บทที่3.คาสโนว่าพ่อลูกอ่อน
“คุณป๊า...เอวาจะไปหาหม่ามี้ค่า” ในเช้าวันหนึ่ง อิรินาเรียกร้องเอากับบิดา ช่วงเวลาที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเช้า
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาลืมชะเอมไปเสียสนิทใจ เมื่อการงานของอเล็กไซรัดตัว เขาวุ่นวายจนลืมนางฟ้าในฝันคนนั้นเสียหมดสิ้น
ใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวหงิกงอ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า ถึงแม้บิดาไม่พาผู้หญิงคนไหนของท่านมาเหยียบที่คฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนเมื่อก่อนก็จริง...แต่อเล็กไซก็ยังไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเหมือนเดิม ความเหงา... ความเบื่อหน่าย ทำให้เด็กหญิงแสดงออกแบบก้าวร้าว เมื่อพี่เลี้ยงเป็นแค่เพียงลูกจ้าง...ไม่สามารถสอนสั่งบุตรสาวนายจ้างได้ นอกจากตามใจ
“อืม...ตามใจเอวาค่ะ แต่...ให้การ์ดไปด้วยนะ” ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์ในมือวางลงตรงหน้า เขาฉวยแก้วกาแฟขึ้นมายกจิบ พยักใบหน้าอนุญาตและสั่งงานการ์ดด้านหลัง
ชายหนุ่มสกรีนชะเอมแล้ว หล่อนไม่มีนอกมีใน ไม่มีพิษภัยสำหรับอิรินา
“หม่ามี้ทำงานหนัก จะไปหาแต่ล่ะทีต้องนัดล่วงหน้าค่ะ” เด็กหญิงยังบ่นต่อ และมันสะดุดหูชายหนุ่ม
ในรายละเอียดของชะเอม หล่อนเป็นมัณฑนากร...บริษัทเล็กๆ ของหล่อนรับออกแบบทั่วไป
โพรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของเขาใกล้จะสำเร็จ...เขาน่าจะมีเวลาว่างมากพอที่จะปราบพยศหล่อนจริงๆ จังๆ เสียที...
เพราะผู้หญิงที่รักเด็กและไว้ใจได้ มีคุณสมบัติของคำว่า ‘แม่’ และ ‘เมีย’ อยู่ในคนคนเดียวกันนั้นหากอยาก
อเล็กไซยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอวา...หนูอยากจัดห้องใหม่ไหมคะ?” เขาแสร้งเปรยถามความเห็นบุตรสาว
เด็กหญิงนิ่วหน้า ช้อนสายตามองบิดาแบบไม่เข้าใจ “เปลี่ยนทำไมคะ? ของเก่าก็สวยดี เอวาชอบแล้ว”
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาจิบกาแฟอีกอึกก่อนจะตอบ “รู้ไหมว่า หม่ามี้ของเอวามีอาชีพทำอะไร?” มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่บุตรสาวไม่น่าจะเข้าใจ แต่เขาสามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายจนพวงผมด้านหลังสะบัด ดวงตากลมแป๋ว มองสบตาเขาเหมือนอยากจะถาม
“หม่ามี้ของเอวา ทำงานเกี่ยวกับการตบแต่งสถานที่...ถ้าหาคุณป๊าจ้าง!! หม่ามี้ของเอวาก็จะต้องมาที่บ้านเราทุกวัน เอวาว่าดีไหมคะ?” เขายิ้มกว้างตบท้าย เมื่อใบหน้ายับยุ่งของบุตรสาวค่อยๆ คลี่บานเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี หลังเข้าใจความหมายที่บิดาพยายามสื่อให้รับรู้
“ดีที่สุดเลยค่า!! เอวาอยากเปลี่ยนห้องนอนใหม่ คุณป๊าจ้างหม่ามี้เลยนะคะ”
ร่างเล็กๆ ปีนลงจากเก้าอี้นั่ง ลงไปกระโดดหย็องแหย็งอยู่ที่พื้น พร้อมกับเสียงกรี๊ดๆ วี้ดๆ เมื่อเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่
“เรื่องนี้เป็นความลับนะคะ อย่าเพิ่งให้หม่ามี้ของเอวารู้” ชายหนุ่มเปรยสำทับ เขายกนิ้วมือปิดปากตัวเอง และอิรินารีบทำตาม พร้อมกับพยักใบหน้ารับรู้
แต่แววตาเต้นระริก!! ทั้งพ่อ ทั้งลูก
เช้าวันเดียวกัน อเล็กไซให้ตัวแทนติดต่อไปที่สำนักงานของชะเอม และได้รับคำตอบที่น่ายินดีกลับมา
หล่อนตกลง!!
ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เขามองเอกสารในมือด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เป็นเอกสารสัญญาที่หล่อนคงไม่กล้าบิดพลิ้ว...เขารู้ทันหญิงสาว หากหล่อนรู้... คงไม่มีทางรับงานนี้แน่ๆ แต่เพราะชะเอมชอบทำงานลุยๆ งานเอกสารเลยเป็นลูกน้องของหล่อนแทน อเล็กไซเลยใช้ช่องโหว่นี้ จัดการบีบหล่อนให้จนมุม
วันทั้งวัน ชายหนุ่มหยิบสัญญาของตัวเองกับบริษัทของชะเอมขึ้นมาดูนับ10 รอบ เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหว
อยากประจันหน้ากับผู้หญิงคนนั้นเต็มแก่...อยากรู้ว่าหล่อนจะทำหน้าแบบไหน หากพบเจอกันอีกครั้ง
ไม่เห็นต้องคิด!! เสียงเล็กกระซิบข้างหูเขา...รับประกันได้100% สิ่งแรกที่ชะเอมทำคือ...เม้มปากใส่ กับสะบัดหน้าหนี!!
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นแทรกผ่านประตูที่ปิดสนิท พนักงานสาวๆ ด้านนอก เหลือบมองประตูห้องทำงานท่านประธาน พร้อมกับเกิดความกังขาที่เกิดขึ้นในใจ ผู้ชายมาดดี... เก็บอาการเก่งอย่างอเล็กไซ ถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดังออกมาได้
ใครกันนะทำให้เขาหลุด?
หรืออาจจะมีเรื่องน่ายินดีอะไร? ที่ทำให้ท่านถึงกับสติหลุด
เป็นข้อกังขา ที่บรรดาสาวๆ จับตามอง เมื่อสาวสวยหลายคนมาทำงานที่ ‘อันยูคอฟ’ ก็เพราะหวังตำแหน่งสาวข้างกายของอเล็กไซ พื้นที่ตรงนั้นว่างอยู่ หากฟลุ๊คๆ ได้เดินเคียงข้างเจ้านายหนุ่ม... มันยิ่งกว่าโชคถล่มทับ มากกว่าถูกรางวัลแจ็คพ็อตเสียอีก!!
พ่อหม้ายเรือพ่วงทั้งหล่อและรวย มีหรือที่จะผู้หญิงปฏิเสธ
บริษัท W.W. ดีไซน์...
ชะเอมนั่งทำหน้าปั้นยาก!! นั่งจ้องชิ้นงานในวาระหน้าในมือตาเขม็ง พร้อมกับค่อยๆ ผ่อนลมหายใจยาวๆ
ชื่อผู้จ้างวาน ยังไม่สะดุดตาเท่ากับสถานที่ ‘คฤหาสน์อันยูคอฟ’ สถานที่ที่ไม่เคยคิดจะเฉียดเข้าไปใกล้ แม้จะตกหลุมรักนางฟ้าตัวน้อย บุตรสาวของเจ้าของคฤหาสน์ก็ตาม
“หนูรัก...เขาเร่งมาเหรอ ก็รู้นี่ว่าพี่เอมติดงานอีกตัวอยู่”
ชะเอมบ่นเบาๆ ไม่ได้อยากตำหนิลูกน้องการรับงานซ้ำซ้อนแบบนี้ แถมเร่งหูดับด้วยนี่สิ มันอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด ชะเอมไม่อยากทำให้งานเสีย แม้เขาจะจ่ายไม่อั้น!!
