อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลย
ปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...
“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ
“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”
ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโหมดเป็นงานเป็นการเช่นกัน เขากดปิดทีวีจอยักษ์ ผุดลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับชะเอม
“คะ?!!”
ชะเอมมึน...ไม่รู้ว่าหนุ่มมหาเศรษฐีพ่อหม้ายจะมาไม้ไหน เขาไม่มีวี่แววว่าจะกะล่อน ดูขึงขังจริงจังจนไม่อยากเชื่อ
“ทำห้องเอวาจบ...รบกวนช่วยปรับห้องทำงานผมให้ใหม่ด้วยได้ไหมครับ...อะ...อ๋อ!! เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนั้นผมไหว”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกไปมา เขารู้ว่าหล่อนจะบอกปัด แต่หากเอาเงินมาล่อมีหรือจอมงกอย่างชะเอมจะปฏิเสธ แบบนี้หล่อนได้กำไรเห็นๆ หากชะเอมถอย...หล่อนก็โง่เต็มประดา...
“ค่ะ!!” ชะเอมกระแทกเสียงตอบแบบฉุนๆ เขามัดมือชก บีบให้เธอเสียดาย เอาน่า...เธอคงไม่โชคร้ายเกินไป และนักธุรกิจแบบเขาก็คงไม่ว่างงานนานนัก...
“จะไปดูห้องยัยหนูก่อน หรือจะเข้าห้องผมก่อนดีครับ”
อเล็กไซถามยวนๆ เขาอยากรู้ว่าชะเอมจะโต้กลับแบบไหน?
“ห้องเอวาค่ะ ส่วนห้องคุณ...เราต้องคุยรายละเอียดกันก่อน เอมไม่รู้ว่าคุณต้องการแบบไหน เราต้องวางโครงก่อนที่จะไปดูของจริง”
รอยยิ้มหยันๆ แต้มมุมปากสีระเรื่อก่อนจะหายไปเมื่อหล่อนตอบกลับมาแบบเป็นจริงเป็นจัง ชะเอมทำท่าทางขึงขัง หล่อนไม่สนใจสายตากรุ้มกริ่มของอเล็กไซ
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาหมุนตัวเดินนำหน้า สองมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง...ผิวปากแบบสบายอารมณ์ จนชะเอมแอบหมั่นไส้เล็กๆ
ห้องนอนของอิรินาน่ารักสมกับตัว ชะเอมขมวดคิ้ว เธอยกมือถูกับสีที่ผนังห้อง ความรู้สึกบางอย่างเตือน ห้องนี้เพิ่งจะถูกรีโนเวทได้ไม่นาน...เพราะสียังไม่ฝังแน่นแค่ถูเบาๆ ยังหลุดติดมือมา ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่...
“เอวาไม่อยู่เหรอคะ? ...เอมอยากคุยกับแกเองจะได้รู้ว่าแกอยากได้ห้องแบบไหน”
เธอหันมาถามเจ้าของบ้าน เขายืนอิงกรอบประตูด้วยทีท่าแสนสบาย
“อีกสักพักครับคงกลับครับ...เอวาเข้าโรงเรียนแล้ว...” เขายกมือขึ้น พลิกดูเวลาที่นาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือแข็งแรงก่อนจะประเมินช่วงเวลา
