโฮ่วดังเช่นทุกวันนี้ก็คงไม่ถึงกับชีวิตตกต่ำ จนต้องทนอยู่ในวังอย่างโดดเดี่ยวและอัปยศอดสู...ดีเหลือเกิน...

ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ว่าที่สะใภ้ที่พระนางหมายตาได้หน้า พระนางเองก็ยังได้หน้าด้วยอีกราย

ดียิ่ง ดียิ่ง!

หวงโฮ่วสบพระเนตรสวีไท่โฮ่ว ค้อมศีรษะให้พระนางด้วยความซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้

เมื่อไท่โฮ่วตรัสว่าดี ผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าไม่ดี

แม้ภาพวาดของเหล่าสาวงามล้วนงดงาม ทว่าเมื่อพิจารณาในแง่ของความโดดเด่นและความกล้าหาญดังที่ไท่โฮ่วตรัสชื่นชมแล้ว ภาพของคุณหนูสาม เฉินเซียงหรงจึงนับว่าประเสริฐขึ้นไปอีกขั้น กลายเป็นผู้ชนะการแข่งขันวาดภาพเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์การประชันขันแข่งที่ได้รับคะแนนเต็มจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน นับว่าเป็นชัยชนะที่คุ้มค่ากับการวาดภาพสุ่มเสี่ยงเช่นนั้นเป็นอย่างยิ่ง

ผู้อื่นต่างก็คิดตรงกัน...

มีเพียงเจ้าของภาพวาดเท่านั้น ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลยแม้แต่น้อย สำหรับเซียงหรงแล้ว นางก็เพียงวาดภาพตามที่นางเชื่อว่าตรงกับหัวข้อที่ได้รับมากที่สุดอย่างสุดฝีมือเท่านั้น...

ท่ามกลางเสียงชื่นชมคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง หานชิงเยว่กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อ

นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!

กล้าหาญที่ใดกัน นังเด็กนี่ก็แค่ประจบสอพลอผู้เป็นใหญ่ต่อหน้าผู้คนจนได้คะแนนเต็มเท่านั้น! ไร้ยางอายสิ้นดี!

ภาพเช่นนี้ บุตรสาวของนางก็วาดได้ เพียงแต่บุตรสาวของนางมิได้ไร้ยางอาย ทั้งยังมิได้มุทะลุไร้หัวคิดกระทั่งกล้าเอาจวนเฉินกั๋วกงทั้งจวนมาเสี่ยงเพื่อชัยชนะจอมปลอมเช่นนี้เท่านั้น!

อนุหาน หานชิงเยว่ ทั้งอึดอัด ทั้งขัดใจ แต่ไม่อาจแสดงสีหน้าที่ไม่ดี

นางทำได้เพียงยิ้ม...เค้นรอยยิ้มจนมุมปากกระตุกยิกยิก ดูน่าตลก

ผู้ที่สังเกตเห็นภาพนี้ก็คืออู๋ชิงชิง

นึกถึงข้อเท็จจริงที่คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงเพียงทำไปตามประสาซื่อแล้ว นางก็ทั้งขันทั้งสาแก่ใจยิ่งนัก

ต้องมามีผู้ที่แม้ไม่ใช่ฟูเหรินของจวนกลับพยายามวางตัวเป็น ‘มารดา’ และนายหญิงของจวนอยู่เนืองๆ อย่างหานชิงเยว่คอยเลี้ยงดูเช่นนี้...เห็นได้ชัดว่าชีวิตในจวนของคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง ย่อมไม่ง่าย

อู๋ชิงชิงพลันสงสารเห็นใจน้องเซียงหรงของตนเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน นางลอบบอกเซียงหรงด้วยรอยยิ้มสดใสเจิดจ้า “อันที่จริงข้าก็อยากวาดภาพเช่นนั้น ทว่าไม่กล้า...น้องเซียงหรง ข้านับถือเจ้ายิ่งนัก นับถือจากใจจริง”

เซียงหรงเริ่มจะรู้สึกได้ว่าตนเองอาจทำบางอย่างพลาดไป “พี่ชิงชิง หรือภาพนี้...ไม่สมควรวาดหรือ...” เซียงหรงถามอย่างไม่แน่ใจนัก