“พี่เอมคะ ของเจ้านี้เจ้าเดียว...เรามีกำไรมากกว่าที่เคยทำมาเลยนะคะ”
ขอเสนอใจป้ำ ไม่เกี่ยงราคา ไม่ต่อรองสักคำ รักสิกาคิดหลายตลบ เธอเลยจำใจฝืนข้อห้ามของชะเอม รับงานซ้ำ!! แต่ก็เพื่อผลประโยชน์ของบริษัททั้งนั้น หญิงสาวมองสบนัยน์ตานายสาวปริบๆ เธอรู้ดีว่าชะเอมทำได้... เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า ‘อันยูคอฟ’ เป็นสถานที่ที่ชะเอมกากบาทห้ามตัวเองเอาไว้
“พี่เอม...นายจ้างเราโคตรหล่อเลยนะพี่ ถึงจะเป็นพ่อหม้าย แต่ก็หล่อระเบิด” สาวใสวัย25 ปีรีบแจง แค่เห็นนามสกุลเธอก็รีบแจ้นไปค้นข้อมูลในโลกโซเซียล ไม่คิดว่าจะใช่คนเดียวกัน... มันเหมือนบุญหล่นทับ เขาร่ำรวยมหาศาลจนจ้างวานบริษัทชั้นนำมีชื่อมาทำงานให้ตัวเองก็ได้ แต่ทำไมล่ะ? ทำไมเขาถึงสนใจบริษัทเล็กๆ ของนายจ้างเธอ รักสิกาไม่อยากให้โอกาสแสนดีนี่หลุดมือไป เธอจึงรีบตะครุบไว้
ชะเอมโบกมือไปมา... เธอคิดว่าตนเองรู้จักอเล็กไซดี!! รู้จักดีจนไม่อยากเฉียดใกล้ เขาคือตัวอันตรายอย่างแท้ทรู!!
“รู้แล้วจ้ะ... เขาดังจะตายไป ดังแต่เรื่องแย่ๆ นะ” เธอบ่นพึม แอบเบ้ปาก...นึกเซ็งจับจิต...ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อไม่มีทางเลี่ยงก็ต้องสู้ มันอาจจะเป็นหนทางสำเร็จของเธอก็ได้ เมื่อชายหนุ่มมีคนรู้จักมากมาย...ผลพวงนั่นน่าจะส่งผลดีกับบริษัทตนเอง
“หูยยย...ผู้ชายเจ้าชู้ก็เพราะว่าเขามีตัวเลือกค่ะ ไม่แปลกหรอกนะพี่เอม...ใครไม่วิ่งใส่เขาสิแปลก” ลูกน้องสาวยังเจื้อยแจ้วต่อ
ชะเอมกลอกตามองบน เพราะตรรกะความคิดแบบนี้ไงล่ะ มันจึงทำให้ผู้ชายดูถูกเพศหญิงได้ พวกหล่อนไม่รู้จักรักษาอากัปกิริยา เปิดเผยเจตนาโจ่งแจ้งจนอีกฝ่ายเก็บเอามาดูแคลน
“ก็เพราะทำตัวกันแบบนี้ไง ผู้ชายถึงจ้องจะเอาเปรียบ เขาคิดดูถูกเรา ตั้งแต่เสนอหน้าแล้วมั้ง” ชะเอมบ่นอุบ
“โธ่!! พี่เอมคิดมากจังคะ มันคือกลยุทธ์ ใครมือยาวกว่า ก็ฉกของดีไปครอง มันคือความสำเร็จที่แลกมาด้วยสติปัญญาและชั้นเชิง”
ชะเอมเบ้ปาก....ของดีที่ว่านั้นคือผู้ชายเจ้าชู้ที่สาวๆ รุมแย่ง เธออยากจะแย้ง!! กว่าจะประสบผลสำเร็จ ต้องเสียอะไรไปบ้างล่ะ...เมื่อฝ่ายชายก็จ้องจะเอาเปรียบอยู่แล้ว
“สำเร็จหรือ? หึ!! พอเถอะ...รับมาแล้วก็ต้องทำไปว่าแต่ใครว่างบ้างล่ะ พี่เอมจะเข้าไปดูให้ แต่พี่จะไม่ขอลุยเองนะ”