“ค่ะ!! งั้นเอมขอเวลาส่วนตัว เอมจะร่างแบบไว้ให้เอวาเลือก ไม่ต้องเทคแคร์ค่ะ เอมถนัดทำงานคนเดียวมากกว่า”
ชะเอมเอ่ยปากไล่ซึ่งๆ หน้า สีหน้าหล่อนนิ่งสนิท อเล็กไซเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาไหวไหล่ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้ตอแยต่อ
ที่ชะเอมไม่รู้ อเล็กไซยอมถอยทัพ ไม่ได้หมายความว่าเขายอมแพ้ ชายหนุ่มกลับไปนั่งคิดแผนเงียบๆ ในห้องทำงาน เขาวาดฝันในใจ... ให้เวลาชะเอม3 วันหากหล่อนสามารถหนีรอดจากกรงเล็บเขาได้ อเล็กไซยินดีปล่อยหล่อน เพราะเวลานานขนาดนี้ ยังไม่มีสาวคนไหนหนีพ้นเสน่ห์ของเขาสักที
“หม่ามี้!!” เสียงวิ่งดังตึงตัง ก่อนที่ร่างกลมป้อมของอิรินาจะโผล่หน้ามาให้เห็น พวงแก้มอิ่มปะแป้งลายพร้อย คงเพิ่งจะนอนกลางวัน ก่อนเวลากลับผมสีดำยับยุ่งกระเซอะกระเซิงจนคนมองเห็นแล้วอ่อนใจ หากเธอมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้ เธอจะจับแต่งตัวสวยๆ มัดผมให้เรียบร้อยไม่มีทางปล่อยให้รุงรังเช่นนี้แน่
“ดีจ้ะเอวา...ทำไมมอมแมมจังเลย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม เดี๋ยวหม่ามี้ทักเปียให้”
ชะเอมวางสมุดโน้ตในมือ เธอเดินไปสวมกอดอิรินา กดจมูกกับพวงแก้มยุ้ยของลูกสาวนอกไส้
“ได้ค่า รอเอวาแป๊บเดียวค่า”
เด็กหญิงกอดตอบ ก่อนจะวิ่งตื๋อไปกับพี่เลี้ยงที่ยืนรออยู่ทางด้านหลัง เพื่อจัดการตามที่ชะเอมบอก
หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน เธอเดินสำรวจห้องนอนของอิรินาซ้ำ จดบันทึกสิ่งที่ควรแก้ เพราะเมื่อร่างแบบแล้ว ผลออกมาจะได้เป็นที่ถูกใจ
เด็กหญิงย้อนกลับมาอีกครั้งหลังหายไปเกือบ30 นาที คราวนี้มาในชุดอยู่บ้านสุดน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเดินได้ จริงอยู่อิรินามีตาสีเขียวมรกต แต่ผมของเธอกลับเป็นสีดำสนิท มันอาจจะเป็นเพราะยีนของอเล็กไซก็ได้ เพราะชายหนุ่มเองก็มีผมสีดำ
“มาแว้วววว...หิวแล้วอ่า”
เสียงเล็กๆ ร้องแจ้วๆ พอโผล่หน้าเข้ามาก็ร้องแต่หิวๆ พี่เลี้ยงยิ้มกร่อยๆ หล่อนอยู่กับอิรินามานานพอสมควร เรื่องกินนี่มาเป็นอันดับหนึ่ง
“เดี๋ยวดิฉันเอาของว่างมาให้ค่ะ”
หล่อนเปรยกับนายจ้างตัวน้อย เตรียมตัวจะหมุนตัวกลับเพื่อไปจัดการตามความต้องการของคุณหนูของบ้าน
“เดี๋ยวจ้ะ...ลงไปข้างล่างดีกว่าไหม ห้องนอนไม่สมควรนำขนม หรือของหวานเข้ามา มันไม่สะอาด”
ชะเอมย่อตัวลง เธอกล่าวกับเด็กหญิง สอนในเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้
“แต่ว่า...”
