Share

บทที่ 1798

Auteur: โมเนโต้
“พวกขยะไร้ค่า! เราเพิ่งเริ่มเองนะ และพวกนายทนต่อไปอีกหน่อยไม่ได้หรือไง?”

ไซม่อนโกรธจัด เขาคิดว่าการฆ่าเฟนด์จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

แต่ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่า การโจมตีของเฟนด์สามารถต่อกรกับการโจมตีของเขาได้ ราวกับว่าพวกเขามีฝีมือสูสีกันอย่างไรอย่างนั้น

"ไม่มีทาง นี่คือทักษะยุทธระดับสอง แต่ถึงอย่างนั้นทักษะยุทธของเขาก็สามารถรับมือได้ ที่สำคัญกว่านั้น ระดับพลังยุทธของเขายังต่ำกว่าของฉันมาก!”

ตอนนี้ไซม่อนรู้สึกว่าความหยิ่งทะนงของเขาถูกเหยียบย่ำอย่างรุนแรง เขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง ผู้คนมากมายชื่นชมและเคารพเขา มีแม้กระทั่งศิษย์หญิงมากมายที่ตามกรี๊ดเขา

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง อีกทั้งเขายังอายุไม่มากนัก เขาเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับทะลวงวิญญาณได้ เมื่อถึงตอนนั้น ในการเลือกผู้นำกลุ่มคนต่อไป ทุกสายตาจะต้องจับจ้องมาที่เขา ไซม่อน กรีนแต่เพียงผู้เดียว

เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง เด็กหนุ่มที่อยู่ในขั้นที่สี่ในระดับเทพสูงสุดจะสามารถใช้ทักษะยุทธของเขาโจมตีต่อกรกับเขาได้ มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าถูกใครตบห
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1799

    คำพูดของเฟนด์ทำให้ไซม่อนโกรธจนแทบจะกระอักเลือด “หมัดมังกรคู่!”เฟนด์กลั้นหายใจเบา ๆ ก่อนที่หมัดพลังฉีขนาดใหญ่สองข้างจะพุ่งตัวออกไปพวกมันกลายเป็นหัวมังกรที่โปร่งแสงและปล่อยเสียงคำรามที่น่าสะพรึงกลัวออกมา จากนั้นก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของมังกร“อย่างกับฉันจะยอม!”ใบหน้าของไซม่อนซีดราวกับรู้สึกถึงความตายเป็นครั้งแรก เขากัดฟันแน่นหลังจากที่เห็นการโจมตีที่น่ากลัวของเฟนด์ เขาใช้ทักษะยุทธที่เขาภาคภูมิใจที่สุดปัง!เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้น ทักษะยุทธที่ไซม่อนภาคภูมิใจที่สุดนั้นอ่อนปวกเปียกเหลือทน ในตอนที่มันปะทะเข้ากับการโจมตีของเฟนด์มันก็ถูกระงับอย่างรวดเร็วและแหลกละเอียดกลายเป็นผุยผง"ไม่!"ขณะที่ไซม่อนซึ่งอยู่ในขั้นที่เจ็ดในระดับเทพสูงสุดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง หน้าอกของเขาก็ปรากฏรูขนาดใหญ่ที่ทะลุร่างออกไป จากนั้นเขาก็ลอยถอยหลังและร่อนลงบนพื้นตายนิ่งสนิท“สหายผู้นี้มีทักษะยุทธที่น่าทึ่งมาก!”เฟนด์เหาะไปด้านข้างของเขาและหยิบแหวนยุทธของเขาขึ้นมา จากนั้นเขาก็บอกอเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ว่า “ไปกันเถอะ ถึงเราจะไม่ได้สู้กันนานนัก แต่เสียงก็ดังเกินไป มันจะดึงดูด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1800

    คำพูดของผู้อาวุโสลำดับที่สี่ทำให้ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งตกใจ จู่ ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ศิษย์ของเขาสองสามคนได้เข้าป่าไปฆ่าผู้คนที่บุกเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้อาวุโสลำดับที่สี่พูดเช่นนี้ ก็แปลว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับศิษย์คนหนึ่งของเขาเขายืนขึ้นมาในทันที “ศิษย์คนหนึ่งของผมตายที่นั่นหรือ ผู้อาวุโสลำดับที่สี่?” เขาถามผู้อาวุโสลำดับที่สี่พยักหน้า “ไซม่อนน่ะ ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นศพเขาในวันนี้!”"อะไรนะ! ทำไมต้องเป็นเขา?"ผู้อาวุโสหนึ่งหายใจกระชั้น เขาเกือบจะเป็นลมเพราะความโกรธ ข่าวนี้เป็นดังสายฟ้าฟาดในยามฟ้าใส มันอยู่เหนือความคาดหมายของเขา"ไม่มีทาง"ผู้อาวุโสลำดับที่หกถึงกับลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ไซม่อนเป็นศิษย์ที่ดีที่สุดของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่ง และเขาก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุดไปแล้ว ทำไมเขาถึงตายได้? คุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ได้จำเขาสลับกับใคร บางทีคุณอาจมองผิดไป”"ใช่แล้ว ผู้อาวุโสลำดับที่สี่ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยนะ!”ผู้อาวุโสลำดับที่สามพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเชื่อว่านี่เป็นความจริง“ถ้าไซม่อนตายจริง นั่นหมา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1801

    "ถูกต้อง ตอนนี้เฟนด์อยู่ในขั้นที่สี่ในระดับเทพสูงสุดแล้ว ถ้าเขาทะลวงต่อไปได้อีกสามขั้น เขาจะอยู่ในขั้นที่เจ็ดของระดับเทพสูงสุด ผมคิดว่าเขาน่าจะฆ่าคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าของระดับเทพสูงสุดได้ไม่ยากเมื่อเทียบกับทักษะยุทธที่บ้าคลั่งของเขา และหากเขาสามารถฆ่าหัวหน้าเผ่ากระหายเลือดได้มันคงจะดีไม่น้อย!”เวสตันรู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน"เอาล่ะ ทุกคน ฉวยโอกาสนี้ในการฝึกฝนตัวเอง สร้างความก้าวหน้าให้ได้ในคืนนี้!”เฟนด์พยักหน้ากับทุกคน พวกเขาใช้เวลาทั้งบ่ายบินลึกเข้ามาในป่า เนื่องจากกลัวว่าคนจากเผ่ากระหายเลือดจะพบพวกเขา หลังจากที่พวกเขาสามารถรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขากับเหล่าศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดได้มากพอ เฟนด์ก็เลือกถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่อย่างดีสำหรับคืนนี้หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น ทุกคนก็หยิบโอสถขั้นกลางระดับสามออกมา และใส่มันเข้าไปในปากก่อนกลืนลงไปโอสถขั้นกลางระดับสามนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าโอสถขั้นต้นระดับสามอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเฟนด์เต็มไปด้วยความคาดหวังหลายวันมานี้ จักระในร่างกายของเขาช่วยให้พลังชีถูกดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นที่ห้าในระ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1802

    “ฮ่าฮ่า ดีแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเองก็อยู่ในขั้นที่หกในระดับเทพสูงสุดแล้ว!”หลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซานเดอร์ก็ยืนขึ้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ต้องบอกว่ายาเม็ดขั้นกลางระดับสามนั้นเป็นของล้ำค่าของผู้ที่อยู่ในระดับเทพสูงสุด เป็นไปได้ว่าแม้แต่เผ่ากระหายเลือดเองก็ไม่สามารถรังสรรค์สิ่งนี้ได้มิฉะนั้น ไม่มีทางที่เผ่ากระหายเลือดจะมีคนที่อยู่ในระดับทะลวงวิญญาณเพียงแค่คนเดียวเฟนด์และคนอื่น ๆ ยังคงรอต่อไปอีกราว ๆ หนึ่งชั่วโมง จากนั้นแนช เคนเนธและคนอื่น ๆ ก็เริ่มสร้างความก้าวหน้าตามมาอย่างช้า ๆ เช่นเดียวกับอเล็กซานเดอร์ พวกเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หกของระดับเทพสูงสุดได้แล้ว“นี่มันวิเศษจริงๆ เรามีสมาชิกที่อยู่ในขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดห้าคนและระดับห้าหนึ่งคน อีกทั้งตอนนี้เฟนด์ก็ได้อยู่ในขั้นที่เจ็ดในระดับเทพสูงสุดแล้ว ฮ่าฮ่า จริงอยู่ที่เรามีคนไม่มากนัก แต่ระดับทักษะยุทธของเราค่อนข้างดี! ตราบใดที่ผู้อาวุโสของพวกเขาไม่ได้พากันมาหลายคน และถ้าเราไม่ได้เจอกองกำลังขนาดใหญ่ของพวกเขา มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!”เคนเนธพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น พวกเขาทุกคนรีบรุดออกจากถ้ำอย่างรวดเร็ว"พ่อ นี่ก็เป็นวั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1803

    “นี่เธอพ่นเรื่องไร้สาระอะไรกันสกาย? ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดแบบนี้ ฉันจะชกเธอจริง ๆ ด้วย!”อาเธอร์ซึ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งโกรธจัดโกรธจัดเมื่อได้ยินคำพูดของสกาย"เอาจริงนะ ทำไมคุณไม่ไปต่อยนักสู้จากเผ่ากระหายเลือดล่ะ คุณเป็นผู้ชายแบบไหนกันถึงคิดจะต่อยผู้หญิงอย่างฉันแทนที่จะไปจัดการกับศัตรู? คุณนี้บ้ากันไปใหญ่แล้ว!”สกายไม่คิดเลยว่าอาเธอร์จะพูดอะไรแบบนั้นกับเธอ ในตอนที่เธอตอบโต้กับเขา ดวงตาของเธอแดงก่ำ และเธอรู้สึกเสียใจมากเสียจนเกือบจะร้องไห้"เอาน่า หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เอาอย่างนี้ดีไหม เราไปหาหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งกันเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง แล้วลองคุยกับเขาดูว่าจะได้ผลหรือเปล่า?”เฮนดริกแนะนำหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้"ถูกต้อง ปู่ของฉันและพ่อของคุณไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าจะทำให้หัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่งขุ่นเคืองใจ”ดวงตาของอาเธอร์เป็นประกายในทันที “แต่เราไม่กลัว แต่เรามันก็แค่คนตัวเล็ก ๆ ดังนั้นเราจึงไม่กลัวที่จะทำให้หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งขุ่นเคือง เราจะไปถามเขาตรง ๆ ถ้าเขาตกลงก็คงจะดี!”“พี่ใหญ่ นายน้อยอาเธอร์ อย่า อย่าหุนหันพลันแล่นนัก!”เอลล่าไม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1804

    “หัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่ง หัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่ง! เราพร้อมที่จะเคลื่อนพลแล้วเหรอ?”ขณะที่คำพูดของออสตินดังขึ้น ผู้อาวุโสสองสามคนก็พุ่งตัวเข้ามาและมองดูเขาใบหน้าของเขามืดลง “ผมไม่ได้ออกคำสั่ง ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีระฆังด้วย! ไปดูกันเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ ออสตินก็พาทุกคนบินไปยังจัตุรัสผู้คนจากป้อมปราการอื่น ๆ ต่างขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากที่พวกเขาได้ยินเสียงระฆัง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดที่ด้านหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง“ดูเหมือนว่าจะมีคนมาทางนี้ พวกเขาคือคนจากเผ่ากระหายเลือด!”หลังจากที่หัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่งและคนอื่น ๆ มาถึงจัตุรัส ทุกคนได้เห็นกับตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของหัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่งมืดลงหลังจากที่เขาเห็นสิ่งนี้ เขาตั้งใจจะเคลื่อนพลออกไปช่วยชีวิตคนอื่นในภายหลัง วิธีนี้จะช่วยไม่ให้พวกเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ผู้คนจากตำหนักคลื่นเมฆาก็จะมาถึงได้ทันเวลาแต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนพลออกไป ก็ไม่คาดคิดเลยว่าคนจากเผ่ากระหายเลือดจะนำกองกำลังมาเผชิญหน้ากับพวกเขาเสียเอง“หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง ทำไม ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่กันล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1805

    อาเธอร์พูดไม่ออก แต่เขาก็ทำได้แค่เงียบลง"หึหึ ออสติน คุณนี่เสแสร้งต่อหน้าผมได้เก่งจริง ๆ คุณฆ่าศิษย์จากเผ่าของเราไปมากมาย แต่ยังมีหน้ามาปฏิเสธอย่างนั้นรึ?”เอ็ดเวิร์ดหัวเราะเบา ๆ “ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ ก็มาสู้กันซึ่ง ๆ หน้าสิ” เขากล่าว “เผ่ากระหายเลือดไม่กลัวที่จะสู้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่การที่คุณแอบแทงข้างหลังเราแบบนี้มันมากเกินไป!”ออสตินพูดไม่ออก “หัวหน้าเผ่ากระหายเลือด คุณกล่าวหาผมทั้งที่ไม่มีมูลความจริงเลยด้วยซ้ำ” เขาอธิบายอย่างร้อนรน “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนจากดินแดนรกร้างที่คุณพูดถึงเลยสักนิด มีคนแอบเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์? พวกเขาเข้ามากันมากน้อยเท่าไหร่? ถ้าคุณไม่บอก เราคงไม่รู้เรื่องนี้เลย ศิษย์ของคุณตายด้วยอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทาง พวกเขาเข้ามากันเยอะรึไง?”เอ็ดเวิร์ดขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาไม่คิดว่าออสตินจะยังทำตัวงี่เง่าใส่เขาไม่เลิกราผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งจากเผ่ากระหายเลือดไม่ทนได้อีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงอาจมุ่งร้าย “ออสติน คุณจะหยุดแกล้งโง่ได้แล้วหรือยัง? ถ้าไม่ใช่เพราะคนของคุณ ศิษย์ขั้นที่สองและสามของระดับเทพสูงสุดของเราจะตายได้ยังไง?

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1806

    “แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง ถ้าผมโกหกแม้แต่นิดเดียวขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์อสุนีบาตใส่ผมมาได้เลย!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งกอดอกแน่น “คุณรอเดี๋ยวเถอะออสติน จะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แต่อีกเดี๋ยวเราจะเข้าไปในป่าและคนของเราจะจับคนที่ท่านส่งไปช่วยคนนอกพวกนั้น แล้วจะนำศีรษะของพวกเขากลับมาโยนใส่หน้าพวกคุณทุกคน ถ้าคนของคุณฆ่าศิษย์ของผม ฮึ่ม! เผ่ากระหายเลือดจะทำให้กองทัพทั้งเก้าราบเป็นหน้ากลอง!”"ดี ในเมื่อคุณพูดเช่นนั้น งั้นผมจะรอ!”ออสตินกำหมัดแน่นแล้วพูด "ไปกันเถอะ! เตรียมตัวเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย คนที่คุณส่งไปที่นั่นจะต้องตายอย่างอนาถแน่นอน จะไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!"ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็โบกมือให้ทุกคนออกไป“หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง ทำไมเราถึงไม่ต่อสู้กับพวกเขาล่ะ พวกเขามาถึงหน้าประตูเราแล้ว พวกเขาไม่ได้นำคนมามากมายอะไรด้วย แถมกำลังต่อสู้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในป่า ถึงพวกเขาจะรีบจากไปแต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายนาที เรามีคนมากมายและเราได้เปรียบเรื่องจำนวน นี่ถือเป็นโอกาสที่ดี!”หลังจากที่พวกเขาออกไป ชายชราก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและพูดกับหัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่ง “ไม่ช้าก็เร

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status