เธอตัดบท ขี้เกียจต่อความยาว เพราะมีแต่เรื่องไร้สาระ เธอไม่คิดจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว
“พี่เอมก็รู้ ตอนนี้ทุกคนตึงมือกันทั้งหมด...มีพี่เอมคนเดียวที่พอจะปลีกตัวได้ค่ะ” ลูกน้องสาวยิ้มแหยๆ ก่อนตอบเสียงแผ่ว
“เห้อ!!” ชะเอมถอนใจเฮือก เธอหนีเขาไม่พ้นจริงๆ เหรอ หรืออะไรที่เราวิ่งหนี... มันมักจะวิ่งไล่เหมือนเงา “Ok ตามนั้น!! พี่เอมเลี่ยงไม่ได้...ก็คงต้องไปทำสินะ” หญิงสาวตอบเพลียๆ เธอหลบเขาไม่พ้นจริงๆ เหรอไงนี่
หญิงสาวเลยจำใจรับแผนงานนั้นมาไว้ในมือ เธอเหลือบมองตารางงาน เพื่อหาเวลาว่างเข้าไปดูสถานที่จริง และคำนวณการเจอะเจอกับอเล็กไซด้วย นักธุรกิจใหญ่อย่างเขา ไม่น่าจะมีเวลาว่างเหลือเฟือ
เธอฉวยกระเป๋าสะพายคล้องที่หัวไหล่ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน เวลาบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ เขาไม่น่าจะอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นทางคงสะดวกสำหรับเธอ เพื่อจัดการงานหลังวางแปลนและแผนงาน ที่เหลือคือหน้าที่ช่าง เธอแค่เข้าไปดูความเรียบร้อยอีกที ไม่น่ายาก!!
“หนูรักติดต่อคนของ ‘อันยูคอฟ’ ให้ด้วย อีก30 นาที พี่เอมจะไปดูสถานที่จริง” เธอหยุดหน้าโต๊ะทำงานของรักสิกา พร้อมกับเปรยบอก แล้วจึงเดินตัวปลิวจากไป
เลขานุการสาวจัดการให้ เธอจัดการแจ้งคู่ค้า แล้วจึงก้มหน้าทำงานต่อ
สายด่วนจากลูกน้องคู่ใจ ทำให้อเล็กไซต้องทิ้งงานมา กลางคัน เขาห้อตะบึงรถยนต์สปอร์ตคู่ชีพกลับคฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนติดปีกไว้ที่กลางหลัง เพื่อรอการมาของใครบางคน แบบหน้าตั้ง...อยากเห็นเหมือนกันแม่สาวอวดดีคนนั้นจะทำหน้าแบบไหน หากพบเจอเขานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อรออยู่ที่บ้าน หล่อนคิดว่าตัวเองฉลาดจึงฉวยโอกาสมาเหยียบอันยูคอฟในเวลาที่เขาไม่น่าจะอยู่ แต่ขอโทษเถอะ... งานนี้เขาลงทุนทุ่มสุดตัว เพราะฉะนั้นชะเอมต้องล้ำกว่านี้...
รถยนต์จอดสนิทเทียบโถงทางเดินหน้าบ้าน อเล็กไซกระโจนลงจากรถยนต์ออกมาด้านนอกเหมือนหนุ่มวัยรุ่นใจร้อน เพียงเพื่อลงมานั่งสบายๆ อยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับรองแขก ทันเวลาก่อนที่ชะเอมจะมาถึงหวุดหวิด!!
เพราะอเล็กไซยังนั่งนิ่งๆ ได้ไม่ทันถึงหนึ่งอึดใจ...ผู้หญิงที่เขาอยากเอาชนะก็โผล่หน้ามาให้เห็น...ว่าที่เมียที่อยากมีจนตัวสั่น!!
ชะเอมเดินผ่านเข้ามาในสายตา…พอดี...เธอชะงักกึก!!
ชะเอมกะพริบเปลือกตาปริบๆ ใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม ทันทีที่เห็นน้ำตาบนใบหน้าเด็กหญิง เธอรั้งร่างอวบเล็กตามวัยเด็กเข้ามากอด มือเรียวลูบพวงผมนุ่มเลยไปกลางแผ่นหลัง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน“ก็ได้จ้ะ หม่ามี้ยอมก็ได้”“เย้!” เสียงตะโกนลั่นของอเล็กไซ เรียกความสนใจจากคนรอบข้างมากขึ้น“ทานเต็มที่เลยครับ วันนี้ผมเลี้ยง ผมจะมีเมียแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวบอกกับทุกคนที่อยู่บริเวณเดียวกัน เขาป๋ามาก ใจใหญ่แบบแทบจะปิดร้านฉลอง ทันทีที่ชะเอมตอบตกลง“เบาๆ สิคุณ อายเขา”ชะเอมปรามแก้เก้อ ผิวแก้มเธอร้อนฉ่า“อายทำไม เรื่องน่ายินดีออก เนอะๆ เอวาเนอะลูก”ชายหนุ่มหันมาพยักพเยิดกับบุตรสาวเด็กหญิงยกมือปาดน้ำตา ขยับไปนั่งเก้าอี้อีกตัว พร้อมกับกินไอครีมต่อ...“โห...ละลายหมดแล้ว คุณป๊าใช้เวลานานกว่าที่เอวากะไว้นะคะ”คำพูดของเด็กหญิงทำเอาผู้ใหญ่รอบตัวถึงกับอึ้งไอ้ที่เห็นร้องไห้ฟูมฟายนั
บทที่16.ง้อ“อีวาน ฉันจะทำยังไงให้ยัยป้านั่นหายโกรธสักทีวะ?” เป็นคำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเจ้านาย ในเมื่อในพจนานุกรมของอเล็กไซ ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนั้น เขาไม่เคยต้อง ‘ง้อ’ ใคร เมื่อไม่พอใจ...จบเกม ก็แยกทางเป็นความพึงใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย...แต่ครั้งนี้ ไม่รู้เป็นไงซิ เขารู้สึกไม่ดีเลย อยากทำให้ชะเอมเข้าใจตนเองถูกต้องมากกว่านี้“คุณอีริคไปเคลียร์กับคุณเอมแล้วครับ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเอมจะเชื่อหรือเปล่า” อีวานแบ่งรับแบ่งสู้ เขาส่งกองหนุนไปหลายส่วน ไม่ว่าจะอีริคตัวต้นเหตุ หรือคุณหนูตัวน้อยที่อาจจะทำให้ชะเอมเบาความไม่พอใจเจ้านายลง“พูดถึงไอ้น้องเวรแล้วของขึ้น!! ฉันไม่เอาจริงมันเลยไม่รู้สึกวันๆ ไม่ทำอะไร คิดแต่จะปี้หญิง” ชายหนุ่มบ่นอุบ อเล็กไซลืมไป เมื่อก่อนเขาก็ไม่ต่างอะไรกับอีริคเลย ถึงอเล็กไซจะมีงานยุ่งจนหัวปั่น แต่เวลาสำหรับการสำเริง สำราญเขาก็มีตลอด เขาสนุกไปกับสิ่งเย้ายวน มัวเมาไปกับอิสตรี...มีความสุขโดยลืมไปด้วยซ้ำว่ามีเด็กหญิงหนึ่งคนตั้งตารออยู่ที่บ้าน...อีวานก้มหน้าลง พยา