อิรินาเป็นคนติดห้อง เธอมักจะขลุกอยู่แต่ในห้องนอน มันอาจเป็นเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยก็ได้
“เอาขนมมาทานในห้อง ตกกลางคืนน้องหนูก็เข้ามาหา...ไหนจะพี่แมลงสาบอีก เอวากลัวไหมล่ะคะ”
“หูยยย...เอวาเกลียดที่สุดค่า ไปค่ะไปค่ะ ลงไปทานข้างล่างก็ได้”
เด็กหญิงห่อปากทำตาโต รีบฉุดมือของชะเอมแล้วรีบจูงออกจากห้องนอนตัวเอง เพราะหากมีสัตว์จำพวกนั้นแวะเวียนมาเยี่ยมตอนที่ตัวเองหลับ คงนอนผวาไปทั้งคืน
พี่เลี้ยงอมยิ้ม เธอมองชะเอมด้วยความชื่นชม ไม่มีใครชี้นำคุณหนูอิรินาได้ เมื่อเจ้าตัวทั้งรั้นและดื้อ
ดังนั้นวันนี้ เก้าอี้เหล็กในบริเวณสวนหลังบ้านจึงได้มีโอกาสได้รับใช้เจ้าของบ้านสุดป่วน เมนูวันนี้ไม่ถูกปากเจ้าตัวเท่าไหร่ จึงมีเสียงบ่นอุบตลอดเวลา แม้ขณะที่กำลังเคี้ยวหยับๆ
“ไม่อร่อยเลยสู้ฝีมือหม่ามี้ก็ไม่ได้ วันหลังหม่ามี้มาทำให้เอวาทานอีกนะคะ”
ชะเอมอมยิ้ม ดูดน้ำหวานในแก้วเฉย ไม่ได้ตอบอะไรออกมา...
“บ้านเอวามีสระด้วยนะคะ หากหม่ามี้ว่างๆ เราลงสระกันนะคะ เอวาอยากว่ายน้ำเป็น แต่...ไม่มีใครสอน”
เรื่องออดอ้อนฉอเลาะ ไม่ต้องมีใครสอนสั่ง มันเป็นสัญชาตญาณของคนที่ขาด มีระบบในตัวเอง เป็นกลไกแบบอัตโนมัติ
ใบหน้ากลมแป้นม่อยลง แม้จะกำลังเจริญอาหารแบบนี้จะไม่ให้ชะเอมใจอ่อนยวบได้ยังไง
“ได้สิ...ยังไงหม่ามี้ก็ต้องมาบ่อยๆ ไว้ว่างๆ หม่ามี้จะสอนเอวาว่ายน้ำเองค่ะ”
พอได้ยินคำตอบที่เป็นที่พอใจ ใบหน้าหงิกหงอยก็ผลิบานเหมือนดอกไม้ได้น้ำฝน ชะเอมอมยิ้ม มีลูกสาวสุดน่ารักแบบนี้ ทำไมคนเป็นพ่อถึงปล่อยให้เจ้าตัวหงอยเหงาได้ เท่าที่เห็นรอบตัวอิรินามีแต่พี่เลี้ยงกับการ์ด มันไม่ใช่การเลี้ยงเด็กที่ถูกวิธีนัก
“บ้านเอวาไม่มีสวนดอกไม้เหรอจ๊ะ”
บรรยากาศแห้งแร้ง แม้จะร่มครึ้มไปด้วยไม้ยืนต้นใหญ่ๆ แต่พรรณไม้ที่มีสีสันกลับไม่มีให้เห็นในสายตา ชะเอมจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“นั่นสิค่า... ทำไมไม่มี”
เด็กหญิงรีบสนับสนุน มีบริเวณกว้างขวางแต่ไม้ดอกไม้ประดับกลับไม่มีให้เห็น
“คุณท่านให้คนแต่งสวนให้น่ะค่ะ ผลออกมาแบบนี้ ท่านก็ไม่เห็นว่าอะไร”
ชะเอมกวาดตามองไปรอบตัว สวนสวยก็จริงแต่มันดูโล้นๆ พิกล มีแต่สีเขียวขจี สีอื่นแทบไม่มีให้เห็น มันเป็นบรรยากาศทำให้ไม่สดชื่นเท่าที่ควร
“มีคนสวนไหมจ๊ะ ขอเอมคุยกับเขาหน่อย”
บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ คนสวน คนขับรถ คนรับใช้น่าจะมี ชะเอมแค่อยากถามหากสามารถปรับภูมิทัศน์ได้ มันก็จะเป็นผลดีกับคนที่อยู่อาศัย...
“สักครูค่ะอิฉันจะไปตามให้”
ความจริงชะเอมไม่อยากยุ่ง แต่หากมีสีสันเพิ่มเติมเข้ามาบ้างมันน่าจะสดชื่นกว่า
ชายสูงวัยค่อนข้างมีอายุสักนิด เขาเดินเข้ามานอบตัวใกล้ๆ ชะเอม
“ลุงเป็นคนสวนบ้านนี้ใช่ไหมจ๊ะ ทำไมสวนมีแต่ไม้ประดับไม่มีไม้ดอกบ้างเลยล่ะ”
คุยไปคุยมา ชะเอมจึงได้รู้ หลังจากแต่งสวนเสร็จ คนดูแลไม่กล้าเพิ่มเติมต้นไม้ต้นอื่นลงไปเพราะกลัวว่าสวนที่ถูกเซตไว้อย่างสวยงามจะไม่เหมือนเดิม ได้แต่ดูแลตามหน้าที่ หญิงสาวจึงแนะนำ ชายสูงวัยยิ้มแป้น เมื่อชะเอมรับรองแข็งขันหากอเล็กไซบ่นหรือดุ เธอจะรับไว้คนเดียว ขอแค่เพียงมีต้นไม้ที่เธออยากได้มาเสริม เมื่อชายหนุ่มมีงบส่วนนั้นไว้ให้อยู่แล้ว
“เอาเหมือนที่บ้านหม่ามี้นะคะ ขอดอกไม้สวยๆ ที่มีกลิ่นหอมๆ ด้วย”
คุณหนูจอมแสบที่พวกเขาเคยได้ยินแต่เสียงร้องกรี๊ดๆ กับใบหน้าบึ้ง วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังลงมาให้บริวารได้ชื่นชม อาจจะเป็นเพราะมีคนคุมที่เอาอยู่อย่างคุณชะเอม จนหลายๆ คนลงความเห็น ชะเอมเหมาะที่จะมาเป็นนายหญิงของบ้าน เพราะหากมีคนใจดีอย่างคุณชะเอมเป็นนายผู้หญิง บ้านจะได้เป็นบ้านเสียที
“ได้เลยจ้ะ หม่ามี้สั่งลุงชมแล้ว พรุ่งนี้กลับจากโรงเรียนเอวาจะได้เห็นดอกไม้สวยตรงนี้แน่ๆ”
อิรินาทำปากจู๋ “แล้วพรุ่งนี้หม่ามี้มาอีกไหมคะ?”
เป็นคำถามที่ทำให้ชะเอมสะท้อนในอก...ดวงตาหงอยเหงากับความหวังที่กลิ้งไปมาในดวงตาของอิรินา ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง แม้ว่าจะขัดกับความตั้งใจของตัวเอง...เอาน่า เขาไม่ได้ว่างบ่อยๆ หรอก เป็นไปไม่ได้ที่คนงานเยอะอย่างอเล็กไซจะอยู่บ้านให้เธอเห็นหน้าทุกวัน
“มาสิ พรุ่งนี้หม่ามี้จะทำแบบห้องมาให้เอวาเลือก ถูกใจแบบไหนจะได้ลงมือทำห้องนอนเอวาไงจ๊ะ”
“จริงๆ นะคะ เย้ๆ”
เด็กหญิงไม่ได้ดีใจที่ได้ห้องนอนใหม่ เธอดีใจที่ชะเอมจะมาหาต่างหาก
“ดีใจอะไรคะ? เสียงดังไปยันห้องทำงานคุณป๊าเลย”
คนที่ไม่ได้อยากเจอหน้า คนที่ชะเอมต้องกันตัวเองออกห่างๆ ที่สุด ดันโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ จนค่อนไปทางรำคาญ เธอเบื่อตัวเองที่คอยจะแอบมองเขา ชะเอมเองก็เป็นผู้หญิง แล้วอเล็กไซก็หล่อวายร้ายขนาดนี้ ไม่แปลกหรอกที่สายตาเธอจะแวะเวียนไปชำเลืองมองเขาบ่อยครั้ง...
“เปล่าค่า แค่หม่ามี้รับปากจะมาหาเอวาบ่อยๆ”
เด็กหญิงตอบ เธอยัดชิ้นขนมใส่ปาก มีความสุขกับการกินเมื่ออารมณ์ดีสุดๆ
“อย่าลืมนะคุณ...ห้องทำงานผมด้วย...”
ชะเอมกะพริบเปลือกตาปริบๆ ใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม ทันทีที่เห็นน้ำตาบนใบหน้าเด็กหญิง เธอรั้งร่างอวบเล็กตามวัยเด็กเข้ามากอด มือเรียวลูบพวงผมนุ่มเลยไปกลางแผ่นหลัง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน“ก็ได้จ้ะ หม่ามี้ยอมก็ได้”“เย้!” เสียงตะโกนลั่นของอเล็กไซ เรียกความสนใจจากคนรอบข้างมากขึ้น“ทานเต็มที่เลยครับ วันนี้ผมเลี้ยง ผมจะมีเมียแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวบอกกับทุกคนที่อยู่บริเวณเดียวกัน เขาป๋ามาก ใจใหญ่แบบแทบจะปิดร้านฉลอง ทันทีที่ชะเอมตอบตกลง“เบาๆ สิคุณ อายเขา”ชะเอมปรามแก้เก้อ ผิวแก้มเธอร้อนฉ่า“อายทำไม เรื่องน่ายินดีออก เนอะๆ เอวาเนอะลูก”ชายหนุ่มหันมาพยักพเยิดกับบุตรสาวเด็กหญิงยกมือปาดน้ำตา ขยับไปนั่งเก้าอี้อีกตัว พร้อมกับกินไอครีมต่อ...“โห...ละลายหมดแล้ว คุณป๊าใช้เวลานานกว่าที่เอวากะไว้นะคะ”คำพูดของเด็กหญิงทำเอาผู้ใหญ่รอบตัวถึงกับอึ้งไอ้ที่เห็นร้องไห้ฟูมฟายนั
บทที่16.ง้อ“อีวาน ฉันจะทำยังไงให้ยัยป้านั่นหายโกรธสักทีวะ?” เป็นคำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเจ้านาย ในเมื่อในพจนานุกรมของอเล็กไซ ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนั้น เขาไม่เคยต้อง ‘ง้อ’ ใคร เมื่อไม่พอใจ...จบเกม ก็แยกทางเป็นความพึงใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย...แต่ครั้งนี้ ไม่รู้เป็นไงซิ เขารู้สึกไม่ดีเลย อยากทำให้ชะเอมเข้าใจตนเองถูกต้องมากกว่านี้“คุณอีริคไปเคลียร์กับคุณเอมแล้วครับ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเอมจะเชื่อหรือเปล่า” อีวานแบ่งรับแบ่งสู้ เขาส่งกองหนุนไปหลายส่วน ไม่ว่าจะอีริคตัวต้นเหตุ หรือคุณหนูตัวน้อยที่อาจจะทำให้ชะเอมเบาความไม่พอใจเจ้านายลง“พูดถึงไอ้น้องเวรแล้วของขึ้น!! ฉันไม่เอาจริงมันเลยไม่รู้สึกวันๆ ไม่ทำอะไร คิดแต่จะปี้หญิง” ชายหนุ่มบ่นอุบ อเล็กไซลืมไป เมื่อก่อนเขาก็ไม่ต่างอะไรกับอีริคเลย ถึงอเล็กไซจะมีงานยุ่งจนหัวปั่น แต่เวลาสำหรับการสำเริง สำราญเขาก็มีตลอด เขาสนุกไปกับสิ่งเย้ายวน มัวเมาไปกับอิสตรี...มีความสุขโดยลืมไปด้วยซ้ำว่ามีเด็กหญิงหนึ่งคนตั้งตารออยู่ที่บ้าน...อีวานก้มหน้าลง พยา
