มาเฟียหนุ่มเดินอุ้มงูเผือกออกมาจากห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเขาอยากจะเข้าไปขย้ำหญิงสาวให้แหลกคามือโทษฐานที่ทำให้เขาโดนผู้เป็นพ่อดุแต่ก็ทำได้เพียงข่มอารมณ์เอาไว้เวลานี้คงไม่เหมาะเพราะเขาเพิ่งสร้างเรื่องมาทุกคนคงจับตาดูอยู่
"มังกร" ขณะที่มาเฟียหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าลงบันใดเสียงของพีชผู้เป็นแม่ที่เดินออกมาจากห้องหญิงสาวพอดีก็ร้องเรียกเขาเอาไว้ มาเฟียหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนหมุนตัวกลับไปถามด้วยน้ำเสียงห้วน "อะไรอีกม๊า" "ตามม๊ามาคุยที่ห้องโถงใหญ่หน่อย" พีชเอ่ยก่อนเดินลงบันใดไป "อะไรกันนักหนาวะน่าเบื่อชิบหาย" เสียงทุ้มสบถคำหยาบออกมาระคนหัวเสียมือหนายกขึ้นยีผมตัวเองจนยุ่งเหยิงก่อนก้าวเท้าเดินตามผู้เป็นแม่ไป "นั่งลง!" พีชตวัดสายตามองบุตรชายที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าก่อนออกคำสั่งเสียงแข็ง แต่มาเฟียหนุ่มหาได้สะทกสะท้านไม่ยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น "จะด่าก็รีบด่าเถอะม๊า" "ม๊าไม่ด่าแต่ม๊าจะคุยด้วยเหตุผล" พีชส่ายหน้าอย่างเอืือมระอากับนิสัยของบุตรชาย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบเธอไม่อยากเอาอารมณ์เข้าพูดกับบุตรชายเพราะยิ่งเธอแรงใส่บุตรชายก็จะยิ่งต่อต้านเธอเหมือนที่ต่อต้านผู้เป็นพ่อ และก็เหมือนที่เธอคิดไว้มาเฟียหนุ่มเริ่มมีสีหน้าและน้ำเสียงอ่อนลงจากเดิมถนัดตา "งัั้นก็พูดมาเถอะครับ" "ลูกไปแกล้งหนูเหมยทำไม" เมื่อเห็นว่าบุตรชายมีท่าทีสงบลงพีชจึงเริ่มบทสนา "ผมไม่อยากหมั้นกับเธอม๊าช่วยผมได้ไหมละ ถ้าไม่ผมก็จะทำตามวิธีของผม ผมจะทำทุกวิธีทางให้เธอกลัวจนต้องหนีเตลิดออกไปจากที่นี่" มาเฟียหนุ่มเอ่ยเสียงแข็งดวงตาคมกริบแข็งกร้าวขึ้นในทันตาเพียงแค่ได้ยินชื่อของหญิงสาวอารมณ์ที่กำลังจะสงบลงก็ปะทุอีกครั้ง "หยุดความคิดบ้า ๆ มังกร" "ผมไม่หยุดและใครก็ห้ามผมไม่ได้ด้วย" "ม๊าจะไม่ยอมให้มังกรรังแกหนูเหมยได้ง่าย ๆ แน่" พีชประกาศเสียงกร้าวซึ่งคำพูดของเธอสร้างความไม่พอใจให้มาเฟียหนุ่มเป็นอย่างมากยิ่งทุกคนพยายามปกป้องเขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธหญิงสาวมากขึ้นไปอีก "มีเรื่องอะไรกันคะม๊า เฮีย" เสียงถกเถียงของทั้งสองคนทำให้หงส์ฟ้าที่เพิ่งเดินเข้ามาในคฤหาสน์ต้องชะงักฝีเท้าแล้วเดินเข้าไปถามทั้งสองคนด้วยความสงสัย "ถามพี่ชายตัวดีของลูกสิไปทำอะไรกับว่าที่พี่สะไภ้เอาไว้" พีชตวัดสายตามองบุตรชายแวบหนึ่งก่อนจะแสสายตามองหน้าบุตรสาวแบบเหนื่อย ๆ "เรื่องอะไรเฮีย" หงส์ฟ้าเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ผู้เป็นแม่สื่อทางสายตาจึงหันไปถามผู้เป็นพี่ชายแทนแต่ก็ได้รับคำตอบชวนโมโหกลับมา "ยุ่ง!" มาเฟียหนุ่มตวัดสายตาขุ่นเคืองมองหน้าน้องสาวอย่างไม่พอใจก่อนจะลุกเดินออกไปทิ้งให้น้องสาวยืนหน้าหงิกหน้างออยู่คนเดียว "ชิ!...ไปถามพี่สะไภ้เองก็ได้" หงส์ฟ้ามองตามหลังพี่ชายอย่างงอน ๆ ก่อนเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงข้างผู้เป็นแม่ "ม๊าละเหนื่อยใจกับนิสัยใจคอพี่ชายลูกจริง ๆ เลยหงส์อย่าเอานิสัยแบบนั้นมาใช้นะลูก" พีชเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นลูบผมบุตรสาวด้วยความเอ็นดู "หนูไม่มีวันเป็นแบบเฮียแน่ ๆ ค่ะ..หนูรักม๊าน่าาา" หงส์ฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแขนเล็กยกขึ้นสวมกอดผู้เป็นแม่หลวม ๆ "โตแล้วยังจะอ้อนม๊าอยู่อีกมีแฟนหรือยังละเรา" "ไม่มีค่ะหนูไม่รีบหนูจะอยู่เกาะม๊าเกาะป๊าไปนาน ๆ เลย" "ฮ่าฮ่า...เราเนี่ยนะโตแต่ตัวจริง ๆ ปีนี้ก็เรียนจบแล้วทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ซะบ้าง" พีชระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินคำพูดใสซื่อของบุตรสาวปีนี้เธอก็อายุย่างเข้า 22 ปีแล้วแต่ยังทำตัวเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด "ไม่อะหนูไม่อยากโต" "จริง ๆ เลยนะเรา" พีชยกมือขึ้นยีผมบุตรสาวที่นั่งซบไหล่เธอด้วยความมันเขี้ยว "งั้นหนูขึ้นไปหาว่าที่พี่สะไภ้ก่อนนะคะ" หงส์ฟ้านั่งซบไหล่ผู้เป็นแม่อยู่อย่างนั้นนานเกือบสองนาทีก่อนผละออกแล้วลุกเดินขึ้นบันใดตรงไปยังห้องว่าที่พี่สะไภ้ ก๊อก! ก๊อก! มือเล็กยกมือขึ้นเคาะประตู 2-3 ครั้งก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะเมื่อไร้เสียงตอบจากเจ้าของห้อง สายตาคมกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็ไร้เงาเธอจึงเปล่งเสียงทักทาย "สวัสดีค่ะพี่สะใภ้" "ซวยแล้วเอาไงดี" เหมยเมยที่กำลังล้างหน้าล้างตาอยู่ในห้องน้ำถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกของหงส์ฟ้า เธอเดินวนไปมาในห้องน้ำอย่างกระวนกระวายหากเธอออกไปหงส์ฟ้าคงจำเธอได้แน่ ๆ "พี่สะไภ้อยู่ไหมคะ" เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้งทำให้เหมยเมยที่กำลังเดินวนไปมาชะงัก เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีตัดสินใจเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับหงส์ฟ้า "สวัสดีจ้ะ" เธอเดินมาหยุดตรงหน้าหงส์ฟ้าแล้วทักทายกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ทำไมหงส์คุ้น ๆ หน้าพี่จัง" หงส์ฟ้าขมวดคิ้วเป็นปมเชิงสงสัยเมื่อได้เห็นใบหน้าของว่าที่พี่สะใภ้ สายตาคมจับจ้องคนตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณาทั้งหน้าตาและรูปร่างเหมือนคนคนหนึ่งที่เธอรู้จักเอามาก ๆ "พี่เหมย" ก่อนที่เธอจะเปล่งเสียงออกมาด้วยความดีใจเมื่อนึกได้ว่าคนตรงหน้าเหมือนใครและแน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร "น้องหงส์จำพี่ได้" เหมยเมยถึงกับหน้าถอดสี ใจดวงน้อยเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอกสุดท้ายความลับที่เธอพยายามปกปิดก็ถูกเปิดเผย "จำได้สิคะ...ว่าแต่ทำไมพี่เหมยต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยละคะ" หงส์ฟ้ามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนถามด้วยความไม่เข้าใจ "พี่มีเหตุผลน้องหงส์อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครนะ" "แต่..." หงส์ฟ้าถึงกับกระอักกระอ่วนสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินขอพูดของว่าที่พี่สะไภ้เพราะคนที่หญิงสาวให้ช่วยปกปิดความจริงก็เป็นคนในครอบครัวของเธอและอีกคนก็เป็นรุ่นพี่ที่เธอเคารพรักเหมือนพี่สาว "พี่ขอร้องได้ไหมอย่าบอกใครนะน้องหงส์" เหมยเมยที่เห็นท่าทางลังเลของหญิงสาวรีบเอ่ยขอร้องเธออีกครั้ง มือเล็กเอื้อมไปจับมือของอีกคนมากุมไว้หลวม ๆ "ก็ได้ค่ะ" สุดท้ายหงส์ฟ้าก็ต้องตกปากรับคำหญิงสาวอย่างจำใจเพราะทนต่อแรงรบเร้าและท่าทางน่าสงสารของเธอไม่ไหว "ขอบใจมากนะน้องหงส์" หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมาก่อนสวมกอดคนตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ "ค่ะ...หงส์ดีใจมากเลยที่พี่สะไภ้ของหงส์คือพี่เหมย" หงส์ฟ้าเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมกับกอดตอบ "จ้ะพี่ก็ดีใจ" เหมยเมยเอ่ยด้วยความจำใจเพราะไม่อยากหักหาญน้ำใจคนที่ดีกับเธอได้ "งั้นหงส์ไม่รบกวนแล้วพี่เหมยพักผ่อนเถอะค่ะ" หลังจากพูดคุยกันจนเข้าใจหงส์ฟ้าจึงขอแยกตัวกลับเพื่อให้ว่าที่พี่สะไภ้ได้พักผ่อน "ยังไม่ทันได้เริ่มก็ความแตกซะแล้วยัยเหมยเอ๋ย" หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อหงส์ฟ้าออกไปแล้วอย่างน้อยหงส์ฟ้าก็ยังช่วยเธอปกปิดเรื่องปลอมตัว และตอนนี้เธอต้องคิดหาวิธีทำให้มาเฟียหนุ่มยอมถอนหมั้นกับเธอโดยเร็วที่สุดก่อนความลับจะถูกเปิดเผยมาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะออกแรงดึงแขนเล็กออกจากนั้นจึงหันกลับมามองใบหน้าสวยอย่างคาดโทษ"ฉันไม่ได้จะทำให้คุณโกรธฉันแค่อยากกลับจีนด้วย" คนโดนจ้องรีบหลุบหน้าลงต่ำพูดแก้ตัวเสียงแผ่วเบาแทบจะขาดหาย"ผมพาคุณกลับแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" มือหนาจับร่างบางยกขึ้นอุ้มพาดบ่าพาเดินเข้าห้องทันทีที่พูดจบ "คุณปล่อยฉันลงนะ" เสียงหวานร้องท้วงดังลั่นพร้อมทั้งดีดดิ้นไปด้วยจนมาเฟียหนุ่มต้องฟาดผ่ามือลงบนก้นงามงอนด้วยความมันเขี้ยว "ตั้งแต่หายป่วยรอบนี้ใจกล้าขึ้นเยอะนะเหมยเมย"ร่างบางถูกวางลงบนเตียงเบา ๆ พร้อมกับร่างของคนตัวสูงที่ตามมาทาบทับเธอไว้"ลุกออกไปฉันหนักมังกร" มือเล็กยกขึ้นดันไหล่คนตัวสูงที่ทุ่มน้ำหนักทาบทับบนตัวเธอจนรู้สึกหายใจลำบากให้พ้นตัว แต่แรงอันน้อยนิดไม่ได้ทำให้คนด้านบนสะเทือนเลยสักนิด"..." มาเฟียหนุ่มยังคงทาบทับเธออยู่แบบนั้นจับจ้องใบหน้าสวยด้วยแววตาแทะโลม ทว่ากลับแฝงไปด้วยอบอุ่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างบางลอบกลืืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมาด้วยความประหม่าภายในใจเต้นโครมครามเพราะแอบลุ้นว่าคนด้านบนจะทำอะไรกับเธอภายในห้องถูกปกคลุมไ
เหมยเมยนอนถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าในอ้อมกอดคนตัวสูง ก่อนค่อย ๆ ชำเลืองมองเสี้ยวหน้าคมเมื่อลมหายใจของเขาดังสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าเขาหลับสนิทแล้วเธอค่อย ๆ ยกแขนแกร่งที่พาดอยู่บนลำตัวออกอย่างระวังและเบามือที่สุดเพราะกลัวเขาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ขาเรียวเล็กก้าวลงจากเตียงอย่างระมัดระวังก่อนจะรีบส่าวเท้าออกไปจากห้องเดินตรงไปยังชั้นล่างของบ้าน“พี่ซุนหนี่เหมยขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ” เธอเดินเข้าไปหาซุนหนี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงแล้วเอ่ยขึ้น ใจดวงน้อยลุ้นระทึกกับคำตอบเป็นอย่างมากเพราะซุนหนี่ก็เป็นคนของมาเฟียหนุ่มไม่รู้ว่าเธอจะยอมให้ยืมโทรศัพท์ไหม หรือจะเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้เป็นเจ้านายหรืเปล่า“พี่ให้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะน้องเหมย คุณมังกรสั่งไว้หากขัดคำสั่งพี่ต้องโดนคุณมังกรเล่นงานแน่ ๆ น้องเหมยเข้าใจพี่นะคะ” ซุนหนี่ตอบด้วยสีหน้าหนักใจไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกสงสารหญิงสาว แต่เธอก็ต้องรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้เหมือนกัน “เหมยเข้าใจค่ะไม่เป็นไร” ใบหน้าสวยเศร้าหมองลงในทันตาเมื่อได้ยินคำตอบ เธอฝืนยิ้มให้ซุนหนี่เล็กน้อยก่อนเดินคอตกออกไปนั่งบนศาลาที่ตั้งอยู่ในสวนข้างบ้าน “ป่านนี้ป๊าจะเป็นยังไงบ้าง
รถยุโรปคันหรูที่วิ่งด้วยความเร็วเคลื่อนตัวมาจอดลงในบริเวณบ้านหรูสไตล์อังกฤษหลังไม่ใหญ่มากนักเหมาะแก่การพักอาศัยสามสี่คน เมื่อรถจอดสนิทมาเฟียหนุ่มก็ปล่อยร่างบางที่นั่งอยู่บนตักให้เป็นอิสระ ร่างบางดีดตัวลงจากตักมาเฟียหนุ่มอย่างไม่รอช้าก่อนรีบเปิดประตูลงจากรถทันที ดวงตากลมโตมองสำรวจไปรอบบริเวณบ้านที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ประดับน้อยใหญ่บรรยากาศดูร่มรื่นน่าอยู่อย่างพินิจพิจารณา"บรรยากาศดีจังเลยค่ะพี่ซุนหนี่" ใบหน้าสวยที่เคลือบด้วยรอยยิ้มเอี่ยวไปพูดกับซุนหนี่ด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเฮือกใหญ่หลังจากที่ต้องทนกับกลิ่นยามานานเกือบอาทิตย์การกระทำของเธอทำให้มาเฟียหนุ่มที่ยืนมองอยู่หลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวในมุมสดใสร่าเริงแบบนี้มาก่อนพอยอมรับว่าเขารู้สึกชอบตอนที่เธอเป็นแบบนี้มากกว่าตอนร้องไห้เป็นไหน ๆ โลกดูสดใสน่ามองขึ้นมาในทันตา มาเฟียหนุ่มยืนมองร่างบางอยู่อย่างนั้นนานนับนาทีก่อนจะออกคำสั่ง "เข้าบ้าน""ฉันขอเดินสูดอากาศรอบ ๆ บ้านหน่อยได้ไหม...คุณเข้าไปก่อนเลย" ร่างบางที่กำลังเพลิดเพลินกับการดื่มด่ำบรรยากาศบ
สุดท้ายกว่าเหมยเมยจะได้ออกจากโรงพยาบาลก็เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเพราะคำสั่งเอาแต่ใจของมาเฟียหนุ่มที่สั่งให้ซุนหนี่ออกไปซื้อกางเกงตัวใหม่มาให้เธอเปลี่ยน"พอใจหรือยังล่ะ" ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าบึ้งตึงหลังจากเข้าไปเปลี่ยนกางเกงเสร็จแล้ว ก่อนเปล่งเสียงถามอย่างกระแทกแดกดันใส่คนตัวสูงที่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาด้วยความไม่พอใจ อีกคนกลับยกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจมองสำรวจร่างบางในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขายาวที่ปิดมิดชิดจนถึงตาตุ่มครู่หนึ่ง ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินเข้าไปโอบเอวคอดของคนตัวเล็กที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดพาเดินออกไปนอกห้องโดยไม่พูดไม่จาสักคำ"ปล่อยฉันเดินออกได้ไม่ต้องมาโอบ" ร่างบางพยายามเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่งของมาเฟียหนุ่มเพราะรู้สึกอายที่เขาโอบกอดของเธอต่อหน้าผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว้อยู่ในโรงพยาบาล เธอไม่ได้เป็นอะไรสักนิดไม่จำเป็นต้องประคองแต่แรงอันน้อยนิดของเธอก็ไม่อาจต้านทานกำลังของคนตัวโตกว่าได้ กลับกลายเป็นว่าเขายิ่งกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีกก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลากระซิบประชิดกกหู "จะเดินดี ๆ หรือให้ผมอุ้ม"คำขู่ของมาเฟียหนุ่มได้ผลร่างบางที่พยายามดิ้นร
เหมยเมยมองการกระทำของมาเฟียหนุ่มที่กำลังเช็ดหยาดน้ำตาบนใบหน้าให้เธออย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนจากคนอย่างเขา ผิดจากที่เธอคาดไว้มากว่าเขาคงจะแสดงกริยาเลวทรามต่ำช้าใส่ เอาเข้าจริง ๆ เธอไม่สามารถคาดเดาอะไรจากเขาได้เลย "มาทำดีกับฉันทำไม" เธอมองหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างใช้ความคินานนับนาทีก่อนเปล่งเสียงถามอย่างไม่เข้าใจ การกระทำของเขาทำให้เธอสับสนเป็นอย่างมากจนต้องถามออกไปให้หายขัดข้องใจแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบแทนคำตอบ"..." มาเฟียหนุ่มหยุดการกระทำทันทีที่ถูกถามก่อนจะหมุนตัวเดินไปนั่งไข้วห้างบนโซฟาจ้องมองปฏิกริยาของคนบนเตียงนิ่ง ๆ เขาก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนั้น รู้เพียงแค่ว่าตัวเองไม่ชอบเอาเสียเลยเวลาที่เห็นน้ำตาหญิงสาวมันรู้สึกขัดหูขัดตายังไงก็ไม่รู้"มองผมทำไมนอนได้แล้ว หรือต้องให้ผมร้ายใส่" เสียงทุ้มออกคำสั่งอย่างเผด็จการเมื่อเหลือบไปเห็นเวลาบนนาฬิกาข้างผนังที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา สามทุ่มแล้ว สิ้นเสียงพูดมาเฟียหนุ่มร่างบางบนเตียงก็รีบล้มตัวลงนอนทันทีเพราะไม่อยากมีปัญหากับเขา ดวงตากลมโตชำเลืองมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความขุ่นเคืองใจก่อนที่เธอจะต้อง
@ลอนดอน ประเทศอังกฤษผ่านไปกว่าสิบเอ็ดชั่วโมงมาเฟียหนุ่มก็เดินทางมาถึงประเทศอังกฤษเขาพาหญิงสาวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดังใจกลางเมืองลอนดอนทันทีที่มาถึง"เฮ้อ" มาเฟียหนุ่มนั่งมองร่างบางที่หลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยแววตาอ่อนสมองก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างไปด้วย เขาถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความหนักใจ ก่อนละสายตาจากคนบนเตียงล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดเครื่องหลังจากเพิ่งกดปิดเครื่องไปก่อนหน้านี้เพราะรำคาญที่ทุกคนโทรเข้ามาหาไม่ขาดสายจนเครื่องแทบพังเขาจึงตัดความรำคาญด้วยการปิดเครื่องหนี'ครืด ครืด'และทันทีที่โทรศัพท์เปิดเครื่องสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นไม่ขาดสายเขาจ้องมองเบอร์บนหน้าจอโทรศัพท์อย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย(มังกรแกพาหนูเหมยไปไว้ที่ไหน) ทันทีที่เขากดรับเสียงของผู้เป็นพ่อก็ตะเบ็งมาตามสายจนเขาต้องรีบยกโทรศัพท์ห่างจากหูอัตโนมัติ"ผมเคลียร์กับเธอเสร็จเมื่อไรผมไปส่งคืนแน่ ป๊าไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะทำอะไร เธอจะกลับไปแบบยังมีลมหายใจและครบสามสิบสองแน่นอน"(แกจะมาทำอะไรเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้นะมังกรลูกเขามีพ่อมีแม่ พาหนูเหมยกลับมาคืนพ่อเขาเดี๋ยวนี้)"เธอก็เป็นเมียผ