บทที่15.กามเทพทำงานแก้วตาเดินตามหลังนายน้อยมาติดๆ ในมือของหญิงสาวมีตะกร้าขนมใบใหญ่ที่น้ำหนักน่าจะมากโข เพราะข้อมือของแก้วตาเกร็งจนเส้นเลือดหลังมือขึ้นรอยปูดโปน“ให้ผมช่วยมั้ยครับ” ลมตัวแสบ เสนอหน้าวิ่งเข้ามาช่วยรับของ เขาส่งยิ้มให้เด็กหญิง ก่อนจะรับตะกร้าน้ำหนักเกือบ10กิโลกรัมมาถือไว้เอง“หม่ามี้เอวาอยู่หน่ายคะ?” เด็กหญิงเอ่ยปากถาม เขย่งปลายเท้า มองหาชะเอมไปรอบๆ“อยู่ในห้องทำงานค่ะ เจ้เอมกำลังยุ่ง”อาจจะเป็นเพราะสมาธิชะเอมกระเจิงไปตั้งแต่ได้พบเจออะไรที่ไม่คาดคิด ความกังวลนั่นทำให้งานของเธอสะดุด พอหัวใจปลอดโปร่งจึงเร่งทำงานเพื่อให้ทันเวลา“ว้า...เอวาเอาขนมมาฝาก เอวาจะเข้าไปหา เอวาจะกวนการทำงานของหม่ามี้มั้ยคะ” เด็กหญิงบ่นพึม ภารกิจที่รับมอบหมายมาอาจไม่สำเร็จ หากไม่ได้เจอตัวชะเอมเป็นๆ“พี่ลมเอาขนมใส่จานให้ค่ะ...สำหรับเอวา เจ้เอมคงไม่กล้าบ่น”เด็กหญิงตรงหน้ามีความผูกพันกับชะเอมในระดับหนึ่ง ด้วยพื้นเพนิสัยของเจ้านายสาวแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที
บทที่14.ภาพบาดตา...ชะเอมถือแก้วกาแฟเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ วันนี้เธอมารับเงินงวดสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทของอเล็กไซ ‘อันยูคอฟคอนเน็คชั่นส์’ หญิงสาวส่งยิ้มให้ประชาสัมพันธ์สาว เมื่อเดินมาหยุดเบื้องหน้าเคาท์เตอร์กลาง ล็อบบี้“คุณเอมเชิญเลยค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวสวยรีบพูดเสียงหวาน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นชะเอมเข้าพอดี“คะ” ชะเอมขมวดคิ้ว“ท่านรออยู่ข้างบนค่ะ เชิญเลยค่ะ” ชะเอมเดินเข้าเดินออก อันยูคอฟถี่ยิบ ไม่มากับอเล็กไซ ก็มากับอิรินา แม้สถานะยังไม่ชัดเจน แต่ใครๆ ในอันยูคอฟย่อมรู้ ชะเอมพิเศษกว่าสาวๆ คนอื่น เมื่อแม้แต่บุตรสาวเจ้านายยังให้ความเคารพ หากอเล็กไซจะเลือกชะเอมมายืนข้างๆ ตัวก็ไม่แปลก“อ๋อ...อืม” หญิงสาวครางงึมงำ เดินบ่ายหน้าไปยังลิฟต์ แม้จะรู้สึกแปลกๆที่ชะเอมแปลกใจคือ...เธอไม่ได้นัดอเล็กไซไว้ คนที่เธอพบปะพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนส่วนใหญ่ คืออีวาน...ตามธรรมดารักสิกาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่ชะเอมผ่านมาแถวนี้พอดี เลยแวะเข้ามาจัดการแทน
