Share

บทที่ 974

Author: โมเนโต้
คืนนั้น เซเลน่ารู้สึกกังวลอย่างมาก เธอขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัดตอนที่นอนกับเฟนด์อยู่บนเตียง “ที่รัก คุณว่าพวกแชฟฟ์แมนจะกลับมาสร้างปัญหาให้เราไหม?”

สุดท้าย ตระกูลแชฟฟ์แมนก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลคาเลบมาก นี่คือตระกูลชนชั้นสอง และตระกูลชนชั้นสองจากเมืองนางแอ่นก็มีอำนาจมากกว่าตระกูลชนชั้นสองของเมืองเล็ก ๆ อย่างอาณาเขตกลาง

“ฮ่า ๆ ! ขึ้นอยู่กับความฉลาดของพวกเขาน่ะสิ ผมอดไม่ได้หรอกถ้าพวกนั้นกล้าพอที่จะมาสร้างปัญหาให้เราในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญอันแสนจะแข็งแกร่งอยู่ด้วย! ถ้าฉลาดพอ จะไม่มีท่าทีเผด็จการอย่างนั้นหรอก”

“สุดท้ายแล้ว เราก็เพิ่งมาถึงเมืองนางแอ่น และผมไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้ว่าเราเป็นใคร!” เฟนด์ตอบอย่างเฉยชาพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“ก็จริง” เซเลน่ายิ้มและวางศีรษะลงบนหน้าอกของเฟนด์ เธอเงยหน้าขึ้นและถามอีกครั้ง “ที่รัก เมื่อไหร่คุณจะไปหาพ่อคะ?”

ได้ยินเช่นนั้น เฟนด์ก็ยิ้มแหย “ทีหลังแล้วกัน ผมยังต้องตรวจสอบอย่างอื่นที่นี่อีก ที่รัก ที่นี่มีเกร็ดมังกรปรากฏขึ้นมา แล้วผมก็ค่อนข้างสนใจมัน ผมเลยมีแผนจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด”

“จริงเหรอ? โลกนี้มีเกร็ดมังกรด้วยเหรอเนี่ย?” เซเลน่าขมวดคิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 975

    ผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้ายิ้มอย่างขมขื่นขณะรายงานงานของเขา“พวกเขาออกไปอย่างเงียบ ๆ เหรอ?” ลิลลี่ไม่พอใจ “ผู้ชายคนนั้นตั้งใจจะกลับมาหาตระกูลวู๊ดหลังจากที่ไปรุกรานคนมีอำนาจที่เมืองจินมาหรือเปล่า? มันอาจจะหาที่หลบที่ตระกูลวู๊ด หลังจากโกรธเคืองเรื่องที่โดนทิ้งไว้อย่างไม่มีทางเลือกมากมายนัก มันอาจจะมาขอความคุ้มครองจากตระกูล!”“เราไม่รู้ครับ ผมได้ยินมาว่าพวกเขาแอบหนีออกไปกันตอนดึก และคนของเราก็หาไม่เจอ ผมกังวลว่าอาจจะกลับมาหาตระกูลวู๊ด ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมาถึงภายในสองวัน!” ผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้าไม่สบายใจกับเรื่องนี้ สุดท้ายเขาได้เงินที่เป็นของเฟนด์มามาก แล้วก็ยังได้จากลิลลี่อีกตระกูลลาโกริโอในตอนแรกนั้นแข็งแกร่งมาก ขณะที่นายน้อยคนโตมีความสามารถมากมาย ทุกคนมั่นใจว่าเขาจะได้เป็นนายท่านของตระกูลวู๊ด เขาเลยกล้าพอที่จะทำงานให้ลิลลี่ โดยคิดว่าเฟนด์ไม่มีโอกาสกลับมาอีกเขาไม่คิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ นั่นทำให้เขากังวลเขาคิดลอบฆ่าเฟนด์และโจแอนอย่างลับ ๆ เพื่อฝังทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่เขาไม่คิดว่าคนของเขาจะกลับมาด้วยมือเปล่า เฟนด์กับคนอื่น ๆ หนีออกไปจากอาณา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 976