“ในเมื่อไท่โฮ่วรับสั่งว่าดี จะนับว่าไม่ควรวาดได้อย่างไรเล่า น้องเซียงหรงลองลอบมองไปทางยอดบุปผาของเจ้าสิ...” อู๋ชิงชิงบอกเสียงเบา “ไม่เพียงไท่โฮ่วพอพระทัย หวงโฮ่วเองก็ยังทรงมีพระเกษมสำราญดีมิใช่หรือ”

เซียงหรงใบหน้าซับเลือดฝาด เขินอาย แต่พยายามเก็บสีหน้า

ท่าทีนี้ก็นับว่าน่ารักน่าเอ็นดูเช่นกัน

อู๋ชิงชิงเห็นแล้วก็ถึงกับเผลอหัวเราะออกมา ดึงดูดสายตาผู้คนให้ยิ่งมองมาเป็นตาเดียวกัน

เซียงหรงอายจนสุดจะกลั้น “พี่ชิงชิง! ท่านล้อข้าหรือ...” ตอนนี้เซียงหรงหน้าแดงยิ่งกว่าผลท้อสุกปรั่ง

ภาพใดในยามนี้ไหนเลยจะน่ามองเท่าภาพสาวงามหยอกล้อกันอยู่ข้างในใจกลางลาน

บุรุษที่เพิ่งเข้าใกล้การชนะพนันชนิด ‘กินรวบรอบวง’ มากขึ้นอีกขั้น มองใบหน้าเก้อกระดากของสาวงามแล้วถึงกับตาพร่าไป

ที่แท้ใบหน้ายิ้มน้อยๆ ยามเขินอายของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงกลับน่ามองกว่ายามแย้มยิ้มธรรมดาๆ เสียอีก...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 59

    ในการแข่งขันรอบที่ห้า อุปกรณ์เขียนอักษรของผู้เข้าแข่งขันล้วนถูกยกออกไปทั้งหมด คงเหลือเพียงโต๊ะและม้านั่งสูงเพื่อให้โฉมสะคราญทั้งหลายได้บรรเลงเจิงเท่านั้นในรอบนี้นักพนันหลายคนต่างลงพนันเอาไว้ว่าคุณหนูใหญ่จวนเฉินกั๋วกง เฉินชิวเยว่ ที่เป็นโฉมงามผู้เป็นยอดฝีมือในการบรรเลงเจิงจะต้องคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันมาได้อย่างแน่นอน แม้แต่ตัวเฉินชิวเยว่เองก็เชื่อเช่นนั้นโดยสนิทใจกระทั่งถึงคราวที่เฉินเซียงหรงต้องแสดงฝีมือ เพียงเสียงดนตรีจากเจิงของนางดังขึ้นท่อนเดียวเท่านั้น บรรยากาศในสวนชิงหลิงอันกว้างใหญ่ราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ กระทั่งผู้ที่ไม่ได้รู้ถึงสำเนียงดนตรีลึกซึ้งสักเท่าใด ยังถูกท่วงทำนองอันมีเอกลักษณ์ดึงดูดให้ต้องนิ่งฟัง“นี่มัน...” อาจารย์สอนเจิงผมขาวโพลน ใบหน้ามีริ้วรอยแห่งกาลเวลาผู้หนึ่งเบิกตาโพลง ริมฝีปากอ้าค้างด้วยความตื่นตะลึง “ลำนำเฉียนฉิน!”“ท่านอย่าได้พร่ำเพ้อถึงเพียงนี้เลย” คนอื่นๆ ที่ได้ยินหัวเราะเบาๆ “ลำนำเฉียนฉินหรือ ผู้ใดจะกล้าบรรเลงเพลงนี้ ทั้งความยากของการดีด ทั้งการตีความที่ต้องลุ่มลึก ทั้งยังต้องถ่

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 58

    “ท่านเป็นใครกัน” ฟูเหรินที่เริ่มเรื่องถามอย่างหวั่นๆนั่นสิ! ท่านเป็นใคร! เซียงหรงเองก็อยากรู้เช่นกันราวกับตอบคำถามของนาง ผู้อ้างตัวเป็นคู่หมั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด รอยยิ้มบนริมฝีปากเหี้ยมเกรียมขับให้ใบหน้าคมเข้มดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใบหน้าโจรภูเขาที่ถูกปราบเมื่อเดือนก่อนด้วยซ้ำ“จวิ้นหวังจ๋างจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจิน หลี่จือหลิน!”พี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อ! เซียงหรงเกือบจะตกใจจนทำพู่กันหลุดมือไปแล้ว ใช่เขาจริงๆ หรือ! ไม่...ไม่ถูก ต่อให้ไม่ใช่เขา แต่เล่นประกาศเสียขนาดนี้ หากท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้คิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา แล้วนางจะเอาเหตุผลใดไปบ่ายเบี่ยงกันเล่า! เซียงหรงอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ได้แต่เขียนอักษรต่อไปด้วยใจหดหู่บรรดาผู้คนที่พูดนินทาต่างอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกหลี่จือหลินไม่ได้รอให้ใครกล่าวอะไรอีก เขาโบกมือสั่งให้องครักษ์ที่แต่งกายเรียบง่ายดุจเดียวกันอยู่จัดการเรื่องการพนันขันต่อแทนตน แล้วเดินไปยังที่นั่งข้างมารดา ท่าทางสนิทส

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 57

    โฉมสะคราญต่างทำหน้าที่ของตนในการประชันฝีมือ แต่ผู้มาเฝ้าชมด้านข้างกลับเริ่มประชันคำพูดกันขึ้นมาแล้ว เสียงซุบซิบนินทาจากกลุ่มคนในมุมหนึ่งของสวนชิงหลิงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ“...ช่างน่าอดสูนัก...” ฟูเหรินผู้หนึ่งเอ่ยคล้ายพึมพำกับตนเอง “ไม่ใช่ว่าหลายปีก่อนในงานเทศกาลหยวนเซียว คุณหนูสามถูกคนแปลกหน้าลักพาตัวไป…ย่ำยี…” ราวกับลืมตัว ยิ่งพูดเสียงของฟูเหรินวัยกลางคนก็ยิ่งชัดถ้อยชัดคำขึ้นเรื่อยๆ จนฟังชัดถนัดหู ทำเอาคนอื่นๆ เริ่มหันมามองบุรุษอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลหัวเราะเบาๆ แล้วเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ข้าเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น ข้าจำได้แม่น คุณหนูสามที่ยังเยาว์ถูกบุรุษอุ้มร่างไร้สติไปทิ้งไว้หน้าจวนเฉินกั๋วกง พวกเขาบอกว่านางถูกย่ำยีจนไร้ค่าตั้งแต่นั้นมา”“นางมาทำไมกัน? ข่าวลือของนาง... เป็นข้าคงอับอายจนไม่อาจเงยหน้าอวดใครได้อีก”“ดูเถิด ต่อให้นางจะงดงามหรือมีฝีมือเพียงใด ชื่อเสียงเช่นนั้นย่อมไม่มีตระกูลใดต้องการหรอก”คำพูดเหล่านั้นพร้อมเสียงหัวเราะเยาะแผ่วจางแว่วมาให้ได้ยิน เ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 56

    เสียงฆ้องเบาๆ ดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน หัวข้อในการประชันความสามารถรอบที่สี่ถูกประกาศโดยเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิที่นั่งอยู่ในศาลากลางลาน"สายลมฤดูใบไม้ผลิพลิ้วพัด บุปผานับพันผลิบาน"กลายเป็นว่าในรอบที่สี่ สาวงามทั้งหมดจะต้องแต่งบทกวีจากหัวข้อที่กำหนดให้นี้ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงสามารถเริ่ม ‘คัดอักษร’ ตามคำสั่งที่จะได้รับในภายหลัง ทั้งหมดนี้กำหนดให้ใช้เวลาไม่เกินสองก้านธูปเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันจึงพยายามเพ่งสมาธิ ขยับพู่กันจรดลงบนกระดาษ เซียงหรงเองก็เป็นผู้หนึ่ง ที่เริ่มลงมือบรรจงเขียนด้วยท่วงท่าสง่างาม"บุปผาร่วงโรยใต้เงาจันทร์ น้ำค้างหล่นราวน้ำตาผู้คนเฉกเช่นสกุณารำพัน ถึงเมฆางดงามไร้ผู้ยลหยกงามอาจหักด้วยกำลัง สัตย์จริงถูกบิดเบือนด้วยเล่ห์กล"เห็นคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงแต่งบทกวีได้เร็วนัก เหล่าผู้ใคร่รู้ต่างอดใจไม่ไหว ลุกขึ้นยืน ชะเง้อมองมีบางคนเริ่มกระซิบกระซาบ“ถ้อยคำของนาง...ช่างลึกซึ้งและงดงาม”&

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 55

    ไท่โฮ่วเดาความคิดสะใภ้ออก ทว่าทั้งนางและหวงโฮ่วก็ล้วนเป็นคนสกุลเดียวกัน เหตุใดนางจะไม่อยากสนับสนุนหวงโฮ่ว ช่วยอุ้มชูหลานชายที่มีสายเลือดเดียวกันกับตนเองถึงสองชั้นรอจนถึงคราวที่ภาพวาดของเฉินเซียงหรงเปิดเผยแก่สายตาทุกคน สวีไท่โฮ่วประเมินแล้วว่าภาพนั้นมิได้มีสิ่งใดเสียหายก็ปรบมือดังสนั่น แย้มรอยยิ้มงดงามยิ่งกว่าบุปผา เอ่ยเสียงนุ่ม ทว่าดังกังวาน“วาดได้ดี ดียิ่ง!” ไท่โฮ่วกล่าวชื่นชมคล้ายลืมตัว “ผู้อื่นวาดภาพสาวงามกับดอกไม้งาม บ้างวาดภาพโบตั๋นสีแดงสื่อความนัย คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงกลับวาดสิ่งที่ต่างออกไป ช่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา ทั้งยังมีฝีมือการวาดภาพเหนือชั้นยิ่งนัก หากบุปผาเปรียบได้กับสตรี ใต้หล้านี้จะมีสตรีใดเหมาะสมกับคำว่า ‘ยอดบุปผา’ ยิ่งกว่ามารดาของแผ่นดิน!”สวีหวงโฮ่วใจเต้นรัว คาดไม่ถึงว่าไท่โฮ่วจะกล่าวยกย่องพระนางต่อหน้าคนทั้งหมดชัดแจ้งถึงเพียงนี้โชคดีเหลือเกินที่ตนเกิดมาในสกุลสวี จึงนับได้ว่าอยู่ฝักฝ่ายเดียวกันกับไท่โฮ่วอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่แรกเข้าวัง แม้จะมีที่ต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากอยู่บ้าง แต่ลงท้ายแล้วทุกครั้งก็ล้วนผ่านมาได้ด้วยดี กล่าวได้ว่าชั่วชีวิตนี้ ต่อให้ไม่อาจปีน

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 54

    จู่ๆ สวีหวงโฮ่วก็คล้ายจะมองเห็นภาพตนเองซ้อนทับคุณหนูสี่จากจวนสกุลอู๋ขึ้นมาปีนั้น...พระนางก็อาศัยการประชันขันแข่งในเทศกาลชมบุปผา ย้ำเตือนทุกคนถึงสายสัมพันธ์ของพระนางกับราชวงศ์สกุลหลี่เช่นนี้...ถูกแล้ว นี่ก็คือเจตนาที่แท้จริงของคุณหนูสี่สกุลอู๋ สกุลอู๋แม้ยามนี้ยังคงมีหน้ามีตา ทว่ากลับค่อยๆ สูญเสียความน่าเกรงขามลงไปทุกขณะ ด้วยหลายสิบปีมานี้ไม่มีผู้ใดในจวนไต่เต้าถึงตำแหน่งข้าราชการระดับสูง ไร้ความโปรดปรานจากฝ่าบาท ไร้ความสัมพันธ์เครือญาติกับราชวงศ์และขุนนางใหญ่สวีหวงโฮ่วจ้องมองแววตาอันสงบเยือกเย็นของคุณหนูสี่สกุลอู๋แล้วก็ยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย สตรีเช่นนี้...สำหรับพระนางแล้วนับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทว่าแค่ความน่าสนใจยังนับว่าไม่พอ สิ่งที่ผู้เป็นชายาของบุตรชายพระนางพึงมี มิใช่เพียงสติปัญญา ความสามารถ แต่ยังต้องมีตระกูลที่สามารถสนับสนุนส่งเสริมบุตรชายซึ่งเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของพระนางได้อีกด้วยเฟ้นหาสะใภ้ที่เหมาะสม...นี่ก็คือเจตนาที่แท้จริงของพระนางในการเข้าร่วมชมการประชันขันแข่งในครั้งนี้สวีหวงโฮ่วเบนสายตากลับไปมองยังคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง ก็พบว่าเด็กสาวผู้นั้นกำลังจ้องมองไปยังอู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status