บทที่3.คาสโนว่าพ่อลูกอ่อน
“คุณป๊า...เอวาจะไปหาหม่ามี้ค่า” ในเช้าวันหนึ่ง อิรินาเรียกร้องเอากับบิดา ช่วงเวลาที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเช้า
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาลืมชะเอมไปเสียสนิทใจ เมื่อการงานของอเล็กไซรัดตัว เขาวุ่นวายจนลืมนางฟ้าในฝันคนนั้นเสียหมดสิ้น
ใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวหงิกงอ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า ถึงแม้บิดาไม่พาผู้หญิงคนไหนของท่านมาเหยียบที่คฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนเมื่อก่อนก็จริง...แต่อเล็กไซก็ยังไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเหมือนเดิม ความเหงา... ความเบื่อหน่าย ทำให้เด็กหญิงแสดงออกแบบก้าวร้าว เมื่อพี่เลี้ยงเป็นแค่เพียงลูกจ้าง...ไม่สามารถสอนสั่งบุตรสาวนายจ้างได้ นอกจากตามใจ
“อืม...ตามใจเอวาค่ะ แต่...ให้การ์ดไปด้วยนะ” ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์ในมือวางลงตรงหน้า เขาฉวยแก้วกาแฟขึ้นมายกจิบ พยักใบหน้าอนุญาตและสั่งงานการ์ดด้านหลัง
ชายหนุ่มสกรีนชะเอมแล้ว หล่อนไม่มีนอกมีใน ไม่มีพิษภัยสำหรับอิรินา
“หม่ามี้ทำงานหนัก จะไปหาแต่ล่ะทีต้องนัดล่วงหน้าค่ะ” เด็กหญิงยังบ่นต่อ และมันสะดุดหูชายหนุ่ม
ในรายละเอียดของชะเอม หล่อนเป็นมัณฑนากร...บริษัทเล็กๆ ของหล่อนรับออกแบบทั่วไป
โพรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของเขาใกล้จะสำเร็จ...เขาน่าจะมีเวลาว่างมากพอที่จะปราบพยศหล่อนจริงๆ จังๆ เสียที...
เพราะผู้หญิงที่รักเด็กและไว้ใจได้ มีคุณสมบัติของคำว่า ‘แม่’ และ ‘เมีย’ อยู่ในคนคนเดียวกันนั้นหากอยาก
อเล็กไซยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอวา...หนูอยากจัดห้องใหม่ไหมคะ?” เขาแสร้งเปรยถามความเห็นบุตรสาว
เด็กหญิงนิ่วหน้า ช้อนสายตามองบิดาแบบไม่เข้าใจ “เปลี่ยนทำไมคะ? ของเก่าก็สวยดี เอวาชอบแล้ว”
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาจิบกาแฟอีกอึกก่อนจะตอบ “รู้ไหมว่า หม่ามี้ของเอวามีอาชีพทำอะไร?” มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่บุตรสาวไม่น่าจะเข้าใจ แต่เขาสามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายจนพวงผมด้านหลังสะบัด ดวงตากลมแป๋ว มองสบตาเขาเหมือนอยากจะถาม
“หม่ามี้ของเอวา ทำงานเกี่ยวกับการตบแต่งสถานที่...ถ้าหาคุณป๊าจ้าง!! หม่ามี้ของเอวาก็จะต้องมาที่บ้านเราทุกวัน เอวาว่าดีไหมคะ?” เขายิ้มกว้างตบท้าย เมื่อใบหน้ายับยุ่งของบุตรสาวค่อยๆ คลี่บานเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี หลังเข้าใจความหมายที่บิดาพยายามสื่อให้รับรู้
“ดีที่สุดเลยค่า!! เอวาอยากเปลี่ยนห้องนอนใหม่ คุณป๊าจ้างหม่ามี้เลยนะคะ”
ร่างเล็กๆ ปีนลงจากเก้าอี้นั่ง ลงไปกระโดดหย็องแหย็งอยู่ที่พื้น พร้อมกับเสียงกรี๊ดๆ วี้ดๆ เมื่อเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่
“เรื่องนี้เป็นความลับนะคะ อย่าเพิ่งให้หม่ามี้ของเอวารู้” ชายหนุ่มเปรยสำทับ เขายกนิ้วมือปิดปากตัวเอง และอิรินารีบทำตาม พร้อมกับพยักใบหน้ารับรู้
แต่แววตาเต้นระริก!! ทั้งพ่อ ทั้งลูก
เช้าวันเดียวกัน อเล็กไซให้ตัวแทนติดต่อไปที่สำนักงานของชะเอม และได้รับคำตอบที่น่ายินดีกลับมา
หล่อนตกลง!!
ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เขามองเอกสารในมือด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เป็นเอกสารสัญญาที่หล่อนคงไม่กล้าบิดพลิ้ว...เขารู้ทันหญิงสาว หากหล่อนรู้... คงไม่มีทางรับงานนี้แน่ๆ แต่เพราะชะเอมชอบทำงานลุยๆ งานเอกสารเลยเป็นลูกน้องของหล่อนแทน อเล็กไซเลยใช้ช่องโหว่นี้ จัดการบีบหล่อนให้จนมุม
วันทั้งวัน ชายหนุ่มหยิบสัญญาของตัวเองกับบริษัทของชะเอมขึ้นมาดูนับ10 รอบ เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหว
อยากประจันหน้ากับผู้หญิงคนนั้นเต็มแก่...อยากรู้ว่าหล่อนจะทำหน้าแบบไหน หากพบเจอกันอีกครั้ง
ไม่เห็นต้องคิด!! เสียงเล็กกระซิบข้างหูเขา...รับประกันได้100% สิ่งแรกที่ชะเอมทำคือ...เม้มปากใส่ กับสะบัดหน้าหนี!!
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นแทรกผ่านประตูที่ปิดสนิท พนักงานสาวๆ ด้านนอก เหลือบมองประตูห้องทำงานท่านประธาน พร้อมกับเกิดความกังขาที่เกิดขึ้นในใจ ผู้ชายมาดดี... เก็บอาการเก่งอย่างอเล็กไซ ถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดังออกมาได้
ใครกันนะทำให้เขาหลุด?
หรืออาจจะมีเรื่องน่ายินดีอะไร? ที่ทำให้ท่านถึงกับสติหลุด
เป็นข้อกังขา ที่บรรดาสาวๆ จับตามอง เมื่อสาวสวยหลายคนมาทำงานที่ ‘อันยูคอฟ’ ก็เพราะหวังตำแหน่งสาวข้างกายของอเล็กไซ พื้นที่ตรงนั้นว่างอยู่ หากฟลุ๊คๆ ได้เดินเคียงข้างเจ้านายหนุ่ม... มันยิ่งกว่าโชคถล่มทับ มากกว่าถูกรางวัลแจ็คพ็อตเสียอีก!!
พ่อหม้ายเรือพ่วงทั้งหล่อและรวย มีหรือที่จะผู้หญิงปฏิเสธ
บริษัท W.W. ดีไซน์...
ชะเอมนั่งทำหน้าปั้นยาก!! นั่งจ้องชิ้นงานในวาระหน้าในมือตาเขม็ง พร้อมกับค่อยๆ ผ่อนลมหายใจยาวๆ
ชื่อผู้จ้างวาน ยังไม่สะดุดตาเท่ากับสถานที่ ‘คฤหาสน์อันยูคอฟ’ สถานที่ที่ไม่เคยคิดจะเฉียดเข้าไปใกล้ แม้จะตกหลุมรักนางฟ้าตัวน้อย บุตรสาวของเจ้าของคฤหาสน์ก็ตาม
“หนูรัก...เขาเร่งมาเหรอ ก็รู้นี่ว่าพี่เอมติดงานอีกตัวอยู่”
ชะเอมบ่นเบาๆ ไม่ได้อยากตำหนิลูกน้องการรับงานซ้ำซ้อนแบบนี้ แถมเร่งหูดับด้วยนี่สิ มันอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด ชะเอมไม่อยากทำให้งานเสีย แม้เขาจะจ่ายไม่อั้น!!
