“หลังใหญ่ๆ ท้ายหมู่บ้านค่ะ นั่นแหละบ้านเอวา” เด็กหญิงตอบ เธอยัดพิซซ่าชิ้นโตๆ เข้าปาก กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยจนคราบซอสเลอะเทอะมุมปาก อาจจะเป็นเพราะหิวจัด เมื่อออกแรงกอดปล้ำ ฟัดกับเจ้าตูบสองตัวอยู่เป็นนาน และพิซซ่าที่เธอกำลังกินมันอร่อยจริงๆ
ชะเอมเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอครางในอก... คฤหาสน์หลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เธอเคยเห็นผ่านตาตอนออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เคยค่อนคอดในใจเพราะแอบอิจฉาเล็กๆ ตัวบ้านหลังใหญ่ปานพระราชวังแวซาย เจ้าของบ้านคงร่ำรวยมหาศาล ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มาพบเจอคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตัวเป็นๆ
“คุณป๊าเอวาไม่อยู่เหรอ? ป่านนี้ทำไมไม่มีใครมาตามหาเอวาเลยล่ะ” เธอบ่นแบบไม่ค่อยเข้าใจ คอยใช้ทิชชูซับมุมปากให้อิรินาบ่อยๆ เป็นความเอาใจใส่แบบที่เด็กหญิงรู้สึกอิ่มเอม หญิงสาวย่นหัวคิ้ว แอบค่อนบิดาของเด็กหญิงในใจคุณหนูของบ้านหายตัวไปเป็นเวลานาน ทำไมไม่มีใครในบ้านนั้นรู้เรื่องสักคน
“อยู่ค่ะ แต่คุณป๊าไม่สนใจเอวาหร๊อก!! เอวาดื้อ” อิรินาเริ่มน้ำตาตกอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงบิดา อเล็กไซบิดาของเธอคงกำลังป้อยอแม่สาวทรงโตที่เขาพามารับประทานมื้อค่ำด้วย เธอไม่พอใจอย่างแรง!! แต่บิดาไม่สนใจ...อิรินาก็เลยหลบออกมาจากบ้านโดยไม่บอกพี่เลี้ยง เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากบิดา และป่านนี้ที่บ้านคงวุ่นวาย แต่...ช่างเถอะ!! ทุกคนจะได้รู้เธอไม่พอใจผู้หญิงคนนั้น ไม่ชอบแววตาและการเสแสร้งของหล่อน มันไม่จริงใจ แม้แต่เด็กอย่างเธอยังรู้ แล้วทำไมบิดาถึงไม่รู้!! คงเป็นเพราะบิดาเอาแต่จ้องทรวดทรงของเจ้าหล่อน จนลืมความไม่เอาไหนส่วนอื่น และเธอไม่พอใจอย่างแรง!!
“ไม่มีพ่อ-แม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะจ๊ะ ท่านอาจจะแสดงออกไม่เป็นเพราะเป็นผู้ชาย เอวาเลยเข้าใจผิด”
ชะเอมพยายามช่วย เธอแก้ต่างให้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้า เพราะสงสารความรู้สึกของเด็กหญิงที่เธอหลงรัก
“เอวาไม่อยากพูด...คุณป๊ามีเวลาให้แม่พวกนั้น แต่กลับเอวา คุณป๊าไม่เคยว่าง” เด็กหญิงจีบปากเล่า มุมปากอิ่มบิดเบี้ยวเมื่อย้อนนึกถึงความหลัง เธอไม่เคยอยู่ในสายตาบิดา...ไม่ว่าจะงานกิจกรรมที่โรงเรียน หรือการออกไปเที่ยวกันเป็นการส่วนตัว...อิรินามักต้องไปกับพี่เลี้ยงหรือไม่ก็คนสนิทบิดา ไร้เงาอเล็กไซ เมื่อเขายุ๊งยุ่ง!!
ชะเอมยิ่งปวดตับ!! เศรษฐีส่วนใหญ่เลี้ยงลูกแบบใช้เงิน ไร้ซึ่งความอบอุ่น
“เอ่อ...พี่เอม” เธอหยุดพูดเมื่ออิรินาช้อนสายตาตัดพ้อขึ้นมอง “เอ่อ...ไม่ชินน่ะ หม่ามี้ขอถามนี๊ด...ได้ไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนสรรพนามและมันได้ผล นางฟ้าของเธอค่อยๆ ยิ้มออก
“ได้ค่า...ถามมาเลย...เอวาจะตอบ”
“หม่ามี้ของเอวาไปไหนเหรอคะ?” เธออยากรู้เพราะหากพูดอะไรผิดๆ ออกไปจะได้แก้ต่างทันนิ้วกลมป้อมชะงักนิดๆ ก่อนจะยกชิ้นพิซซ่าขึ้นกัดกินต่อ ปากอิ่มรูปกระจับขยับตอบ หลังเคี้ยวพิซซ่าชิ้นโตๆ ไปได้สักพัก
“หม่ามี้ฟิริเซีย...อยู่ที่อื่นค่า หม่ามี้ไม่ชอบเอวาหร๊อก!! ชอบว่าเอวาบ่อยๆ ว่าเอวาดื้อ...เอวามีคุณป๊าคนเดียวก็พอค่ะ” คำพูดของเด็กมีปัญหาตรงหน้า มันบ่งบอกถึงสถาบันครอบครัว เด็กที่ยังไม่ประสีประสามักจะจดจำฝังใจกับเหตุการณ์ในชีวิต ชะเอมนึกอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ให้กำเนิดอิรินาเสียยิ่งนัก เด็กหญิงน่ารักเช่นนี้ ทำไมมารดาถึงรังเกียจรังงอน
“คุณป๊าเอวายังไม่ได้แต่งงานใหม่ใช่ไหมจ๊ะ?” ปัญหาโลกแตกที่ไม่ว่าใครก็แก้ไม่ตก เมื่อเป็นความพอใจของคนทั้งคู่ โดยลืมนึกถึงผลพวงที่เกิดตามมา พ่อไปทาง แม่ไปทาง ปล่อยให้สายใยความรักที่ขึ้นชื่อว่า ‘ลูก’ จมอยู่กับความอ้างว้าง และหวาดระแวง
“ค่ะ เอวาไม่เอาแม่ใหม่ ถ้าคุณป๊าจะมีใคร? ต้องถามเอวาก่อน” เด็กหญิงตอบเสียงหนักๆ หากบิดาคิดจะหาใครเข้ามาแทนที่มารดา ท่านต้องถามความเห็นของเธอก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะโวยให้บ้านพัง!!
ชะเอมถอนใจพรวดๆ มันเป็นปัญหาใหญ่ที่เธอสุดปัญญาที่จะสอดมือเข้าไปยุ่ง เมื่อเธอเป็นแค่คนนอก “ตามสบายนะจ๊ะ หม่ามี้ขอไปล้างตัวก่อน เหนียวตัวชะมัด” วันนี้ทั้งวันเธอเดินเที่ยวเสียจนสมอยาก แต่เมื่อเห็นท้องฟ้าครึ้มฝนจึงรีบกลับที่พัก เพราะฉะนั้นเนื้อตัวเลยเหนียวเหนอะหนะ อยากจะอาบน้ำล้างตัวให้ชุ่มฉ่ำสบายอุรา
“ค่า...เอวาอยากอาบด้วย แต่ไม่ดีกว่า”
มีของกินอยู่ตรงหน้า เรื่องเล่นน้ำเลยเป็นเรื่องรอง...
ชะเอมอมยิ้ม เธอยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมของเด็กหญิงที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่เข้าทาง...แล้วจึงลุกขึ้นยืน ไปจัดการธุระส่วนตัว ปล่อยให้อิรินาเอ็นจอยกับการกินพิซซ่าถาดโตๆ เพียงลำพัง
น้ำค่อนข้างเย็น คงเป็นเพราะอากาศรอบตัวเย็นฉ่ำเพราะสายฝน เธอไม่ได้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะรู้ดีว่าน้ำอุ่นๆ ทำให้ผิวแตก หากทนไหว...ก็ต้องทนเพื่อสุขภาพผิว เรื่องของเรื่องคือ...ชะเอม ขี้เกียจประทินผิวด้วยครีมหรือโลชั่น เธออยากให้ผิวเป็นอิสระจากครีมต่างๆ บ้าง
หญิงสาวเหลือบมองตัวเองผ่านกระจกเงา เธอยิ้มกับทรวดทรงเตะตาของตัวเอง ไม่มีเพศตรงข้ามคนใดเคยได้เห็น เมื่อชะเอมชอบสวมใส่เสื้อผ้าตัวหลวมโพรก เธอไม่นิยมแต่งตัวรัดรูป เพราะถนัดที่จะลุยงาน มากกว่านั่งโต๊ะ หญิงสาวดำรงชีพด้วยการเป็นมัณฑนากร รับออกแบบและตกแต่งภายใน ทั้งอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย บ้านเรือน ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้ามีบริษัทเล็กๆ ซึ่งงานชุกพอสมควร เมื่อเป็นงานดีที่ผู้คนปากต่อปาก เธอไม่เคยเกี่ยงงาน ไม่ว่าจะงานเล็กจ้อย หรืองานช้าง หากตกถึงมือชะเอม เธอทุ่มสุดตัว!!
“เหอะๆ” เธออดหัวเราะไม่ได้ อายุล่วงเข้าเกือบ30ปีรอมร่อ แต่เธอยังเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนๆ ที่ไร้คนข้างกาย
‘ใช่เธอเยอะ!! เธอเรื่องมาก...แล้วจะทำไมล่ะ เธอไม่อยากกินน้ำตาต่างข้าว เมื่อเห็นความเจ็บปวดจากชีวิตคู่จากผู้คนรอบตัวจนชิน’
ที่สำคัญเลยคือ...ไม่มีผู้ชายคนไหน ทำให้หัวใจเธอกระตุก!! ได้สักคน...ส่วนมากที่พบเจอมีแต่ขี้เมา เจ้าชู้ ซึ่งมันไม่ใช่สเปคของเธอเลย
ชะเอมตั้งความหวังไว้เยอะ หากจะก้าวข้ามเข้ามาเป็นสามีนางสาวชะเอม...เขาต้องเพอร์เฟค ไร้ที่ติ!!
แต่ในสังคมทุกวันนี้ หญิงสาวจึงได้แต่ปลง...ผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันไว้...คงเป็นได้แค่จินตนาการ เมื่อผู้ชายดีๆ เช่นนั้น คงไม่มีอยู่ในโลกความจริง ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่สำคัญเลย...ต้องไม่เจ้าชู้!!
“36-24-35 เซี๊ยะขนาดนี้ ยังไม่มีใครแล”
เธอบ่นไปเรื่อยเปื่อย หมุนซ้ายแลขวา เอียงตัวดูข้อด้อยที่อาจจะมองข้าม ไม่มีเซลลูไลท์เกาะที่ต้นขาเพราะเป็นคนชอบออกกำลังกาย แถมยังไม่กินจุบจิ๊บ!! หุ่นเธอเพอร์เฟค แต่ไม่เคยโชว์ให้ใครดู ไม่ว่าจะชุดบิกินี่สำหรับว่ายน้ำ หรือชุดเดรสสวยๆ ชะเอมขอบาย เธอชอบใส่กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ และคลุมตัวด้วยเสื้อคลุมตัวโตๆ หมวกแก็บปิดพวงผมสวย เท่านี้... ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนแลเห็นรูปทรงที่ซ่อนไว้สักคน
ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงแต่งตัวดีๆ แต่งหน้าเนียนๆ และทาปากแดงๆ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคนอย่างนางสาวชะเอม เธอเลยไม่มีหนุ่มหลงมาจีบสักที
หญิงสาวตะแคงหูฟังเสียงลูกสุนัขตัวแสบ กับบุตรสาวคนใหม่หมาดๆ มันเงียบเชียบผิดปกติ จนเธอร้อนใจ
ชุดคลุมหลังอาบน้ำใกล้มือ เธอคว้ามาสวมบนร่างกายลวกๆ โดยที่ด้านใต้ชุดคลุมไม่มีเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ เลย ชะเอมเป็นห่วงเด็กน้อยจนลืมการระวังตัว เพราะคิดง่ายๆ เธอกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ตัวเอง...
ใครจะรู้ล่ะ...ว่าจะเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก อิรินานอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานั่งเล่นด้านหน้าทีวีจอยักษ์ เจ้าตัวคงเพลีย!! และอิ่มจัด มีตัวแสบ2 ตัววิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล ชะเอมกำลังจะเดินกลับเข้าห้องเพื่อจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย
แต่...
หญิงสาวอ้าปากค้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่อิรินานอนอยู่ บนโซฟาตัวถัดไป!!
มีผู้ชายหน้าตาดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นผ่านตาตัวเองมา...เขานั่งอยู่ตรงนั้น และทอดสายตาหวานฉ่ำมองตรงมายังเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดๆ มือเรียวรวบชุดคลุมให้กระชับแน่นขึ้น รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะป่านนี้.... เขาผู้นั้นคงมองทะลุไปถึงไหนต่อไหน เมื่อเธอไม่ได้ระวังตัวเองเลย อาจจะเผอเรอจนคนมาใหม่มองเพลินตาไป
อเล็กไซตาค้าง!! ลมหายใจสะดุด หายใจติดๆ ขัดๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า...เซ็กซี่สุดๆ ผิวของเธอขาวอมชมพู คงเป็นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ ผมของเธอจึงเปียกฉ่ำแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง เรียวขาที่โผล่พ้นชายเสื้อคลุม เพรียวสวยจนเขาแทบหยุดหายใจ มันเรียวสวยเรียวยาวเกลี้ยงเกลาดั่งลำเทียน ยิ่งเป็นการมองเห็นแบบวับๆ แวมๆ มันยิ่งเร้าใจสุดๆ
หล่อนทำท่าเหมือนไม่เห็นเขา วิ่งหน้าตั้งมายืนมองบุตรสาวตัวแสบของเขา ก่อนจะถอนใจเฮือกๆ หล่อนเป็นใคร? แล้วอิรินารู้จักหล่อนได้ยังไง? มันเป็นคำถามที่ดังสะท้อนไปมาในหัวสมองขาวโพลน เมื่อเวลานี้ในหัวของอเล็กไซ มีแต่จินตนาการตอนที่หล่อนไม่สวมอะไรเลยบนร่างกายสุดเซ็กซี่นั่น!! และทอดกายนอนยั่วเย้าเขาอยู่กลางเตียงขนาดบิ้กไซส์!!
“คุณเป็นใครคะ?” เสียงของหล่อนห้วนห้าว แต่ฟังยังไงก็ยังถูกใจอยู่ดี ดวงตาสีนิลของหล่อนวาววับ หล่อนมองเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ร้ายหาใช่มิตรผู้มาเยือน
ชายหนุ่มไม่ตอบเขาบุ้ยปากไปทางอิรินา ก่อนจะตวัดปลายขาลง ผุดลุกขึ้นมายืน พร้อมทั้งยกมือเสยผม
เขาใจร้อนแทบเป็นบ้า!! หลังพี่เลี้ยงของบุตรสาวเข้ามาแจ้งข่าว คู่ขาคนล่าสุดถูกส่งกลับแบบไม่มีคำอธิบาย แล้วเขาก็ออกตระเวนหาบุตรสาวจากร่องรอยที่เหลืออยู่ ไม่คิดว่าเด็กดื้ออย่างบุตรสาวจะมาไกลถึงที่นี่ เมื่ออิรินามีคนติดตาม แต่มันอาจจะเป็นความซวย หรือชะตาลิขิตให้เขาได้มาเจอหล่อนก็ไม่รู้ เนื้อตัวของอเล็กไซเต้นยุบยับ เหมือนกับว่าสัญชาตญาณนักล่าของเขากำลังถูกปลุกให้ตื่น เมื่อไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมีลักษณะแข็งกร้าวใส่เขามาก่อน ผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนแรก ที่มองเขาด้วยแววตาลุกโพลง ไม่ได้มีแววเสน่หามีแต่แววตาขึ้งโกรธ
มือเรียวจับสาบเสื้อแน่นๆ เธอเพิ่งถึงบางอ้อ หลังพิจารณาคนแปลกหน้าแบบถี่ถ้วน
โครงหน้า ‘เขา’ คล้ายคลึงกับนางฟ้าตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ย ดวงตาของเขาสีเดียวกับเด็กน้อยคนนั้นเลย ชะเอมไม่คิดว่าเด็กหญิงที่รูปหน้าสวยขนาดนั้น จะถอดเค้าโครงมาจากบิดา...ใช่!! เขาหล่อระเบิด!! และผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจกระตุก เพียงแค่เผลอสบตากันจังๆ
สัญญาณอันตราย...ร้องสั่ง ให้เธออยู่ห่างๆ เขา...
เมื่อลักษณะท่าทางแบบนี้ คงไม่ใช่ผู้ชายในอุดมคติของเธอแน่...
เขาคือความต่างแทบทุกข้อ เขาไม่น่าจะเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อลุค...เขาดูเถื่อนๆ ชอบกล
เขาไม่น่าจะไม่ดื่ม...เมื่อคำบอกเล่าคร่าวๆ ของอิรินา บิดาของเธอชอบปาร์ตี้!! เรื่องบุหรี่คงไม่ต้องถาม เมื่อกลิ่นมันฟ้อง โชยมาเข้าจมูกเธออยู่นี่ไง ดูโดยรวมแล้ว...เขาเป็นตัวอันตราย!! สมควรอยู่ให้ห่างๆ เป็นพันไมล์เลยยิ่งดี
หลังบังคับไม่ให้เสียงพูดออกมาสั่นพร่า ชะเอมตัดสินใจสื่อสารกับคนแปลกหน้า เธอไม่อยากอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดนี่นานๆ มันเปลืองตัว!!
จะอะไรเสียอีกล่ะ ‘ก็ไอ้ลูกตาวาวๆ ของอีกฝ่ายไง!! เขาทำเหมือนกับว่า กำลังเปลืองผ้าเธอทีละชิ้น’ คนบ้าอะไรไม่รู้ นัยน์ตาคมเหมือนใบมีดโกน
“คุณคงเป็นคุณป๊าของเอวา?”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ...เขาหรี่ตาลง เมื่อหล่อนเดินไปหยุดหลังโซฟาตัวใหญ่ เอาความหนาหนักของโซฟาช่วยพรางร่างกายอวบอิ่มนั่น
“คุณปล่อยลูกสาวหายมาแบบนี้บ่อยๆ เหรอคะ...เวลาเกือบ2 ชั่วโมง...มัวทำอะไรอยู่!!” อดไม่ได้เลยที่จะตำหนิ...เธอตวัดตาค้อนขวับๆ แต่ที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจนชะเอมเริ่มเดือดปุดๆ
“เอวาแค่งอนผม...แกก็เป็นแบบนี้ประจำ และผมไม่ได้ปล่อยเธอหายไป ยัยตัวยุ่งนั่นหนีมาเองครับ เราวุ่นวายไปทั้งบ้าน เอวามีคนติดตาม...แต่ครั้งนี้เขาเผลอ เราไม่คิดว่าเอวาจะมาไกลถึงนี่...มันห่างจากบ้านของผมพอสมควร และเธอ...รู้จักกับเอวามาก่อนหรือเปล่า?”
อเล็กไซอธิบายเสียงเนิบนาบ เขาเดินวนไปใกล้ๆ และหล่อนก็ขยับถอยหนีไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังเล่นเกมแมวจับหนูยังไง ยังงั้นเลย
ชะเอมกะพริบเปลือกตาปริบๆ ใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม ทันทีที่เห็นน้ำตาบนใบหน้าเด็กหญิง เธอรั้งร่างอวบเล็กตามวัยเด็กเข้ามากอด มือเรียวลูบพวงผมนุ่มเลยไปกลางแผ่นหลัง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน“ก็ได้จ้ะ หม่ามี้ยอมก็ได้”“เย้!” เสียงตะโกนลั่นของอเล็กไซ เรียกความสนใจจากคนรอบข้างมากขึ้น“ทานเต็มที่เลยครับ วันนี้ผมเลี้ยง ผมจะมีเมียแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวบอกกับทุกคนที่อยู่บริเวณเดียวกัน เขาป๋ามาก ใจใหญ่แบบแทบจะปิดร้านฉลอง ทันทีที่ชะเอมตอบตกลง“เบาๆ สิคุณ อายเขา”ชะเอมปรามแก้เก้อ ผิวแก้มเธอร้อนฉ่า“อายทำไม เรื่องน่ายินดีออก เนอะๆ เอวาเนอะลูก”ชายหนุ่มหันมาพยักพเยิดกับบุตรสาวเด็กหญิงยกมือปาดน้ำตา ขยับไปนั่งเก้าอี้อีกตัว พร้อมกับกินไอครีมต่อ...“โห...ละลายหมดแล้ว คุณป๊าใช้เวลานานกว่าที่เอวากะไว้นะคะ”คำพูดของเด็กหญิงทำเอาผู้ใหญ่รอบตัวถึงกับอึ้งไอ้ที่เห็นร้องไห้ฟูมฟายนั
บทที่16.ง้อ“อีวาน ฉันจะทำยังไงให้ยัยป้านั่นหายโกรธสักทีวะ?” เป็นคำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเจ้านาย ในเมื่อในพจนานุกรมของอเล็กไซ ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนั้น เขาไม่เคยต้อง ‘ง้อ’ ใคร เมื่อไม่พอใจ...จบเกม ก็แยกทางเป็นความพึงใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย...แต่ครั้งนี้ ไม่รู้เป็นไงซิ เขารู้สึกไม่ดีเลย อยากทำให้ชะเอมเข้าใจตนเองถูกต้องมากกว่านี้“คุณอีริคไปเคลียร์กับคุณเอมแล้วครับ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเอมจะเชื่อหรือเปล่า” อีวานแบ่งรับแบ่งสู้ เขาส่งกองหนุนไปหลายส่วน ไม่ว่าจะอีริคตัวต้นเหตุ หรือคุณหนูตัวน้อยที่อาจจะทำให้ชะเอมเบาความไม่พอใจเจ้านายลง“พูดถึงไอ้น้องเวรแล้วของขึ้น!! ฉันไม่เอาจริงมันเลยไม่รู้สึกวันๆ ไม่ทำอะไร คิดแต่จะปี้หญิง” ชายหนุ่มบ่นอุบ อเล็กไซลืมไป เมื่อก่อนเขาก็ไม่ต่างอะไรกับอีริคเลย ถึงอเล็กไซจะมีงานยุ่งจนหัวปั่น แต่เวลาสำหรับการสำเริง สำราญเขาก็มีตลอด เขาสนุกไปกับสิ่งเย้ายวน มัวเมาไปกับอิสตรี...มีความสุขโดยลืมไปด้วยซ้ำว่ามีเด็กหญิงหนึ่งคนตั้งตารออยู่ที่บ้าน...อีวานก้มหน้าลง พยา
บทที่15.กามเทพทำงานแก้วตาเดินตามหลังนายน้อยมาติดๆ ในมือของหญิงสาวมีตะกร้าขนมใบใหญ่ที่น้ำหนักน่าจะมากโข เพราะข้อมือของแก้วตาเกร็งจนเส้นเลือดหลังมือขึ้นรอยปูดโปน“ให้ผมช่วยมั้ยครับ” ลมตัวแสบ เสนอหน้าวิ่งเข้ามาช่วยรับของ เขาส่งยิ้มให้เด็กหญิง ก่อนจะรับตะกร้าน้ำหนักเกือบ10กิโลกรัมมาถือไว้เอง“หม่ามี้เอวาอยู่หน่ายคะ?” เด็กหญิงเอ่ยปากถาม เขย่งปลายเท้า มองหาชะเอมไปรอบๆ“อยู่ในห้องทำงานค่ะ เจ้เอมกำลังยุ่ง”อาจจะเป็นเพราะสมาธิชะเอมกระเจิงไปตั้งแต่ได้พบเจออะไรที่ไม่คาดคิด ความกังวลนั่นทำให้งานของเธอสะดุด พอหัวใจปลอดโปร่งจึงเร่งทำงานเพื่อให้ทันเวลา“ว้า...เอวาเอาขนมมาฝาก เอวาจะเข้าไปหา เอวาจะกวนการทำงานของหม่ามี้มั้ยคะ” เด็กหญิงบ่นพึม ภารกิจที่รับมอบหมายมาอาจไม่สำเร็จ หากไม่ได้เจอตัวชะเอมเป็นๆ“พี่ลมเอาขนมใส่จานให้ค่ะ...สำหรับเอวา เจ้เอมคงไม่กล้าบ่น”เด็กหญิงตรงหน้ามีความผูกพันกับชะเอมในระดับหนึ่ง ด้วยพื้นเพนิสัยของเจ้านายสาวแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที
บทที่14.ภาพบาดตา...ชะเอมถือแก้วกาแฟเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ วันนี้เธอมารับเงินงวดสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทของอเล็กไซ ‘อันยูคอฟคอนเน็คชั่นส์’ หญิงสาวส่งยิ้มให้ประชาสัมพันธ์สาว เมื่อเดินมาหยุดเบื้องหน้าเคาท์เตอร์กลาง ล็อบบี้“คุณเอมเชิญเลยค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวสวยรีบพูดเสียงหวาน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นชะเอมเข้าพอดี“คะ” ชะเอมขมวดคิ้ว“ท่านรออยู่ข้างบนค่ะ เชิญเลยค่ะ” ชะเอมเดินเข้าเดินออก อันยูคอฟถี่ยิบ ไม่มากับอเล็กไซ ก็มากับอิรินา แม้สถานะยังไม่ชัดเจน แต่ใครๆ ในอันยูคอฟย่อมรู้ ชะเอมพิเศษกว่าสาวๆ คนอื่น เมื่อแม้แต่บุตรสาวเจ้านายยังให้ความเคารพ หากอเล็กไซจะเลือกชะเอมมายืนข้างๆ ตัวก็ไม่แปลก“อ๋อ...อืม” หญิงสาวครางงึมงำ เดินบ่ายหน้าไปยังลิฟต์ แม้จะรู้สึกแปลกๆที่ชะเอมแปลกใจคือ...เธอไม่ได้นัดอเล็กไซไว้ คนที่เธอพบปะพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนส่วนใหญ่ คืออีวาน...ตามธรรมดารักสิกาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่ชะเอมผ่านมาแถวนี้พอดี เลยแวะเข้ามาจัดการแทน
“หม่ามี้ว่าเราลงไปนั่งรอแก้วตาที่ร้านเลยดีกว่า” หญิงสาวตัดสินใจ ช่วงเวลารอ เธอเอาเวลานั้นสั่งอาหารไว้รอท่า น่าจะช่วยย่นเวลาหิวของเด็กหญิงได้“ค่า...” อิรินายิ้มแป้น ออกแรงกระตุกมือชะเอม เพราะเจ้าตัวซอยเท้าถี่ๆ เดินนำแต่...ก่อนที่2 สาวจะเดินออกไปจากตรงจุดนั้น...รถยนต์สปอร์ตนำเข้า ก็ตีวงเลี้ยวมาจอดเทียบข้างเสียก่อน กระจกข้างถูกกดให้ลดลงเกือบครึ่ง...ใบหน้าหล่อของผู้โดยสารตอนหลังยื่นออกมาทักทาย“ไงตัวแสบ...จะไปไหนกันเอ่ย?”ราจีฟยื่นหน้าผ่านช่องหน้าต่าง เขาส่งเสียงทักทายบุตรสาวเพื่อนรัก กอนจะยิ้มเผื่อแผ่ไปให้ชะเอมด้วย...“อาจี๊ฟ!!” อิรินาตะโกนทักเสียงใส เจ้าตัวอ้วนเขย่งปลายเท้ามองเข้าไปในรถยนต์ก่อนจะยิ้มแป้น “คุณป๊ามาช้า”คำพูดของเด็กหญิงสะกิดใจชะเอม เธอเหลือบมองอาคันตุกะที่มาแบบกะทันหันฉุนๆ“เห้...อเล็ก นี่เหรอคนที่คุณติดพัน”ราจีฟเบ้ปาก มองผู้หญิงแต่งตัวทะมัดทะแมงด้านข้างหลานสาว“ยุ่ง!!” อเล็กไซตอบเสียงสะบัด เขาดันประตูด้านข้างให้เปิดออก เบ
บทที่13.เดินหน้าลุยเต็มกำลังไม่ปังก็แห้ว!!อีวานมองสีหน้ายับยุ่งของเจ้านายหนุ่มแบบไม่เข้าใจ ในเมื่อมีแม่สื่อชั้นดีแบบคุณหนูตัวน้อย คอยกระแซะเกาะแกะใกล้ๆ ตัวสาวเจ้าที่ใฝ่ปอง เหตุอันใดเล่า สีหน้าของเจ้านายหนุ่มถึงไม่ใคร่สู้ดี...อเล็กไซเหลือบมองการ์ดคนสนิทคู่ใจ... “เช็กตารางงานช่วงบ่ายให้หน่อย ฉันพอจะมีเวลาว่างซัก3ชั่วโมงมั้ย?”การ์ดรุ่นใหญ่กางสมุดจดที่หนีบไว้ตรงรักแร้ เขาดูตารางงานของเจ้านายก่อนจะตอบ...“วันนี้ไม่มีงานด่วนเลยครับหากบอสจะไปไหน...วันนี้ได้ทั้งวัน”งานยิบย่อยที่สามารถโยนให้เจ้าหน้าที่คนอื่นรับผิดชอบแทนได้ อีวานคำนวณในใจคร่าวๆ เมื่อตอบออกไปCEO หนุ่มดันตัวลุกขึ้นยืนพรวดพราด...เขาเอื้อมหยิบสูทที่พาดไว้บนพนักเก้าอี้มาสวมลวกๆ“ดี เอารถออกเลย ฉันจะไปหาเอวา” ข้ออ้างที่หากเป็นคนนอกได้ยินคงจะปลื้มใจหนักหนา เมื่อคุณพ่อลูกหนึ่งปรารถนาที่จะไปหาบุตรสาวทันทีที่ตนเองว่าง แต่สำหรับอีวาน หนุ่มใหญ่หัวเราะดังพรืดเพราะกลั้นไว้จนสุดความสามารถแล้ว แต่ไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะนั่