Share

บทที่ 6

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-21 11:07:39

ขณะที่พราวพิชชากำลังครุ่นคิดถึงแผนการช่วยน้องน้อย ทางด้านเจ้าตัวเมื่อกดตัดสาย ก็หันไปยิ้มกร่อยให้กับคนนั่งพิงหัวเตียง กอดอกมองเธออยู่

“คุณแหววไม่ได้มาหาลดาสักหน่อย”

“มานี่ มา”

รัชตะดึงเรียวแขนเสลาของคนอุ้มท้องอุ้ยอ้ายที่ยืนปักหลักคุยโทรศัพท์เสียงเจื้อยแจ้วอยู่หน้าเตียง ก่อนจะเห็นสีหน้าเธอเจื่อนลงเรื่อยๆ แม้หล่อนจะฝืนทำเสียงร่าเริงอยู่ก็ตาม ทำให้คนเฝ้ามองอดสงสารไม่ได้

“ได้ยินว่าจะไปหาพี่สาวเย็นนี้ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ” ปิ่นลดาพยักหน้า โอนอ่อนตามแรงดึงเข้าซบอกกว้างของสามี แต่เมื่อนึกบางอย่างได้จึงเงยหน้ามองเขา “ไม่ต้องห่วงนะคะ ลดารู้ว่าคุณใหญ่ติดประชุม คงกลับมาไม่ทัน คุณใหญ่บอกล่วงหน้าตั้งหลายวันแล้วว่าวันนี้ต้องกลับบ้านค่ำ ลดาจะให้คนรถไปส่งแล้วรอรับกลับ แล้วจะรายงานคุณใหญ่ให้รู้ทุกชั่วโมงเลยค่ะ”

“ครึ่งชั่วโมง”

“คะ?”

“โทร.หาฉันทุกครึ่งชั่วโมง เริ่มจากที่ออกจากบ้าน จนกลับเข้าบ้าน ฉันจะได้ไม่ห่วง”

“แต่คุณใหญ่ประชุม ลดาว่า...คงดูไม่จืดแน่ ถ้าประธานใหญ่ต้องคอยรับสายถี่ขนาดนั้น”

“งั้นส่งข้อความมาบอก”

“ได้ค่ะ แต่คุณใหญ่ต้องปิดเสียงนะคะ ลดาไม่อยากให้รบกวนคนอื่น”

“นี่สั่งประธานใหญ่เลยนะ มากไปหรือเปล่า” 

รัชตะทำเสียงเข่นเขี้ยว หากดวงตาคมพราวระยับ มองภรรยาสาวด้วยสายตาเปี่ยมความรักใคร่

“ยังน้อยไปค่ะ ถ้าเทียบกับคนที่สั่งลดาตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนทุกวันๆ”

“ฉันเป็นห่วงนี่”

“รู้ว่าคุณใหญ่รักลูกและห่วงลูกมาก ลดาสัญญาแล้วไงคะว่าจะดูแลตาหนูอย่างดีที่สุดเลย”

“ใครว่ากัน ห่วงทั้งลูกทั้งเมียนั่นแหละ ยิ่งคนหลังยิ่งห่วงมาก เพราะดื้อเป็นที่หนึ่ง บอกอะไรไม่ค่อยเชื่อ ระวังลูกออกมาจะติดนิสัยดื้อตามแม่”

“ดีสิ คุณใหญ่จะหัวหมุนไม่เว้นวัน ลดาหมั่นไส้มานานแล้ว ได้เวลาแก้แค้นคืนก็คราวนี้แหละ”

หล่อนทำเสียงฮึ่มฮั่มใส่ แถมยังกางนิ้ว กรีดเล็บคมๆ บนแผงอกหนาอย่างเย้าหยอก คนตัวใหญ่ได้แต่มองตาพราว คว้าต้นคอเมียรักมากดจูบอย่างอดใจไม่ไหว สองมือใหญ่เคล้นคลึงอกอวบใหญ่สล้างที่ขยายรองรับความเป็นมารดาในไม่ช้า เนิ่นนานหลายนาทีกว่าปิ่นลดาจะดึงตัวเองออกมาจนสำเร็จ

รัชตะมองดวงหน้าหวานงดงามที่กลายเป็นสีแดงเรื่อด้วยอารมณ์เขินอายระคนหวามไหวที่เขาจุดขึ้นมา รัชตะกดจูบขมับหนักๆ แล้วลุกเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวเพื่อออกไปทำงาน ตัดใจจากดวงตาหวานที่มองตามตาปรอยอยู่ข้างหลัง 

ประตูห้องพักแกรนด์สูทในชั้นบนสุดของโรงแรมห้าดาวกลางเมืองเชียงราชถูกเปิดออก ตามด้วยร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำ ตัดเย็บอย่างประณีตย่างเข้ามาด้วยฝีเท้าเงียบกริบ จนถึงห้องด้านในจึงดันประตูออก แล้วเห็นคนร่างกำยำไม่ต่างกันนั่งก้มหน้าอยู่ขอบเตียง มือหนาแตะขมับนิ่งอยู่...จนรู้ว่าเขาเข้ามาถึงเงยหน้าขึ้นมอง

“มาได้ยังไง” 

“คนของฉันโทร.บอก” 

รัชตะตอบพลางเดินเอื่อยเข้ามาใกล้ ท่าทางดูสงบ มีเพียงแววตาเท่านั้นที่รู้ว่าข้างในเริ่มไม่นิ่งอย่างท่าทางที่แสดงออก

“ไปมีเรื่องกับใคร แล้วโดนอะไรมา”

“นายจะอยากรู้ไปทำไม”

คำพูดปัดความห่วงใย ทำให้คนถามเลิกคิ้ว หรี่ตามองน้องชายฝาแฝดด้วยดวงตาพินิจมากขึ้น

“ไม่ใช่เรื่องงานใช่ไหม”

“อืม...” เสียงรับคำในลำคอ หลายวินาทีกว่าเจ้าตัวจะเงยหน้าพูดต่อ “ใช่ ไม่ใช่เรื่องงาน และไม่ใช่เรื่องของฉันด้วย แต่ฉันมันดวงซวย ต้องเจ็บตัวเพราะนาย”

“หมายความว่าไง”

ถึงคราวที่รัชตะจะเสียงแข็งเข้าบ้าง เขาทนไม่ได้แน่ถ้าหากว่ารัชภาคย์ต้องมีเรื่องกับใครด้วยตัวเขาเป็นต้นเหตุ...แต่ดูว่าน้องชายจะไม่ใส่ใจในความหวังดีของเขา กลับเปลี่ยนไปถามถึงอีกเรื่อง

“วันนี้ฉันต้องเข้าร่วมประชุมกับนายใช่ไหม”

“ใช่ เพื่องานของนาย นายควรมีคอนเน็กชั่นเองด้วย อย่างน้อยก็มาให้คนอื่นเห็นว่านายยังมีตัวตน ไม่ใช่เจ้าของเหมืองที่ใครต่อใครได้ยินแต่ชื่ออย่างทุกวันนี้ ฉันอยากให้นายเข้ามามีบทบาทในงานของฉันมากกว่านี้ ในฐานะหุ้นส่วน เพราะมันจะส่งผลถึงงานเหมืองของนาย อย่างน้อยพวกที่จ้องจะกินฟรีทางฝั่งพม่าจะได้เกรงใจว่านายมีพรรคพวกและคนรู้จักทางนี้อยู่”

“ฉันมีนายทั้งคนแล้วนี่” รัชภาคย์บอกปัด 

“มันไม่เหมือนกัน”

“ทำไมถึงไม่เหมือน...นายดูฉันตอนนี้สิ แล้วส่องกระจกดูตัวเองว่าต่างกันตรงไหน”

รัชตะปรายตามองคนพูด เมื่อวานมีงานรับรองลูกค้าจากฮ่องกง เป็นงานเหมืองของรัชภาคย์โดยตรง เจ้าตัวเลยไม่อาจบิดพลิ้ว แต่กว่าจะให้คนอย่างรัชภาคย์ยอมแต่งเนื้อแต่งตัว โกนหนวดเครา รวมถึงตัดผมเผ้าให้เป็นทรงอย่างที่เห็น ก็เล่นเอาคุณทิพย์ ผู้เป็นแม่บ้านที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่พวกเขาเป็นเด็กนั้นแทบถอดใจ แต่สุดท้ายก็รัชภาคย์ก็เปลี่ยนใจมาตามใจคุณทิพย์เสียดื้อๆ ...แทบจะจับอารมณ์ตามไม่ทัน

แต่เมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้ว รัชภาคย์คงมาคล้ายกับเขามากไป ถึงได้เกิดเรื่องให้เจ้าตัวต้องนั่งกุมแผลตรงขมับอย่างที่เห็น

“นายกำลังบอกว่าที่มีเรื่องหัวแตก เพราะเกิดจากการเข้าใจผิดว่านายเป็นฉันใช่ไหม”

“ทำนองนั้นมั้ง”

“พูดมาให้หมด อย่ามาทำท่ามาก มันเป็นพวกไหน ฉันจะส่งคนไปสั่งสอน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 72 (จบ)

    รัชภาคย์จูงมือภรรยาตามนิตินัยและพฤตินัยเข้ามาในร้านอาหาร หลังจากสองคนได้ทะเบียนสมรสมาไว้ในมือ และเป็นนานกว่าเขาจะบอกให้คนขี้เห่อเก็บใบทะเบียนสมรสนั้นไว้ในรถได้พราวพิชชาดูร่าเริง ดวงตาเปล่งประกายระยิบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความสุขกำลังท่วมท้นตัวเธออยู่ รัชภาคย์ยิ้มอ่อนโยน ดูแลเทกแคร์อย่างดี ทุกจังหวะท่าทางของหญิงสาวอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา รัชภาคย์แทบไม่อาจละสายตาจากเธอได้สองคนกำลังตกหลุมรักกัน ไม่ต้องมีใครบอก คนภายนอกที่พบเจอก็สามารถสัมผัสได้ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ตรงลานจอดรถ คนหนึ่งมองตามด้วยสายตากรุ่นโกรธ เหมือนว่ามีเรื่องกันตั้งแต่ชาติปางไหน ขณะอีกคนหลบหน้าหลบตาเหมือนกลัวว่าคนคู่นั้นจะมองมาเห็น“กลับเถอะพี่เมี่ยง แตงหวานงอแงใหญ่แล้ว อยู่ตรงนี้แดดร้อน”ถ้อยคำนั้นมาจากหญิงสาวร่างเพรียวบาง เรือนผมยาวถูกมัดเป็นหางม้า โชว์ดวงหน้างดงามเกลี้ยงเกลา เธอกำลังอุ้มเด็กหญิงวัยขวบเศษที่หลับพับอยู่บนบ่าบอบบาง เสียงร้องครางของเด็กน้อยบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ในภาวะไม่สบายตัวสักเท่าไร แต่หญิงสาวอีกคนดูจะไม่สนใจ“ฉันอยากจะมองหน้าแม

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 71

    รัชภาคย์ตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด หากพอควานมือหาคนร่างนุ่มนิ่มกลับไม่พบ เขาจึงรีบผุดลุก กดเปิดโคมไฟหัวเตียงจนสว่าง‘แหววจัดของอยู่ในห้องค่ะ’ชายหนุ่มดึงกระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือน่ารัก ปิดท้ายด้วยรูปหัวใจสองดวง นึกขันตัวเองนัก นี่พราวพิชชาคงรู้ว่าถ้าเขาตื่นมาไม่เจอเธอแล้วคงตกใจ ถึงได้เขียนโน้ตบอกไว้ และหล่อนก็คาดถูกจริงๆรัชภาคย์ตื่นนอนเต็มตา เพราะเมื่อคืนนอนหลับตั้งแต่หัวค่ำ เป็นผลจากการกรำงานมาอย่างหนักทั้งวันทั้งคืนก่อนนี้ แถมได้นางฟ้าประจำตัวมาให้กกกอด เป็นคืนที่เขาฝันดีและนอนหลับลึกอย่างที่สุดก็ว่าได้ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ไม่คิดอ้อยอิ่งด้วยความเคยชิน แล้วตรงไปยังห้องของหญิงสาว เห็นแสงไฟลอดออกมา ยกมือเคาะส่งสัญญาณ ไม่รอให้ตอบรับก็ผลักเข้าไปทันทีพราวพิชชาหันมายิ้มให้ รัชภาคย์เลื่อนสายตาลง...สมุดบันทึกสีหวานอยู่ในมือเธอ“แหววลืมไว้ แต่จำได้ว่าเก็บไว้ข้างในลิ้นชักจนลึกสุด ไม่ได้วางหมิ่นเหม่ไว้อย่างที่เห็นเมื่อกี้”หล่อนย่นจมูกใส่ แล้วยกมากอดไว้เหมือนเป็นของรักของหวง“คิดว่าตั้งใจลืม

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 70

    รัชภาคย์ยังนั่งหน้างออยู่กลางเตียง มองเธอเหมือนว่ากำลังทำอะไรขัดใจเขาอยู่“คุณไม่ดีใจหรือคะที่แหววกลับมา”“ดีใจสิ ดีใจก็ส่วนดีใจ แต่ผมกำลังไม่พอใจที่ถูกลูกน้องปั่นหัว มันรู้ว่าคุณกำลังมา แต่มันยุส่งให้ผมไปหาคุณ บอกว่าเตรียมตั๋วเครื่องบินให้พรุ่งนี้ เออ...ผมให้ป้ามิ่งมาจัดของให้ แต่มาถึงก็เพลียๆ เพราะเคลียร์งานทั้งคืน หลับเพิ่งตื่นตอนคุณกระโจนใส่ ไม่รู้ทำไปถึงไหนกัน”พราวพิชชาถึงบางอ้อละคราวนี้ นี่เธอกับรัชภาคย์ถูกคนรอบข้างร่วมกับหลอกกันเป็นขบวนการทีเดียว งานนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว“แหววว่าคุณอย่าโกรธคุณธนัทเลย เธอไม่ได้ทำคนเดียวหรอก ไม่งั้นจะแนบเนียนจนทั้งคุณและแหววไม่เอะใจกันได้หรือคะ”“หมายความว่าไง”รัชภาคย์ตีหน้ามึน คว้าร่างของเธอมานั่งบนตักตัวเอง พอได้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว เรื่องจะให้หยุดแค่นี้คงยากแล้ว มือหนาซอกซอนเข้าไปเฟ้นฟอนอกอวบตึงภายใต้เสื้อยืดสีเทาดีไซน์เก๋ของเธอ แล้วเคล้นคลึงอย่างเอาแต่อารมณ์ พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ห้ามก็ยิ่งชักได้ใจ ไม่คิดจะหยุดมือกันละคราวนี้“จะฟังหรือเปล่าคะ คุณ

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 69

    ใกล้ค่ำแล้ว สองข้างทางมืดมิด สายลมหนาวกระโชกแรงจนกิ่งไม้โน้มเอนลู่ไปทางเดียวกัน นึกถึงวันแรกที่มาในเส้นทางนี้ พราวพิชชามีแต่ความหวาดหวั่นใจ นั่งคาดเดาตลอดทาง กระทั่งความตกใจสุดขีดก็ประดังเข้ามาหา เมื่อตระหนักว่าคนที่พาตัวเธอมาในครั้งนั้นไม่ใช่รัชตะผู้เป็นน้องเขย หากเขาคือรัชภาคย์แฝดผู้น้องที่เคยมีเรื่องประคารมกันต่างหากในความตกใจนั้น พราวพิชชาไม่ได้รู้สึกถึงความกลัวเมื่อรู้ความจริงนั้นแล้ว แม้บ้านหลังใหญ่ของเขาที่พาเธอมาจะปลูกสร้างท่ามกลางขุนเขา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ใหญ่และทิวเขาไกลๆ อีกทั้งเจ้าของบ้านตัวใหญ่ก็ตีหน้ายักษ์ สีหน้าไม่เคยเป็นมิตรกับแขกอย่างเธอพราวพิชชานึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นแล้วนึกกระวนกระวายใจ ป่านนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ธนัทที่บอกว่าติดต่อเจ้านายไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไรเพิ่มเติมเข้ามาบ้างรถแล่นนิ่งเงียบ ฝ่าความมืดมิดลึกไปเรื่อยๆ จนเห็นบ้านคนเป็นกลุ่มชุมชนที่เธอเคยจดจำได้...มองแล้วเลยผ่านไป เพราะรู้ว่าอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านของรัชภาคย์ จุดหมายปลายทางของเธอจนรถมาจ่อตรงประตูรั้ว พราวพิชชายิ่งกระวนกระวายหนัก เธอนึกอยากจะรู้

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 68

    รัชภาคย์ลงไปชั้นล่าง แล้วชะงักเท้าเมื่อเห็นรถของลูกน้องคนสนิทปราดมาจอดพอดี ธนัททักทายเขาอย่างร่าเริง สีหน้ายิ้มแย้มตามบุคลิก เมื่อก่อนรัชภาคย์รู้สึกเฉยๆ แต่นับจากเมียหนีหายไป เห็นหน้าระรื่นของเจ้านี่ทีไร เป็นหงุดหงิดใจทุกทีนี่มันไม่คิดจะเศร้าไปกับเขาเลยหรือไง ไอ้ลูกน้องกิตติมศักดิ์คนนี้“ไปเหมืองหรือครับคุณเล็ก”“อืม จะแวะดูสักหน่อย มีนัดคุยกับคนของนายพลยานเปงด้วย บ่ายๆ นายกลับไปเฝ้าเหมืองด้วยแล้วกัน ช่วงนี้พวกนกกระจิบนกกระจอกรู้ว่าเหมืองเราขนสินแร่ออกล็อตใหญ่”“ครับนาย”รับคำพร้อมสีหน้าไม่เปลี่ยนจากเดิม รัชภาคย์มองแล้วเดินผ่านหน้าไปขึ้นรถจี๊ปสปอร์ตที่จอดอยู่ โดยมีคนขับรถพ่วงตำแหน่งคนคุ้มกันนั่งประจำพร้อมทำหน้าที่ธนัทมองตามรถของนายจนลับหายไปจากประตูรั้ว แล้วนึกถึงสีหน้าของนายเมื่อครู่“คุณเล็กดูไม่ดีขึ้นเลยแฮะ น่าสงสารจริงๆ พวกเมียหนี ระทมห่อเหี่ยวเปลี่ยวใจอย่างนี้ทุกรายหรือเปล่า เฮ้อ! น่าสงสารๆ”“พูดถึงนายอย่างนี้ได้ยังไง หนูโกรธคุณนัทแล้วด้วย”เสียงโพล่งดังขึ้น ทำให้คนอ

  • มายาสีฝุ่น   บทที่ 67

    “คุณวาด พูดอะไรของคุณ เข้าห้องไปเดี๋ยวนี้”นายวัฒนะตกใจซ้ำ หลังจากเห็นภรรยาที่เขาเสนอให้ลงไปเดินเล่นข้างล่างแก้เบื่อ แท้จริงเพื่อจะขอพื้นที่คุยกับรัชภาคย์นั่นเอง แต่เธอก็ขึ้นมาเร็วเกินไปจนได้ยินในเรื่องที่เธอคงรู้อยู่แล้ว หากเขาก็ไม่อยากให้ได้ยินจากปากเขา...แต่ก็พลาดจนได้“พอเถอะค่ะ จบเรื่องนี้ไปเถอะ จะไม่มีการเรียกเงินจากคุณเล็กสักบาทเดียว ส่วนหนี้สิบล้าน ฉันไม่อยากให้คุณไปยุ่งกับลูก ถ้ายายแหววตั้งใจจะใช้คืนคุณใหญ่ ฉันขอสั่งห้ามคุณไปบังคับกะเกณฑ์แกอีก แค่นี้ชีวิตลูกก็ป่นปี้ไปหมดแล้ว”ไม่เคยมีสักครั้งที่เพียงวาดจะขึ้นเสียงกับสามี แต่ครั้งนี้สุดจะทนจริงๆ ละอายใจกับเรื่องเก่าก่อนยังไม่พอ ยังสร้างเงื่อนใหม่ให้เป็นมลทินกับชีวิตลูกสาวคนเดียวไม่จบสิ้นนายวัฒนะไม่ได้เห็นด้วย และไม่คิดจะยอมทำตามเงื่อนไขของภรรยา มันไร้สาระเกินกว่าที่จะมายกเลิกกันตอนนี้ ทั้งที่รัชภาคย์ก็ตอบรับไปแล้วแต่พอเห็นร่างของคนสองคนที่เดินตรงมาหา คนนำหน้ามีท่าทีเหมือนจะอ่อนพับอยู่รอมร่อ ส่วนคนข้างหลังเดินตามอย่างเนิบช้า แม้อยู่ในวัยชราแต่ก็ยังสง่างาม...

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status