“พี่เอมคะ ของเจ้านี้เจ้าเดียว...เรามีกำไรมากกว่าที่เคยทำมาเลยนะคะ”
ขอเสนอใจป้ำ ไม่เกี่ยงราคา ไม่ต่อรองสักคำ รักสิกาคิดหลายตลบ เธอเลยจำใจฝืนข้อห้ามของชะเอม รับงานซ้ำ!! แต่ก็เพื่อผลประโยชน์ของบริษัททั้งนั้น หญิงสาวมองสบนัยน์ตานายสาวปริบๆ เธอรู้ดีว่าชะเอมทำได้... เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า ‘อันยูคอฟ’ เป็นสถานที่ที่ชะเอมกากบาทห้ามตัวเองเอาไว้
“พี่เอม...นายจ้างเราโคตรหล่อเลยนะพี่ ถึงจะเป็นพ่อหม้าย แต่ก็หล่อระเบิด” สาวใสวัย25 ปีรีบแจง แค่เห็นนามสกุลเธอก็รีบแจ้นไปค้นข้อมูลในโลกโซเซียล ไม่คิดว่าจะใช่คนเดียวกัน... มันเหมือนบุญหล่นทับ เขาร่ำรวยมหาศาลจนจ้างวานบริษัทชั้นนำมีชื่อมาทำงานให้ตัวเองก็ได้ แต่ทำไมล่ะ? ทำไมเขาถึงสนใจบริษัทเล็กๆ ของนายจ้างเธอ รักสิกาไม่อยากให้โอกาสแสนดีนี่หลุดมือไป เธอจึงรีบตะครุบไว้
ชะเอมโบกมือไปมา... เธอคิดว่าตนเองรู้จักอเล็กไซดี!! รู้จักดีจนไม่อยากเฉียดใกล้ เขาคือตัวอันตรายอย่างแท้ทรู!!
“รู้แล้วจ้ะ... เขาดังจะตายไป ดังแต่เรื่องแย่ๆ นะ” เธอบ่นพึม แอบเบ้ปาก...นึกเซ็งจับจิต...ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อไม่มีทางเลี่ยงก็ต้องสู้ มันอาจจะเป็นหนทางสำเร็จของเธอก็ได้ เมื่อชายหนุ่มมีคนรู้จักมากมาย...ผลพวงนั่นน่าจะส่งผลดีกับบริษัทตนเอง
“หูยยย...ผู้ชายเจ้าชู้ก็เพราะว่าเขามีตัวเลือกค่ะ ไม่แปลกหรอกนะพี่เอม...ใครไม่วิ่งใส่เขาสิแปลก” ลูกน้องสาวยังเจื้อยแจ้วต่อ
ชะเอมกลอกตามองบน เพราะตรรกะความคิดแบบนี้ไงล่ะ มันจึงทำให้ผู้ชายดูถูกเพศหญิงได้ พวกหล่อนไม่รู้จักรักษาอากัปกิริยา เปิดเผยเจตนาโจ่งแจ้งจนอีกฝ่ายเก็บเอามาดูแคลน
“ก็เพราะทำตัวกันแบบนี้ไง ผู้ชายถึงจ้องจะเอาเปรียบ เขาคิดดูถูกเรา ตั้งแต่เสนอหน้าแล้วมั้ง” ชะเอมบ่นอุบ
“โธ่!! พี่เอมคิดมากจังคะ มันคือกลยุทธ์ ใครมือยาวกว่า ก็ฉกของดีไปครอง มันคือความสำเร็จที่แลกมาด้วยสติปัญญาและชั้นเชิง”
ชะเอมเบ้ปาก....ของดีที่ว่านั้นคือผู้ชายเจ้าชู้ที่สาวๆ รุมแย่ง เธออยากจะแย้ง!! กว่าจะประสบผลสำเร็จ ต้องเสียอะไรไปบ้างล่ะ...เมื่อฝ่ายชายก็จ้องจะเอาเปรียบอยู่แล้ว
“สำเร็จหรือ? หึ!! พอเถอะ...รับมาแล้วก็ต้องทำไปว่าแต่ใครว่างบ้างล่ะ พี่เอมจะเข้าไปดูให้ แต่พี่จะไม่ขอลุยเองนะ”
เธอตัดบท ขี้เกียจต่อความยาว เพราะมีแต่เรื่องไร้สาระ เธอไม่คิดจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว
“พี่เอมก็รู้ ตอนนี้ทุกคนตึงมือกันทั้งหมด...มีพี่เอมคนเดียวที่พอจะปลีกตัวได้ค่ะ” ลูกน้องสาวยิ้มแหยๆ ก่อนตอบเสียงแผ่ว
“เห้อ!!” ชะเอมถอนใจเฮือก เธอหนีเขาไม่พ้นจริงๆ เหรอ หรืออะไรที่เราวิ่งหนี... มันมักจะวิ่งไล่เหมือนเงา “Ok ตามนั้น!! พี่เอมเลี่ยงไม่ได้...ก็คงต้องไปทำสินะ” หญิงสาวตอบเพลียๆ เธอหลบเขาไม่พ้นจริงๆ เหรอไงนี่
หญิงสาวเลยจำใจรับแผนงานนั้นมาไว้ในมือ เธอเหลือบมองตารางงาน เพื่อหาเวลาว่างเข้าไปดูสถานที่จริง และคำนวณการเจอะเจอกับอเล็กไซด้วย นักธุรกิจใหญ่อย่างเขา ไม่น่าจะมีเวลาว่างเหลือเฟือ
เธอฉวยกระเป๋าสะพายคล้องที่หัวไหล่ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน เวลาบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ เขาไม่น่าจะอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นทางคงสะดวกสำหรับเธอ เพื่อจัดการงานหลังวางแปลนและแผนงาน ที่เหลือคือหน้าที่ช่าง เธอแค่เข้าไปดูความเรียบร้อยอีกที ไม่น่ายาก!!
“หนูรักติดต่อคนของ ‘อันยูคอฟ’ ให้ด้วย อีก30 นาที พี่เอมจะไปดูสถานที่จริง” เธอหยุดหน้าโต๊ะทำงานของรักสิกา พร้อมกับเปรยบอก แล้วจึงเดินตัวปลิวจากไป
เลขานุการสาวจัดการให้ เธอจัดการแจ้งคู่ค้า แล้วจึงก้มหน้าทำงานต่อ
สายด่วนจากลูกน้องคู่ใจ ทำให้อเล็กไซต้องทิ้งงานมา กลางคัน เขาห้อตะบึงรถยนต์สปอร์ตคู่ชีพกลับคฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนติดปีกไว้ที่กลางหลัง เพื่อรอการมาของใครบางคน แบบหน้าตั้ง...อยากเห็นเหมือนกันแม่สาวอวดดีคนนั้นจะทำหน้าแบบไหน หากพบเจอเขานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อรออยู่ที่บ้าน หล่อนคิดว่าตัวเองฉลาดจึงฉวยโอกาสมาเหยียบอันยูคอฟในเวลาที่เขาไม่น่าจะอยู่ แต่ขอโทษเถอะ... งานนี้เขาลงทุนทุ่มสุดตัว เพราะฉะนั้นชะเอมต้องล้ำกว่านี้...
รถยนต์จอดสนิทเทียบโถงทางเดินหน้าบ้าน อเล็กไซกระโจนลงจากรถยนต์ออกมาด้านนอกเหมือนหนุ่มวัยรุ่นใจร้อน เพียงเพื่อลงมานั่งสบายๆ อยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับรองแขก ทันเวลาก่อนที่ชะเอมจะมาถึงหวุดหวิด!!
เพราะอเล็กไซยังนั่งนิ่งๆ ได้ไม่ทันถึงหนึ่งอึดใจ...ผู้หญิงที่เขาอยากเอาชนะก็โผล่หน้ามาให้เห็น...ว่าที่เมียที่อยากมีจนตัวสั่น!!
ชะเอมเดินผ่านเข้ามาในสายตา…พอดี...เธอชะงักกึก!!
อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลยปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโห
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
ชะเอมพูดแบบเหลืออด...เธอกับเขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้างกับ คนทำงานให้เป็นจ็อปๆ ไป ไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านยามวิกาลได้...เธอยังไม่อยากตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นพูดถึง แม้คู่กรณีจะเป็นผู้ชายที่น่าปรารถนา...“อยากให้ผมไปมากเลยเหรอ?”เสียงของอเล็กไซฟังดูหงอยๆ แต่หากเธอใจอ่อน คนที่เสียหายคือตัวเอง ชะเอมเลยฝืนทำใจแข็ง กลั้นใจพยักหน้าหงึกหงัก...“เอม...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาปรือเปลือกตาขึ้นมองเธอ หญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่ได้ดูดีกว่าบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จัก...แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงติดใจเธอนักหนา ติดใจจนกระทั่งอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหล่อนทั้งกาย...และใจชะเอมยกมือขึ้นกอดอกทันที...เธอไม่อยากเห็นสายตาของเขาเลย เธอกลัวตัวเองใจอ่อน นัยน์ตาของอเล็กไซสวยประหนึ่งอัญมณีชั้นเลิศที่ผ่านการเจียระไนด้วยฝีมือช่างชั้นครู เธอชมชอบมาตลอด... แต่หากอยากให้ตัวเองปลอดภัย เธอต้องฝืนความรู้สึกไว้ ต้องไม่สบตากับเขา!! ชะเอมตัวชาวาบ!! ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของอเล็กไซที่เธอเผลอมอง เขาตรึงเธอไว้ด้วยแววตาเต้นระริก ดวงตาคู่คมเหมือนอัญมณีสีสวย มันกลอกกลิ้งล้อเล่นกับแสงไฟ..
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า
บทที่12.ผู้ชายแบดบอย...ชะเอมทำหน้าปั้นยาก เมื่อขบวนคนขนของของอิรินาทยอยเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยของตนเอง ในเช้าวันหยุดที่อากาศแสนดี ไม่มีแดดแรงๆ มีแค่สายลมพัดเอื่อยๆ กับกลิ่นหอมของละอองเกสรที่ปลิวลอยมาตามลม กลิ่นหอมนั่นผสมอยู่ในอากาศรอบตัวจนช่วยลดความไม่สบายใจของตนเองลง หญิงสาวชะเง้อคอมองที่มาของกลิ่นแสนชื่นใจนั่น ดอกพวงชมพูซุ้มใหญ่ที่ขึ้นอยู่บริเวณข้างทาง เป็นไม้ดอกที่ขึ้นข้างรั้วแต่กลับงอกงามแผ่กิ่งก้านเต็มความยาวของกำแพงอิฐ...“เอาของนี่ไว้ไหนดีคะ?” แก้วตาถามความเห็นของชะเอม เจ้าหล่อนยิ้มแหยๆ ให้เจ้าของบ้านสาว“ของใครล่ะ? ของเอวาหรือของแก้วตา?” หญิงสาวถามกลับ“ของคุณหนูค่ะ” แก้วตาตอบพร้อมกับยิ้ม“ไว้ในห้องเอมได้เลยค่ะ” ชะเอมตอบสีหน้ายิ้มแย้มแก้วตาเดินเลี่ยงไปอีกทาง หล่อนขนของใช้ส่วนตัวของ อิรินาเข้าไปเก็บไว้ในห้องนอนเจ้าของบ้านวันนี้คงวุ่นวายทั้งวันเมื่อของใช้ส่วนตัวของอิรินามีไม่ใช่น้อย“แก้วตาหิวยัง?” ชะเอมโผล่หน้ามาจากครัว เจ้าหล่