บทที่15.กามเทพทำงานแก้วตาเดินตามหลังนายน้อยมาติดๆ ในมือของหญิงสาวมีตะกร้าขนมใบใหญ่ที่น้ำหนักน่าจะมากโข เพราะข้อมือของแก้วตาเกร็งจนเส้นเลือดหลังมือขึ้นรอยปูดโปน“ให้ผมช่วยมั้ยครับ” ลมตัวแสบ เสนอหน้าวิ่งเข้ามาช่วยรับของ เขาส่งยิ้มให้เด็กหญิง ก่อนจะรับตะกร้าน้ำหนักเกือบ10กิโลกรัมมาถือไว้เอง“หม่ามี้เอวาอยู่หน่ายคะ?” เด็กหญิงเอ่ยปากถาม เขย่งปลายเท้า มองหาชะเอมไปรอบๆ“อยู่ในห้องทำงานค่ะ เจ้เอมกำลังยุ่ง”อาจจะเป็นเพราะสมาธิชะเอมกระเจิงไปตั้งแต่ได้พบเจออะไรที่ไม่คาดคิด ความกังวลนั่นทำให้งานของเธอสะดุด พอหัวใจปลอดโปร่งจึงเร่งทำงานเพื่อให้ทันเวลา“ว้า...เอวาเอาขนมมาฝาก เอวาจะเข้าไปหา เอวาจะกวนการทำงานของหม่ามี้มั้ยคะ” เด็กหญิงบ่นพึม ภารกิจที่รับมอบหมายมาอาจไม่สำเร็จ หากไม่ได้เจอตัวชะเอมเป็นๆ“พี่ลมเอาขนมใส่จานให้ค่ะ...สำหรับเอวา เจ้เอมคงไม่กล้าบ่น”เด็กหญิงตรงหน้ามีความผูกพันกับชะเอมในระดับหนึ่ง ด้วยพื้นเพนิสัยของเจ้านายสาวแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที
บทที่14.ภาพบาดตา...ชะเอมถือแก้วกาแฟเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ วันนี้เธอมารับเงินงวดสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทของอเล็กไซ ‘อันยูคอฟคอนเน็คชั่นส์’ หญิงสาวส่งยิ้มให้ประชาสัมพันธ์สาว เมื่อเดินมาหยุดเบื้องหน้าเคาท์เตอร์กลาง ล็อบบี้“คุณเอมเชิญเลยค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวสวยรีบพูดเสียงหวาน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นชะเอมเข้าพอดี“คะ” ชะเอมขมวดคิ้ว“ท่านรออยู่ข้างบนค่ะ เชิญเลยค่ะ” ชะเอมเดินเข้าเดินออก อันยูคอฟถี่ยิบ ไม่มากับอเล็กไซ ก็มากับอิรินา แม้สถานะยังไม่ชัดเจน แต่ใครๆ ในอันยูคอฟย่อมรู้ ชะเอมพิเศษกว่าสาวๆ คนอื่น เมื่อแม้แต่บุตรสาวเจ้านายยังให้ความเคารพ หากอเล็กไซจะเลือกชะเอมมายืนข้างๆ ตัวก็ไม่แปลก“อ๋อ...อืม” หญิงสาวครางงึมงำ เดินบ่ายหน้าไปยังลิฟต์ แม้จะรู้สึกแปลกๆที่ชะเอมแปลกใจคือ...เธอไม่ได้นัดอเล็กไซไว้ คนที่เธอพบปะพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนส่วนใหญ่ คืออีวาน...ตามธรรมดารักสิกาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่ชะเอมผ่านมาแถวนี้พอดี เลยแวะเข้ามาจัดการแทน
“หม่ามี้ว่าเราลงไปนั่งรอแก้วตาที่ร้านเลยดีกว่า” หญิงสาวตัดสินใจ ช่วงเวลารอ เธอเอาเวลานั้นสั่งอาหารไว้รอท่า น่าจะช่วยย่นเวลาหิวของเด็กหญิงได้“ค่า...” อิรินายิ้มแป้น ออกแรงกระตุกมือชะเอม เพราะเจ้าตัวซอยเท้าถี่ๆ เดินนำแต่...ก่อนที่2 สาวจะเดินออกไปจากตรงจุดนั้น...รถยนต์สปอร์ตนำเข้า ก็ตีวงเลี้ยวมาจอดเทียบข้างเสียก่อน กระจกข้างถูกกดให้ลดลงเกือบครึ่ง...ใบหน้าหล่อของผู้โดยสารตอนหลังยื่นออกมาทักทาย“ไงตัวแสบ...จะไปไหนกันเอ่ย?”ราจีฟยื่นหน้าผ่านช่องหน้าต่าง เขาส่งเสียงทักทายบุตรสาวเพื่อนรัก กอนจะยิ้มเผื่อแผ่ไปให้ชะเอมด้วย...“อาจี๊ฟ!!” อิรินาตะโกนทักเสียงใส เจ้าตัวอ้วนเขย่งปลายเท้ามองเข้าไปในรถยนต์ก่อนจะยิ้มแป้น “คุณป๊ามาช้า”คำพูดของเด็กหญิงสะกิดใจชะเอม เธอเหลือบมองอาคันตุกะที่มาแบบกะทันหันฉุนๆ“เห้...อเล็ก นี่เหรอคนที่คุณติดพัน”ราจีฟเบ้ปาก มองผู้หญิงแต่งตัวทะมัดทะแมงด้านข้างหลานสาว“ยุ่ง!!” อเล็กไซตอบเสียงสะบัด เขาดันประตูด้านข้างให้เปิดออก เบ
บทที่13.เดินหน้าลุยเต็มกำลังไม่ปังก็แห้ว!!อีวานมองสีหน้ายับยุ่งของเจ้านายหนุ่มแบบไม่เข้าใจ ในเมื่อมีแม่สื่อชั้นดีแบบคุณหนูตัวน้อย คอยกระแซะเกาะแกะใกล้ๆ ตัวสาวเจ้าที่ใฝ่ปอง เหตุอันใดเล่า สีหน้าของเจ้านายหนุ่มถึงไม่ใคร่สู้ดี...อเล็กไซเหลือบมองการ์ดคนสนิทคู่ใจ... “เช็กตารางงานช่วงบ่ายให้หน่อย ฉันพอจะมีเวลาว่างซัก3ชั่วโมงมั้ย?”การ์ดรุ่นใหญ่กางสมุดจดที่หนีบไว้ตรงรักแร้ เขาดูตารางงานของเจ้านายก่อนจะตอบ...“วันนี้ไม่มีงานด่วนเลยครับหากบอสจะไปไหน...วันนี้ได้ทั้งวัน”งานยิบย่อยที่สามารถโยนให้เจ้าหน้าที่คนอื่นรับผิดชอบแทนได้ อีวานคำนวณในใจคร่าวๆ เมื่อตอบออกไปCEO หนุ่มดันตัวลุกขึ้นยืนพรวดพราด...เขาเอื้อมหยิบสูทที่พาดไว้บนพนักเก้าอี้มาสวมลวกๆ“ดี เอารถออกเลย ฉันจะไปหาเอวา” ข้ออ้างที่หากเป็นคนนอกได้ยินคงจะปลื้มใจหนักหนา เมื่อคุณพ่อลูกหนึ่งปรารถนาที่จะไปหาบุตรสาวทันทีที่ตนเองว่าง แต่สำหรับอีวาน หนุ่มใหญ่หัวเราะดังพรืดเพราะกลั้นไว้จนสุดความสามารถแล้ว แต่ไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะนั่