ชายหนุ่มปล่อยหัวใจตัวเองให้หยุดพักครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับกายช้อนอุ้มร่างงามของภรรยาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง ดวงตาคมจ้องมองใบหน้างดงามอ่นหวานของเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ขณะเดินตรงไปยังเตียงนุ่ม ค่อยวางร่างของเธอลงอย่างทะนุถนอม สายตาสองคู่ประสานกันด้วยแววตาอ่อนหวาน มากกว่าคำว่ารักคือความเข้าใจ ผูกพันหัวใจสองดวงไว้ด้วยกันแน่นเหนียวยิ่งกว่าโซ่ตรวนใดใดในโลก
“ผมรักคุณนะลดา...” หลี่เจิ้งก้มลงกระซิบบอกรักเสียงนุ่ม
ร่างหนาทอดกายก่ายเกยร่างบางไว้อย่างเป็นเจ้าของ ดวงตาคู่คมจับนิ่งอยู่บนใบหน้างดงามไม่ละสายตา ขณะค่อยๆ ก้มลงแตะริมฝีปากจุมพิตบนเปลือกตาทั้งสองข้างแผ่วเบา บนหน้าผากเนียน บนปลายจมูกโด่งเล็กอย่างแสนรัก ริมฝีปากร้อนผ่าวเคลื่อนมาประทับบนเรียวปากนุ่มสีกุหลาบนั้นนิ่งนาน แม้จะเคยสัมผัสรส ลิ้มลองความหวานนี้มาเท่าใด ทว่าความหวานล้ำไม่เคยลดลงเลยสักครั้ง มีแต่จะหวานซ่านทรวงเพิ่มขึ้นทุกๆ ครั้ง ปลายลิ้นซอกซอนแระเล็มความหอมหวานลึกล้ำ กวาดต้อนดื่มด่ำกับรสน้ำผึ้งหวานไม่รู้หน่าย มือหนาป่ายปะไปทั่วร่างงามนวลเนียน ก่อนจะปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างของเขาและเธอ ชายหนุ่มแย้มยิ้มละมุน กายสาวงดงามราวเทพธิดาเดินดิน ชวนให้คนเห็นใจสั่นระรัวด้วยฤทธิ์เสน่หา ดวงตาคู่คมทอดมองความงดงามของหญิงสาวใต้ร่างอย่างหลงไหล เลือดในกายร้อนผ่าวเมื่อพบความเย้ายวนใจจนมิอาจต้านทานไหว ผิวนุ่มหอมละมุนยั่วให้จมูกโด่งงามซุกซบสูดดมกลิ่นจรุงใจไม่ยอมผละห่าง ดวงตาคมทอดมองปทุมคู่งามด้วยแววตารัญจวนใจ ก่อนจะก้มลงสัมผัสบัวสวรรค์คู่นั้นด้วยความเสน่หา หยอกเย้าลิ้มลองรสชาติของเม็ดบัวสีทับทิมอย่างอดใจไม่อยู่
ชายหนุ่มเป็นดั่งภมรหลงกลิ่นเกสรของผกางาม เฝ้าดอมดมละเลียดชิมรสอันหวานละมุนลิ้น ดื่มกินรสหวานหอมอยู่ไม่รู้อิ่ม สายลมเย็นฉ่ำในคราแรกได้กลายเป็นพายุเสน่หา พัดโหมกระหน่ำจนดอกไม้งามแกว่งไกวสะบัดไหวตามแรงลม ภมรหนุ่มขยับปีกร่อนถลาคลุกเคล้าเกสรงามไม่ลดละ รสหวานหอมยั่วเย้าให้ตามติดสนิทแนบดื่มด่ำความหวานเลิศรสนั้นด้วยแรงปรารถนา กว่าภมรหนุ่มจะอิ่มเอมสมใจอยาก ดอกไม้งามก็ถูกสัมผัสไปทั่วทุกอณูอย่างลึกเร้น...
“อาเจิ้ง พ่อไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน โรคร้ายในตัวมันกัดกินร่างกายไปทุกวัน จงตั้งใจเรียนรู้ในสิ่งที่พ่อสอน เพราะต่อไปลูกต้องใช้มันเพื่อยืนหยัดอยู่ในวงการนี้”
หลี่เสวียนตบไหล่ลูกชาย ขณะพาเขาไปรู้จักกับหัวหน้าแกนนำคนสำคัญของแก๊ง การประชุมถูกจัดขึ้นที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งซึ่งถูกเหมาทั้งร้านเพื่อการนี้ สมาชิกระดับแกนนำของแก๊งทะยอยกันมาจนครบจึงได้เริ่มประชุมกันขึ้น หลี่เสวียนรักษาท่าทีของตัวเองอย่างน่าเกรงขาม ดวงตาคมกริบแลกราดไปยังสมาชิกแก๊งค์ทุกคน ก่อนจะหยุดสายตาที่จงเหอหัวหน้าเขต เขาแย้มมุมปากเล็กน้อยดวงตาคมกริบมองสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง จงเหอสบตากับหัวหน้าแก๊งไม่หลบตา หลี่เสวียนยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะเบนสายตามายังลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ทุกคนคงจะรู้กันหมดแล้วว่าคุณเหมยกับอาจินลูกชายของผม ถูกลอบวางระเบิดรถจนเสียชีวิตไปเมื่อเดือนก่อน”
หลี่เสวียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ดวงตาจับจ้องสมาชิกแก๊งทุกคนค้นหารอยพิรุธ สาเหตุการตายของภรรยาและลูกชายของเขา อาจเกิดจากฝีมือใครสักคนในแก๊งนี้ ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญหนีไม่พ้นจงเหอ ผู้มีอำนาจและบารมีรองเพียงเขาเท่านั้น พฤติกรรมหลายอย่างก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าจงเหอคิดเป็นใหญ่ แข่งบารมีกับหลี่จินลูกชายที่เขาวางตัวเป็นทายาทของเขา แน่นอนว่าหากหลี่จินเป็นอะไรไป เขาซึ่งไร้ทายาทต้องยอมให้แกนนำคนใดคนหนึ่งที่เหมาะสมในแก๊งขึ้นมาแทน และจงเหอคือคนเหมาะสมที่สุดในขณะนี้
“เราขอแสดงความเสียใจด้วยครับคุณหลี่” เว่ยเหยียนเป็นตัวแทนคนในแก๊งกล่าวแสดงความเสียใจต่อเขา
เว่ยเหยียนเป็นอีกคนหนึ่งในแก๊งที่น่าจับตามอง เพราะเขาเป็นญาติห่างๆ ของอดีตหัวหน้าแก๊งคนเก่า แต่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นทายาทเพราะในขณะนั้นเว่ยเหยียนอายุยังน้อยเกินไป ตอนนี้เว่ยเหยียนเติบกล้ามีอิทธิพลไม่แพ้จงเหอ ด้วยการเป็นพันธมิตรกับแก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น
“ขอบคุณสำหรับคำปลอบใจ ผมคิดว่าไม่นานคนที่ฆ่าคุณเหมยกับอาจิน ต้องได้รับโทษแน่” หลี่เสวียนยิ้มเย็น ดวงตาวาววับน่ากลัว
“ผมกับทุกคนจะช่วยตามล่าคนร้ายให้ครับคุณหลี่”
จงเหอเอ่ยขึ้นเขาปรายตามองหลี่เจิ้งเล็กน้อย แปลกใจที่หลี่เสวียนพาคนนอกเข้ามาร่วมประชุมแก๊งด้วย แต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา
หลี่เจิ้งสบตากับจิ้งจอกเฒ่าด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ความยำเกรง เขานั่งมองสมาชิกระดับแกนนำของแก๊งอย่างสังเกต คนที่มีปากเสียงในที่ประชุมมีเพียงจงเหอกับเว่ยเหยียนเท่านั้น คนอื่นนั่งเงียบรอฟังคล้ายไม่มีปากเสียง ใช้เพียงสายตามองดูการวิวาทะของระดับหัวหน้าราวกับว่า รอดูว่าใครจะเพลี่ยงพล้ำก่อนค่อยเข้าข้างฝ่ายนั้น ชายหนุ่มสบสายตากับเว่ยเหยียนอีกฝ่ายจ้องมองกลับ ดวงตาสองคู่สบตากันอย่างประเมินท่าที เป็นเว่ยเหยียนที่ส่งยิ้มให้เขาก่อน หลี่เจิ้งจึงยิ้มตอบไป ด้วยวัยที่ห่างกันไม่มากทำให้เว่ยเหยียนน่าสนใจในการสานความสัมพันธ์ คงไม่ยากหากคิดคบหากันฉันมิตร ในขณะที่จงเหอดูจัดเจนเล่ห์เหลี่ยมแพรวพรายไม่น่าคบมากกว่า
“ขอบคุณมากคุณจง”
หลี่เสวียนแค่นยิ้มให้จงเหอ รู้ดีว่าจงเหอแสร้งพูดเอาใจไปแบบนั้น แววตาของอีกฝ่ายซ่อนความลำพองไว้แทบไม่มิด คงคิดว่าหากเขาไร้ทายาทแล้วตัวเองจะได้ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟแทน จึงได้แสดงท่าทีอวดศักดาแบบนั้น
“พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็นึกห่วงคุณหลี่ขึ้นมา ตอนนี้ลูกชายของคุณก็ไม่อยู่แล้ว ตัวคุณเองก็สุขภาพไม่ดี หากเป็นอะไรไป แก๊งหงส์ไฟของเราคงระส่ำระสายไม่น้อย”
จงเหอเปรยขึ้นส่อเจตนาในใจของตนอย่างไม่ปิดบัง
สมาชิกคนอื่นต่างมองหน้ากัน บ้างหันไปซุบซิบออกความเห็นกับคนข้างๆ หลายคนแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน หลังจากลูกชายของหลี่เสวียนพร้อมภรรยาตายไป หลี่เสวียนก็เข้าโรงพยาบาล กลุ่มขั้วอำนาจต่างๆ ในแก๊งเริ่มรวมตัวแบ่งฝักแบ่งฝ่ายสนับสนุนคนที่เห็นว่าเหมาะจะขึ้นแทนตำแหน่งหัวหน้าแก๊งในอนาคต ฝ่ายที่เป็นพันธมิตรของหลี่เสวียนมีไม่น้อยที่เริ่มไม่แน่ใจสถานภาพของแก๊ง พวกที่เข้ากับจงเหอก็พากันแข่งบารมีกับขั้วอำนาจเดิม ความไม่สงบในแก๊งเป็นดั่งคลื่นใต้น้ำรอคอยเวลาซัดเข้าหาฝั่ง หลี่เสวียนรู้ถึงข้อนี้ดี เขาจึงต้องเรียกตัวลูกชายมารับภาระต่อจากเขา ด้วยหวังจะให้อำนาจถูกสืบทอดอยู่ในมือคนในตระกูลหลี่ต่อไป
“ผมเรียกทุกคนมาประชุมวันนี้ เพราะต้องการพูดถึงเรื่องนี้”
หลี่เสวียนยกยิ้มปรายตามองท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องของจงเหออย่างสมเพช เขาผายมือมายังลูกชายที่นั่งอยู่ พลางแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับหลี่เจิ้ง
“นี่คืออาเจิ้งเป็นลูกชายคนเล็กของผม ซึ่งจะมาช่วยดูแลงานแทนผม ในช่วงนี้”
หลี่เจิ้งลุกขึ้นค้อมศีรษะให้ทุกคน เขายิ้มเย็นกวาดสายตามองสมาชิกแก๊งด้วยแววตาคมกล้า ท่าทางองอาจสง่างามเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจน่าเกรงขามไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ ทำให้สมาชิกแก๊งที่อยู่ใต้อานัติของหลี่เสวียนมองอย่างชื่นชม สถานภาพของชายหนุ่มสร้างความตกตะลึงให้จงเหอไม่น้อย มาเฟียเฒ่าจ้องหน้าหลี่เจิ้งพยายามข่มชายหนุ่มรุ่นลูกให้เกรงบารมี แต่หลี่เจิ้งไม่เพียงแต่ไม่ครั่นคร้าม ซ้ำยังจ้องตอบด้วยแววตาทรงอำนาจ จนคนจ้องต้องเมินสายตาหลบไปเอง
ตอนที่ 81.สัญญาใจ (จบ)มาเฟียหนุ่มไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว เขายังตั้งหน้าตั้งตานำพาเธอให้ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางแห่งความหฤหรรษ์ จนร่างกายของเธอสะท้านไหวไปกับความต้องการอันล้นปรี่ของเขา หญิงสาวจิกปลายเล็บลงบนแผ่นหลังเมื่อความปั่นป่วนกำลังบิดเกลียวในจุดประสาน ความแข็งแกร่งของเขากำลังทำให้เธอถึงจุดที่เกินต้านทานไหว เขาเองคงไม่ต่างกัน เมื่อเร่งขับเคลื่อนกายแกร่งให้ล้ำลึกหนักหน่วงเร่าร้อนจนร่างกายแทบมอดไหม้ด้วยเพลิงเสน่หา ความรัญจวนใจก่อตัวขึ้นในจุดสูงสุดก่อนจะระเบิดเป็นแสงระยิบระยับในหัว เสียงครางครวญดังกระหึ่มผสานกับเสียงกรีดร้องหวานแหลมดังก้องขึ้นพร้อมกัน ร่างหนากระตุกเฮือกเมื่อโถมกายเข้าหาร่างบางเป็นครั้งสุดท้าย คนใต้ร่างหยัดสะโพกตอบรับ สองมือโอบรัดร่างแกร่งไว้แน่น ทั้งสองกอดกันนิ่งอยู่แบบนั้นราวกับไม่ต้องการพรากจากกันอีกต่อไปหลี่เจิ้งซบใบหน้ากับซอกคอขาวผ่อง ร่างหนาซบนิ่งอยู่บนร่างงามไม่ขยับไหวโดยวางศอกทั้งสองข้างรองรับน้ำหนักตัวไม่ให้กดทับร่างบาง เสียงลมหายใจของเขาดังสะท้อนอยู่ข้างใบหูของเธอ หลินหลินเงยหน้าขึ้นหอบหายใจแรง สองแขนยังคงโอบกอดไว้ไม่ยอมปล่อย ความอบอุ่นโอบล้อมทั้งกายและใจของทั้
ตอนที่ 80 รักครั้งสุดท้าย/2หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งงานของหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟกับเจ้าสาวต่างวัยก็ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและยิ่งใหญ่ แม้ฐานะของหลินหลินไม่อาจเปิดเผยได้ แต่หญิงสาวก็พอใจที่เธอได้รับการยกย่องจากคนเป็นสามี เธออยากขอบคุณริคคาโด้เหลือเกินที่ทำให้หลี่เจิ้งยอมขอเธอแต่งงาน แต่ไม่กล้าไปพูดอะไรกับชายหนุ่มตรงๆ เพราะสามีของเธอขี้หวงอย่างหนัก แม้ตอนที่ริคคาโด้มาจับมือแสดงความยินดี ดวงตาคู่คมของหลี่เจิ้งก็เปล่งประกายวาบวาวด้วยความหวงแหน จนอีกฝ่ายปล่อยมือแทบไม่ทันคนที่เจ้าสาวอยากขอบคุณได้แต่นั่งมองภาพคู่บ่าวสาวด้วยสายตาหมองเศร้า เขาดีใจที่หลินหลินได้พบกับความสุขเสียที แม้ตัวเองต้องชอกช้ำขมขื่นเพียงใดก็ตาม เพื่อนร่วมแผนการอย่างเว่ยเหยียนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน ต่างพากันมองเจ้าสาว คนสวยในชุดวิวาห์สีขาวด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ และมองเจ้าบ่าวด้วยแววตาอิจฉา“สงสัยชาติที่แล้วคุณเจิ้งคงทำบุญมาดี ชาตินี้ถึงผู้หญิงถึงเกลียดเขาไม่ลง ทั้งที่ทำร้ายเธอสาหัสขนาดนั้น” เว่ยเหยียนอดแขวะเจ้าบ่าวไม่ได้ริคคาโด้หัวเราะเสียงขื่น “ผมว่าคุณเจิ้งเขาโชคดี ที่ได้รับความรักจากผู้หญิงดีๆ อย่างลิลลี่ โชคดีจนน่าอิจฉา” เขาทอดสา
ตอนที่ 79. รักครั้งสุดท้าย/1“ริคคาโด้คงมีคุณกับผมเท่านั้นแหละ ที่เห็นค่าของคุณหลินหลิน เคยมีใครบางคนยกเธอให้คนอื่นโดยไม่รู้ถึงคุณค่าของเธอมาแล้ว ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไรคุณหลินหลินถึงได้ยอมให้อภัย” เว่ยเหยียนเปรยขึ้นหลินหลินแสร้งยกคิ้วสูง ทำหน้าเหมือนสงสัย “อะไรนะคะ ฉันน่ะหรือเคยถูกยกให้คนอื่นเหมือนของไร้ค่า คุณพูดเล่นหรือเปล่า”“ถ้าคุณอยากรู้คืนนี้ลองถามคุณเจิ้งดูสิ” เว่ยเหยียนโยนภาระมาให้หลี่เจิ้งหลี่เจิ้งหัวใจกระตุกวาบเมื่อถูกเว่ยเหยียนสะกิดแผลเก่า เขามองหน้าภรรยาสาวที่ทำท่าสงสัยอย่างรู้สึกผิด ถึงแม้เธอจะเคยให้อภัยเขาแล้ว แต่ความผิดครั้งนั้นเหมือนรอยบาปที่เขาไม่อาจสลัดออกไปจากใจ สองหนุ่มดูเหมือนตั้งใจโจมตีเขา เหมือนวางแผนกันมาล่วงหน้า ไม่ใช่การมาเยี่ยมเยือนตามประสาคนรู้จัก มาเฟียหนุ่มใหญ่เพิ่งเข้าใจเจตนาของทั้งสองในนาทีนี้เอง ว่าเว่ยเหยียนกับริคคาโด้ต้องการบอกอะไรเขา ความหึงหวงทำให้สมองเขาทำงานช้าจนวิเคราะห์ไม่ออกว่า สองหนุ่มกำลังทำให้เขาสำนึกและมองเห็นคุณค่าของหลินหลิน ซึ่งเขาทำเมินเฉยไม่ได้ให้เกียรติเธอมากกว่าการดูแล ด้วยเข้าใจว่าเธอความจำเสื่อมคงไม่คิดอะไรมาก แต่วันนี้เขาเพิ่งรู้ต
ตอนที่ 78. ความทรงจำแห่งรัก/2“คุณเจิ้งไม่อยู่เหรอ” ริคคาโด้เอ่ยถามหาเจ้าของบ้าน ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาเขายังไม่ได้พบมาเฟียหนุ่ม หลินหลินส่ายหน้า ยิ้มอ่อนๆ“คุณเจิ้งไปประชุมกับพวกหอการค้าค่ะ เย็นๆ ถึงจะกลับ” หลี่เจิ้งไม่ได้เป็นแค่มาเฟียแต่เขาเป็นนักธุรกิจด้วย งานในหน้าที่จึงมีมากมาย“คุณอยู่แต่ในบ้านไม่เหงาบ้างเหรอลิลลี่ วันๆ คงเอาแต่เลี้ยงลูกกับทำงานบ้านสินะ” เขาเอ่ยถาม สายตาทอดมองใบหน้างดงามไม่เสื่อมคลายของหญิงสาว อย่างอาทร“ฉันชินแล้วค่ะริคกี้” หลินหลินยิ้มละมุน ขอบคุณความห่วงใยของเพื่อนชายผ่านสายตา “ฉันมีความสุขตามประสา ไม่ได้ทุกข์ใจหรือเดือดร้อนใจอย่างที่คุณห่วง หรอกค่ะ คุณเจิ้งดีกับฉันมาก”“เขาดีกับคุณไม่พอหรอกลิลลี่” ริคคาโด้ท้วงเขามองหน้าหญิงสาวนิ่ง รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เธอซ่อนไว้ เธอบอกว่าไม่ได้ทุกข์ แต่เธอก็ไม่ได้สุขเต็มที่ เขารู้มาว่าหลี่เจิ้งไม่ได้ยกย่องหญิงสาวอย่างออกหน้าออกตาเหมือนที่เคยยกย่องเพียงลดา หลินหลินเป็นภรรยาก้นครัวที่หลี่เจิ้งเก็บไว้ภายในบ้าน ไม่เปิดเผยต่อคนในสังคม จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ริคคาโด้รู้สึกไม่พอใจที่หลี่เจิ้งทำเหมือนหลินหลินเป็นผู้หญิงไ
ตอนที่ 77. ความทรงจำแห่งรัก/1เขาร้องเรียกเธอสุดเสียง เมื่อเห็นร่างงามค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เธออยู่สูงจนเขาเอื้อมไปแตะไม่ได้ ใบหน้างามระบายรอยยิ้มอ่อนหวาน ขณะทอดสายตามองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน“คุณเจิ้งคะ ปล่อยลดาไปเถอะคะ เวลาของลดาหมดลงแล้ว แต่เวลาของคุณยังมีเหลืออยู่” เธอบอกเขาด้วยบน้ำเสียงอ่อนเบาราวเสียงกระซิบ“ไม่นะลดา ผมรักลดา ผมไม่อยากสูญเสียลดาไป” เขายังคงดื้อดึง ไม่อยากปลดปล่อยของรักให้จากไป“เก็บลดาไว้ในความทรงจำของคุณก็พอ แต่จงมีชีวิตต่อไปเพื่อคนที่คุณควรรัก และดูแลเธอให้ดี อย่าให้ต้องสูญเสียเธอไปเหมือนที่คุณเสียลดา ดูแลหลินหลินด้วยนะคะ เธอเป็นคนที่ลดาเลือกให้คุณ ดูแลเธอด้วย...”เพียงลดาบอกก่อนจะลอยหายไปบนท้องฟ้า ปล่อยให้ม่านหมอกหนาคลุมลงมา จนมองไม่เห็นอะไร หลี่เจิ้งผวารู้สึกตัวตื่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อโทรมกาย เขามองร่างบางที่นอนเคียงกัน ก่อนจะพยักหน้าให้ตัวเองเมื่อรู้ว่าเพียงลดามาหาเขาในฝัน เพราะต้องการให้เขาดูแลหลินหลินให้ดี เธอคงมาลาเขาเพื่อไปสู่ภพภูมิข้างหน้า แต่คงห่วงใยเขาและหลินหลินถึงได้มาสั่งลาก่อนจาก“คุณหลี่ครับ มีเรือสองลำกำลังแล่นมาทางนี้ครับ” เสียงของบอดี้การ์ดคนหนึ่งร
ตอนที่ 76.เลือกแล้วคือเธอ/2คืนนั้นเป็นคืนแรกในรอบหกเดือนที่หลี่เจิ้งมีโอกาสได้นอนร่วมเตียงกับภรรยาสาว เขาทำให้เธอสบายใจโดยการนอนนิ่งๆ คนละฟากกับเธอ โดยมีหมอนข้างกั้นอาณาเขตไว้ หลายชั่วโมงกว่าหลินหลินจะยอมวางใจนอนหลับไป เปิดโอกาสให้คนที่นอนตัวแข็งได้ขยับเข้ามาแนบชิด ใบหน้าคมชะโงกดูใบหน้างดงามที่นอนหลับตาพริ้มอย่างอาทร“หลินหลิน เมื่อไหร่เธอจะจำฉันได้สักที” เขารำพึงเสียงเศร้า ก่อนจะแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากบางแผ่วเบาทะนุถนอม กอดร่างน้อยไว้แนบอกอุ่น แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปเสียงคลื่นซัดซ่ากับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้ทอดผ่านกรอบ หน้าต่างเข้ามาในห้องนอนกว้าง บนเตียงนุ่มร่างสองร่างนอนกอดซบกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แสงจัดจ้าของวันใหม่ปลุกให้คนที่นอนอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้น ความอบอุ่นที่โอบล้อมกายทำให้ร่างบางขยับกายอย่างเกียจคร้าน ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือฉายรอยง่วงงุน ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อเห็นปลายคางของใครคนหนึ่งเข้า ร่างหนาของคนตัวโตนอนตะแคงสละแขนข้างหนึ่งให้หญิงสาวหนุนนอนต่างหมอน เสียงลมหายใจเข้าออกดังสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขายังอยู่ในห้วงนิทราหลินหลินคลี่ยิ้มละมุน มองดวงหน้าคมคายของสามีหนุ่มใหญ่ด้ว