    ขณะนั้น บอดี้การ์ดก็วิ่งเข้ามาและบอกเฟนด์ว่า “นายท่าน สาวสวยสองคนกำลังตามหาคุณอยู่ข้างนอก โอ้ใช่ แล้วก็คุณเซเลน่ากับคุณลาน่าด้วย”“เราสามคนเนี่ยเหรอ?” เฟนด์ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เดินไปพร้อมกับเซเลน่าเมื่อไปถึงทางเข้า พวกเขาก็คิดได้ว่าคือดาราดังสองคนที่อาศัยอยู่ข้าง ๆ “สวัสดีครับ มีอะไรให้เราช่วยไหม? เข้ามาก่อนสิ” เฟนด์เสนอขณะที่ยิ้มให้เบลคและธิอันน่า“เราจะไม่เข้าไป เราซาบซึ้งที่คุณช่วยเราเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้อากาศดีก็เลยอยากจะมาชวนคุณไปทานอาหารกันได้ไหมคะ?” เบลคยิ้มอย่างเขินอายและมองเฟนด์“ทำไมจะไม่ล่ะครับ แน่นอน! เราจะปฏิเสธคำเชิญจากสาวสวยได้ยังไงกัน? แน่นอน เป็นเกียรติมากที่ได้ทานอาหารร่วมกับคนดังสองคน!” เฟนด์พยักหน้าและตกลงธิอันน่ายืดแขนออกขณะที่ยิ้มแย้ม “งั้นก็ไปกันเถอะ คุณสองคนด้วยนะคะ บอดี้การ์ดไม่จำเป็นต้องพาไปเลย แบบนี้สบายกว่าเยอะ!”“เราต้องขับรถไปไหมคะ?” เซเลน่าถามหลังจากคิด“ไม่ต้องหรอกค่ะ มีร้านอาหารดี ๆ อยู่ไม่ไกล ฉันกับเบลคชอบไปทานอาหารที่นั่นตอนว่าง ๆ รสชาติกับบรรยากาศก็ดีมากเลย!” ธิอันอ่ายิ้มและนำไปพร้อมกับธิอันน่าไม่นานทั้งห้าคนก็มาถึงร้านอาหารดี ๆ แห่ง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 977

    แน่นอน ทุกคนในร้านอาหารเงียบเสียงลงถึงอย่างนั้น เฟนด์ที่นั่งอยู่ก็ได้ยินทุกอย่างชัดเจน และความเห็นเรื่องเบลคกับธิอันน่าก็ดังขึ้นมาเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะอยู่ในวงแบบนี้อย่างไรก็ตาม ผู้ชายหลายคนเดินผ่านพวกเขาไปข้างนอกร้านอาหารและไปมองสาวสวยที่อยู่กับเฟนด์มีตาของคนหนึ่งเป็นประกาย เขาวิ่งไปอีกฝั่งและแอบโทรหาผู้กำกับ “ผู้กำกับแวกเนอร์ ผมเห็นเบลคกับธิอันน่ากินข้าวอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้วก็ผู้หญิงอีกสองคน ทั้งหมดเป็นห้าคน และไม่มีบอดี้การ์ดอยู่เลย นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก!”แววตาของผู้กำกับแวกเนอร์ที่อยู่อีกฝั่งของสายโทรศัพท์เบิกตากว้างขึ้นมาอย่างพอใจ “จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย! ส่งที่อยู่มาเดี๋ยวฉันส่งคนไปจัดการเอง คราวนี้ดีกว่าเดิมแน่นอน ครั้งล่าสุดนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ จับผู้หญิงสองคนยังทำไม่ได้ แถมยังโดนกระทืบมา!”ชายที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ส่งตำแหน่งให้เขาทันทีชายคนนั้นรู้ดีว่าแม้ผู้กำกับแว็กเนอร์จะเป็นผู้กำกับที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างภาพยนตร์ แต่เขาก็ยังห่างไกลจากการเป็นคนดีและแถมยังถ่ายหนังแย่หลาย ๆ เรื่องอีกอย่างไรก็ตาม เพราะเขาคือนายน้อยที่ร่ำรวยจากตระกูลที่ร่ำ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 978

    ชายหัวล้านที่มีรอยสักบนหัว เหมือนว่าจะเป็นคนสำคัญในกลุ่มคนพวกนี้อีกคนที่ปากแหลมหน้าเหมือนลิงพูดกับชายหัวล้านว่า “เจ้านาย วิธีแก้ง่าย ๆ ก็คือทำไมเราไม่เอามาให้หมดในเมื่อพร้อมหมดแล้ว? ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาจับให้หมดไปเลยเถอะ! ฆ่าผู้ชาย แล้วอีกสี่คน... ก็ให้เบลคกับผู้กำกับแวกเนอร์และคนอื่น ๆ เก็บไว้เอง”“ฮ่า ๆ! ฉันชอบแผนนั้น! ทำไมที่รักอีกสองคนนี่เหมือนจะดูดีกว่าดาราสองคนนี้อีกนะเนี่ย” ชายหัวล้านพูดยิ้ม ๆ ขณะแสดงท่าทีหยาบคาย“เหมือนว่าผู้กำกับแวกเนอร์อะไรนี่จะค่อนข้างมีอำนาจนะ ฉันเคยทำโทษไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาขณะมองคนตรงหน้าเบลคกังวลเมื่อเห็นผู้ชายจำนวนมาก เธอคิดว่าพวกนี้คงจะเก่งกว่าคนก่อน ๆ เธอมองเฟนด์อย่างกังวล “ฉันขอโทษค่ะ เหมือนว่าจะทำให้พวกคุณเดือดร้อนอีกแล้ว มันยากที่จะจัดการกับพวก...พวกนี้!”เฟนด์ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องกังวลไปครับ พวกขยะ ผู้กำกับแวกเนอร์นี่อยากตายหรือยังไง พังไม่เป็นท่าแล้วยังจะมาลองอีกนะ ต้องสั่งสอนซะแล้ว!”“ผู้กำกับแวกเนอร์ไม่ใช่แค่ผู้กำกับเท่านั้นนะ ตระกูลเขารวยมากและเป็นถึงชนชั้นสาม! ไม่งั้นจะมีเงินลงทุนสร้างหนังห่วย ๆ ได้ยังไงกัน?

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 979

    ชายหัวล้านและคนอื่น ๆ โดนฆ่าตายเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เฟนด์กับลาน่าปล่อยพวกเขาไปผ่อนผัน“นั่น... แข็งแกร่งเกินไปไหม?” เบลคและธิอันน่าสูดหายใจเข้า น้อยครั้งนักที่พวกเธอจะได้เจอกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยความสามารถเช่นนี้“ฮ่า ๆ! ไม่มีอะไรหรอก!” เฟนด์หัวเราะและพูดกับคนที่นอนอยู่บนพื้นว่า “ฉันคือเฟนด์ กลับไปบอกนายน้อยแวกเนอร์แกให้เลิกกวนใจคุณเบลคและคุณธิอันน่าได้แล้ว พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ ก็ให้ระวังตัวไว้ในตลอดชีวิตที่เหลือ”ธิอันน่าและเบลคที่ยืนอยู่มองเฟนด์อย่างตกใจ เขาดูมีความควบคุมผู้ชายพวกนั้นได้อย่างเหลือเชื่อ ไปรุกรานคนพวกนั้นให้เธอ และยังสัญญาว่าจะปกป้องพวกเธออีก“ไปกันเถอะ ได้เวลากลับแล้ว” เฟนด์หันมายิ้มให้ก่อนเดินออกไปหลังจากที่เดินออกไป ชายคนหนึ่งก็รีบโทรหาผู้กำกับแวกเนอร์ “นายน้อยแวกเนอร์ เราเจอกับคนแข็งแกร่งเข้าให้แล้ว ผู้หญิงสวมหน้ากากกับผู้ชายที่แข็งแกร่งมาก เราสู้เขาไม่ได้ คนของเราไม่แม้แต่จะสู้ได้เลย แถมตายอย่างง่ายดาย มีรอดแค่ไม่กี่คนเท่านั้น!”“เป็นไปได้ยังไง? แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบหน้าของนายน้อยแวกเนอร์นิ่งลง กำห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 980

    ผู้อาวุโสจากตระกูลแวกเนอร์แสยะยิ้มกับคำพูดของนายน้อยแวกเนอร์ ดวงตาของเขาดูถูกเขาเกลียดคนที่ข่มเหงคนอื่น แต่เมื่อนึกถึงว่าเขาติดหนี้นายน้อยแวกเนอร์และตระกูลแวกเนอร์เอาไว้ ผู้อาวุโสก็เดินออกจากรถ"คนนี้เป็นใคร?" เฟนด์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ไกล ๆ“นายน้อยแวกเนอร์ หรือที่รู้จักในนามผู้กำกับแวกเนอร์! เขามาเร็วมาก!” เบลคมอง ใบหน้าของเธอนิ่งลงเล็กน้อย เธอไม่สบายใจที่พาปัญหามาให้เฟนด์“ดี ดีเลยที่มา มาสั่งสอนมันกันเถอะ มันจะได้ไม่คิดแต่เรื่องแย่ ๆ พวกนี้ทุกวัน คราวนี้จะเปลี่ยนให้มันเป็นขันทีไปเลยจะได้ไม่อยากได้ผู้หญิงตลอดเวลา” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาขณะมองผู้ชายพวกนั้น เขากำหมัดอย่างที่ชอบทำ“แกตายแน่วันนี้ กล้ามาท้าทาย ดีแลน แวกเนอร์!” ดีแลนเดินเข้ามาไม่ไกลจากที่เฟนด์อยู่และหยุด เขายิ้มเย็นชาขณะมองเซเลน่ากับลาน่าหัวจรดเท้า “ไอ้หนุ่ม แกทำได้ดีเลยนะวันนี้ มีแต่ผู้หญิงสวย ๆ อยู่รอบกาย แม้ว่าฉันจะเสียลูกน้องไปหลายคน แต่ก็เหมือนจะได้มากกว่าเสีย ฟังดูยุติธรรมไม่ใช่เหรอถ้าเราจะพาเบลคกลับไปด้วยวันนี้”“ใช่ นายน้อย มันเสียเปล่าแน่ถ้าคุณไม่ได้อีกสามคนที่เหลือ! ฮ่า ๆ !” บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ เริ่ม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 981

    “อะไรกัน?” ผู้อาวุโสไม่คิดเลยว่าเฟนด์จะไวกว่าเขาขนาดนี้ แถมยังหลบการโจมตีของเขาได้อีก ในขณะที่เขากำลังตั้งสติอีกครั้ง เฟนด์ก็เตะไปที่ท้องของเขา ตู้มมม! เสียงดังกึกก้องดังขึ้น ขณะที่ผู้อาวุโสโดนเตะจนกระเด็นไปข้างหลังหลายเมตร เขายืนหยัดบนพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มือเพื่อทรงตัว ฟิ้วว! อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาพยายามทรงตัว เขาสัมผัสได้ถึงความหวานที่พุ่งออกมาจากลำคอของเขา เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก หน้าของเขาซีดเผือด “เป็นไปไม่ได้! นั่นมันพลังอะไรกัน?” ดวงตาของดีแลนเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาเห็นผู้อาวุโสกระอักเลือด เขาอ้าปากกว้าง ราวกับว่าคางของเขาแทบจะแตะพื้น “พระเจ้า! แม้แต่ราชาสงครามเจ็ดดาราก็สู้เขาไม่ได้งั้นเหรอ!” ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ จากตระกูลแวกเนอร์ต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้อาวุโสคนนั้นคือหมากตัวสุดท้ายของพวกเขา และเขาก็เป็นสาเหตุที่ดีแลนกล้าอาละวาดออกมา อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสคนนี้ก็ติดหนี้บุญคุณพวกเขา และเขาก็วางแผนจะใช้ผู้อาวุโสให้เป็นประโยชน์ในเวลาคับขันเช่นนี้ ดีแลนไม่เคยหยิบโอกาสนั้นออกมาใช้เลย แต่คราวนี้เขาต้องใช้ เพราะคนส่วนใหญ่ในตระกูลของเขา และบอดี้การ์ดถูก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 982

    “ไอ้หนู ฉัน...ฉันเป็นนายน้อยของตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สามเลยนะ! นายฆ่าฉันไม่ได้นะโว้ย!” ขาของเขาย้วยเป็นวุ้น เขากลัวสุดขีด เขาอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ แต่ขาสองข้างไม่ให้ความร่วมมือ เฟนด์พลิกฝ่ามือของเขา และดาบสีดำก็ในมือของเขาก็ไร้ร่องรอย มันหายไปในอากาศ “ฉันไม่ฆ่านายหรอก” ดีแลนรู้สึกโล่ง เขายิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นั่นเป็นการเลือกที่ฉลาดมาก น้องชาย มีเพื่อนย่อมดีกว่าศัตรูอยู่แล้ว จริงไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายเป็นน้องของฉัน แล้วเราก็จะเป็นเพื่อนรักกัน นายควรรู้ไว้นะ ว่าเป็นเพื่อนกับตระกูลชนชั้นสุงระดับที่สามเนี่ย มีแต่จะเป็นประโยชน์กับนายทั้งนั้นแหละ!” ตูม! หลังจากที่ดีแล่นพูดจบ เฟนด์ก็กระทืบเท้าใส่ดีแล่น เหยียบไข่ของเขาจนแตก “อ๊าก!” ดีแลนคุกเข่าด้วยความเจ็บปวดทันที เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดสุดขีด สีหน้าของเขาซีดเผือด “ฉันว่าฉันจะไม่ฆ่านาย แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำให้นายเป็นขันทีนี่!” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดเสริมอย่างเกลียดชังว่า “ไปซะ ตอนนี้ ขันที นายควรเลิกเพ้อถึงผู้หญิงได้แล้ว ด้วยของขวัญแห่งการจากลานี่ไงล่ะ!” “ไอ้หนู แก... แก

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status