“หม่ามี้ว่าเราลงไปนั่งรอแก้วตาที่ร้านเลยดีกว่า” หญิงสาวตัดสินใจ ช่วงเวลารอ เธอเอาเวลานั้นสั่งอาหารไว้รอท่า น่าจะช่วยย่นเวลาหิวของเด็กหญิงได้“ค่า...” อิรินายิ้มแป้น ออกแรงกระตุกมือชะเอม เพราะเจ้าตัวซอยเท้าถี่ๆ เดินนำแต่...ก่อนที่2 สาวจะเดินออกไปจากตรงจุดนั้น...รถยนต์สปอร์ตนำเข้า ก็ตีวงเลี้ยวมาจอดเทียบข้างเสียก่อน กระจกข้างถูกกดให้ลดลงเกือบครึ่ง...ใบหน้าหล่อของผู้โดยสารตอนหลังยื่นออกมาทักทาย“ไงตัวแสบ...จะไปไหนกันเอ่ย?”ราจีฟยื่นหน้าผ่านช่องหน้าต่าง เขาส่งเสียงทักทายบุตรสาวเพื่อนรัก กอนจะยิ้มเผื่อแผ่ไปให้ชะเอมด้วย...“อาจี๊ฟ!!” อิรินาตะโกนทักเสียงใส เจ้าตัวอ้วนเขย่งปลายเท้ามองเข้าไปในรถยนต์ก่อนจะยิ้มแป้น “คุณป๊ามาช้า”คำพูดของเด็กหญิงสะกิดใจชะเอม เธอเหลือบมองอาคันตุกะที่มาแบบกะทันหันฉุนๆ“เห้...อเล็ก นี่เหรอคนที่คุณติดพัน”ราจีฟเบ้ปาก มองผู้หญิงแต่งตัวทะมัดทะแมงด้านข้างหลานสาว“ยุ่ง!!” อเล็กไซตอบเสียงสะบัด เขาดันประตูด้านข้างให้เปิดออก เบ
บทที่13.เดินหน้าลุยเต็มกำลังไม่ปังก็แห้ว!!อีวานมองสีหน้ายับยุ่งของเจ้านายหนุ่มแบบไม่เข้าใจ ในเมื่อมีแม่สื่อชั้นดีแบบคุณหนูตัวน้อย คอยกระแซะเกาะแกะใกล้ๆ ตัวสาวเจ้าที่ใฝ่ปอง เหตุอันใดเล่า สีหน้าของเจ้านายหนุ่มถึงไม่ใคร่สู้ดี...อเล็กไซเหลือบมองการ์ดคนสนิทคู่ใจ... “เช็กตารางงานช่วงบ่ายให้หน่อย ฉันพอจะมีเวลาว่างซัก3ชั่วโมงมั้ย?”การ์ดรุ่นใหญ่กางสมุดจดที่หนีบไว้ตรงรักแร้ เขาดูตารางงานของเจ้านายก่อนจะตอบ...“วันนี้ไม่มีงานด่วนเลยครับหากบอสจะไปไหน...วันนี้ได้ทั้งวัน”งานยิบย่อยที่สามารถโยนให้เจ้าหน้าที่คนอื่นรับผิดชอบแทนได้ อีวานคำนวณในใจคร่าวๆ เมื่อตอบออกไปCEO หนุ่มดันตัวลุกขึ้นยืนพรวดพราด...เขาเอื้อมหยิบสูทที่พาดไว้บนพนักเก้าอี้มาสวมลวกๆ“ดี เอารถออกเลย ฉันจะไปหาเอวา” ข้ออ้างที่หากเป็นคนนอกได้ยินคงจะปลื้มใจหนักหนา เมื่อคุณพ่อลูกหนึ่งปรารถนาที่จะไปหาบุตรสาวทันทีที่ตนเองว่าง แต่สำหรับอีวาน หนุ่มใหญ่หัวเราะดังพรืดเพราะกลั้นไว้จนสุดความสามารถแล้ว แต่ไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะนั่