LOGIN
พลอยนภัส นักเรียนทุนโครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมไทย–อังกฤษ เธอใช้ชีวิตในต่างแดนมานานเกือบหนึ่งปีเต็ม วันที่ถึงกำหนดเดินทางกลับได้มาถึงเร็วกว่าที่เธอคิดไว้ เด็กสาวอำลาพ่อแม่บ้านอุปถัมภ์ด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่นและถ้อยคำซึ้งใจ ก่อนจะก้าวออกมาสู่ลมหนาวของเช้าวันนั้นด้วยหัวใจที่ยังอาวรณ์อยู่ไม่น้อย
แทนที่จะบินกลับไทยทันที แต่พลอยนภัสกลับเลือกที่จะทำตามความฝันของตัวเอง เธอตัดสินใจนั่งรถไฟยูโรสตาร์จากลอนดอนมุ่งหน้าสู่กรุงปารีส เมืองที่เธอใฝ่ฝันอยากเห็นด้วยตาของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก
การเดินทางครั้งนี้ไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล ไม่มีเพื่อนร่วมทาง มีเพียงแค่กระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ สำหรับเสื้อผ้าของเธอเพียงไม่กี่ชุด และกระเป๋าสะพายข้างใบจิ๋วที่เธอใช้เก็บของจำเป็นติดตัว
เสียงประกาศตามรายทางของสถานีรถไฟดังคลอเป็นระยะ ขณะที่ร่างบางนั่งประจำที่ริมหน้าต่าง มองทิวทัศน์ของกรุงลอนดอนค่อย ๆ ไหลผ่านไปอย่างสงบ เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและเป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขบวนยูโรสตาร์แล่นฉิวไปบนรางเหล็ก ก่อนค่อย ๆ ดิ่งเข้าสู่อุโมงค์ใต้ช่องแคบอังกฤษ เส้นทางยาวเหยียดที่เชื่อมสองประเทศเข้าหากัน ระหว่างสถานีเซนต์แพงคราสแห่งลอนดอนและสถานีปารีสนอร์ทของฝรั่งเศส
ภายในตู้โดยสารที่เงียบสงบ พลอยนภัสมองภาพสะท้อนของตัวเองบนกระจกหน้าต่าง พลางคิดถึงการเดินทางที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่แค่ปารีสเท่านั้น เมืองอื่น ๆ ในฝรั่งเศสที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านก็ชวนให้เธอจินตนาการถึงมัน
เมืองลีล เมืองที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปคลาสสิก ลียงที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร อาวีญงเมืองที่อบอวลด้วยกลิ่นอายความเป็นเมืองเก่า มาร์เซย์ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแม้แต่เส้นทางมุ่งสู่สกีรีสอร์ทในเทือกเขาแอลป์ที่เธอเห็นแต่ในรูปถ่ายก็ยังดูน่าหลงใหลเมื่อได้เห็นมัน แต่วันนี้...ปลายทางของเธอคือกรุงปารีส เมืองแห่งความรักความโรแมนติกที่รอให้เธอก้าวเข้าไปค้นพบด้วยหัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอก…
ปารีสยามเย็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินจับจ่ายใช้สอย ลมอ่อน ๆ พัดโชยกลิ่นหอมของครัวซองต์ที่อบใหม่จากเตาร้อน ๆ ภายในร้านเบเกอรี่ริมทางช่างยั่วน้ำลายไม่ใช่เล่น
ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและภาษาเดินกันควักไขว่เสียงดังจอแจ ท้องฟ้าพลบค่ำเหลือเพียงแค่แสงแดดอุ่น ๆ ตกกระทบเสื้อโค้ตสีเข้มของชายหนุ่มที่กำลังก้าวเดินอย่างผ่อนคลายประสานเข้ากับเสียงไวโอลินของนักแสดงเปิดหมวกกลางจัตุรัส
มังกรซีอีโอหนุ่มมาดเข้ม เขาเดินทางมาดูงานที่นี่ ก่อนกลับที่พักจึงแวะมาหาซื้อของฝากสำหรับคุณแม่และคุณป้า ชายหนุ่มหยุดมองร้านของที่ระลึกร้านหนึ่งบริเวณมุมถนน มืออีกข้างยังคงถือโทรศัพท์แนบหู น้ำเสียงแห่งความห่วงใยของผู้เป็นมารดาอบอุ่นดังลอดออกมา
พลอยนภัสแวะมาเยือนหอไอเฟลพร้อมกับเดินเลือกซื้อของฝากเล็ก ๆ น้อย แต่ราคาก็แพงเอาเรื่อง เธอจึงได้แค่หยิบมันดูเฉย ๆ จะขึ้นไปบนหอเฟลก็ไม่กล้าเพราะกลัวเงินที่สะสมมาจะไม่เหลือให้เธอได้จ่ายเป็นค่าที่พักและตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ แต่เพียงแค่เห็นบรรยากาศของที่นี่ เด็กสาวรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝันที่เป็นจริงแล้ว และไม่รอช้าเธอรีบหยิบมือถือในกระเป๋าสะพายมาถ่ายเซลฟี่ตัวเองกับหอไอเฟลทันที จากนั้นจึงขึ้นรถแท็กซี่ไปเดินทอดน่องที่ถนนคนเดินในย่าน Le Marais ที่ที่เต็มไปด้วยร้านบูติกเก๋ๆ แกลเลอรีศิลปะ และร้านขายของฝากน่ารักๆ ตามที่ได้ศึกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดี
หลังลงจากรถแท็กซี่เด็กสาวหยุดเดินเมื่อได้กลิ่นหอมอบอวลออกมาจากร้านน้ำหอมแห่งหนึ่ง เด็กสาวใช้เวลาอยู่นานอยู่กับการเลือกซื้อน้ำหอมในแต่ละกลิ่น เธอตั้งใจว่าจะนำมันไปเป็นของฝาก
“คุณแม่อยากได้อะไรเป็นของฝากดีครับ น้ำหอม หรือว่า....ของที่ระลึกดี” มังกรถามพลางยิ้มอ่อนขณะยืนเลือกน้ำหอมที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ก่อนจะเห็นพลอยนภัสเดินผ่านหน้าไป เขาถูกชะตาและก็ถูกใจเธอราวกับว่ามันเป็นพรหมลิขิต เธอคือคนที่ใช่สำหรับเขาอย่างไม่ต้องคิด
“แม่อยากได้ลูกสะใภ้...ถ้าแน่จริงล่ะก็เอามาฝากแม่สักคนสิ” เสียงคุณแม่สายหยุดตอบกลับทันที ช่างตรงจังหวะอะไรเช่นนั้น ทำให้มังกรหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้ง
“โธ่แม่!!…อย่าล้อผมเล่นแบบนี้สิครับ มาปารีสแค่ไม่กี่วันเอง จะไปหาลูกสะใภ้ให้แม่ได้ทันยังไงล่ะครับ”
“แล้วถ้าแม่หาลูกสะใภ้ให้ลูกได้ล่ะ ลูกจะว่ายังไง” น้ำเสียงของผู้เป็นมารดาดูจริงจังและเจ้าเล่ห์นิด ๆ
“แม่ครับ…” เขาลากเสียงอย่างอ่อนใจ แต่สายตายังคงเฝ้ามองหญิงสาวที่เขาถูกใจเมื่อสักครู่
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมยังไม่พร้อมครับ เอาไว้กลับไทยเราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะครับ”
“ก็ได้จ้ะ แต่กลับเมืองไทยคราวนี้ ลูกต้องจริงจังได้แล้วนะ...มังกร” เสียงปลายสายเหมือนกำลังพูดบังคับลูกชายทางอ้อม มังกรเบิกตากว้างเมื่อแอบมองเห็นใบหน้าของเธอชัด ๆ
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวก่อนกลับผมจะหิ้วสาวจากปารีสไปฝากแม่สักคน” เขาตอบผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงทะเล้น เมื่อเห็นใบหน้าสวย ๆ ของเธอ
“จะบ้าหรือไงตากร! ดูพูดเข้า!” คุณแม่สายหยุดขึ้นเสียงนิด ๆ แต่ยังฟังแล้วอบอุ่นเหมือนเดิม
“ผมล้อเล่นครับ ๆ” เขารีบหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะมองหาเด็กสาวที่เขาถูกชะตาเมื่อสักครู่ และไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนเสียแล้ว
“ว้า!!!.. แย่จังเมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย” เขาพึมพำ พลางมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นแม้เงาของเธอ ชายหนุ่มเดินมาหยุดใจกลางเมือง มองไปรอบ ๆ เมืองหลวงแห่งแฟชั่นด้วยหัวใจที่เหมือนถูกอะไรบางอย่างเรียกหา
หลังจากเลือกซื้อน้ำหอมเสร็จเรียบร้อยเด็กสาวก็เดินไปยังร้านมาการองชื่อดังอย่าง Ladurée ที่มีผู้คนยืนต่อแถวกันยาวเหยียด พลอยนภัสอดใจไม่ไหวกับสีสันสดใสของขนมหวานชิ้นเล็กๆ เหล่านั้น
เธอจึงไปยืนต่อแถวซื้อมาการองหลากรส จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงความเย็นจากอากาศที่เริ่มลดลง ไม่นานนักพลอยนภัสก็ได้มาการองสำหรับบรรเทาความหิว เด็กสาวจึงเดินหาร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นเพื่อพักทานมื้อเย็นพร้อม ๆ กับมาการองในมือ
เด็กสาวเลือกเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ มีผ้าปูโต๊ะลายตารางหมากรุกสีแดงขาว โคมไฟระย้าที่ให้แสงสลัวๆ ซึ่งดูแล้วราคาอาหารน่าจะไม่แพง
“แค่นี้ก่อนนะครับแม่ ผมจะหาอะไรกินสักหน่อย เดี๋ยวจะมืดแล้ว แม่อย่านอนดึกนะครับ” มังกรรีบเอ่ยบอกมารดา น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเพราะในวินาทีนั้น สายตาของเขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านเล็ก ๆ ตรงมุมถนน คนที่เขาอุตส่าห์ตามหาอยู่นาน
“จ้ะลูก… เดินดี ๆ นะจ๊ะ อย่าไปเผลอเตะอะไรของใครเค้าล่ะ” ปลายสายหัวเราะเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“ครับ… ฝันดีนะครับแม่”
เมื่อกดวางสาย เสียงสัญญาณเงียบลง มังกรเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อโค้ตอย่างลวก ๆ แต่สายตาของเขายังคงไม่ละจากเด็กสาวที่นั่งอยู่หลังกระจกใสบานนั้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ลมเย็นเฉียบพัดปะทะใบหน้าเรียบคมของเขา ปลายผมสีเข้มสะบัดไหวเช่นเดียวกับท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนจากสี เขาไม่รู้ว่าเพราะอากาศเย็นจัด หรือเพราะภาพของเด็กสาวที่กำลังจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างเงียบงันทำให้หัวใจเขาพลันเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ราวกับโชคชะตากำลังพาเขาให้พบเธออีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะต้องทำความรู้จักกับเธอให้ได้
พลอยนภัสค่อย ๆ เป่าไอร้อนเหนือถ้วยซุปหัวหอมฝรั่งเศส ก่อนจะตักชีสที่เยิ้มจนแทบล้นขอบขึ้นมาชิมด้วยความตื่นเต้น รสเข้มข้นกับกลิ่นหอมละมุนทำให้เธอหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ข้าง ๆ กันคือบาแกตต์ที่กรอบกำลังดี เมื่อกัดเข้าไปก็เผยความนุ่มอุ่นด้านใน จนเธอรู้สึกเหมือนหัวใจอิ่มตามไปด้วย และเพื่อคลายลมหนาวที่พัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอเลือกสั่งเครื่องดื่มอุ่น ๆ มานั่งจิบ
“เดี๋ยวพลอยไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับ เราจะต้องไปสถานทูตกัน แล้วพี่จะพาไปพลอยไปทานมื้อเช้าที่ร้านเดิมก่อนขึ้นเครื่อง” เขาบอกพลางยิ้มให้เธอพลอยนภัสพยักหน้า แต่แววตายังเต็มไปด้วยความไม่อยากจาก เธอหลับตาพิงอกของเขาเพื่อเก็บความรู้สึกอบอุ่นนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“พี่กร… ถ้าไปถึงไทยแล้ว พี่อย่าหายไปนะคะ” มังกรชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนจะก้มลงกดจูบที่หน้าผากเด็กสาว“พี่จะไม่มีวันหายไปจากชีวิตของพลอยหรอก เชื่อใจพี่นะ เดี๋ยวพลอยเอาโทรศัพท์เครื่องนี้ไปใช้เลยนะ แล้วเราก็แลกไลน์กันเอาไว้”“อ่าว!!..แล้วที่ทำงานพี่ล่ะคะ เครื่องนี้พี่เอาไว้ติดต่องานไม่ใช่เหรอคะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปพี่ให้เค้าซื้อใหม่ก็ได้” เด็กสาวน้ำตาเธอคลอโดยไม่รู้ตัว เขาประคองใบหน้าเธอให้เงยขึ้นสบตา แววตาคมเข้มของเขามีทั้งความรัก ความห่วงใย และความตั้งใจจริงที่ทำให้หัวใจสั่นไม่หยุด“อยากให้พี่อาบน้ำด้วยมั้ย” เธอหน้าแดงทันทีในอ้อมกอดของเขา“พี่ไม่อาบน้ำตอนเช้าไม่ใช่เหรอคะ”“พี่เปลี่ยนใจแล้ว ถ้าอยู่กับพลอยพี่จะอาบทุกวันเลย” เธอรู้ว่า… เขาหมายถึงอะไร เด็กสาวพยักหน้าแล้วรีบจูงมือของแฟนหนุ่มเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน7.00
มังกรสูดลมหายใจที่ร้อนผ่าว ก่อนจะฝังใบหน้าลงไปอย่างหิวกระหาย ลิ้นร้อนชื้นดูดเลียอย่างหนักหน่วงและยาวนาน เป็นการเริ่มต้นบทรักบนเตียงที่เขาคิดว่า...มันน่าจะเป็นคืนสุดท้ายในปารีส“เราจะไม่อาบน้ำกันก่อนเหรอคะ พี่กร..อื้อ!!!” เด็กสาวพูดไปครางไป เมื่อมือของมังกรเริ่มลูบไล้ที่บั้นเอวของเธอไปพร้อม ๆ กับการออรัลเซ็กซ์“พี่ขอก่อนได้มั้ย...เมียจ๋า” มังกรเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า แล้วก้มลงสูดดมกลิ่นกายหอมหวานของเธออย่างต่อเนื่อง“พี่ยังกินพลอยไม่อิ่มอีกเหรอคะ” เธอถามอย่างอ่อนแรง แต่ดวงตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความยินดี“พี่ยังไม่อิ่ม แล้วก็ไม่มีวันอิ่มด้วย...ที่รัก” มังกรตอบ“กลับไปพลอยสัญญาว่าจะให้พี่เอาสดค่ะ แต่ตอนนี้พลอยขอให้พี่ใส่ถุงก่อนนะคะ” พลอยนภัสรีบบอกแฟนหนุ่ม“น่ารักที่สุดเลย เมียพี่” มังกรชมอย่างพึงพอใจซีอีโอหนุ่มซบหน้าสัมผัสความอิ่มเอิบบนกลีบกุหลาบอันเนียนนุ่มอย่างมีความสุข ปลายลิ้นอุ่นร้อนแตะลงบนจุดศูนย์กลางแห่งความปรารถนา พลอยนภัสถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความเสียวซ่านอีกครั้ง ร่างกายของเธอบิดเร่าไปมาบนผ้าปูเตียงนุ่ม ความสุขจากสัมผัสของเขาเหนือกว่าความต้องการที่จะอาบน้ำชำระร
มังกรโอบร่างเธอไว้แน่น เขาจัดท่าให้พลอยนภัสนั่งคร่อมอยู่บนหน้าขาของเขา ในท่าวูแมนออนทอป โดยที่ตัวเธอหันหน้าเข้าหาเขา แม้พื้นที่บนเบาะหลังจะจำกัด แต่ท่วงท่านี้ก็ทำให้ทั้งสองสามารถสบตากันได้ในขณะร่วมรักเพื่อเพิ่มอารมณ์ที่แสดงออกทางสายตา แผ่นหลังกว้างของมังกรพิงเบาะแถวสามอยู่ ส่วนเบาะแถวสองนั้นถูกพับเรียบสนิทเพื่อพื้นที่ของกิจกรรมสุดเร่าร้อน และท่านี้ก็ทำให้พลอยนภัสสามารถกำหนดจังหวะได้ด้วยตัวเองซึ่งจะทำให้เธอเจ็บน้อยลงอย่างที่เด็กสาวต้องการแก่นกายที่ร้อนผ่าวอยู่ในถุงยางเป็นที่เรียบร้อย มือเรียวกอบกุมจ่ออยู่ที่ปากทางเข้าของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ทิ้งสะโพกอวบลงมาอย่างช้า ๆ เพื่อดูดกลืนแก่นกายของเขาเข้ามาในตัว“อ๊า!!!!...มันแน่นมาเลยพี่กร” พลอยนภัสครางต่ำเมื่อถูกความใหญ่โตของมังกรเติมเต็มเข้ามา ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่มกระจายไปทั่วท้องน้อย“เป็นไงบ้าง... ให้พี่ช่วยไหม” มังกรกระซิบถาม มือของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนเปลือยเปล่าของเธอ“ไม่ค่ะ... เดี๋ยวพลอยจะทำเองค่ะ แป๊บนะคะ” เด็กสาวสูดหายใจลึก ๆ เพื่อระงับความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลือ“ยังเจ็บอยู่เหรอ”“มันไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ” เธอบอกให้เขาสบา
มือหนาเคล้าคลึงอยู่ที่เต้าอวบใหญ่เต็มไม้เต็มมือ พลอยนภัสเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของมังกรออกทีละเม็ด เพื่อให้รู้ว่าเธอเองไม่ได้ปฏิเสธเขา มังกรดึงเสื้อออกจากตัวโชว์แผงอกกว้างเปล่าเปลือย อวดความแข็งแรงบึกบึนมือหนาเลื่อนชุดเดรสรัดรูปไหมพรมของพลอยนภัสขึ้นไป เด็กสาวยกแขนให้มังกรรูดมันออกทางศีรษะอย่างง่ายดาย เต้าอวบซ่อนอยู่ในบราเซียสีขาว มือหนาอ้อมไปปลดตะขอด้านหลังและดึงบราเซียตัวนั้นออก เต้านมอวบของเธอเป็นอิสระโชว์ความอวบใหญ่โดยไม่มีอะไรปกปิดอีกแล้ว มังกรจ้องมองอย่างหลงใหล“สวยเหลือเกินนางฟ้าตัวน้อยของพี่” สิ้นเสียงพึมพำมังกรก็ก้มลงดูดกลืนยอดปทุมถันสีชมพูอ่อน พลอยนภัสร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านในอารมณ์ เธอแอ่นอกให้มังกรดูดเลียอย่างเต็มใจ มือเรียวเกาะกุมอยู่ที่ศีรษะของเขาแน่นซีอีโอหนุ่มไล้เลียจากเต้าซ้าย ย้ายไปยังเต้าขวา สลับกันไปมาพร้อม ๆ กับการนวดคลึง แต่บางครั้งเขาก็รัวลิ้นที่ปลายถันสีสวยของเธอก่อนจะดูดดึงขึ้นมาเบาๆ เด็กสาวที่ไร้ประสบการณ์อย่างพลอยนภัสเจออย่างนี้เข้าเธอก็ตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของเขา“อ๊า!!!! พี่กรขา เสียวจัง อื้มมม!!!” เธอครางเสียงกระเส่า น้ำลายมังกรเปื้อนเปรอะ
บรรยากาศดินเนอร์ยามค่ำคืนยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นไวน์อยู่ในลมหายใจของทั้งสอง แสงไฟของกรุงปารีสสาดส่องเข้ามาในรถแวนคันหรูที่มังกรเช่าไว้ขับ แต่บางครั้งเขาก็ใช้มันเป็นที่พักผ่อนระหว่างการเดินทางไกล แต่ตอนนี้มันคือสถานที่ส่วนตัวสำหรับเขาและพลอยนภัสที่จะเข้ามาหลบฝนด้วยกันพลอยนภัสพยายามจะเปิดประตูท้ายรถเพื่อเอาชุดสวย ๆ ที่ซื้อมาเข้าเก็บด้านหลัง แต่ประตูนั้นกลับไม่ตอบสนอง ฝนปรอย ๆ ทำให้ทั้งคู่เริ่มเปียก“แปลกจัง ประตูน่าจะเสีย” มังกรบ่นพึมพำ เมื่อลองดึงมือจับอีกครั้งก็ยังคงแน่นสนิท“เข้าจากทางเบาะหลังก็ได้ค่ะพี่กร” พลอยนภัสเดินอ้อมไปด้านข้างเพื่อเปิดประตูแถวสองก่อนจะเข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล เนื่องจากชุดที่เธอสวมใส่อยู่ค่อนข้างรัดรูป เด็กสาวเอื้อมมือจากเบาะหลัง เพื่อเอาถุงเสื้อผ้าไปวางไว้ด้านท้ายมังกรยืนมองดูการเคลื่อนไหวที่โค้งเว้าของแฟนสาวอย่างไม่วางตาก่อนจะก้าวตามเธอเข้ามาอย่างเร่งรีบ เรือนร่างที่งดงามและยั่วยวนของพลอยนภัสถูกขับเน้นให้โดดเด่นท่ามกลางแสงสลัวยามค่ำคืน“ฝนไม่เป็นใจให้เราไปถนนคนเดินเลยนะคะพี่กร” พลอยนภัสบ่นอุบขณะที่เธอต้องนั่งหลบฝนอยู่เบาะหลัง เด็กสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามา
16.00 น.หลังจากโพสต์ท่าถ่ายรูปเสร็จ ทั้งสองก็เดินควงกันแบบไม่อายสายตา ลมอ่อน ๆ จากแม่น้ำแซนพัดผ่านเข้ามาในสวนตุยเลอรี กลิ่นดอกไม้ในสวนที่ร่มรื่น เมฆครึ้มไม่มีแสงแดดรบกวน พลอยนภัสเลือกโปสการ์ดภาพหอไอเฟลยามพระอาทิตย์ตก เธอยิ้มบาง ๆ ขณะลูบผิวกระดาษอย่างเบามือราวกับกำลังสัมผัสความฝันที่จับต้องได้ทั้งสองเดินกลับมานั่งบนม้านั่งตัวเดิม พลอยนภัสหันมองในหน้าของชายคนรักพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น“เราเขียนส่งหากันดีมั้ยคะพี่กร พลอยส่งหาพี่ แล้วพี่ก็ส่งหาพลอย” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น เธอต้องการที่จะเก็บไว้เป็นความทรงจำ มังกรเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม“แต่พี่ยังไม่มีที่อยู่ของพลอยเลยนิ” เธอหัวเราะเบา ๆ“ก็ไม่เห็นจะยากเลยนี่คะ พี่ก็เขียนที่อยู่ของพี่บนภาพที่พลอยเลือกสิคะ ม่ะ... เดี๋ยวพลอยเขียนที่อยู่ของพลอยในโปสการ์ดของพี่เองแลกกัน แต่พลอยขอเขียนก่อนนะคะ เพราะปากกาพลอยเอาติดมาแค่แท่งเดียว”มังกรมองเด็กสาวที่ก้มหน้าค้นปากกาในกระเป๋าหรูที่เขาซื้อให้เธอเมื่อวันก่อน เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความหลงใหลอย่างห้ามไม่อยู่ แม่ของเด็กคนนี้จะรู้บ้างไหม…ว่าลูกสาวของเธอได้กลายเป็นเมียของเขาไ