แกสทอนมองตามแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังวิ่งออกไปจากบ้านของเขาด้วยอาการแตกตื่น แน่นอนว่าการที่เธอมาเห็นสภาพในยามที่เขากำลัง..ปรนเปรอตัวเองอยู่นั้นมันไม่น่าดูชมสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าทำไมเขาถึงได้ไม่รู้สึกเขินอายกันนะ กลับอยากให้เธอมองเขาให้นานมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
บนใบหน้าที่หล่อเหลาของแกสทอนปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาจางๆ เขากลับเข้าบ้านของตัวเองพร้อมกับจัดการซักชุดสาวใช้และ..เสื้อซับในของเธออย่างเรียบร้อย แกสทอนตั้งใจว่าเขาจะนำสิ่งของทุกสิ่งอย่างของท่านหญิงไปส่งคืนให้แก่เธอในวันรุ่งขึ้น ทว่าคฤหาสน์ที่มีชื่อเสียงเรื่องความสนุกและคึกครึ้นมากที่สุดในจักรวรรดิ ยามนี้กลับเงียบเหงาอย่างไม่น่าเชื่อ ท่านหญิงนาทาเลียปิดคฤหาสน์ของนางเงียบ และเก็บซ่อนตัวเองในห้องนอนที่มีเพียงสาวใช้คนสนิทเท่านั้นที่สามารถเดินเข้าเดินออกได้ ส่วนผู้อื่นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน ถึงแม้จะเป็นเขาที่เป็นพ่อบ้าน แต่แกสทอนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในเช่นกัน คราวนี้เริ่มสลับกันแล้วละสิ เพราะกลับกลายเป็นเขาที่อยากจะเห็นหน้าของเธอและเป็นเธอที่เก็บซ่อนตัวเองเอาไว้อย่างมิดชิดไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ของท่านหญิงได้ และสุดท้ายแกสทอนต้องยอมรามือและล่าถอยไปเอง นาทาเลียใช้เวลาว่างของเธอไปกับการนอน เธอนอนอ่านหนังสือมากมายที่เกี่ยวข้องกับข่าวซุบซิบตามหน้าหนังสือพิมพ์ขององค์รัชทายาทโอเวน สิ่งที่เธอรู้คือเขาคือหนึ่งในฮาเร็มของวิตอเรีย เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ แต่ทว่ากลับฉลาดเรื่องการปกครองประชาชนในจักรวรรดิมากเหลือเกิน รู้จักลดและเพิ่มภาษีตามลำดับ ไม่ให้กระทบทั้งชนชั้นสูงและชาวบ้านธรรมดา เบื้องนอกเขาดูเหมือนกับเป็นองค์รัชทายาทผู้เสเพลแต่ทว่าเขากลับมีความสามารถมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้เยอะพอสมควร เพราะอย่างนั้นมันยิ่งตอกย้ำกับนาทาเลียว่าการเข้าหาเขานั้นไม่ง่ายเลย แน่นอนว่าหากนางเป็นสตรีบ้านๆ หรือว่าลูกคุณหนูในชนชั้นสูงการเข้าหาเขาคงจะง่ายมากทีเดียว แต่นี่..นางคือสตรีที่คอยตามเขามาตลอดเวลา และมันทำให้โอเวนเกลียดชังนาทาเลียอย่างมากในเนื้อเรื่องของเกมนี้ นาทาเลียจะเป็นผู้เร่งปฏิกิริยาของความรู้สึกโอเวนที่มีต่อวิตอเรียให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นาทาเลียถอนหายใจเบาๆ ช่วงนี้มีบัตรเชิญมากมายที่อีฟวางเอาไว้อยู่บนโต๊ะของเธอมันคือบัตรเชิญร่วมงานพบปะสังสรรค์ต่างๆ ที่เธอไม่ได้ตอบรับหรือว่าปฏิเสธ นาทาเลียไม่คิดที่จะหยิบบัตรเชิญพวกนั้นมาอ่านเลยด้วยซ้ำเพราะว่าเธอไม่คิดจะออกงานในตอนนี้ เธอแค่อยากนอนอยู่เงียบๆ ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับองค์รัชทายาทโอเวนให้ดี เพื่อที่ช่วงเวลาที่เธอจะต้องพบเจอเขา เธอจะได้มีข้ออ้างอื่นเข้าหาเขา ไม่ใช่เพราะว่ารักเขาเพียงอย่างเดียว เธอไม่อยากแสดงบทบาทของนาทาเลียคนโง่แล้ว แต่สุดท้ายก็จะต้องชวนเขาขึ้นเตียงไม่ใช่รึไง..ช่างเถอะ!! เพราะหากการร่วมเตียงกับเขาจบลงเธอจะไม่ต้องพบเจอหน้าของเขาอีกแล้ว เขาจะด่าหรือว่าเกลียดชังเธอมากกว่าเดิมก็ช่างเขาเถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องสนใจในเรื่องหลังจากนั้น ตอนนี้เธอแค่จะต้องตั้งเป้าหมายและทำภารกิจที่สองให้สำเร็จ พอนึกถึงภารกิจขึ้นมาใบหน้าของนาทาเลียก็ขึ้นเป็นสีกุหลาบ เพราะภาพที่แกสทอนกำลังช่วยตัวเองในตอนที่เขาถือชุดซับในของเธอมันเป็นอะไรที่..ลืมยากชะมัดเลย ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในเกมดีมีคุณภาพแบบนี้ (เพราะว่าเธอด่าว่าเกมนี้มันเฮงซวยไม่ได้) เธอเคยหลงใหลไปกับเหล่าหนุ่มๆ หน้าตาดี แต่พอเข้ามาอยู่ในเกมที่ดีแบบนี้ บอกได้เลยว่านิสัยตกหลุมรักที่หน้าตาของเธอมันจางหายไปจนหมดเลย เพราะเหล่าตัวเอกต่างเกิดมาหน้าตาดีแบบที่บางคนอาจจะทำให้เธอหัวใจวายตายได้เลยเพียงแค่เขามองสบตามา แกสทอนคือหนึ่งในนั้น เรื่องหน้าตา เถียงไม่ได้เลยว่าเขาดูดีมากๆ ดูดีแบบที่สุด ส่วนเรื่องการทำงานแกสทอนในชุดพ่อบ้านคืออะไรที่มีพลังทำลายล้างสูงพอสมควรเลย เพราะอย่างนั้นเธอรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจหักห้ามใจได้ เธอถึงได้เป็นฝ่ายหลบหน้าเขาก่อน บางที..ในบางทีหากว่าเธอเห็นหน้าเขาคนที่จะกระโดดเข้าหาอาจจะเป็นเธอก็ได้ เพราะอย่างนั้นเธอกำลังปกป้องแกสทอนจากความหื่นของตัวเอง .............. “ว่าไงนะ เจ้าจะบอกว่านาทาเลียไม่ออกงานสังคมเลยเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้วอย่างนั้นหรือ?” ข้าหลวงก้มหน้าลง “พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ท่านหญิงอาโมรีไม่ออกงานสังคมใดๆ เลย แถมไม่เขียนจดหมายตอบกลับชนชั้นสูงที่ส่งบัตรเชิญไปอีกต่างหาก” โอเวนขมวดคิ้วเล็กน้อย นาทาเลียคือจุดสูงสุดของสังคมชนชั้นสูง นางคือผู้นำเรื่องการแต่งกาย ในแต่ละงานทุกคนจะรอคอยว่านาทาเลียจะแต่งชุดเช่นไรไปที่งานนั้น วันรุ่งขึ้นชุดแบบเดียวกันกับที่นาทาเลียสวมใส่จะขายจนหมดทั่วทั้งร้าน เครื่องประดับก็เช่นกัน เพราะความงดงามที่ไม่ใช่ว่าจะหาได้โดยง่าย นางมีใบหน้าที่ดูราวกับสตรีไร้เดียงสา ดวงตากลมโตสีฟ้าอ่อนที่ไม่ว่ามองสบตากับบุรุษใดเป็นต้องหลงใหลนางทั้งนั้น..นาทาเลียเป็นเช่นนั้น ทว่าในยามนี้นางกลับเก็บตัวเงียบในคฤหาสน์แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้ว่าเรื่องที่นางเก็บตัวเงียบเช่นนี้มันจะเกี่ยวข้องกับการที่วันนั้น..ในสวนด้านหน้าของพระราชวังนางร้องไห้ออกมา หยาดน้ำตาแวววาวที่สะท้อนกับแสงของดวงจันทร์และใบหน้าที่เจ็บปวดของนาทาเลีย เพราะเขารึเปล่านะ? เขาไม่คิดว่าสตรีชั่วช้าอย่างนาทาเลียจะร้องไห้หรือว่าเสียใจเป็น เพราะว่าต่อหน้าเขานางมักจะแสดงด้านแย่ๆ ออกมาใส่สตรีทุกคนที่เขาควง ทำตัวเป็นเจ้าของทั้งที่เรายังไม่ได้แต่งงานหรือว่าหมั้นหมายกันเลย ข้อนี้แหละที่ทำให้เขา..ไม่ชอบนาทาเลียเอามากๆ “ส่งคนไปถามที่คฤหาสน์อาโมรี นาทาเลียนางเจ็บป่วยตรงไหนรึเปล่า” ข้าหลวงก้มหน้าลงเพื่อรับคำสั่งขององค์รัชทายาท “ดะ..เดี๋ยวก่อน! ไม่ต้องบอกว่าข้าให้ถาม ให้บอกไปว่าเสด็จพ่อทรงเป็นห่วง อย่าเอ่ยชื่อของข้าเข้าใจรึเปล่า?” ข้าหลวงวัยชราแย้มยิ้มออกมากับท่าทีขององค์รัชทายาท “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมจะไม่เอ่ยถึงชื่อของพระองค์อย่างแน่นอน” โอเวนพยักหน้า เขายกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มพร้อมกับมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง เป็นอะไรของนางกันนะ หรือว่าจะเรียกร้องความสนใจแบบใหม่ แต่การหายหน้าหายตาไปจากแวดวงสังคมถึงหนึ่งเดือนนี่ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ปกติสำหรับนาทาเลียแล้ว “ฝ่าบาท เรื่องงานเลี้ยงที่ตระกูลบาทาซาร์ในวันนี้ จะให้ส่งบัตรเชิญให้เลดี้ท่านไหนเป็นคู่ควงของฝ่าบาทดีเล่าพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อลูเซียนกลับมาที่ห้องของโรงแรมเขากลับไม่พบเจอใครเลยสักคนเดียว เขาตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆนาทาเลียก็หายไป เขากำลังจะวิ่งออกไปเพื่อตามหาเธอที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก ในระหว่างที่เขากำลังวิ่งตามหาเธอแสงสีทองก็ส่องสว่างอยู่บนแหวนที่เขาสวม นั่นหมายความว่านาทาเลียอยู่ในมิติเวทของเขาลูเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะสัมผัสที่แหวนเบาๆเพื่อเข้าไปหาเธอในมิติเวท ที่นี่แตกต่างจากในมิติเวทที่เธอและเขาเคยอยู่ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลสาบอย่างนั้นหรือ?"นาทาเลีย.."เขาพบเจอนาทาเลียนั่งอยู่กับบุรุษผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตา..หมอนี่คือคนที่มาป้วนเปี้ยนหน้าห้องเมื่อตอนบ่ายนี่"ลูเซียน มานี่สิ..ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับโลเวล"นี่คือบุรุษที่นาทาเลียกล่าวถึงให้เขาฟังบ่อยๆสินะ โลเวล บาทาซาร์"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านเจ้าของหอคอย"โลเวลลุกขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงเพื่อเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆว่าออร่าพลังเวทของชายผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ไหนได้นี่คือจอมเวทกูเรียนในตำนาน เจ้าของหอคอยเวทผู้ยิ่งใหญ่"อืม..นาทาเลียพูดถึงเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางคือนาทาเลีย"ไม่บ่อยนักที่จะมีคนที่ส
กว่านาทาเลียจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นในช่วงเย็นของอีกวัน เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนี้แต่ก็ไม่พบลูเซียนเลย นาทาเลียลุกขึ้นเพื่อเดินไปล้างหน้าล้างตา เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาที่สะท้อนออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนัก..ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยเธอไม่รู้ว่าลูเซียนออกไปไหน แต่เขาน่าจะมีธุระของเขานั่นแหละ นาทาเลียนั่งลงที่โซฟา เธอรินน้ำชาในกาใส่ถ้วยเล็กๆก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เธอตามพี่ชายไปที่ลานประมูล เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตาสว่างเรื่องของนาทาเลียในอดีต อีกทั้งสุราต้องคำสาปขวดนั้นหากเดาไม่ผิดเขาจะต้องใช้มันกับเธออย่างแน่นอน เช่นนั้นก็จะต้องหาทางรับมือกับคนสารเลวอย่างโอเว่นเอาไว้"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..ท่านหญิง"โลเวลปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขากระโดดเข้ามาหานาทาเลียในทันทีก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน"คิดถึง..จังเลยครับ แล้วไอ้สารเลวคนไหนมันทำให้ท่านหญิงของข้ามีสภาพเช่นนี้กัน?"เธอตกใจจนตาค้าง ทั้งๆที่เธอปลอมตัวอยู่ด้วยพลังเวทของลูเซียนแต่แล้วทำไม โลเวลถึงจำเธอได้กันล่ะ? เธอยื่นมือไปกอดเอวของเขาเอาไว้แน
ลูเซียนตกใจเล็กน้อยที่เขาเห็นหยาดน้ำตาแวววาวรินไหลลงมาจากดวงตาของนาทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา เขาไม่มั่นใจว่าเธอพบเจอกันอะไร แต่เขาก็ยังไม่อยากจะดึงจิตวิญญาณของเธอกลับมา เพราะในบางทีเธออาจจะกำลังพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ชายตัวเอง..อลาโน่ อาโมรี เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะได้พบเจอพี่เขยอย่างเป็นทางการ อดใจรอไม่ไหวแล้วละสิ“สิ่งที่กระหม่อมต้องการ คือทำให้นาทาเลียเป็นของพระองค์ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ทำให้นางกลับมาหากระหม่อมที่อาโมรีไม่ได้อีก..”ข้อแลกเปลี่ยนกับสุราต้องคำสาปของแกรนด์ดยุคดูเหมือนจะแปลกมากทีเดียวในความคิดของโอเว่น“แกรนด์ดยุคต้องการแค่นั้น?”ชั่วขณะหนึ่งความเศร้าหมองปรากฏให้เห็นในดวงตาของอลาโน่“พ่ะย่ะค่ะ แค่นั้นก็พอ แค่ให้น้องสาวของกระหม่อมได้นั่งในตำแหน่งของจักรพรรดินี”โอเวนพยักหน้า“เช่นนั้นก็หมายความว่าความคิดของเราทั้งคู่มันตรงกัน ข้ารัก นาทาเลียจากใจจริง และข้าจะดูแลนางให้ดี แกรนด์ดยุคไม่ต้องเป็นห่วง”เมื่อกล่าวจบโอเว่นก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับสุราต้องคำสาป ส่วนอลาโน่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีหมดแรงก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเ
ถึงแม้ว่าลูเซียนจะบอกกล่าวกับเธอว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขาพาเธอเข้ามาในงานประมูลโดยการใช้เทเลพอทเข้ามานั้นมันคือเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว“ข้าคิดว่าท่านจะทำบัตรเชิญปลอมมาซะอีก”“จะทำแบบนั้นให้ยุ่งยากทำไมกัน ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมคือเราได้เข้ามาอยู่ในงานนี้แล้ว”นาทาเลียอยากจะกรีดร้องดังๆ ออกมาซะเหลือเกิน หากไม่ติดว่าในยามนี้เราทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในงานนี้เธอนั่งลงยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นาทาเลียเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่ได้คิดมาประมูลอะไรทั้งนั้น เธอแค่ต้องการจับตาดูท่าทีของท่านพี่..ทว่าที่นี่คือโรงละครโอเปร่าเก่า เพราะอย่างนั้นจึงมีที่นั่งด้านบนอีกหลายสิบห้องที่ปิดม่านและปิดบังตัวตนเอาไว้ หมายความว่าพี่ชายของเธออาจจะนั่งอยู่ด้านบนและแอบประมูลบางอย่างลับๆ หรือแม้กระทั่งเขาอาจจะคุยงานกับผู้อื่นแบบที่ไม่มีคนเห็น เพราะห้องที่อยู่ชั้นบนไล่ขึ้นไปเป็นขั้นบันไดเช่นนี้ ทำให้เป็นส่วนตัวและสะดวกในการพูดคุยบางอย่างที่ไม่อยากให้มีผู้อื่นรู้“อยากขึ้นไปข้างบนไหม”นาทาเลียพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เธออาจจะแค่สงสัยไปเองก็ได้เพราะอย่างนั้
ดูจากสีหน้าของแกสทอนหลังจากที่เปิดจดหมายในมืออ่าน แสดงว่าท่านหญิงของเขานั้นส่งจดหมายเพื่อบอกว่าท่านหญิงจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆ นี้สินะ โลเวลเองก็ไม่รอช้า เขาเปิดจดหมายออกมาอ่านเช่นกัน“โลเวล ขอบคุณในทุกอย่างที่เจ้าให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด เหนื่อยมากเลยใช่ไหมกับการเปิดตัวที่แสนยิ่งใหญ่ในฐานะของเจ้าของกิลล์ข้อมูล อดทนอีกนิดนะ เพราะว่าข้ากำลังจะกลับไปหาเจ้าในเร็ววันนี้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววันนะโลเวล”ข้างล่างจดหมายท่านหญิงนาทาเลียเขียนชื่อของบุคคลหนึ่งเอาไว้“ฝากเจ้าตามสืบเรื่องของบุรุษที่ชื่อว่า ไคเลอร์ให้ข้าด้วย ข้าไม่มีข้อมูลอะไรให้นอกจากว่าเขาคือบุรุษที่สูงโปร่งและไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเขาเหมือนกัน เพียงแต่เขาสำคัญมากๆ และเป็นคนที่ข้าจะต้องตามหาให้เจอ”ไคเลอร์ อย่างนั้นหรือ?โลเวลเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษก่อนจะสั่งการกับฮอลี่“เอาข้อมูลของบุรุษที่ชื่อไคเลอร์มาให้ข้าหน่อยสิ คนที่มีชื่อว่าไคเลอร์ทุกคนของจักรวรรดิแห่งนี้”ฮอลี่พยักหน้า“รับทราบค่ะนายท่าน ข้าจะหาข้อมูลของชายที่ชื่อว่าไคเลอร์มาให้ท่านแบบไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว”แกสทอนมองท่าทีเคร่งเครียดของโลเว
“ข้าต้องการปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ และให้พวกชาวเมืองทั้งหมดย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงที่พายุหิมะพัดแรงขึ้น..”สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกินขึ้นในช่วงเช้าของวันที่พายุหิมะพัดผ่านเข้ามาที่ดินแดงทางเหนือ องค์รัชทายาทโอเว่นนั้นทรงตื่นจากบรรทมตั้งแต่เช้า พระองค์เรียกประชุมทหารมากมายเพื่อหารือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและนี่คือครั้งแรกที่สายตาของอาเธอร์นั้นมององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขามองเห็นประกายไฟในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างชัดเจน“เรามีเสบียงที่สามารถเลี้ยงคนได้ราวสามร้อยคนในหนึ่งวัน แต่ทว่าประชากรของแดนเหนือรวมกันแล้วมีไม่ถึงสองร้อยคนด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นหากพาพวกเขามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่าพายุหิมะจะสงบลง น่าจะเป็นหาทางออกที่ดีที่สุด”“กระหม่อมเห็นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถยิ่งแล้ว”อาเธอร์กล่าวชมออกมาจากใจจริง“ข้ารู้เซอร์อาเธอร์ เพียงแต่ที่ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเมืองเพราะในอีกสามสัปดาห์ข้าจะต้องเดินทางกลับไปที่พระราชวังแล้ว ข้าจึงให้โอกาสพวกเจ้าในการอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าเมืองปกครองดูแลดินแดนเหนือ