บททั้งหมดของ ภรรยาห้าอีแปะ: บทที่ 1 - บทที่ 10

17

บทนำ

เทศกาลชมบุปผาวันนี้อากาศดี ดอกไม้งาม สายน้ำเย็นใส ทว่าเฉินเซียงหรงกลับไม่เหลือแก่ใจจะชื่นชมธรรมชาติใดใดอีกแล้วนับตั้งแต่เกิดมา นางไม่เคยต้องพบความกดดันมากเท่านี้!ยามนี้ นาง ในฐานะ ‘สตรีที่งดงามที่สุด และทรงภูมิที่สุด’ ทั้งยังอาจเรียกได้ว่าเป็น ‘สาวงามรุ่นเยาว์ที่สูงส่งและน่าจับตามองเป็นที่สุด’ ยืนอยู่กลางลานกว้างเพียงลำพัง สายตาคนมากมายต่างจับจ้องไท่โฮ่วส่งยิ้มให้นางไม่หยุด หวงโฮ่วเองก็ชื่นชมนางอย่างชัดเจน ทั้งชื่นชมและชมชอบถึงขั้นเมตตาถอดปิ่นหงส์ทองคำล้ำค่าจากเกสาประทานให้ เหล่าสตรีบรรดาศักดิ์ บรรดาองค์ชายและท่านชาย ต่างมองมาที่นาง นัยน์ตาเปล่งประกายวาววับ!เซียงหรงฝืนรักษารอยยิ้มงดงามบนใบหน้า ทว่าในใจได้แต่ตะโกนว่าแย่แล้ว!โฮ...!!! นางสมควรเก็บงำความสามารถ วางตัวโง่งม และปล่อยให้ผู้อื่นรุมประนามต่อไปต่างหากถึงจะถูก!ยามนี้นางเองก็โตมากแล้ว วัยสิบห้าสิบหกขวบปี นับว่าเป็นสตรีที่อยู่ในช่วงอายุทองคำของการแต่งงานออกเรือนชัดๆทว่านางไม่อยากแต่งงานออกเรือน! นางอยาก ‘ถูกกักตัวไว้ในจวนเฉินกั๋วกง’ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรื่อยไปตามประสานางต่างหาก!การแต่งงานออกเรือนมีสามีไม่เห็นจะมีสิ่งใดดีเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 1

ย้อนกลับไปเมื่อราวสิบกว่าปีก่อน ณ จวนเฉินกั๋วกงเปรี้ยง!เสียงสายฟ้าฟาด ทำเอาคุณหนูสามตัวน้อยสะดุ้งตื่นทันที“ยัง...ยังไม่เช้าเลย...” เฉินเซียงหรงกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ ยิ่งเห็นเงากิ่งไม้ด้านนอกเรือนยืดยาวขยับโยกเหมือนมีชีวิต ดวงตากลมๆ ก็ยิ่งเบิกโต ลมหายใจติดขัด สองมือน้อยๆ กอดผ้าห่มไว้แน่นเหตุใด...เหตุใดกลางดึกจึงเกิดเรื่องน่ากลัวเช่นนี้ได้! นับตั้งแต่เกิดมา จนพูดจาชัดถ้อยชัดคำ เดินเหินคล่องตัว นางเพิ่งเคยพบเจอเรื่องน่าหวาดกลัวเช่นนี้!“มะ แม่นมหลิน...ท่านแม่...เสี่ยวซี...พี่ซู่ซิน...” เซียงหรงพยายามร้องเรียกใครสักคนคาดไม่ถึงว่าที่ตอบกลับมา จะเป็นเสียงท่านแม่กรีดร้องร่ำไห้“กรี้ดดด ท่านพี่! ลูกแม่!”“ท่าน ท่านแม่...ฮึก...เกิดอะไรขึ้น...” ข้างนอกมีพายุฝน ลมแรงจัดจนหน้าต่างกระแทกดังกุกกัก มีเสียงฟ้าร้องครืนครางสลับเสียงสายฟ้าฟาด ท่านแม่ก็ยังมาส่งเสียงร้องน่าหวาดกลัวเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเกิดเหตุร้ายแรงใดขึ้นกันแน่ตอนนี้นาง...นางหวาดกลัวยิ่งนัก!เซียงหรงตัวสั่นน้ำตาไหลเป็นสายทว่าแม้จะหวาดกลัวแค่ไหน บุตรสาวอย่างนางก็ทั้งรักและเป็นห่วงมารดาเป็นที่สุดแม่นมของนางกล่าวว่าท่านแม่ของนาง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 2

“ท่านฟังสิ ท่านแม่ยังร้องอยู่เลย...ฮึก...แม่นม ท่านพาข้า...ฮึก พาข้าไปดูท่านแม่ที!” เสี่ยวเซียงหรงช้อนตาจ้องมองตาแม่นมหลิน น้ำตาไหลเป็นสายแม่นมหลินเห็นสภาพคุณหนูที่ตนเลี้ยงดูมาแล้วก็น้ำตาซึม “โถ...คุณหนูสาม...”เอาเถิด...อุ้มคุณหนูสามเอาไว้ ใช้ผ้าห่อร่างคุณหนูให้หนาๆ สักหน่อย ร่างกายของคุณหนูจะได้อบอุ่นและไม่ต้องลมฝน หากคุณหนูสามหวาดกลัวก็คอยปลอบโยนนาง เช่นนี้ก็คงจะไม่เป็นไรแล้วกระมัง ครั้งนี้ถ้าหาก...ถ้าหากว่าฟูเหรินเป็นอะไรไป อย่างน้อยๆ คุณหนูสามที่รออยู่ด้านนอกก็อาจได้พบหน้าและได้สนทนากับมารดาของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย...แม่นมหลินซับน้ำตาให้คุณหนูสาม เอาผ้าห่มหนานุ่มห่อตัวนาง วานให้เสี่ยวซี บุตรสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหนูของตน หยิบเสื้อคลุมของคุณหนูมาใช้คลุมศีรษะน้อยๆ ไว้อีกชั้น“ไปเจ้าค่ะ พวกเราไปให้กำลังใจฟูเหรินกัน” แม่นมหลินบอกพลางอุ้มร่างน้อยๆ ที่พยายามกลั้นสะอื้นสุดกำลัง มุ่งตรงไปยังเรือนเหลียนฮวาที่กำลังสับสนวุ่นวายทันที เสี่ยวซีที่ตามมารดามาด้วยก็รู้ความเกินวัย นางรีบช่วยถือตะเกียง วิ่งเตาะแตะนำทาง เฉลียวฉลาดรู้งานเป็นอย่างยิ่ง“ฟูเหริน เบ่งเจ้าค่ะ ออกแรงอีกนิด!”
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 3

“ถอยไป! ข้าจะเข้าไปดูท่านแม่!” เฉินจิ้งอี้ คุณชายใหญ่วัยย่างแปดขวบปีที่เกิดจากฟูเหริน คิดก้าวเข้าไปในห้องที่ใช้ทำคลอด กลับโดนท่านย่าของตนยื่นมือออกมาขวางไว้“ข้างในเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด หาใช่สถานที่ที่บุรุษสมควรย่างเท้าเข้าไปวุ่นวาย เป็นเด็กดีรออยู่ที่นี่ ย่าจะเข้าไปดูอาการท่านแม่ของเจ้าให้เอง รอจนข้างในเก็บกวาดกันดีแล้ว เจ้าค่อยตามเข้าไปก็ยังไม่สาย” แม่เฒ่าเฉินปรามหลานชาย แต่กลับหันไปทางหลานสาวตัวน้อย บอกเสียงสั่น “ไป! แม่นมหลิน อุ้มหรงเอ๋อร์ตามข้ามา!”ชั่วอึดใจนั้น เสี่ยวเซียงหรงพลันพบข้อดีของการเป็นสตรีอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ เด็กน้อยวัยสี่ขวบครึ่งอย่างนางสามารถเข้าไปในห้องคลอดของท่านแม่ได้ ในขณะที่พี่ชายใหญ่ผู้เก่งกาจฉลาดเฉลียวของนางกลับเข้าไปไม่ได้...ที่แท้การเป็นสตรีช่างดีนัก!ในตอนที่ท่านยาของนางพาเซียงหรงเข้าไปพบมารดา ภายในห้องยังเก็บกวาดไม่ทันเรียบร้อยดี สภาพห้องทำคลอดที่เซียงหรงเห็นจึงเต็มไปด้วยเลือด เลือด เลือด และเลือด มองไปทางไหนก็เห็นผ้าเปื้อนเลือดและกะละมังน้ำสีแดงฉาน น่าขนพองสยองเกล้าเป็นที่สุดไม่เพียงมีสภาพน่าหวาดกลัวพาให้อกสั่นขวัญหาย ภายในห้องทำคลอดแห่งนี้ยังมีกลิ่น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 4

เช้าวันถัดมา...เฉินเซียงหรงรีบตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ในใจคิดแต่จะรีบไปหาท่านแม่กับน้องชายตัวน้อย ทว่าหลังแต่งชุดขาวแปลกตาให้นาง แม่นมหลินกลับรั้งนางไว้ กล่าวว่า “คุณหนูสาม...สตรีคลอดบุตรนั้นเหน็ดเหนื่อยยิ่ง เมื่อคืนฟูเหรินคลอดบุตร เหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย จึงอยากนอนพักอย่างสงบเจ้าค่ะ...ต่อไป...ต่อไปนี้ฟูเหรินจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วเจ้าค่ะ”เฉินเซียงหรงแม้ยังเด็กอยู่มาก แต่ไม่ใช่คนเขลา นางเข้าใจดีว่าคนหลับไม่ตื่นหมายถึงอะไร นางรู้ก็เพราะอนุหานเคยบอกนางไว้!“ท่านแม่...ท่านแม่จะไม่กอดข้า จะไม่เล่นกับข้าอีกแล้วใช่หรือไม่...”เสี่ยวเซียงหรงร้องไห้จนตัวโยนที่แท้...ที่แท้แม้นางจะรีบตื่นนอนรีบแต่งเนื้อแต่งตัวไปพบท่านแม่อย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ท่านแม่...ท่านแม่ไม่อาจลุกขึ้นมากอดนาง ลูบศีรษะปลอบโยนนางได้อีกแล้ว! วันเดียวกันนั้น ขณะแม่นมหลินพานางไปพบท่านแม่ที่กำลัง ‘นอนหลับอย่างสงบ’ อนุหานที่มักใส่ใจนางกว่าใครก็ยังเข้ามากล่าวปลอบโยนนางอีกว่า...“หรงเอ๋อร์...เจ้าก็อย่าได้เศร้าเสียใจจนเกินไปนัก สตรีที่ไหนๆ ยามตั้งครรภ์คลอดบุตรก็ล้วนเจ็บปวดทรมานเยี่ยงนี้ ยังไม่นับอีกว่าแต่ละครั้งที่คลอดบุตรธิดาก็ไม่ต่า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5

เวลาสี่ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ยามนี้เฉินเซียงหรงอายุเท่าๆ กันกับพี่ชายใหญ่เมื่อสมัยมารดาตายจาก กำลังน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุดครั้งนั้น หลังจากท่านแม่จากไป ท่านย่าของนางก็คล้ายรังเกียจชิงชังอนุหาน หานชิงเยว่ อนุซู ซูเหมยเหนียง และอนุจาง จางเหม่ยเหมย ไม่ว่าสะใภ้ที่เหลือคนใดก็ล้วนเข้าหน้าท่านย่าของนางไม่ติดทั้งนั้นท่านย่าของนางไม่เคยปริปากบ่นระบายว่าเป็นเพราะเหตุใดจึงได้ตั้งแง่รังเกียจสะใภ้รอง สะใภ้สาม และสะใภ้สี่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสตรีที่ตนคัดเลือกเข้าจวนมาด้วยตนเองทั้งนั้น ทำเพียงมักอบรมสั่งสอนให้เด็กน้อยอย่างนางคอยระมัดระวัง ไม่เข้าใกล้อนุหาน อนุซู อนุจาง รวมถึงคนจากเรือนของพวกนางทั้งสาม และไม่ดื่มกินใช้สอยสิ่งใดที่มาจากพวกนางทั้งนั้นแม้จะสงสัย แต่เพราะเด็กน้อยอย่างนางสาบานเอาไว้แล้วว่าจะเป็นเด็กดี เด็กดีสมควรจะเชื่อฟังผู้ใหญ่ นางจึงไม่เคยปริปากถามอะไรให้ท่านย่าขุ่นเคืองหรือลำบากใจ ท่านย่าบอกอะไรนางก็ทำตามทุกอย่าง ท่านย่าสอนอะไรให้ นางก็ใส่ใจทำตาม ตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อนจนถึงตอนนี้ ท่านย่าบอกให้ไปซ้าย นางก็ไปซ้าย ท่านย่ากล่าวว่าครั้งนี้ต้องไปทางขวา นางก็ขยับตัวไปทางขวาอย่างไม่อิดเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6

เสียงที่ดังขึ้นทำลายความเงียบสงบของอุทยาน ทำเอาเซียงหรงตกใจจนเผลอทำเข็มปักผ้าปักมือตนเอง พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเฉินชิวเยว่ พี่หญิงใหญ่ จูงมือน้อยๆ ของน้องห้า เฉินหมิงเยว่ เดินตรงมา ทั้งคู่เป็นบุตรสาวที่เกิดจากอนุหาน หานชิงเยว่ จึงสนิทสนมกันเหมือนๆ กับที่พี่หญิงรอง เฉินเหม่ยลี่ และน้องสี่ เฉินเหม่ยเซียง ที่เกิดจากอนุจาง จางเหม่ยเหมยที่จริงแล้วผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ นางตั้งใจปักให้ท่านย่าเป็นของขวัญวันเกิดที่กำลังจะมาถึงในอีกสามเดือนข้างหน้า ทว่า...เอาเถิด ประเดี๋ยวนางค่อยปักเอาใหม่ก็ได้“ได้สิเจ้าคะ” เซียงหรงยิ้มรับ “เอาไว้ข้าปักผ้าผืนนี้เสร็จเมื่อไหร่ จะให้คนนำไปส่งให้พี่หญิงใหญ่ทันที”เฉินชิวเยว่แย้มรอยยิ้มงดงามราวบุปผา“น้องสามช่างเป็นเด็กดีที่หนึ่ง เจ้าแสนดีเช่นนี้ สมควรแล้วที่ท่านพ่อและท่านย่าจะรักเอ็นดูน้องสามมากกว่าพวกเราพี่หญิงน้องหญิงมากสักหน่อย...”เฉินหมิงเยว่เห็นว่าพี่สาวจะได้ผ้าเช็ดหน้าปักลวดลายงามระยับ ก็อยากได้บ้าง รีบออกปากขอทันที“พี่สาม...หมิงเยว่ก็อยากได้ผ้าปักลายที่งดงามเช่นนี้บ้าง พี่สามปักให้หมิงเยว่อีกสักผืนได้หรือไม่!”เซียงหรงไม่แปลกใจแม้แต่น้อย นางเคยชินกับเรื่อง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 7

“คุณหนู...น้ำชากับขนมมาแล้วเจ้าค่ะ” ซู่ซิน อดีตคนสนิทข้างกายมารดานาง ที่กล่าวได้ว่าเป็นสาวใช้จากเรือนเหลียนฮวาเพียงคนเดียวที่ไม่ถูกท่านย่าของนางขายออกไปจากจวน ถือถาดน้ำชาและขนมเดินตรงมาหาด้วยรอยยิ้มคล้ายกับซู่ซินจะสังเกตเห็นภาพร่างผีเสื้อบนผืนผ้า จึงอดออกปากชื่นชมออกมาไม่ได้ “คุณหนูจะปักผีเสื้อเพิ่มเช่นนั้นหรือ ช่างคิดยิ่งนัก คุณหนูของซู่ซินนับว่าเป็นยอดสตรีโดยแท้ อายุเพียงเจ็ดขวบปี กลับออกแบบลายปักผ้าได้ด้วยตนเอง ซ้ำฝีเข็มยังละเอียดลออ ลายปักทุกลายที่ปักออกมาก็ล้วนงดงามสมจริงจนยากจะเชื่อว่าเป็นเพียงลายปักบนผืนผ้าเท่านั้น”เซียงหรงแย้มรอยยิ้มงดงามรับคำชมนั้นก็แน่ล่ะสิ ในเมื่อท่านย่ากล่าวว่าสมัยก่อนท่านแม่ของนางปักผ้าได้งดงามไร้ที่ติ เหตุที่ท่านพ่อกับท่านแม่ได้พบรักและครองคู่กันก็เป็นเพราะลายปักผ้าของท่านแม่ที่ทำให้ท่านพ่อผู้ไม่เคยชายตาแลสตรีใดถึงกับหลงใหลพร่ำเพ้อ กล่าวว่าผู้ที่ปักผ้าเช่นนั้นได้จะต้องเป็นยอดสตรีที่จิตใจดีทั้งยังเป็นคนละเอียดลออช่างเอาใจใส่เป็นแน่...ท่านแม่ของนางเก่งกาจปานนั้น ซ้ำผ้าปักลายยังนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เชื่อมโยงบิดาและมารดาของนางเอาไว้ด้วยกัน นางที่เป็น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 8

ทุกๆ ปี ก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิดของท่านย่าก็คือเทศกาลหยวนเซียว[1] ที่พี่หญิงน้องหญิงของนางล้วนตั้งตารอทุกปีเซียงหรงเองก็ตั้งตารอที่จะได้เดินเที่ยวเล่นในงานเทศกาล ได้เล่นเกมทายปริศนาต่อบทกวีชิงโคมไฟ ได้กินขนมอร่อยๆ มากมายที่ขายอยู่นอกจวน แต่สำหรับปีนี้...นางที่ต้องปักผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ถึงสามผืน กลับไม่มีแก่ใจอยากออกไปเที่ยวเล่นแล้วนางกลัวเหลือเกินว่าจะปักผ้าเช็ดหน้าทั้งสามผืนเสร็จไม่ทันงานฉลองอายุครบหกสิบปีของท่านย่า...ทีแรกนางคิดว่าเรื่องปักผ้าสามผืนครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะนางแน่ใจว่า ตนเองสามารถปักผ้าผืนใหม่ให้ท่านย่าแทนผืนที่พี่หญิงใหญ่ต้องการเสร็จทันงานฉลองวันเกิดครบห้ารอบของท่านย่าได้อย่างไม่ต้องสงสัย ใครจะคิดว่าพี่หญิงใหญ่และน้องห้าจะเข้ามาบอกนางด้วยสีหน้าจริงจัง ว่าต้องการผ้าทั้งสองผืนก่อนวันงานฉลองอายุครบห้ารอบของท่านย่า พอนางจะปฏิเสธ น้องห้าก็ทำท่าเหมือนจะอาละวาดขึ้นมา สุดท้ายนางจึงต้องรับปากเพื่อรักษาความสงบในเรือนหลังเอาไว้เฮ้อ...ที่แท้การเป็นเด็กดีช่างยากนัก... เสี่ยวเซียงหรงยกมือน้อยๆ ขึ้นกดกลางหว่างคิ้ว หลายวันมานี้ ตลอดทั้งวันนางต้องง่วนอยู่กับการปักผ้า ตอนน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 9

น้องเล็กของนาง แม้อายุยังไม่เต็มห้าขวบปี นับว่ายังเด็กนัก กลับพูดจาฉะฉาน เซียงหรงเห็นแล้วก็ทั้งเอ็นดูทั้งปลื้มใจ นางแย้มรอยยิ้มงดงามราวกับดอกไม้ในวสันตฤดู กล่าวชื่นชมน้องเล็กเสียงใส“น้องเล็กแม้ยังเล็กกลับดูห้าวหาญพึ่งพาได้ สมกับที่ได้ร่วมเรียนเขียนอ่านจากท่านอาจารย์เหลียงคง อาจารย์ท่านเดียวกับที่อบรมสั่งสอนพี่ใหญ่ของพวกเราจนเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นบุรุษผู้งามสง่า เก่งกล้าสามารถ ซึ่งท่านย่า ท่านพ่อ และข้า ยิ่งกว่าภาคภูมิใจ...” เซียงหรงกล่าวประโยคเดียว ทำเอาพี่ชายน้องชายร่วมมารดาที่ถูกชมอย่างไม่ทันตั้งตัวรู้สึกตัวเบาจนเหมือนจะลอยได้ นางยังกล่าวต่อไป “วันนี้พี่ใหญ่ที่เก่งกาจงามสง่าของข้าไม่ท่องตำราโคลงกลอนให้ท่านพ่อของพวกเราฟัง กลับพาน้องเล็กมาหาข้าเช่นนี้ได้ มีเรื่องดีๆ ใดเช่นนั้นหรือ?”ที่จริงแล้วเซียงหรงพอจะคาดเดาได้ว่าพี่ชายและน้องชายของตนมาหาเพราะเหตุใด พวกเขามาหานางก็เพราะคืนนี้เป็นคืนเทศกาลหยวนเซียวดังคาด พี่ใหญ่ของนางและน้องเล็กมาหาเพราะเรื่องนี้จริงๆ“สาวใช้ที่ท่านพ่อให้มาตามตัวเจ้ากล่าวว่าปีนี้เจ้าจะไม่ไปเที่ยวชมงานเทศกาลกับพวกเรา พี่ใหญ่สังหรณ์ใจว่าเจ้าอาจมัวฝืนทำเรื่องเหลวไหลไม่เ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
12
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status