ชะเอมหมุนตัวขวับ!! ต้องมีใคร? อยู่ด้านหลังเธอแน่ เพราะสังเกตจากสายตาของทุกคน สายตาเหล่านั้นโฟกัสไปที่ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเธอ“ไม่ยักรู้ว่าผม ‘หล่อ’ ในสายตาเอมด้วย”เสียงทุ้มๆ ยังไม่ทำให้ชะเอมหวาดหวั่น ได้เท่ากับตัวเป็นๆ ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง กลิ่นของอเล็กไซทำให้เธอมึน เธอจึงยิ้มกร่อยๆ ทักทายชายหนุ่มแบบเสียไม่ได้“คุณนั่นเอง มารับเอวาเหรอคะ?”“อย่าเปลี่ยนเรื่องน่าเอม... ตอบผมมาก่อน เอมน่ะชอบเฉไฉตลอด...จับไม่มั่น คั้นไม่ตายไม่มีทางยอมรับซักที”อเล็กไซยังดึงดัน เขาพูดย้ำเรื่องเดิมๆ ไม่สนใจแม้กำลังถูกจับตามองชะเอมกลอกตามองบน ชายหนุ่มต้องการคำตอบที่ตนเองพอใจ แต่จะให้เธอตอบว่าเขา ‘หล่อ’ แล้วไอ้พวกลูกน้องข้างหลังเธอมีหวังหัวเราะดังคลื่นแน่... เพราะแต่ละคนต่างพากันเงียบ แต่เปล่า...ที่สงบนิ่งกันอยู่นี่ เชื่อสิ... ตะแคงหูฟังกันเป็นแถว!!เธอถอนลมหายใจแรงๆ ก่อนตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะบังคับปากตนเองให้พูดตอบโต้ไปได้ “ไม่น่าถามนี่คะ คุณน่ะมันเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว... แม้แต่นายแบบเอ
บทที่11.ลูกสาวอิรินานั่งเล่นเพลินๆ ในห้องทำงานชะเอม เจ้าตัวรู้สึกสนุก เมื่อไม่มีพี่เลี้ยงคอยตามประกบ ได้ทำอะไรแบบที่ชอบ แถมยังได้แต่งตัวแบบที่ไม่เคยทำกางเกงยีนเด็กกับเสื้อเชิ้ตผมยาวสลวยถูกจับถักเปียง่ายๆ เปิดหน้าผากนูนเด่นกับพวงแก้มยุ้ยสีระเรื่อ หากอเล็กไซได้มาเห็นบุตรสาวในตอนนี้... เขาคงต้องยกมือกุมขมับ เพราะชะเอมจับสาวหวานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่งตัวเป็นทอมบอย“เด็กที่ไหนเจ้ น่ารักเป็นบ้า”ลมลูกน้องหนุ่มสุดแสบกระซิบถาม เขาชำเลืองมองอิรินาตาเยิ้ม ขนาดอายุเพียงแค่นี้... ความสวยยังเปล่งประกายเจิดจ้า หากโตเป็นสาวเต็มตัว เด็กหญิงตรงหน้าคงไม่ต่างอะไรจากนางฟ้า...“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมหะ!!” ชะเอมหันมาแสยะยิ้มมุมปาก กระซิบดุลูกน้องจอมจุ้นเสียงเครียดๆ เมื่อเจ้าตัวดูเหมือนจะชอบสอดรู้ไปหมดทุกเรื่อง“โห...แค่อยากรู้เอง...ทำเป็นดุ!! ไปขโมยลูกใครมาอะครับ?”มันกะพริบเปลือกตาปริบๆ แล้วก็ถามต่อ...ไม่ยอมหยุดความอยากรู้แม้จะถูกมองตาขวาง เมื่อเจ้านายไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร...เด็กหญิ
ชะเอมก้มหน้าลง เธออมยิ้มด้วยความพอใจ แผนแรกผ่านไปด้วยดี ที่เหลือก็แค่ชิ่ง...ต้องหาทางหลบการ์ดเหล่านี้ไปยังสนามบิน เพราะระยะทางร้านไอครีมชื่อดังกับท่าอากาศยานอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่...“เยี่ยมมาก...คนเก่ง”ชะเอมหันไปขยิบตาให้อิรินาสองมือสอดลงไปในกระเป๋ากาเกง เพื่อตรวจเช็กสิ่งที่ควรมี ‘พาสปอร์ต’ เธอโน้มตัวลงสวมกอดกระซิบแผ่วๆ ข้างใบหูเล็กๆ และเด็กหญิงก็หยุดร้องกรี๊ด เนื่องจากเสียงกระซิบของชะเอม“ไปค่ะ อีวานจะพาหนูไปกินไอครีมกัน...เราจะออกไปข้างนอกกันค่ะ”ชะเอมพูดยิ้มๆ เธอแอบขยิบตาให้อิรินาหลายครั้ง และเด็กหญิงก็รับลูก แสร้งกระโดดเหมือนดีใจหนักหนา“กินติมๆ ...เย้ๆ”หากอีวานสังเกตสองสาวดีๆ เขาจะรู้สึกสะกิดใจ ทั้ง อิรินาและชะเอม ต่างมีกระเป๋าเป้เล็กๆ สะพายไว้ที่หลังแต่เพราะเสียงสิบแปดหลอดของอิรินา ทำให้ต่อมความฉลาดของอีวานลดลง เขาต้องการแค่...ทำยังไงก็ได้ ให้คุณหนูตัวแสบ...หยุดตะเบ็งเสียงลั่นนั่นเสียทีห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ‘เบนิคอฟ’ห้างสรรพสินค้าข
บทที่10.แผนตลบหลังสิงโต...“อะไรนะช้าง หมายความว่าไงวะ เจ้งง!!”ชะเอมย้อนถามเสียงหลง เธอแอบแวบต่อสายหาคนของตัวเองจนได้ แต่กลับต้องงงกับคำตอบ...ที่ได้ยิน“โหเจ้ ไปหลบอยู่ไหนมาคร๊าฟ... งานจวนจะเสร็จแล้วล่ะ น่าจะทันเวลาอยู่”ช้างตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ชะเอมหายไปครบอาทิตย์พอดี“อ้าว...แล้วแบบล่ะ”หญิงสาวสับสน เธอหาโอกาสเคลียร์กับอเล็กไซไม่ได้สักที แล้วงานเดินต่อแบบนี้ เขาไม่พอใจขึ้นมา เธอมิเสียทั้งเงิน และเวลาฟรีเหรอ“โอ้ย!! คุณเขาโทร. มาบอกตั้งแต่เจ้ไปมอสโกวันแรกๆ แล้ว เป็นไงครับ... เที่ยวต่างประเทศสนุกมั้ยครับเจ้”ช้างตอบ เขาย้อนถามด้วยความอยากรู้ชะเอมอึ้ง!! เรื่องเที่ยวน่ะเธอไปทุกที่ที่อิรินาไป คนพาไปก็ใจป้ำ พาไปทุกแห่งที่อยากไปเสียด้วย มันเลยเป็นการเที่ยวที่ชะเอมคุ้มสุดๆ เธอไม่ต้องสนใจเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อมีสายเปย์ตัวพ่อ คอยตามจ่ายให้ เธอถ่ายรูปจนเมมโมรี่เต็ม เซฟเก็บไว้ในคอมส่วนตัวอีกเป็นกุรุส เอาไว้ว่างๆ จะมานั่งระลึกความหลัง เมื่อคงไม่มีวันแ
หญิงสาวตอบกลับ เธอกดยิ้มมุมปาก ชะเอมไม่ใช่คนที่มีความอดทนเท่าไหร่ นิยามความรักของเธอสวยหรู เกินกว่าจะให้มันจบลง เพราะความมักง่ายของคนคนเดียว อเล็กไซเป็นต้นแบบของผู้ชายที่เธอปักหมุดไว้ ...เขาคือตัวอันตราย ที่ควรอยู่ห่างที่สุด ก็เขาน่ะมันผู้ชายสมบูรณ์พร้อม มีสมบัติมากมายก่ายกอง หล่อเหลาเกินคน...แต่ไม่ใช่ผู้ชายในฝันที่ตนเองต้องการเมื่อป้ายแผ่นเบ้อเร่อติดไว้ที่กลางหน้าผากชายหนุ่ม ‘เขาน่ะตัวพ่อ’ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่เห็นเพศหญิงเป็นแค่เครื่องบันเทิงอารมณ์ พวกคนเหล่านั้นชอบสนุกบนเรือนร่างงดงาม แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ...เขาพร้อมหันหลังหนีทุกกรณี“เอม...ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกนะ ทุกคนสามารถทำผิดกันได้ ผมเคยพลาด แต่ผมก็พยามแก้ไขนี่ พยายามทำให้ดีที่สุด...ในแบบของผม”ชายหนุ่มเปรยเสียงอ่อน...นับวันความรู้สึกลึกๆ ในใจ ที่มีกับชะเอมยิ่งเด่นชัดขึ้น ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่ฟิริเซีย ชะเอมทำให้เขามองโลกในมุมที่ดีขึ้น สบายใจทุกครั้งหากมีหล่อนอยู่ใกล้ๆ ได้ต่อปากต่อคำ ได้ถกเถียงกันในบางครั้ง แต่มันก็เปี่ยมสุข จนไม่อยากปล่อยมือจากเธอ พยายามคว้า พย
บทที่9.มิสซิสฟิริเซียอิรินาขยับตัวเข้าใกล้ชะเอม มือกลมป้อมยกขึ้นจับชายเสื้อของชะเอมไว้แน่น พร้อมกับรีบก้มหน้าลง เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอรับรู้ถึงความผิดปกติ ชะเอมเหลียวมองไปรอบๆ เธอเห็นใครบางคน กำลังเดินตรงมาทางนี้ ‘หล่อน’ ใช่คนที่เดินมาเป็นผู้หญิง ผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่ง กับการแต่งกายฉูดฉาดไม่ต้องบอกก็รู้ หล่อนต้องมีความสัมพันธ์กับคนบ้านนี้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถฝ่าปราการป้องกันของเหล่าบอดี้การ์ดพันธุ์ดุมาได้แน่นอน“เซไฮ!! เบบี้”เสียงหล่อนแหลมปรี๊ด แววตาจิกๆ พิกล คำทักทายที่ฟังยังไงก็หาได้มีความอบอุ่น ไม่แปลกเลยที่อิรินาจะกลัว“เป็นอะไรไปยัยหนู หม่ามี้มาหาทั้งที จะหลบหน้าหลบตากันทำไม?”น้ำเสียงออกจะดุไปสักนิด สำหรับวิธีพูดของมารดาที่พูดกับบุตรสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน“มาหาหม่ามี้สิ มาให้กอดหน่อย คิดถึ๊งคิดถึง!!”มือเรียวสวยอ้ากว้าง พร้อมกับยิ้มหวานทั้งปาก แต่ดวงตากลับแข็งกร้าวจนแม้แต่คนนอกอย่างชะเอมยังรู้สึก&ldqu
บทที่7.เป็นแฟนกันมั้ย!!ชะเอมปิดประตูห้องนอนด้วยมือที่สั่นระริก เธอแสร้งทำเป็นใจแข็งไปอย่างนั้นเอง เพราะมันคือ ‘เกราะ’ ที่ใช้กางกั้นชายหนุ่ม ใครเข้าใกล้อเล็กไซ แล้วไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มบ้างล่ะ...ไม่มี...ชะเอมยืนยันได้ แม้แต่ตัวเองที่แกร่งและเชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ยังหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขา เมื่อชายหนุ่มรุกคืบเข้าประชิดตัวแบบนี้...หญิงสาวหลับตานิ่งๆ เธอยืนพิงประตูห้อง เงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวภายนอก...อเล็กไซอึ้ง!!ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดกับชะเอมถึงแค่ไหน...ที่เขารู้คือ...ชะเอมเข้ามาป่วนความคิดเขา หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก มันอาจจะเป็นความเคยตัวก็ย่อมได้ สาวๆ ส่วนใหญ่ วิ่งใส่...พอมาเจอคนที่วิ่งหนีเขาเลยไปไม่ถูก แถมหล่อนไม่เลิศเลออะไรเลย มันจึงทำให้ต่อมอยากเอาชนะของเขาทำงาน...คงเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ มือดันโซฟาพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแม้จะมึนหัวตุ๊บๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ตรงจุดนี้...ชะเอมตัดเยื่อใย หล่อนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการ...มันเสียหน้าจนอยากหายตัวได้...เสียงการเคลื่อ
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...