อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลย
ปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...
“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ
“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”
ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโหมดเป็นงานเป็นการเช่นกัน เขากดปิดทีวีจอยักษ์ ผุดลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับชะเอม
“คะ?!!”
ชะเอมมึน...ไม่รู้ว่าหนุ่มมหาเศรษฐีพ่อหม้ายจะมาไม้ไหน เขาไม่มีวี่แววว่าจะกะล่อน ดูขึงขังจริงจังจนไม่อยากเชื่อ
“ทำห้องเอวาจบ...รบกวนช่วยปรับห้องทำงานผมให้ใหม่ด้วยได้ไหมครับ...อะ...อ๋อ!! เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนั้นผมไหว”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกไปมา เขารู้ว่าหล่อนจะบอกปัด แต่หากเอาเงินมาล่อมีหรือจอมงกอย่างชะเอมจะปฏิเสธ แบบนี้หล่อนได้กำไรเห็นๆ หากชะเอมถอย...หล่อนก็โง่เต็มประดา...
“ค่ะ!!” ชะเอมกระแทกเสียงตอบแบบฉุนๆ เขามัดมือชก บีบให้เธอเสียดาย เอาน่า...เธอคงไม่โชคร้ายเกินไป และนักธุรกิจแบบเขาก็คงไม่ว่างงานนานนัก...
“จะไปดูห้องยัยหนูก่อน หรือจะเข้าห้องผมก่อนดีครับ”
อเล็กไซถามยวนๆ เขาอยากรู้ว่าชะเอมจะโต้กลับแบบไหน?
“ห้องเอวาค่ะ ส่วนห้องคุณ...เราต้องคุยรายละเอียดกันก่อน เอมไม่รู้ว่าคุณต้องการแบบไหน เราต้องวางโครงก่อนที่จะไปดูของจริง”
รอยยิ้มหยันๆ แต้มมุมปากสีระเรื่อก่อนจะหายไปเมื่อหล่อนตอบกลับมาแบบเป็นจริงเป็นจัง ชะเอมทำท่าทางขึงขัง หล่อนไม่สนใจสายตากรุ้มกริ่มของอเล็กไซ
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาหมุนตัวเดินนำหน้า สองมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง...ผิวปากแบบสบายอารมณ์ จนชะเอมแอบหมั่นไส้เล็กๆ
ห้องนอนของอิรินาน่ารักสมกับตัว ชะเอมขมวดคิ้ว เธอยกมือถูกับสีที่ผนังห้อง ความรู้สึกบางอย่างเตือน ห้องนี้เพิ่งจะถูกรีโนเวทได้ไม่นาน...เพราะสียังไม่ฝังแน่นแค่ถูเบาๆ ยังหลุดติดมือมา ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่...
“เอวาไม่อยู่เหรอคะ? ...เอมอยากคุยกับแกเองจะได้รู้ว่าแกอยากได้ห้องแบบไหน”
เธอหันมาถามเจ้าของบ้าน เขายืนอิงกรอบประตูด้วยทีท่าแสนสบาย
“อีกสักพักครับคงกลับครับ...เอวาเข้าโรงเรียนแล้ว...” เขายกมือขึ้น พลิกดูเวลาที่นาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือแข็งแรงก่อนจะประเมินช่วงเวลา
“ค่ะ!! งั้นเอมขอเวลาส่วนตัว เอมจะร่างแบบไว้ให้เอวาเลือก ไม่ต้องเทคแคร์ค่ะ เอมถนัดทำงานคนเดียวมากกว่า”
ชะเอมเอ่ยปากไล่ซึ่งๆ หน้า สีหน้าหล่อนนิ่งสนิท อเล็กไซเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาไหวไหล่ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้ตอแยต่อ
ที่ชะเอมไม่รู้ อเล็กไซยอมถอยทัพ ไม่ได้หมายความว่าเขายอมแพ้ ชายหนุ่มกลับไปนั่งคิดแผนเงียบๆ ในห้องทำงาน เขาวาดฝันในใจ... ให้เวลาชะเอม3 วันหากหล่อนสามารถหนีรอดจากกรงเล็บเขาได้ อเล็กไซยินดีปล่อยหล่อน เพราะเวลานานขนาดนี้ ยังไม่มีสาวคนไหนหนีพ้นเสน่ห์ของเขาสักที
“หม่ามี้!!” เสียงวิ่งดังตึงตัง ก่อนที่ร่างกลมป้อมของอิรินาจะโผล่หน้ามาให้เห็น พวงแก้มอิ่มปะแป้งลายพร้อย คงเพิ่งจะนอนกลางวัน ก่อนเวลากลับผมสีดำยับยุ่งกระเซอะกระเซิงจนคนมองเห็นแล้วอ่อนใจ หากเธอมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้ เธอจะจับแต่งตัวสวยๆ มัดผมให้เรียบร้อยไม่มีทางปล่อยให้รุงรังเช่นนี้แน่
“ดีจ้ะเอวา...ทำไมมอมแมมจังเลย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม เดี๋ยวหม่ามี้ทักเปียให้”
ชะเอมวางสมุดโน้ตในมือ เธอเดินไปสวมกอดอิรินา กดจมูกกับพวงแก้มยุ้ยของลูกสาวนอกไส้
“ได้ค่า รอเอวาแป๊บเดียวค่า”
เด็กหญิงกอดตอบ ก่อนจะวิ่งตื๋อไปกับพี่เลี้ยงที่ยืนรออยู่ทางด้านหลัง เพื่อจัดการตามที่ชะเอมบอก
หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน เธอเดินสำรวจห้องนอนของอิรินาซ้ำ จดบันทึกสิ่งที่ควรแก้ เพราะเมื่อร่างแบบแล้ว ผลออกมาจะได้เป็นที่ถูกใจ
เด็กหญิงย้อนกลับมาอีกครั้งหลังหายไปเกือบ30 นาที คราวนี้มาในชุดอยู่บ้านสุดน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเดินได้ จริงอยู่อิรินามีตาสีเขียวมรกต แต่ผมของเธอกลับเป็นสีดำสนิท มันอาจจะเป็นเพราะยีนของอเล็กไซก็ได้ เพราะชายหนุ่มเองก็มีผมสีดำ
“มาแว้วววว...หิวแล้วอ่า”
เสียงเล็กๆ ร้องแจ้วๆ พอโผล่หน้าเข้ามาก็ร้องแต่หิวๆ พี่เลี้ยงยิ้มกร่อยๆ หล่อนอยู่กับอิรินามานานพอสมควร เรื่องกินนี่มาเป็นอันดับหนึ่ง
“เดี๋ยวดิฉันเอาของว่างมาให้ค่ะ”
หล่อนเปรยกับนายจ้างตัวน้อย เตรียมตัวจะหมุนตัวกลับเพื่อไปจัดการตามความต้องการของคุณหนูของบ้าน
“เดี๋ยวจ้ะ...ลงไปข้างล่างดีกว่าไหม ห้องนอนไม่สมควรนำขนม หรือของหวานเข้ามา มันไม่สะอาด”
ชะเอมย่อตัวลง เธอกล่าวกับเด็กหญิง สอนในเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้
“แต่ว่า...”
อิรินาเป็นคนติดห้อง เธอมักจะขลุกอยู่แต่ในห้องนอน มันอาจเป็นเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยก็ได้
“เอาขนมมาทานในห้อง ตกกลางคืนน้องหนูก็เข้ามาหา...ไหนจะพี่แมลงสาบอีก เอวากลัวไหมล่ะคะ”
“หูยยย...เอวาเกลียดที่สุดค่า ไปค่ะไปค่ะ ลงไปทานข้างล่างก็ได้”
เด็กหญิงห่อปากทำตาโต รีบฉุดมือของชะเอมแล้วรีบจูงออกจากห้องนอนตัวเอง เพราะหากมีสัตว์จำพวกนั้นแวะเวียนมาเยี่ยมตอนที่ตัวเองหลับ คงนอนผวาไปทั้งคืน
พี่เลี้ยงอมยิ้ม เธอมองชะเอมด้วยความชื่นชม ไม่มีใครชี้นำคุณหนูอิรินาได้ เมื่อเจ้าตัวทั้งรั้นและดื้อ
ดังนั้นวันนี้ เก้าอี้เหล็กในบริเวณสวนหลังบ้านจึงได้มีโอกาสได้รับใช้เจ้าของบ้านสุดป่วน เมนูวันนี้ไม่ถูกปากเจ้าตัวเท่าไหร่ จึงมีเสียงบ่นอุบตลอดเวลา แม้ขณะที่กำลังเคี้ยวหยับๆ
“ไม่อร่อยเลยสู้ฝีมือหม่ามี้ก็ไม่ได้ วันหลังหม่ามี้มาทำให้เอวาทานอีกนะคะ”
ชะเอมอมยิ้ม ดูดน้ำหวานในแก้วเฉย ไม่ได้ตอบอะไรออกมา...
“บ้านเอวามีสระด้วยนะคะ หากหม่ามี้ว่างๆ เราลงสระกันนะคะ เอวาอยากว่ายน้ำเป็น แต่...ไม่มีใครสอน”
เรื่องออดอ้อนฉอเลาะ ไม่ต้องมีใครสอนสั่ง มันเป็นสัญชาตญาณของคนที่ขาด มีระบบในตัวเอง เป็นกลไกแบบอัตโนมัติ
ใบหน้ากลมแป้นม่อยลง แม้จะกำลังเจริญอาหารแบบนี้จะไม่ให้ชะเอมใจอ่อนยวบได้ยังไง
“ได้สิ...ยังไงหม่ามี้ก็ต้องมาบ่อยๆ ไว้ว่างๆ หม่ามี้จะสอนเอวาว่ายน้ำเองค่ะ”
พอได้ยินคำตอบที่เป็นที่พอใจ ใบหน้าหงิกหงอยก็ผลิบานเหมือนดอกไม้ได้น้ำฝน ชะเอมอมยิ้ม มีลูกสาวสุดน่ารักแบบนี้ ทำไมคนเป็นพ่อถึงปล่อยให้เจ้าตัวหงอยเหงาได้ เท่าที่เห็นรอบตัวอิรินามีแต่พี่เลี้ยงกับการ์ด มันไม่ใช่การเลี้ยงเด็กที่ถูกวิธีนัก
“บ้านเอวาไม่มีสวนดอกไม้เหรอจ๊ะ”
บรรยากาศแห้งแร้ง แม้จะร่มครึ้มไปด้วยไม้ยืนต้นใหญ่ๆ แต่พรรณไม้ที่มีสีสันกลับไม่มีให้เห็นในสายตา ชะเอมจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“นั่นสิค่า... ทำไมไม่มี”
เด็กหญิงรีบสนับสนุน มีบริเวณกว้างขวางแต่ไม้ดอกไม้ประดับกลับไม่มีให้เห็น
“คุณท่านให้คนแต่งสวนให้น่ะค่ะ ผลออกมาแบบนี้ ท่านก็ไม่เห็นว่าอะไร”
ชะเอมกวาดตามองไปรอบตัว สวนสวยก็จริงแต่มันดูโล้นๆ พิกล มีแต่สีเขียวขจี สีอื่นแทบไม่มีให้เห็น มันเป็นบรรยากาศทำให้ไม่สดชื่นเท่าที่ควร
“มีคนสวนไหมจ๊ะ ขอเอมคุยกับเขาหน่อย”
บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ คนสวน คนขับรถ คนรับใช้น่าจะมี ชะเอมแค่อยากถามหากสามารถปรับภูมิทัศน์ได้ มันก็จะเป็นผลดีกับคนที่อยู่อาศัย...
“สักครูค่ะอิฉันจะไปตามให้”
ความจริงชะเอมไม่อยากยุ่ง แต่หากมีสีสันเพิ่มเติมเข้ามาบ้างมันน่าจะสดชื่นกว่า
ชายสูงวัยค่อนข้างมีอายุสักนิด เขาเดินเข้ามานอบตัวใกล้ๆ ชะเอม
“ลุงเป็นคนสวนบ้านนี้ใช่ไหมจ๊ะ ทำไมสวนมีแต่ไม้ประดับไม่มีไม้ดอกบ้างเลยล่ะ”
คุยไปคุยมา ชะเอมจึงได้รู้ หลังจากแต่งสวนเสร็จ คนดูแลไม่กล้าเพิ่มเติมต้นไม้ต้นอื่นลงไปเพราะกลัวว่าสวนที่ถูกเซตไว้อย่างสวยงามจะไม่เหมือนเดิม ได้แต่ดูแลตามหน้าที่ หญิงสาวจึงแนะนำ ชายสูงวัยยิ้มแป้น เมื่อชะเอมรับรองแข็งขันหากอเล็กไซบ่นหรือดุ เธอจะรับไว้คนเดียว ขอแค่เพียงมีต้นไม้ที่เธออยากได้มาเสริม เมื่อชายหนุ่มมีงบส่วนนั้นไว้ให้อยู่แล้ว
“เอาเหมือนที่บ้านหม่ามี้นะคะ ขอดอกไม้สวยๆ ที่มีกลิ่นหอมๆ ด้วย”
คุณหนูจอมแสบที่พวกเขาเคยได้ยินแต่เสียงร้องกรี๊ดๆ กับใบหน้าบึ้ง วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังลงมาให้บริวารได้ชื่นชม อาจจะเป็นเพราะมีคนคุมที่เอาอยู่อย่างคุณชะเอม จนหลายๆ คนลงความเห็น ชะเอมเหมาะที่จะมาเป็นนายหญิงของบ้าน เพราะหากมีคนใจดีอย่างคุณชะเอมเป็นนายผู้หญิง บ้านจะได้เป็นบ้านเสียที
“ได้เลยจ้ะ หม่ามี้สั่งลุงชมแล้ว พรุ่งนี้กลับจากโรงเรียนเอวาจะได้เห็นดอกไม้สวยตรงนี้แน่ๆ”
อิรินาทำปากจู๋ “แล้วพรุ่งนี้หม่ามี้มาอีกไหมคะ?”
เป็นคำถามที่ทำให้ชะเอมสะท้อนในอก...ดวงตาหงอยเหงากับความหวังที่กลิ้งไปมาในดวงตาของอิรินา ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง แม้ว่าจะขัดกับความตั้งใจของตัวเอง...เอาน่า เขาไม่ได้ว่างบ่อยๆ หรอก เป็นไปไม่ได้ที่คนงานเยอะอย่างอเล็กไซจะอยู่บ้านให้เธอเห็นหน้าทุกวัน
“มาสิ พรุ่งนี้หม่ามี้จะทำแบบห้องมาให้เอวาเลือก ถูกใจแบบไหนจะได้ลงมือทำห้องนอนเอวาไงจ๊ะ”
“จริงๆ นะคะ เย้ๆ”
เด็กหญิงไม่ได้ดีใจที่ได้ห้องนอนใหม่ เธอดีใจที่ชะเอมจะมาหาต่างหาก
“ดีใจอะไรคะ? เสียงดังไปยันห้องทำงานคุณป๊าเลย”
คนที่ไม่ได้อยากเจอหน้า คนที่ชะเอมต้องกันตัวเองออกห่างๆ ที่สุด ดันโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ จนค่อนไปทางรำคาญ เธอเบื่อตัวเองที่คอยจะแอบมองเขา ชะเอมเองก็เป็นผู้หญิง แล้วอเล็กไซก็หล่อวายร้ายขนาดนี้ ไม่แปลกหรอกที่สายตาเธอจะแวะเวียนไปชำเลืองมองเขาบ่อยครั้ง...
“เปล่าค่า แค่หม่ามี้รับปากจะมาหาเอวาบ่อยๆ”
เด็กหญิงตอบ เธอยัดชิ้นขนมใส่ปาก มีความสุขกับการกินเมื่ออารมณ์ดีสุดๆ
“อย่าลืมนะคุณ...ห้องทำงานผมด้วย...”
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
ชะเอมพูดแบบเหลืออด...เธอกับเขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้างกับ คนทำงานให้เป็นจ็อปๆ ไป ไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านยามวิกาลได้...เธอยังไม่อยากตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นพูดถึง แม้คู่กรณีจะเป็นผู้ชายที่น่าปรารถนา...“อยากให้ผมไปมากเลยเหรอ?”เสียงของอเล็กไซฟังดูหงอยๆ แต่หากเธอใจอ่อน คนที่เสียหายคือตัวเอง ชะเอมเลยฝืนทำใจแข็ง กลั้นใจพยักหน้าหงึกหงัก...“เอม...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาปรือเปลือกตาขึ้นมองเธอ หญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่ได้ดูดีกว่าบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จัก...แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงติดใจเธอนักหนา ติดใจจนกระทั่งอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหล่อนทั้งกาย...และใจชะเอมยกมือขึ้นกอดอกทันที...เธอไม่อยากเห็นสายตาของเขาเลย เธอกลัวตัวเองใจอ่อน นัยน์ตาของอเล็กไซสวยประหนึ่งอัญมณีชั้นเลิศที่ผ่านการเจียระไนด้วยฝีมือช่างชั้นครู เธอชมชอบมาตลอด... แต่หากอยากให้ตัวเองปลอดภัย เธอต้องฝืนความรู้สึกไว้ ต้องไม่สบตากับเขา!! ชะเอมตัวชาวาบ!! ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของอเล็กไซที่เธอเผลอมอง เขาตรึงเธอไว้ด้วยแววตาเต้นระริก ดวงตาคู่คมเหมือนอัญมณีสีสวย มันกลอกกลิ้งล้อเล่นกับแสงไฟ..
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...
บทที่12.ผู้ชายแบดบอย...ชะเอมทำหน้าปั้นยาก เมื่อขบวนคนขนของของอิรินาทยอยเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยของตนเอง ในเช้าวันหยุดที่อากาศแสนดี ไม่มีแดดแรงๆ มีแค่สายลมพัดเอื่อยๆ กับกลิ่นหอมของละอองเกสรที่ปลิวลอยมาตามลม กลิ่นหอมนั่นผสมอยู่ในอากาศรอบตัวจนช่วยลดความไม่สบายใจของตนเองลง หญิงสาวชะเง้อคอมองที่มาของกลิ่นแสนชื่นใจนั่น ดอกพวงชมพูซุ้มใหญ่ที่ขึ้นอยู่บริเวณข้างทาง เป็นไม้ดอกที่ขึ้นข้างรั้วแต่กลับงอกงามแผ่กิ่งก้านเต็มความยาวของกำแพงอิฐ...“เอาของนี่ไว้ไหนดีคะ?” แก้วตาถามความเห็นของชะเอม เจ้าหล่อนยิ้มแหยๆ ให้เจ้าของบ้านสาว“ของใครล่ะ? ของเอวาหรือของแก้วตา?” หญิงสาวถามกลับ“ของคุณหนูค่ะ” แก้วตาตอบพร้อมกับยิ้ม“ไว้ในห้องเอมได้เลยค่ะ” ชะเอมตอบสีหน้ายิ้มแย้มแก้วตาเดินเลี่ยงไปอีกทาง หล่อนขนของใช้ส่วนตัวของ อิรินาเข้าไปเก็บไว้ในห้องนอนเจ้าของบ้านวันนี้คงวุ่นวายทั้งวันเมื่อของใช้ส่วนตัวของอิรินามีไม่ใช่น้อย“แก้วตาหิวยัง?” ชะเอมโผล่หน้ามาจากครัว เจ้าหล่
ชะเอมหมุนตัวขวับ!! ต้องมีใคร? อยู่ด้านหลังเธอแน่ เพราะสังเกตจากสายตาของทุกคน สายตาเหล่านั้นโฟกัสไปที่ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเธอ“ไม่ยักรู้ว่าผม ‘หล่อ’ ในสายตาเอมด้วย”เสียงทุ้มๆ ยังไม่ทำให้ชะเอมหวาดหวั่น ได้เท่ากับตัวเป็นๆ ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง กลิ่นของอเล็กไซทำให้เธอมึน เธอจึงยิ้มกร่อยๆ ทักทายชายหนุ่มแบบเสียไม่ได้“คุณนั่นเอง มารับเอวาเหรอคะ?”“อย่าเปลี่ยนเรื่องน่าเอม... ตอบผมมาก่อน เอมน่ะชอบเฉไฉตลอด...จับไม่มั่น คั้นไม่ตายไม่มีทางยอมรับซักที”อเล็กไซยังดึงดัน เขาพูดย้ำเรื่องเดิมๆ ไม่สนใจแม้กำลังถูกจับตามองชะเอมกลอกตามองบน ชายหนุ่มต้องการคำตอบที่ตนเองพอใจ แต่จะให้เธอตอบว่าเขา ‘หล่อ’ แล้วไอ้พวกลูกน้องข้างหลังเธอมีหวังหัวเราะดังคลื่นแน่... เพราะแต่ละคนต่างพากันเงียบ แต่เปล่า...ที่สงบนิ่งกันอยู่นี่ เชื่อสิ... ตะแคงหูฟังกันเป็นแถว!!เธอถอนลมหายใจแรงๆ ก่อนตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะบังคับปากตนเองให้พูดตอบโต้ไปได้ “ไม่น่าถามนี่คะ คุณน่ะมันเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว... แม้แต่นายแบบเอ
บทที่11.ลูกสาวอิรินานั่งเล่นเพลินๆ ในห้องทำงานชะเอม เจ้าตัวรู้สึกสนุก เมื่อไม่มีพี่เลี้ยงคอยตามประกบ ได้ทำอะไรแบบที่ชอบ แถมยังได้แต่งตัวแบบที่ไม่เคยทำกางเกงยีนเด็กกับเสื้อเชิ้ตผมยาวสลวยถูกจับถักเปียง่ายๆ เปิดหน้าผากนูนเด่นกับพวงแก้มยุ้ยสีระเรื่อ หากอเล็กไซได้มาเห็นบุตรสาวในตอนนี้... เขาคงต้องยกมือกุมขมับ เพราะชะเอมจับสาวหวานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่งตัวเป็นทอมบอย“เด็กที่ไหนเจ้ น่ารักเป็นบ้า”ลมลูกน้องหนุ่มสุดแสบกระซิบถาม เขาชำเลืองมองอิรินาตาเยิ้ม ขนาดอายุเพียงแค่นี้... ความสวยยังเปล่งประกายเจิดจ้า หากโตเป็นสาวเต็มตัว เด็กหญิงตรงหน้าคงไม่ต่างอะไรจากนางฟ้า...“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมหะ!!” ชะเอมหันมาแสยะยิ้มมุมปาก กระซิบดุลูกน้องจอมจุ้นเสียงเครียดๆ เมื่อเจ้าตัวดูเหมือนจะชอบสอดรู้ไปหมดทุกเรื่อง“โห...แค่อยากรู้เอง...ทำเป็นดุ!! ไปขโมยลูกใครมาอะครับ?”มันกะพริบเปลือกตาปริบๆ แล้วก็ถามต่อ...ไม่ยอมหยุดความอยากรู้แม้จะถูกมองตาขวาง เมื่อเจ้านายไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร...เด็กหญิ
ชะเอมก้มหน้าลง เธออมยิ้มด้วยความพอใจ แผนแรกผ่านไปด้วยดี ที่เหลือก็แค่ชิ่ง...ต้องหาทางหลบการ์ดเหล่านี้ไปยังสนามบิน เพราะระยะทางร้านไอครีมชื่อดังกับท่าอากาศยานอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่...“เยี่ยมมาก...คนเก่ง”ชะเอมหันไปขยิบตาให้อิรินาสองมือสอดลงไปในกระเป๋ากาเกง เพื่อตรวจเช็กสิ่งที่ควรมี ‘พาสปอร์ต’ เธอโน้มตัวลงสวมกอดกระซิบแผ่วๆ ข้างใบหูเล็กๆ และเด็กหญิงก็หยุดร้องกรี๊ด เนื่องจากเสียงกระซิบของชะเอม“ไปค่ะ อีวานจะพาหนูไปกินไอครีมกัน...เราจะออกไปข้างนอกกันค่ะ”ชะเอมพูดยิ้มๆ เธอแอบขยิบตาให้อิรินาหลายครั้ง และเด็กหญิงก็รับลูก แสร้งกระโดดเหมือนดีใจหนักหนา“กินติมๆ ...เย้ๆ”หากอีวานสังเกตสองสาวดีๆ เขาจะรู้สึกสะกิดใจ ทั้ง อิรินาและชะเอม ต่างมีกระเป๋าเป้เล็กๆ สะพายไว้ที่หลังแต่เพราะเสียงสิบแปดหลอดของอิรินา ทำให้ต่อมความฉลาดของอีวานลดลง เขาต้องการแค่...ทำยังไงก็ได้ ให้คุณหนูตัวแสบ...หยุดตะเบ็งเสียงลั่นนั่นเสียทีห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ‘เบนิคอฟ’ห้างสรรพสินค้าข
บทที่10.แผนตลบหลังสิงโต...“อะไรนะช้าง หมายความว่าไงวะ เจ้งง!!”ชะเอมย้อนถามเสียงหลง เธอแอบแวบต่อสายหาคนของตัวเองจนได้ แต่กลับต้องงงกับคำตอบ...ที่ได้ยิน“โหเจ้ ไปหลบอยู่ไหนมาคร๊าฟ... งานจวนจะเสร็จแล้วล่ะ น่าจะทันเวลาอยู่”ช้างตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ชะเอมหายไปครบอาทิตย์พอดี“อ้าว...แล้วแบบล่ะ”หญิงสาวสับสน เธอหาโอกาสเคลียร์กับอเล็กไซไม่ได้สักที แล้วงานเดินต่อแบบนี้ เขาไม่พอใจขึ้นมา เธอมิเสียทั้งเงิน และเวลาฟรีเหรอ“โอ้ย!! คุณเขาโทร. มาบอกตั้งแต่เจ้ไปมอสโกวันแรกๆ แล้ว เป็นไงครับ... เที่ยวต่างประเทศสนุกมั้ยครับเจ้”ช้างตอบ เขาย้อนถามด้วยความอยากรู้ชะเอมอึ้ง!! เรื่องเที่ยวน่ะเธอไปทุกที่ที่อิรินาไป คนพาไปก็ใจป้ำ พาไปทุกแห่งที่อยากไปเสียด้วย มันเลยเป็นการเที่ยวที่ชะเอมคุ้มสุดๆ เธอไม่ต้องสนใจเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อมีสายเปย์ตัวพ่อ คอยตามจ่ายให้ เธอถ่ายรูปจนเมมโมรี่เต็ม เซฟเก็บไว้ในคอมส่วนตัวอีกเป็นกุรุส เอาไว้ว่างๆ จะมานั่งระลึกความหลัง เมื่อคงไม่มีวันแ
หญิงสาวตอบกลับ เธอกดยิ้มมุมปาก ชะเอมไม่ใช่คนที่มีความอดทนเท่าไหร่ นิยามความรักของเธอสวยหรู เกินกว่าจะให้มันจบลง เพราะความมักง่ายของคนคนเดียว อเล็กไซเป็นต้นแบบของผู้ชายที่เธอปักหมุดไว้ ...เขาคือตัวอันตราย ที่ควรอยู่ห่างที่สุด ก็เขาน่ะมันผู้ชายสมบูรณ์พร้อม มีสมบัติมากมายก่ายกอง หล่อเหลาเกินคน...แต่ไม่ใช่ผู้ชายในฝันที่ตนเองต้องการเมื่อป้ายแผ่นเบ้อเร่อติดไว้ที่กลางหน้าผากชายหนุ่ม ‘เขาน่ะตัวพ่อ’ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่เห็นเพศหญิงเป็นแค่เครื่องบันเทิงอารมณ์ พวกคนเหล่านั้นชอบสนุกบนเรือนร่างงดงาม แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ...เขาพร้อมหันหลังหนีทุกกรณี“เอม...ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกนะ ทุกคนสามารถทำผิดกันได้ ผมเคยพลาด แต่ผมก็พยามแก้ไขนี่ พยายามทำให้ดีที่สุด...ในแบบของผม”ชายหนุ่มเปรยเสียงอ่อน...นับวันความรู้สึกลึกๆ ในใจ ที่มีกับชะเอมยิ่งเด่นชัดขึ้น ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่ฟิริเซีย ชะเอมทำให้เขามองโลกในมุมที่ดีขึ้น สบายใจทุกครั้งหากมีหล่อนอยู่ใกล้ๆ ได้ต่อปากต่อคำ ได้ถกเถียงกันในบางครั้ง แต่มันก็เปี่ยมสุข จนไม่อยากปล่อยมือจากเธอ พยายามคว้า พย
บทที่9.มิสซิสฟิริเซียอิรินาขยับตัวเข้าใกล้ชะเอม มือกลมป้อมยกขึ้นจับชายเสื้อของชะเอมไว้แน่น พร้อมกับรีบก้มหน้าลง เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอรับรู้ถึงความผิดปกติ ชะเอมเหลียวมองไปรอบๆ เธอเห็นใครบางคน กำลังเดินตรงมาทางนี้ ‘หล่อน’ ใช่คนที่เดินมาเป็นผู้หญิง ผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่ง กับการแต่งกายฉูดฉาดไม่ต้องบอกก็รู้ หล่อนต้องมีความสัมพันธ์กับคนบ้านนี้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถฝ่าปราการป้องกันของเหล่าบอดี้การ์ดพันธุ์ดุมาได้แน่นอน“เซไฮ!! เบบี้”เสียงหล่อนแหลมปรี๊ด แววตาจิกๆ พิกล คำทักทายที่ฟังยังไงก็หาได้มีความอบอุ่น ไม่แปลกเลยที่อิรินาจะกลัว“เป็นอะไรไปยัยหนู หม่ามี้มาหาทั้งที จะหลบหน้าหลบตากันทำไม?”น้ำเสียงออกจะดุไปสักนิด สำหรับวิธีพูดของมารดาที่พูดกับบุตรสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน“มาหาหม่ามี้สิ มาให้กอดหน่อย คิดถึ๊งคิดถึง!!”มือเรียวสวยอ้ากว้าง พร้อมกับยิ้มหวานทั้งปาก แต่ดวงตากลับแข็งกร้าวจนแม้แต่คนนอกอย่างชะเอมยังรู้สึก&ldqu
บทที่7.เป็นแฟนกันมั้ย!!ชะเอมปิดประตูห้องนอนด้วยมือที่สั่นระริก เธอแสร้งทำเป็นใจแข็งไปอย่างนั้นเอง เพราะมันคือ ‘เกราะ’ ที่ใช้กางกั้นชายหนุ่ม ใครเข้าใกล้อเล็กไซ แล้วไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มบ้างล่ะ...ไม่มี...ชะเอมยืนยันได้ แม้แต่ตัวเองที่แกร่งและเชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ยังหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขา เมื่อชายหนุ่มรุกคืบเข้าประชิดตัวแบบนี้...หญิงสาวหลับตานิ่งๆ เธอยืนพิงประตูห้อง เงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวภายนอก...อเล็กไซอึ้ง!!ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดกับชะเอมถึงแค่ไหน...ที่เขารู้คือ...ชะเอมเข้ามาป่วนความคิดเขา หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก มันอาจจะเป็นความเคยตัวก็ย่อมได้ สาวๆ ส่วนใหญ่ วิ่งใส่...พอมาเจอคนที่วิ่งหนีเขาเลยไปไม่ถูก แถมหล่อนไม่เลิศเลออะไรเลย มันจึงทำให้ต่อมอยากเอาชนะของเขาทำงาน...คงเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ มือดันโซฟาพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแม้จะมึนหัวตุ๊บๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ตรงจุดนี้...ชะเอมตัดเยื่อใย หล่อนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการ...มันเสียหน้าจนอยากหายตัวได้...เสียงการเคลื่อ
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...